ตอนที่ 736 หนานหนานสามารถทำให้คนเป็นบ้าได้
ตอนที่ 736 หนานหนานสามารถทำให้คนเป็นบ้าได้
เผิงอิงเดินตามชายคนนั้นไปจนสุดทาง เขาเดินออกจากสถานที่จัดงาน แล้วเดินไปตามตรอกเล็ก ๆ
ชายคนนั้นระมัดระวังตัวยิ่งนักเมื่อเขาเดินไปถึงเรือนขนาดใหญ่ที่ดูค่อนข้างธรรมดา จู่ ๆ เขาก็พลิกตัวหันหน้ามาแล้วถอยหลังเดินเข้าไปข้างใน
เผิงอิงหรี่ตาขณะพลิกตัวหลบหลังกำแพงอย่างระมัดระวัง
เป็นเพียงว่าเขาไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป เพราะเขาไม่กล้าดูถูกคนรอบกายของผู้อาวุโสสกุลลี่
เผิงอิงมองไปรอบ ๆ และทำได้เพียงซ่อนตัวอยู่ใต้ด้วยชายคาเตี้ย ๆ จากนั้นจึงมองไปทางเรือนนั้น
แต่เขามองไม่เห็นอะไรเลย ทว่าทันใดนั้นก็มีเสียงที่ฟังดูหยิ่งยโสมากดังจากข้างใน “เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าข้าอยากกิน? เจ้าพวกคนใจร้ายกำลังรังแก ข่มเหงและล่วงเกินข้าอยู่ รู้หรือไม่?”
เสียงนี้คุ้นเคยยิ่งนัก นุ่มนวลและยังไม่แตกหนุ่ม แต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกสนุกอย่างอธิบายไม่ถูก
เผิงอิงแอบลูบหน้าผากของตน หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เห็นหนานหนานวิ่งออกมาจากเรือน ก่อนมายืนเท้าเอวอยู่ในสนาม
พิจารณาจากท่าทางโกรธจัดของเขา เขาดูเหมือนถูกรังแกตรงไหนกัน?
ดูเหมือนว่าแม้ว่าเขาจะถูกลักพาตัวมาในวันนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี
หนานหนานบิดเอวแล้วกระทืบเท้าไปมาบนพื้น “พวกเจ้ากำลังจะทำอะไร? เฮ้ อย่าเข้ามานะ ข้าเป็นเด็กไร้เดียงสา แต่จะไม่มีวันปล่อยให้พวกเจ้าดูถูกข้า พวกเจ้าไม่รู้ตัวหรือว่าพวกเจ้ากำลังทำตัวเยี่ยงสัตว์ร้าย?”
เผิงอิงถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าเขายังต้องการเล่นอยู่ ในที่สุดความหนักใจของเขาก็คลี่คลายลงบ้าง
เขาประเมินสถานการณ์ในที่แห่งนี้และพบว่ามีคนหลายคน หากเขาลงมือ เขาคงไม่สามารถจัดการทุกคนได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ดูเหมือนว่าเขาสามารถทำได้เพียงแอบฟังไปก่อน
ชายชุดดำที่ลานบ้านมองหนานหนานด้วยความเหนื่อยใจ แต่ก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “พวกเราจะไม่ทำอะไรเจ้า แค่จะพาเจ้าไปที่งานเทศกาลชิมสุรา ที่นั่นมีของอร่อยมากมายเลยนะ”
เทศกาลชิมสุราหรือ? เริ่มแล้วหรือ? หนานหนานตื่นเต้นมาก และน้ำลายของเขาก็เริ่มท่วมในปากอย่างรวดเร็ว จนเกือบจะควบคุมน้ำลายไม่ให้ไหลออกมาไม่ได้
แต่เขารู้สึกว่าในฐานะตัวประกันก็ต้องมีจิตใจที่เย่อหยิ่งในศักดิ์ศรี และไม่ยอมทำตามในสิ่งที่คนอื่นพูดอย่างง่ายดาย เพราะจะดูไร้จรรยาบรรณ หากมีคนบอกให้เขากินอึเล่า? ใช่แล้ว
หลังจากครุ่นคิดอย่างหนักแล้ว หนานหนานก็พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “เจ้ากำลังหลอกข้า เจ้าบอกว่ามันเป็นงานเทศกาลชิมสุรา ดังนั้นของกินทั้งหมดก็ต้องเป็นสุรา จะมีอาหารดี ๆ ให้กินได้อย่างไร? ข้าเป็นคนไม่ดื่มเลยด้วย ต้องรักษาตัวเองให้สะอาดบริสุทธิ์และเคารพตัวเอง เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเป็นเด็กดีเพียงใด อย่าพยายามหลอกล่อให้ข้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเลย”
