ตอนที่ 897 ทำร้ายตนเอง
ตอนที่ 897 ทำร้ายตนเอง
ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วเคร่งเครียดขึ้นมา อวี๋จั้วหลิน ไอ้ชั่วผู้นั้น
คิดไม่ถึงว่าจะมาพบเขาอีกครั้งที่นี่ โลกกลมเสียจริงๆ
แต่เขามาแล้ว เช่นนั้นเจียงอวิ๋นเซิง…
อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปมองแม่นมเซียว “ดูท่า จะต้องพาหมอเจียงย้ายที่อยู่เสียแล้ว”
หากนอนร้องโอดโอยอยู่ที่นี่ คนต่ำทรามอวี๋จั้วหลินผู้นั้นอาจจะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ ถึงตอนนั้นหากพบตัวเจียงอวิ๋นเซิง ต่อให้พวกเขาใช้อำนาจกดดัน ก็จัดการอันใดไม่ได้
แม่นมเซียวพยักหน้า สีหน้าจริงจังขึ้นมาก
เพียงแต่ตอนนี้ด้านนอกมีคนอยู่มากมาย พวกนางอยู่ในห้องนี้ ไม่สามารถไปไหนได้ ที่ที่พอจะซ่อนได้ก็มีเพียงในห้องนี้
อวี้ชิงลั่วและแม่นมเซียวสบตากัน ทั้งสองคนขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกัน
อวี้ชิงลั่วยังคงเชื่อมั่นในเย่ซิวตู๋ อย่างมากที่สุดอวี๋จั้วหลินก็แค่จะบุกเข้ามาข้างใน แต่จะให้เขาเข้ามาค้นหาอย่างเปิดเผยนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้
หากเขากล้า เย่ซิวตู๋จะต้องฆ่าเขาทันทีเป็นแน่
ดังนั้น การพาหมอเจียงไปห้องด้านใน ให้นอนบนเตียงก็น่าจะไม่มีปัญหาใหญ่อันใด
นางบอกกล่าวแม่นมเซียว จากนั้นก็พูดกับเจียงอวิ๋นเซิงเสียงเบา “หมอเจียง ทนเสียหน่อยนะ ข้ากับแม่นมจะพยุงเจ้าเข้าไปข้างใน”
ตอนนี้เจียงอวิ๋นเซิงไม่สนใจสิ่งใดมากนัก ในห้องนี้ก็มีเพียงอวี้ชิงลั่วและแม่นมเซียว เขาคนเดียวนั้นเดินไม่ได้จริงๆ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ทำได้แค่รบกวนพวกนางแล้ว จึงตอบไปทันที “ขอบคุณมากแม่นางอวี้”
ทั้งสองคนช่วยพยุงเจียงอวิ๋นเซิงอย่างระมัดระวัง พยุงคนละข้างพาเขาเข้าไปห้องด้านใน จากนั้นก็ปิดม่านลูกปัดลง
เจียงอวิ๋นเซิงค่อยๆ หายใจหอบ เดินห่างมาเพียงไม่กี่ก้าวก็เหงื่อออกเสียแล้ว
อวี้ชิงลั่วปล่อยมือ จากนั้นก็ไปยังเตียงด้านนอกเพื่อจัดการสิ่งของทั้งหมดของเจียงอวิ๋นเซิง จากนั้นก็เก็บชามยาเสียด้วย
แต่ทว่าเมื่อเข้ามาข้างใน ก็พบว่าแม่นมเซียวถือมีดสั้นอยู่ในมือแล้วยกขึ้นสูง
อวี้ชิงลั่วตะลึง ยังไม่ทันได้ตอบสนองใด ก็เห็นแม่นมเซียวแทงเข้าไปที่แขนของตนอย่างแรง
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจอย่างแรงจากนั้นก็ร้องออกมาเบาๆ โชคดีที่ด้านนอกมีเสียงหนานหนานดังขึ้นมาทันที บดบังเสียงร้องของนาง ไม่อย่างนั้นอวี๋จั้วหลินจะได้ยินอย่างแน่นอน
“แม่นมเซียว ท่านทำอันใดกัน” อวี้ชิงลั่วรีบวางชามยาไว้ด้านข้าง รุดไปข้างกายนาง เห็นว่าเลือดยังคงไหลออกมาจากแขน นางก็โกรธเสียจนเลือดขึ้นหน้า “ท่านทำร้ายตนเองทำไมกัน”
