ตอนที่ 875 ช่วยหน่อยเถิด
ตอนที่ 875 ช่วยหน่อยเถิด
ฮู… ฮูหยินเหมิงหรือ?
อวี้ชิงลั่วกะพริบตา รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
เยว่ซินมีไหวพริบจึงรีบเตือนนางว่า “นางคือมารดาของเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วนึกขึ้นได้ และตบหน้าผากตัวเองทันที ช่วงนี้นางสับสนบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และนางก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว
นางจำได้ว่าหนานหนานบอกว่าฮูหยินเหมิงถูกคุมขังไว้เป็นเวลาสิบห้าปี หนานหนานเพิ่งไปที่ห้องลับเมื่อวานนี้ และพานางออกมา
เมื่อเห็นว่านางกำลังขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เยว่ซินก็รีบเล่าเรื่องที่นางได้ไปสอบถามมาก่อนหน้านี้ “คุณหนู ฮูหยินเหมิงเป็นคนที่กล้าหาญนัก แม้สุขภาพของนางจะไม่ค่อยดี แต่หลังจากกินยาบำรุงลมปราณของหมอเฒ่าฉยงซาน นางก็สามารถยืดหลังตรง เรียกคนรับใช้ทุกคนในคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลหมิงมาประชุมได้เจ้าค่ะ”
“ข้าน้อยได้ยินมาว่านางเป็นคนฆ่าอนุหรูซือด้วยมือของนางเอง ฮูหยินเหมิงไม่ได้ฆ่าเหมิงจื่อเย่าที่เป็นหลานของผู้อาวุโสสกุลหมิง แต่นางได้ตัดสองนิ้วของเขา โดยบอกว่ามันเป็นราคาที่เขาต้องจ่ายสำหรับการกลั่นแกล้งเหมิงจื่อเชียนและเหมิงจื่อฉีตลอดหลายปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ส่งตัวเขาให้ท่านประมุข ว่ากันว่าตอนที่เหมิงจื่อเย่าถูกตัดนิ้ว เป็นตอนที่ฮูหยินเหมิงเรียกคนรับใช้ในคฤหาสน์มาตักเตือนพอดี ทำให้คนเหล่านั้นได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาตนเอง เสียงกรีดร้องโหยหวนราวเสียงหมาป่าของเหมิงจื่อเย่า ทำให้พวกเขาสยดสยองยิ่งนักเจ้าค่ะ”
“ฮูหยินเหมิงดำเนินการทุกอย่างเร็วมาก หลังจากการสอบสวนหลายครั้ง นางก็พบว่ามีคนรับใช้มากมายที่เป็นคนของอนุหรูซือ นางจึงขับไล่พวกเขาทุกคนออกจากคฤหาสน์ ส่วนบางคนที่ชอบประจบสอพลอและพูดเกินจริง ฮูหยินเหมิงก็ไม่พอใจมาก จึงจัดให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ไม่พึงประสงค์ที่สุด แต่สำหรับคนที่ซื่อสัตย์ และคอยดูแลเหมิงจื่อเชียนกับน้องสาวเป็นอย่างดีเสมอมา ฮูหยินเหมิงก็มอบความไว้วางใจให้พวกเขารับผิดชอบหน้าที่สำคัญเจ้าค่ะ”
“ตอนนี้ฮูหยินเหมิงรับผิดชอบดูแลทั้งคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลหมิง เพราะอย่างไรเสีย เดิมทีหน้าที่นี้ก็เป็นของฮูหยินเหมิงมาตลอดอยู่แล้ว แต่ข้าน้อยได้ยินมาว่านางมีสุขภาพไม่ดี หลังจากที่นางไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันเพราะถูกขังในห้องลับเป็นเวลาสิบห้าปีเจ้าค่ะ”
เยว่ซินรีบเล่าให้ฟัง อวี้ชิงลั่วพยักหน้าบ่อย ๆ จากนั้นเงยหน้าขึ้นพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าช่วงนี้เจ้าฉลาดขึ้น สืบสวนเรื่องเหล่านี้ได้ดี”
นางดูแลแม่นมเก๋อทั้งวันและนอนทั้งวัน จึงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลหมิงเลย
คาดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาเพียงสองวัน ฮูหยินเหมิงได้เริ่มจัดการแก้ไขหลายเรื่องแล้ว
