ตอนที่ 865 ในที่สุดก็ได้พบแม่นมเก๋อ
ตอนที่ 865 ในที่สุดก็ได้พบแม่นมเก๋อ
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เม้มปากเล็กน้อย
คนผู้นี้เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ที่แขนเต็มไปด้วยบาดแผลและคราบเลือด ราวกับผ่านการถูกเฆี่ยนมาอย่างทารุณ ที่ขายังถูกล่ามไว้ด้วยโซ่เหล็ก ดูแล้วน่าจะหนักเป็นอย่างมาก
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นเสียจนแทบไม่กะพริบตา เพียงแต่จ้องมองนางเขม็งเช่นนั้น
ต่อจากนั้น เหมือนกับว่าคนที่ถูกเหมิงจื่อเย่าจับเอาไว้รู้สึกได้ถึงสายตาของนาง จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา
เมื่อเห็นนาง ดวงตาของอีกฝ่ายก็เป็นประกาย พร้อมกับรอยยิ้มผุดที่มุมปาก กล่าวเบาๆ “เสียงนี้… เป็นท่านจริงๆ ด้วย”
อวี้ชิงลั่วรู้สึกวิงเวียน แม้แต่ลมหายใจก็ขาดห้วง เดินถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างควบคุมตนเองไม่ได้
ผู้บัญชาการเฮ่อที่อยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มองนางอย่างเป็นกังวล
“คุณหนู ข้ามีสภาพเช่นนี้ คงจะทำให้ท่านจำ…” คำพูดของนางหยุดไปกะทันหัน มองอวี้ชิงลั่วที่จู่ๆ ก็น้ำตาไหลนองออกมา จากนั้นก็รู้สึกแสบร้อนที่จมูกเช่นกัน
“เมื่อครู่เพิ่งจะดีอยู่เลย เหตุใดจึงร้องไห้เสียแล้วเล่าเจ้าคะ ท่านแข็งแกร่งมาโดยตลอด ที่นี่คนตั้งมากมาย คนเขาจะหัวเราะเอาได้นะเจ้าคะ”
ลำคอของอวี้ชิงลั่วราวกับตีบตัน อ้าปากค้าง แม้แต่ริมฝีปากก็ยังสั่น แต่กลับไม่ส่งเสียงอันใดออกมา
ผู้บัญชาการเฮ่อรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย หมอปีศาจ…ว่ากันว่าไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไปไม่ใช่หรือ? เห็นว่าห้าวหาญมากเพราะท่องยุทธภพมาจนทั่วไม่ใช่หรือ? คงไม่… ร้องไห้กระมัง
ตอนนี้กลับร้องไห้ราวกับเด็กๆ นี่…นี่…นี่ทำให้คนรู้สึกสงสารขึ้นมาเลยทีเดียว
ผู้บัญชาการเฮ่อกลืนน้ำลาย กล่าวเบาๆ “แม่นางอวี้ ท่านเป็นอะไรไปหรือ เจ็บตรงไหนหรือไม่ บาดเจ็บหรือ อย่าร้องเลย ไม่อย่างนั้นถึงตอนนั้น ถึงตอนนั้นท่านอ๋องมาเห็นเข้า จะคิดว่าข้ารังแกท่าน…”
เหมือนว่าอวี้ชิงลั่วจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาของนางยังคงจับจ้องไปยังหญิงที่ถูกเหมิงจื่อเย่าจับเอาไว้ ผ่านไปเนิ่นนาน สุดท้ายก็สูดหายใจลึก รวบรวมเสียงของตนกลับมาได้ แต่น้ำตายังคงเอ่อคลอเบ้าไม่มีทีท่าว่าจะหยุดไหล
นางกล่าวพลางสะอื้น “ข้าตามหาท่านมานานเหลือเกิน”
“ข้าทำท่านลำบากเสียแล้ว” นางรู้ ตั้งแต่ตนหายตัวไป อีกฝ่ายและหนานหนานจะต้องคอยตามหาตนเป็นแน่
“ตั้งแต่อาณาจักรเทียนอวี่ มาถึงอาณาจักรเฟิงชาง จากเจียงเฉิงถึงเมืองหลวง…”
“เหตุใดต้องลำบากด้วยเล่า?”