นางกล่าวพลางรีบนำกระเป๋ายามาแล้วพันแผลให้นาง
เหงื่อค่อยๆ ไหลออกมาที่หน้าผากของแม่นมเซียว ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมา
ท่าทางที่จริงจังมาโดยตลอด ตอนนี้สีหน้าตอนยิ้มกลับอ่อนโยน ดูใจดีขึ้นมาก
นางกล่าวปลอบอวี้ชิงลั่ว “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ บาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ในห้องนี้กลิ่นเลือดแรงเกินไป หากอวี๋จั้วหลินเข้ามาจะต้องรู้ได้ทันที หากข้าบาดเจ็บก็จะพอช่วยปกปิดได้หน่อย”
เจียงอวิ๋นเซิงที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจกับการกระทำของนาง อ้าปากค้างอยู่นานไม่ได้กล่าวอันใด แต่ก็เป็นกังวลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “แม่นมเซียว เหตุใดต้องทำเพื่อข้า เพื่อข้า…”
“ท่านหมอเจียง ต่อไปข้าจะได้เอาเปรียบท่านเป็นแน่” แม่นมเซียวขัดคำพูดของเขา “หากอวี๋จั้วหลินเข้าประตูมา ท่านก็นอนอยู่ด้านในนี้ ข้าจะอยู่ที่เตียงด้านนอก เขาจะได้ไม่สงสัย”
อวี้ชิงลั่วพันผ้าพันแผลอย่างอารมณ์เสีย มองดูเลือดบนแขนของนางก็กัดฟัน “ต่อให้ท่านไม่วางใจข้า ก็ควรวางใจเย่ซิวตู๋เสียหน่อย เขาจะปล่อยให้คนบ้าอย่างอวี๋จั้วหลินเข้ามาได้อย่างไร ท่านทำ…ท่านทำร้ายตนเองเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าทำไปอย่างไร้ประโยชน์หรอกหรือ”
แม่นมเซียวถอนหายใจ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก็เผื่อไว้เจ้าค่ะ หลายปีมานี้ข้าน้อยคุ้นเคยกับการคิดถึงสิ่งต่างๆ ในทางที่เลวร้ายที่สุด หาทางหนีไว้ให้พวกเราเจ้าค่ะ”
อวี้ชิงลั่วไม่รู้จริงๆ ว่าจะพูดอะไรกับนางดีจริงๆ แม่นมเซียวอยู่ที่อาณาจักรเทียนอวี่เป็นเวลาหลายปี คอยติดตามฮองเฮาอยู่ในวังทุกฝีก้าว จึงเคยชินกับความคิดเช่นนี้
นางถอนหายใจ ป้อนยาให้นาง จากนั้นก็กล่าวเบาๆ “ต่อไปห้ามทำเรื่องเช่นนี้อีกนะ หากท่านยังมีความกังวลก็สามารถมาบอกข้าได้ หากยังไม่ดีพอ ทางข้านี้ยังมียาผงอีกมาก สามารถกลบกลิ่นเลือดนี้ได้”
แม่นมเซียวฉีกยิ้ม ไม่ได้กล่าวอันใด นางเพียงแต่คิดว่าได้พบกับอวี๋จั้วหลิน สถานการณ์นี้ก็พัฒนาไปทางที่เลวร้ายอย่างมากแล้ว
การต้องพัวพันกับคนผู้นั้น ไม่ช้าก็เร็วต้องมาถึงขั้นนี้
นางนั่งอยู่ตรงขอบเตียง นำผ้าปูมาคลุมขา เมื่อตอนที่อวี๋จั้วหลินบุกเข้ามา จะได้ป้องกันด้วยการยกขาขึ้นบนเตียง ไม่เผยให้เห็นจุดอ่อน
อวี้ชิงลั่วช่วยจัดระเบียบให้นาง จากนั้นก็จับชีพจรของนางอย่างระมัดระวัง พึมพำอย่างไม่พอใจ “หากบาดแผลของท่านลึกอีกเพียงนิดเดียว ถึงตอนนั้นคนที่ลำบากจะเป็นท่านเองนะแม่นม”
ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักร่างกายตนเอง อายุก็มากแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ช่วยหนานหนาน สุขภาพก็ไม่ดีอยู่แล้ว