เผิงอิงเกือบจะตกจากกำแพง ไม่ได้ดื่มเลยงั้นหรือ? ใคร ๆ พูดเช่นนี้ก็ยังพอรับได้ ยกเว้นหนานหนาน
ตอนนั้นเขาดื่มสุราที่เพิ่งกลั่นของโม่เสียนจนหมด แต่ตอนนี้เขายังพูดเช่นนั้นออกมา… คำพูดที่ไร้ยางอาย
ใบหน้าของชายชุดดำมืดมนลง เหตุใดเด็กคนนี้ถึงรับมือยากนัก? เพียงแค่วันหรือสองวัน เด็กคนนี้ก็สร้างปัญหามากมายในเรือนแห่งนี้มากพอแล้ว
เขายังมีความสามารถที่จะทำให้ทุกคนเหนื่อยได้
กินเยอะ ดื่มเยอะ เล่นเยอะ ตื่นกลางดึกหลายครั้ง ต้องมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนเมื่อเขาเข้าห้องน้ำ และต้องมีสองคนคอยยืนข้างเขาตลอด และยังยืนกรานให้หาคนมาคอยคุยด้วย หากเขาถูกเพิกเฉย เขาจะเริ่มร้องเพลง ซึ่งการร้องเพลงนั้น… มันช่างบาดหัวใจจริง ๆ เขาตะโกนร้องเพลงเสียงโหยหวนจนคนฟังแทบจะหูหนวก และเป็นเนื้อเพลงที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาก่อน ทำให้เหล่าองครักษ์ทุกคนในเรือนต่างสะดุ้งจนไม่ได้นอนทั้งคืน
โชคดีที่ผู้อาวุโสสกุลลี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นเขาคงถูกตีตายไปแล้ว
ต่อมาบอกว่าปวดท้องเพราะอาจจะเป็นประจำเดือน ทำเอาหลายคนสะดุ้งจนแทบต้องเข้าไปตรวจดูว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่
จากนั้นเขาก็บอกว่าเห็นหนูเข้าไปในห้อง และอยากจะเข้าไปจับหนู เมื่อเขาเห็นหลุม เขาก็เริ่มขุดด้วยพลั่ว แม้จะเหงื่อท่วมกายก็ไม่ยอมหยุด
พวกเขาพูดไม่ออกและได้แต่รออยู่ข้างนอก โดยคิดว่าเมื่อเขาเหนื่อยกับการขุดก็คงจะหยุดไปเอง
ใครจะรู้ว่าอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา จู่ ๆ เรือนทั้งหลังจะพังทลายลงมา พวกเขาตกใจจนเหงื่อแตกพลั่ก พวกเขากังวลว่าหนานหนานจะถูกฝังอยู่ใต้นั้น และหากเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็จะถูกผู้อาวุโสสกุลลี่ฆ่าตายแน่
พวกเขาช่วยกันค้นหาใต้ซากปรักหักพังทันทีด้วยความหวาดกลัว แต่พวกเขาก็ยังหาไม่พบหลังจากค้นหาอยู่นาน
ทันใดนั้นเสียงดังฟังชัดของเด็กน้อยก็ดังขึ้นนอกซากปรักหักพัง เขาพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ข้าเห็นมดเข้าไปในช่องว่างระหว่างเสาตรงกลาง ข้านั่งรอตั้งนานก็ไม่เห็นมันออกมา จึงคิดว่ามันอาจจะติดอยู่ในนั้นและออกมาไม่ได้ ข้าเป็นคนใจดี อยากช่วย จึงไปหาขวานมาฟันเสา”
คาดไม่ถึงว่าเสาจะหักโค่นลงมา มันหักออกเป็นสองสามท่อน และเสาตรงกลางก็ล้มลง และเขายังขุดหลุมขนาดใหญ่ไว้รอบ ๆ ด้วย… เรือนหลังนี้อยู่มานานแล้วก็ต้องทรุดโทรมไปตามกาลเวลา การที่มันพังลงมาก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้จะมาโทษเขาไม่ได้จริง ๆ
ชายในชุดดำเกือบจะเสียสติหลังจากถูกเขาทรมาน เขาจึงรายงานเรื่องนี้ให้เหมิงเคอทราบ และเหมิงเคอบอกเพียงว่าให้คอยเฝ้าดูเขาไม่ให้จากไปได้เท่านั้น
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำงานหนัก และเกือบเป็นบ้าเพราะเขา แต่มีหรือที่เด็กชายจะปล่อยให้พวกเขาทำหน้าที่อย่างราบรื่น? เขาเทน้ำใส่ผ้านวมในห้องของพวกเขา เพื่อดูว่าต้องใช้เวลานานเพียงใดกว่าที่ผ้านวมจะแห้ง? เขาเป็นบ้าถึงขึ้นตัดเป้ากางเกงของพวกเขาออก เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าเมื่อผู้หญิงใส่กระโปรงจะรู้สึกอย่างไร?