“ทุกข่าวคราวแม้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับท่าน ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง ข้าและหนานหนานก็ล้วนไปตามหา”
“คุณหนู…” นางรู้สึกผิด “ข้าเป็นเพียงคนรับใช้เท่านั้น เหตุใดต้องลงแรงเพียงนี้ ไม่คุ้มค่ากันเลย”
อวี้ชิงลั่วเม้มริมฝีปาก กลืนก้อนสะอื้นกลับลงไป เพียงแต่ปลายจมูกยังคงแสบร้อน ความรู้สึกนี้ช่างซับซ้อนจนเกินกว่านางจะควบคุม “ข้าและหนานหนานไม่เคยมองท่านเป็นคนรับใช้เลย ท่านเป็นคนที่เราสองแม่ลูกเคารพรักที่สุด”
ในตอนนั้นหากไม่มีนาง ตนจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร หนานหนานจะเกิดมาอย่างปลอดภัย เติบโตมาจนทุกวันนี้ได้อย่างไร
หลายปีมานี้ แม่นมเก๋อทำงานอย่างหนักเพื่อพวกนางสองแม่ลูก คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของพวกนาง
อยู่ด้วยกันทุกวันคืนมาหลายปี ระหว่างพวกนางไม่ได้มีเพียงบุญคุณต่อกัน กลับมีความรักแบบครอบครัวที่แยกกันไม่ออกยิ่งกว่าความสัมพันธ์ทางสายเลือด
เมื่อคิดถึงอดีตทั้งหมด สุดท้ายแล้วนางก็ควบคุมไม่ได้อีกต่อไป
“แม่นมเก๋อ…” อวี้ชิงลั่วยกมือขึ้นปิดปากทันที
ภาพด้านหน้าเลือนราง ภาพทั้งหมดตรงหน้าล้วนมองเห็นไม่ชัดแล้ว
จนกระทั่ง… เสียงหัวเราะอันหยิ่งผยองของเหมิงจื่อเย่าดังขึ้น “ฮ่าๆๆ ตอนแรกข้ายังเป็นกังวลอยู่ว่าเครื่องรางคุ้มภัยนี้จะอ่อนแอไปเสียหน่อย ตอนนี้เมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้แล้ว ดูท่าท่านพ่อจะกล่าวไว้ไม่ผิดทีเดียวว่ายายแก่ผู้นี้เป็นจุดอ่อนของเจ้า”
ผู้บัญชาการเฮ่อได้ยินคำนั้น ในใจก็กรีดร้องออกมาว่าแย่แล้ว รีบกำมีดสั้นไว้แน่นในทันที
เขาเองก็มองออก แม่นางอวี้ให้ความสำคัญกับหญิงชราคนนี้เป็นอย่างมาก เกรงว่าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยนางออกมา
สีหน้าของเหมิงจื่อเย่าแสดงออกว่าไม่พอใจในทันที “อวี้ชิงลั่ว หากเจ้าต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ ก็ยอมมอบตัวแต่โดยดีเถิด”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา ให้มองเห็นชัดขึ้นมาหน่อย
แต่เมื่อแววตาสัมผัสกับมีดสั้นที่เหมิงจื่อเย่าจ่อไปที่ลำคอของแม่นมเก๋อ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวดุร้ายทันที
ทั้งยังเห็นว่าร่างกายของแม่นมเก๋อเต็มไปด้วยบาดแผล ก็ยิ่งแผ่รังสีอำมหิตออกมาทั้งร่าง เย็นยะเยือกอย่างมาก
แม้แต่บุรุษอย่างผู้บัญชาการเฮ่อก็ยังรู้สึกว่าอวี้ชิงลั่วในตอนนี้ไม่ควรเข้าไปยั่วยุจะเป็นการดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคงจะต้องตายโดยไร้ที่ฝัง
เหมิงจื่อเย่าหายใจติดขัดในทันที เขามองสีหน้าของนางก็รู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อคิดได้ว่ายังมีตัวประกันในมือ ก็เชิดคางขึ้นอีกครั้งอย่างลำพองใจเล็กน้อย “ว่าอย่างไร เจ้าคิดจะจัดการข้าหรือ? เช่นนั้นเราก็มาดูกันว่าเจ้าจะเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า หรือมีดสั้นของข้าจะเร็วกว่า เพียงข้าปาดครั้งเดียว ต่อให้เจ้าเป็นหมอปีศาจ เจ้าก็คงช่วยรักษาไม่ได้เป็นแน่”
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ แม้ตอนนี้ในใจนางอยากจะสับเหมิงจื่อเย่าให้เป็นพันชิ้น นางก็ทำได้แค่อดทนไว้ชั่วคราว
อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมา สีหน้าดูอ่อนโยนลงมาก “บนร่างแม่นมเก๋อมีบาดแผล เคลื่อนไหวไม่สะดวก เจ้าจับนางเป็นตัวประกัน ก็เพียงเพราะต้องการหนีไปจากที่นี่ แต่ท่าทางนางเช่นนี้ คงจะเป็นภาระของเจ้าแน่ ไม่แน่ว่าจะทำให้เจ้าต้องลำบาก ถ่วงมือถ่วงเท้าของเจ้า เช่นนั้นแล้ว เปลี่ยนตัวข้ากับแม่นมเก๋อเป็นอย่างไร?”