ประโยคด้านหลัง อวี้ชิงลั่วไม่ได้กล่าว แต่มุ่นคิ้วแน่น
เจียงอวิ๋นเซิงที่นอนอยู่บนเตียงมองเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ “แม่นางอวี้และแม่นมเซียวช่างสนิทสนมกันดีนัก”
คนหนึ่งเป็นนาย คนหนึ่งเป็นบ่าว คนหนึ่งเป็นหมอปีศาจที่อารมณ์ไม่แน่นอน เป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรเทียนอวี่ อนาคตจะเป็นพระชายาของอ๋องซิว อีกคนหนึ่งก็เป็นแม่นมที่ไม่ถูกมองว่าเป็นคนรับใช้มาตั้งแต่ต้น ทั้งยังพูดพร่ำต่อหน้าเจ้านายโดยไม่มีท่าทางเหมือนเป็นบ่าวเลยแม้แต่น้อย
แต่พวกเขาสองคนนั้นกลับสนิทสนมราวแม่ลูก ช่างหาได้ยากนัก
อวี้ชิงลั่วหัวเราะออกมา “อืม ข้านิสัยดีหน่อย แม่นมเซียวก็ดีกับข้ามาก”
แม่นมเซียวจ้องมองนางแวบหนึ่ง คนชมประโยคเดียวก็เริ่มโอ้อวดเสียแล้ว ไม่เคยเห็นหญิงสาวที่หลงตัวเองเพียงนี้มาก่อนเลย
ทั้งสามคนกำลังคุยกัน จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงดังขึ้นมา “ท่านอ๋องซิว ข้าน้อยได้รับคำสั่งจากฝ่าบาทให้จับตัวอาชญากรของวังหลวง ท่านหาข้ออ้างมากมายเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านไม่มั่นใจ หรือว่าด้านในมีคนร้ายที่ข้าต้องจับตัวอยู่จริงๆ”
เย่ซิวตู๋มองเขาอย่างเย็นชา หัวเราะเย้ยหยัน “ใต้เท้าอวี๋ช่างองอาจนัก ในเมื่อได้รับบัญชามาให้จับอาชญากรของวังหลวง เช่นนั้นก็ไปจับเถิด จะมายุ่งเกี่ยวกับข้าอยู่ทำไม”
“มีคนเห็นคนร้ายหนีมาในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ข้าน้อยก็ให้คนตรวจค้นทั่วทั้งโรงเตี๊ยมแล้ว เหลือเพียงห้องที่ท่านอ๋องพักอยู่เท่านั้น ข้าเองนั้นก็เห็นแก่ท่านอ๋อง หากถึงตอนนั้นท่านอ๋องเป็นอันใดไป จะเป็นความผิดของข้าน้อยเอาได้”
อวี๋จั้วหลินยิ้มเยาะ ตอนนี้เขาพึ่งพาองค์ชายเจ็ดและเหมิงกุ้ยเฟย รู้ว่าพวกเขาและเย่ซิวตู๋ไม่ถูกกัน เขาก็ย่อมไม่เกรงกลัว ยิ่งไปกว่านั้น เขาและเย่ซิวตู๋ยังมีความแค้นเก่ากันมาก่อนอีกด้วย
ผู้ตรวจการมองซ้ายทีขวาที ปวดหัวเล็กน้อย ไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ทั้งสองฝ่าย
ตอนนี้อวี๋จั้วหลินมีรับสั่งจากฮ่องเต้ อีกทั้งตอนนี้ยังมีชื่อเสียงมาก ทุกคนล้วนรู้ดี ว่าเขาเป็นที่โปรดปรานขององค์ชายเจ็ดและเหมิงกุ้ยเฟย คนผู้นี้สามารถทำเขาเดือดร้อนได้เสมอ
แต่เย่ซิวตู๋เป็นท่านอ๋องน่ะสิ เป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด เขาก็ยิ่งไม่กล้าทำให้ขุ่นเคือง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แม่นมเซียวช่างกล้าหาญยิ่งนัก นับถือๆ
นี่เตรียมง้างเท้ากระทืบกระจั๊วแล้วนะคะ โผล่หน้ามาทีไรมีเรื่องตลอด
ไหหม่า(海馬)