อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 835 ความว้าวุ่นใจของสองแม่ลูก

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 835 ความว้าวุ่นใจของสองแม่ลูก

ตอนที่ 835 ความว้าวุ่นใจของสองแม่ลูก

เย่ซิวตู๋หัวเราะเบา ๆ แต่เมื่อหนานหนานเห็นรอยยิ้มนั้น เขาก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว

รอยยิ้มของท่านพ่อดูมืดมนและแปลกพิกลนัก

“ในเมื่อเป้าหมายของเขาคือการโค่นล้มท่าน แล้วเราจะปล่อยให้เขาสมปรารถนาได้อย่างไรเล่าขอรับ?” สายตาของเย่ซิวตู๋มองไปยังขอบหน้าต่างไม่ไกล ขณะพูดชัดเจนทุกถ้อยคำ “เขาไม่ต้องการให้ท่านเป็นประมุขของเผ่าเหมิงใช่หรือไม่? เช่นนั้นเราก็หาคนอื่นมาแทนที่กันเถิดขอรับ”

“ใคร?”

“ท่านพ่อของข้าอย่างไรเล่าขอรับ” หนานหนานกระโดดขึ้นทันที ก่อนจะชี้ไปที่เย่ซิวตู๋และพยักหน้าอย่างแรง

เหมิงลู่รู้สึกประหลาดใจ เมื่อเขามองไปที่เย่ซิวตู๋อีกครั้งก็เห็นว่าเขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย และพยักหน้าช้า ๆ

เขานั่งตั้งสติเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง แต่ในวินาทีต่อมา คิ้วของเขาก็ขมวดอีกครั้งพร้อมทำสีหน้าเคร่งขรึม “ซิวตู๋ เจ้าน่าจะรู้ว่าผลที่ตามมาของการทำเช่นนี้คืออะไร”

“ข้ารู้ขอรับ” เย่ซิวตู๋พยักหน้า “เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้าไม่ตัดใจทำเช่นนี้ พวกมันก็จะเอาแต่หดหัวอยู่ในกระดอง ไม่ยอมออกมาสักที เมื่อถึงเวลานั้น คนที่จะต้องเดือดร้อนก็คืออาจารย์ของข้าเอง”

เย่ซิวตู๋รู้ดีว่าเมื่อเหมิงลู่ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาจะสืบทอดตำแหน่งประมุข เขาย่อมต้องกลายเป็นเป้าหมายแทน

แต่มีคำกล่าวที่สมเหตุสมผลว่า หากไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะได้ลูกเสือมาได้อย่างไร?

เหมิงลู่ยังคงลังเล “วิธีนี้เสี่ยงเกินไป”

“ท่านประมุข เด็กมากกว่ายี่สิบคนในหนังสือเล่มนั้นต้องไม่ตายโดยเปล่าประโยชน์นะขอรับ” เย่ซิวตู๋รู้วิธีจี้จุดอ่อนของคนอื่นอยู่เสมอ

แน่นอนว่าในวินาทีต่อมา สีหน้าของเหมิงลู่ก็เปลี่ยนไป พลางเหลือบมองเย่ซิวตู๋

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็บีบคลึงตรงหว่างคิ้วพลางยกยิ้ม “เอาเถิด เช่นนั้นก็ทำตามวิธีของเจ้า”

“ข้ามีคำขออีกอย่างขอรับ โปรดรอจนถึงพรุ่งนี้เช้า แล้วค่อยประกาศเรื่องนี้”

“อืม”

หนานหนานมองไปรอบ ๆ และเริ่มส่ายหน้า

หากท่านแม่รู้ว่าท่านพ่อใช้วิธีล่องูออกจากถ้ำเช่นนี้ นางน่าจะโกรธจัดเป็นแน่

ถึงเวลานั้นเขาควรจะอยู่ฝ่ายไหน?