ผู้บัญชาการเฮ่อตะลึงงัน รีบเอ่ยห้าม “แม่นางอวี้ ไม่ได้นะขอรับ”
หากเกิดอันใดกับนาง ด้วยนิสัยของท่านอ๋องซิวนั้น ตนจะต้องตายอย่างอนาถเป็นแน่
เหมิงจื่อเย่าลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็แค่นหัวเราะ “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? เจ้าไม่ได้บาดเจ็บ เจ้าเคลื่อนไหวได้ง่าย แต่เจ้ามีฝีมือ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยอุบาย จับเจ้ามาเป็นตัวประกัน… ข้าไม่วางใจหรอก”
เขากล่าว จากนั้นก็เหลือบมองแม่นมเก๋อ ส่งเสียงฮึดฮัด “ส่วนนาง ถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้า แต่ก็ไม่เป็นภัยต่อข้า ทั้งยังหนีไม่ได้ มีนางอยู่ในมือ นางเองก็ต้องฟังคำสั่งข้า”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เหมิงจื่อเย่าไม่ได้โง่ เพียงแต่เขลาเท่านั้น
“รีบถอยไปเสีย ข้ายังต้องไปหาท่านแม่อีก อย่ามาขวางทางข้า” ตอนนี้เหมิงจื่อเย่ายังคงนึกถึงหรูซือ ถึงแม้เขาจะเขลา แต่บางเรื่องก็ยังคิดได้อยู่
หรูซือ…จู่ๆ อวี้ชิงลั่วก็มาปรากฏตัวที่นี่ แสดงให้เห็นว่าเย่ซิวตู๋เองก็มาด้วย แผนการที่ท่านแม่และผู้อาวุโสสกุลลี่จะลักพาตัวผู้อาวุโสสกุลหมิงอาจจะเป็นไปอย่างไม่ราบรื่น
อวี้ชิงลั่วก้าวไปด้านข้างก้าวหนึ่ง มองเหมิงจื่อเย่าจับแม่นมเก๋อเตรียมจากไป สุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วกล่าว “เจ้าคิดจริงๆ หรือ… ว่าแม่นมเก๋อจะไม่เป็นภัยคุกคามต่อเจ้า?”
การเคลื่อนไหวของเหมิงจื่อเย่าชะงัก “เจ้า เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
อวี้ชิงลั่วแววตาเคร่งขรึม แต่กลับไม่กล่าวอันใด
เหมิงจื่อเย่าหวาดหวั่นเล็กน้อยเพราะนาง หันหน้ามาจ้องนางแล้วถามอย่างดุดัน “เจ้าอุบเรื่องอันใดเอาไว้? คิดจะใช้อุบายอันใด? มีแผนชั่วใด? รีบบอกมา ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง”
อวี้ชิงลั่วมองแม่นมเก๋อแวบหนึ่ง แววตาอีกฝ่ายเป็นประกายขึ้นมา ความเข้าอกเข้าใจตลอดหลายปีของทั้งสองคน ไม่ใช่เรื่องโกหกเลยแม้แต่น้อย
ในขณะที่เหมิงจื่อเย่าเบนความสนใจแทบจะทั้งหมดไปอยู่ที่อวี้ชิงลั่ว แม่นมเก๋อก็เบี่ยงศีรษะ หลีกเลี่ยงตำแหน่งที่ใบมีดจะโดนเส้นเลือดใหญ่ ยกขาขวาขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่าโซ่เหล็กหนักๆ นั้นจะไม่มีผลอันใดกับนางเลย จากนั้นก็กระแทกเข้าที่จุดสำคัญของเขาอย่างรวดเร็ว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พลาดแล้วที่จับคนสำคัญของชิงลั่วเป็นตัวประกัน สองคนนี้แค่มองตาก็รู้ใจว่าต้องทำอะไรบ้าง
ไหหม่า(海馬)