เยว่ซินรู้สึกเขินอายมาก นางลูบศีรษะตัวเอง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มซื่อว่า “แม่นมเซียวบอกไว้ว่า หากอยู่ในบ้านของคนอื่นต้องรับรู้ข่าวสารให้เร็วที่สุด มีโอกาสย่อมต้องคว้าไว้เจ้าค่ะ”
ขณะที่นางกำลังพูด เสียงโม่เสียนเคาะประตูก็ดังมาจากด้านนอก
ดูเหมือนว่าฮูหยินเหมิงจะมาถึงหน้าประตูแล้ว
อวี้ชิงลั่วยืนขึ้นทันที หลังจากจัดเสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อยแล้ว ก็บอกให้เยว่ซินเดินไปเปิดประตู
ฮูหยินเหมิงสวมใส่ชุดเรียบร้อยมาก ใบหน้าของนางยังคงซีดเซียวเล็กน้อย แต่นางก็เดินอย่างสง่างาม
นางยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า เมื่อนางเดินมาอยู่ข้างหน้าอวี้ชิงลั่ว นางก็กวาดสายตามองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินหนานหนานพูดถึงแม่นางอวี้ เดิมทีข้าคิดว่าจะเป็นสตรีที่เย็นชาและจริงจัง แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกว่า… เจ้าดูใจดีนัก”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก ฟังมาจากคำพูดของหนานหนานงั้นหรือ? นางรู้สึกว่าเขาน่าจะอธิบายตัวตนของนางเหมือนเป็นคนโรคจิตแน่ ต่อไปเห็นทีต้องควบคุมปากของเขาบ้างแล้ว เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของนางถูกเขาทำลายจนป่นปี้
อวี้ชิงลั่วรีบเชิญให้นางนั่งลง “ฮูหยินเหมิงก็พูดเกินไปเจ้าค่ะ ข้าได้ยินหนานหนานพูดถึงท่านด้วย เขาบอกว่าเขาชอบท่านมาก” พูดจบแล้ว นางก็หันหลังเดินไปที่ย่ามใส่ยา แล้วหยิบขวดยาออกมา ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แม้ว่าจะไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ยังดีต่อสุขภาพ ฮูหยินเหมิงโปรดรับไว้เถิดเจ้าค่ะ”
ทันใดนั้นดวงตาของเหมิงฉี่เยว่ก็เป็นประกาย นางมองไปอวี้ชิงลั่วด้วยความพึงพอใจมากขึ้น “เจ้ากำลังพูดถึงอะไร แม้ว่าข้าจะถูกขังอยู่ในห้องมืดนั้น แต่ข้าก็ยังได้ยินเหมิงจื้อเฉิงเอ่ยถึงหมอปีศาจหลายครั้ง ของที่เจ้ามอบให้ข้านั้นมีค่ายิ่งนัก ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นของหายาก”
เมื่ออวี้ชิงลั่วได้ยินนางพูดถึงคืนวันอันโหดร้ายนั้น ก็คิดว่านางไม่ได้มีความตะขิดตะขวงใจ ปล่อยวางและไม่ติดใจอีก
ได้ยินมาว่านางเป็นลูกพี่ลูกน้องของเหมิงลู่ และนางเล่นกับเหมิงลู่ตลอดตอนที่ยังเป็นเด็ก ดังนั้นพวกเขาอาจมีนิสัยคล้ายกัน
“เมื่อเร็ว ๆ นี้มีบางอย่างเกิดขึ้นในเผ่าเหมิง” ฮูหยินเหมิงวางขวดลายครามลง แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ภายในคฤหาสน์หลังนี้ก็ยังคงมีหมอกควันปกคลุมอยู่เช่นกัน ทานผู้อาวุโสยังไม่ฟื้น ข้าจึงต้องคอยดูแลทุกเรื่องในคฤหาสน์ไปก่อน ข้ามาที่นี่เพราะต้องการเห็นความเป็นอยู่ของเจ้าที่นี่ หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี ฮูหยินไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ”
“เจ้าอย่าได้ด่วนตัดสินเช่นนี้เลย ข้าสามารถมายืนคุยกับเจ้าที่นี่ได้ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณหนานหนาน และขอบคุณเจ้ามาก ข้าดีใจที่เหมิงจื้อเฉิงไม่ได้ดึงจื่อเชียนกับจื่อฉีไปร่วมด้วย ไม่เช่นนั้นวันนี้พวกเขาทั้งสองอาจจะพลอยติดร่างแหไปด้วยแล้วก็ได้” ฮูหยินเหมิงพูดและถอนหายใจอีกครั้ง “วันนี้ข้ามาที่นี่ เพราะข้ามีอีกเรื่องที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากเจ้า”
อวี้ชิงลั่วรู้สึกประหลาดใจ “บอกมาเถิดเจ้าค่ะ”
นางไม่มีความขุ่นเคืองใจกับฮูหยินเหมิง ที่นางสามารถจัดการเหมิงจื้อเฉิงได้อย่างราบรื่นในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะฮูหยินเหมิงมีส่วนช่วยด้วย หนังสือที่นางให้มาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากไม่มีหนังสือเล่มนั้น ผู้บัญชาการเฮ่อคงต้องโทษฐานเป็นกบฏต่อเหมิงจื้อเฉิง
“จื่อเชียนอยู่ในเผ่าเหมิงตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะได้รับการสั่งสอนจากผู้อาวุโสสกุลหมิง แต่เขาก็ยังคงขาดประสบการณ์ในการจัดการกับผู้คน สองวันมานี้ข้าได้พูดคุยกับเขาอย่างลึกซึ้ง เขาก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน เขาคิดจะออกจากเผ่าเหมิงเพื่อออกไปผจญภัยข้างนอก แต่เขาไม่ค่อยรู้เรื่องนอกดินแดนเหมิงมากนัก ข้าจึงคิดว่าเมื่อเจ้าออกจากดินแดนเหมิง เจ้าน่าจะช่วยพาเขาไปด้วย บางทีเขาอาจจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้บ้างเช่นกัน”
ช่วยเหลือพวกเขาหรือ? อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้นขณะมองฮูหยินเหมิงที่กำลังหลบตา และรู้สึกเสมอว่ามีความนัยบางอย่างแฝงอยู่ในคำพูดของนาง
แต่คิดอีกทีก็เห็นว่าฮูหยินเหมิงอยู่เคียงข้างเหมิงจื้อเฉิงมาหลายปีแล้ว และนางเป็นคนที่มีความคิดลึกซึ้ง นางย่อมไม่ร้องขอโดยไม่มีเหตุผล
อวี้ชิงลั่วพยักหน้าทันที “มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ฮูหยินเหมิงอย่าได้กังวลเลยเจ้าค่ะ”
ฮูหยินเหมิงเงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มให้อวี้ชิงลั่ว
เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของนาง ฮูหยินเหมิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพอใจกว่าเดิม สตรีที่ซิวเอ๋อร์เลือกนั้นเป็นคนฉลาดจริง ๆ
ตอนแรกเหมิงกุ้ยเฟยผู้เป็นพี่สามีของนาง อาจนึกไม่ถึงว่าซิวเอ๋อร์จะมีสายตาที่ไม่เหมือนใคร
หลังจากฮูหยินเหมิงพูดจบ นางก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
อวี้ชิงลั่วครุ่นคิดอยู่ในห้องอีกครู่หนึ่ง จนกระทั่งเยว่ซินเตือนนาง นางจึงเดินไปยังเรือนของแม่นมเก๋อ
มีเสียงหัวเราะดังมาจากในห้อง และยังมีเสียงแม่นมเซียวกำลังพูด กับเสียงหนานหนานที่กำลังกระโดดโลดเต้น
อวี้ชิงลั่วส่ายหน้า แม่นมเก๋อยังไม่แข็งแรง น่าจะปล่อยให้นางพักผ่อนบ้างไม่ใช่หรือ
ขณะที่นางกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ทันใดนั้นผู้บัญชาการเฮ่อก็รีบวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้านาง “แม่ แม่นางอวี้ขอรับ มีสตรีคนหนึ่งมาตามหาท่านอยู่ข้างนอกขอรับ”
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ใครมาตามหาชิงลั่วกันนะ?
ไหหม่า(海馬)