เขาเป็นบุรุษ ในฐานะลูกผู้ชาย เขาต้องสนับสนุนแนวทางการทำสิ่งต่าง ๆ ของพ่อ

แต่ในขณะเดียวกัน ต่อให้เป็นบิดาของเขา ทว่าท่านแม่ก็เป็นคนที่เขารักมากที่สุด จึงไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่เขาจะไม่เข้าข้างแม่

หนานหนานรู้สึกขัดแย้งในตัวเองมาก

ทว่าคนที่กำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้ก็คือท่านแม่ที่เขากำลังนึกถึงอยู่

อวี้ชิงลั่วนั่งอยู่ในห้อง พิงศีรษะกับผนังขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง บาดแผลที่แขนของนางยังไม่หายสนิท แม้คมมีดจะบาดไม่ลึกและนางเองก็มียาดี แต่ภายในหนึ่งหรือสองวัน หากนางรักษาหายจนไม่มีแผลเป็นได้ นางก็คงเป็นเทพไปแล้ว

นางสัญญากับเย่ซิวตู๋ว่านางจะกลับไปคืนนี้ บาดแผลนี้… เขาไม่ได้ตาบอด เขาต้องเห็นมันแน่

“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ อวี้ชิงลั่วชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาจากข้างนอก “แม่นางอวี้ นายท่านเชิญท่านไปพบเจ้าค่ะ”

เสียงจากนอกประตูนั้นฟังดูคุ้นเคยและชัดเจน นับตั้งแต่เจินเจินถูกจัดการไปแล้ว ซ่างกวนจิ่นก็ให้ซวงซวงที่นางเคยพบมาก่อนมาแทนที่

เห็นได้ชัดว่าซวงซวงรู้หน้าที่ดีกว่าเจินเจิน และสุภาพกับนางมาก ซวงซวงมีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลา และไม่เคยใส่อารมณ์กับนางเลย

อวี้ชิงลั่วเปิดประตู และเห็นซวงซวงยิ้มอย่างอ่อนหวาน ก่อนทำความเคารพนางและพูดเบา ๆ ว่า “แม่นางอวี้ ถึงเวลาแล้วที่นายท่านจะตรวจอาการ ข้าน้อยจึงมารบกวนท่าน แม่นางอวี้โปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ”

อวี้ชิงลั่วย่อมรู้สึกพึงพอใจกับสาวใช้ที่เป็นมิตรเช่นนี้

นางพยักหน้า ก่อนจะเข้าไปหยิบถุงยา แล้วเดินตามหลังซวงซวงไป

ห้องของนางและซ่างกวนจิ่นอยู่ไม่ไกลกัน ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ก้าว

ซวงซวงก้าวเข้าไปเคาะประตู ทันทีที่อวี้ชิงลั่วเข้าไป นางก็เห็นซ่างกวนจิ่นนอนอยู่บนเก้าอี้ยาวนุ่มด้วยสีหน้างุนงง

“เจ้ามาแล้วหรือ?” ซ่างกวนจิ่นเงยหน้าขึ้นมองนาง แล้วค่อย ๆ หลับตาลงอีกครั้ง

ทันทีที่อวี้ชิงลั่วเข้าไปแล้ว ซวงซวงก็ถอยกลับไปด้วยท่าทางนอบน้อม แล้วปิดประตู

“เจ้าหาอะไรกินก่อนเถิด ข้าได้ยินมาว่าเจ้ายังไม่ได้กินมื้อเที่ยง เพราะเหตุใดกัน ไม่อยากอาหารหรือ?” ซ่างกวนจิ่นลืมตาขึ้น ก่อนจะชี้ไปยังอาหารที่เตรียมไว้ให้นางบนโต๊ะ แล้วถามนางว่า “หรือว่าเจ้ากลัวงูสองตัวนั้น?”

อวี้ชิงลั่วอึ้งไปครู่หนึ่ง ไม่ใช่ว่านางเบื่ออาหารหรือกลัวงู แต่… นางแค่ลืมกินเท่านั้น

ตอนนี้ในใจของนางเต็มไปด้วยความคิดว่าจะปกปิดความจริงอย่างไร เพื่อให้เย่ซิวตู๋ไม่เห็นบาดแผลที่แขนของนาง

เมื่อซ่างกวนจิ่นพูดถึงเรื่องกินขึ้นมา นางจึงรู้สึกตัวว่าท้องของนางว่างเปล่าไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าฆ่างูสองตัวนั้นไปแล้ว” เมื่อเห็นว่านางเงียบและไม่ได้ปฏิเสธ ซ่างกวนจิ่นจึงพูดต่อ “ส่วนเจินเจิน นางถูกโยนลงไปในหลุมฝังศพแล้ว ไม่มีใครมาทำอันตรายเจ้าได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป อยู่กับข้าที่นี่จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า”

เมื่อเจินเจินถูกลากออกจากห้อง ทั้งเซวียเล่อและเซวียเฉิงก็ขมวดคิ้ว ว่ากันว่าภาพที่เห็นช่างน่าสลดใจและสยดสยองยิ่งนัก