เหตุใดเด็กคนนี้จึงมีความคิดแปลก ๆ มากมายในหัว แต่พวกเขาไม่สามารถทุบตีเขาอย่างรุนแรงได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะร้องไห้และร้องหาแม่ของเขา
เหมิงเคอและผู้อาวุโสสกุลลี่ไม่ได้สนใจเรื่องที่นี่เลย เพียงแค่สั่งให้พวกเขาดูแลเด็กนี่ให้ดีเท่านั้น
ทุกคนพร้อมที่จะทำตามคำสั่ง แต่พวกเขาอยู่ในสภาพครึ่งบ้าไปแล้ว
โชคดีที่การทดสอบสิ้นสุดลงแล้ว
องครักษ์ที่อยู่ข้างกายผู้อาวุโสสกุลลี่มาพาตัวเขาไป และอาจจะไม่ได้กลับมาอีกหลังจากไปครั้งนี้
ตอนนี้เหลือเพียงเรื่องหลอกเด็กให้ไปงานชิมสุรา
“แม่ของเจ้าอยู่ที่งานเทศกาลชิมสุรา คุณหนูสั่งให้เราพาเจ้าไปพบแม่ของเจ้าที่นั่น”
หนานหนานกลอกตา แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วว่าแม่ของเขาอยู่ในงานเทศกาลชิมสุรา และแม่ของเขาบอกว่าจะไปเข้าร่วมแน่นอน
แต่เขายังคงต้องทำเป็นไม่ยอมง่าย ๆ
“เป็นไปได้อย่างไร? แม่บอกข้าว่าเกลียดกลิ่นสุราเป็นที่สุด เจ้าอย่ามาโกหกข้าเพียงเพราะข้ายังเด็กนะรู้หรือไม่?”
เผิงอิงลูบหน้าผากของตน ขณะรู้สึกว่าคนเหล่านี้ค่อนข้างน่าสงสาร
องครักษ์ที่ข้างกายของผู้อาวุโสสกุลลี่มองดูเวลา และกระวนกระวายเล็กน้อย “บอกให้ไปเจ้าก็ต้องไป หากยังไม่ยอมไปอีก เจ้าจะโดนทุบให้สลบแล้วลากไป”
หนานหนานเบิกตากว้าง “เหตุใดเจ้าถึงหยาบคายนัก? เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้หญิงจะไม่ยอมแต่งงานกับเจ้า หากเจ้าหยาบคายมากเช่นนี้? เจ้าสมควรเป็นโสดไปตลอดชีวิต และสมควรแล้วที่จะไม่มีใครต้องการเจ้าตลอดไป ถ้าข้าเป็นผู้หญิงก็ไม่ชายตามองเจ้าเช่นกัน”
ชายคนนั้นหมดความอดทน เขาหรี่ตามองหนานหนานแล้วเอื้อมมือจะไปคว้าตัวเขา
เผิงอิงขมวดคิ้วจ้องมองพวกเขาอย่างไม่คลาดสายตา โดยกำลังชั่งใจว่าจะออกไปช่วยดีหรือไม่
…………………………………………………………………………