อวี้ชิงลั่วแอบกระตุกมุมปาก แล้วส่งเสียง “อืม” จากนั้นเดินไปนั่งที่โต๊ะ

เมื่อมองไปยังอาหารรสเลิศตรงหน้า นางก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริง ๆ หลังจากมองซ่างกวนจิ่นแล้ว นางก็ไม่สนใจเรื่องมารยาทอีกต่อไปและเริ่มลงมือกิน

ซ่างกวนจิ่นชอบพฤติกรรมของนางมาก เขารู้สึกว่ามีสตรีเพียงไม่กี่คนที่กล้าทำตัวไร้ยางอายต่อหน้าเขา

สตรีส่วนใหญ่ที่เขาพบมักเสแสร้งและเข้มงวดเรื่องมารยาท ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการกิน พวกนางคงไม่กล้าแม้แต่จะจับตะเกียบต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ

แม้ว่าพฤติกรรมของอวี้ชิงลั่วขณะกินจะดูไม่ค่อยสุภาพ แต่เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นธรรมชาติ เป็นอิสระและเรียบง่าย

ถ้าสตรีเช่นนี้ไม่ได้อยู่ในอ้อมแขนของเขา แล้วจะมีใครกับที่คู่ควรกับเขาอีก?

“เจ้ากินช้า ๆ ก็ได้ ที่นี่ไม่มีใครแย่งเจ้าหรอก” ซ่างกวนจิ่นจิบน้ำ เอ่ยเสียงแหบแห้ง

อวี้ชิงลั่วตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ถูกและพูดไม่ออก ทันใดนั้นก็รู้ตัวว่าเกือบจะกินหมดแล้ว นางจึงเงียบแล้ววางตะเกียบลงบนโต๊ะ

ซ่างกวนจิ่นขมวดคิ้ว “กินอิ่มแล้วหรือ?”

อวี้ชิงลั่วพยักหน้า เช็ดปากของนาง จากนั้นไปล้างมือ ก่อนจะเดินไปข้างเขา แล้วพูดว่า “ให้ข้าลองจับชีพจรของท่านเถอะ”

ความจริงแล้วเขาเกือบจะหายเป็นปกติ เดินได้ วิ่งได้ ไม่มีอะไรร้ายแรง

ซ่างกวนจิ่นขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ค่อยมีความอยากอาหาร” จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเสียใจ และรู้สึกว่าการลงโทษเจินเจินเช่นนั้นยังน้อยเกินไป

อวี้ชิงลั่วไม่ตอบ แต่หลังจากฟังชีพจรของเขาแล้ว นางก็ดึงมือออกแล้วพูดเบา ๆ ว่า “อาการบาดเจ็บของท่านใกล้จะหายเป็นปกติแล้ว ไม่จำเป็นต้องกินยา”

นางพูดพลางถูหว่างคิ้วตนเอง

“เจ้าเป็นอะไรไป? ไม่สบายใจหรือไม่?” ซ่างกวนจิ่นอดไม่ได้ที่จะยืดตัวขึ้นถามอย่างเป็นห่วง เขาไม่เคยเห็นนางมีท่าทางเช่นนี้มาก่อน

อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า “เมื่อคืนข้าฝันร้าย จึงอยากจะกลับไปนอนอีกสักพัก”

“ก็ดี เจ้าต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ข้าจะให้ซวงซวงจุดธูปหอมในห้องของเจ้า เพื่อให้เจ้าผ่อนคลาย และจะนอนหลับสบายขึ้น”

อวี้ชิงลั่วไม่สนใจ เรื่องที่นางกังวลคือเมื่อกลับไปแล้ว นางจะปกปิดบาดแผลที่แขนอย่างไรเนี่ยยย…

หลังจากบอกลาซ่างกวนจิ่นแล้ว นางก็เดินออกจากห้องอย่างอ่อนแรง

ซวงซวงขึ้นมาหานางทันที และเมื่อได้ยินคำสั่งของซ่างกวนจิ่นในห้อง นางก็รีบตอบรับและหันหลังจากไป

ส่วนอวี้ชิงลั่วที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดกะทันหัน ขณะมองไปยังร่างหนึ่งที่อยู่ชั้นล่างด้วยความประหลาดใจ

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

คิดมากกันทั้งแม่ทั้งลูกเลย จะมีทางออกที่ทำให้หายคิดมากไหมนะ

ใครมาล่ะเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท