บทที่ 1041 ฆ่าให้ตายคาที่
บทที่ 1041 ฆ่าให้ตายคาที่
ผู้ช่วยหรือ?
อวี้ชิงลั่วสงสัย จ้องมองเย่ซิวตู๋ด้วยแววตาลึกล้ำ ในใจสงบลงได้ในทันที
เมื่อครู่เย่ซิวตู๋ไม่ได้กล่าวอันใดเลย ที่แท้ก็มีแผนอยู่ในใจแล้วอย่างนั้นหรือ?
นางยิ้มพลางจับมือเขาไว้แล้วกล่าว “ผู้ช่วยอยู่ไหนหรือ?”
“อีกเดี๋ยวก็รู้แล้ว” เย่ซิวตู๋ก้มหน้าหัวเราะกับนางครั้งหนึ่ง
ทางด้านเหมิงซินยังไม่เคลื่อนไหวอยู่นาน เขาตระคองกอดเหมิงกุ้ยเฟยเอาไว้ในอ้อมอก ร่างของนางยังคงสั่นเทิ้ม แต่ยังคงพยายามผลักเหมิงซินอย่างสุดกำลัง บอกให้เขาไม่ปล่อยพวกอวี้ชิงลั่วไป
ชายชุดดำคนอื่นๆ จับจ้องพวกเขาอย่างจดจ่อ ดาบในมือล้วนชักออกจากฝักกันหมดแล้ว ขอเพียงมีคำสั่งคำเดียวก็จะปิดล้อมในทันที
เผิงอิงเองก็ยืนขึ้นแล้วเช่นกัน มองเหมิงกุ้ยเฟยแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาส่องประกายคลุมเครือ ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่
ส่วนอวี้ชิงลั่วนั้น หลังจากรู้ว่ามีผู้ช่วยก็วางใจขึ้นมาก จึงช่วยทำแผลให้สวีโหรวก่อน
โชคดีที่เมื่อครู่มีดเล่มนั้นของเหมิงกุ้ยเฟยไม่ได้แทงที่จุดตายของสวีโหรว แต่ก็ทำให้นางเสียเลือดมาก หลังจากกลับไปจะต้องดูแลให้ดี
เย่หลานเฉิงเช็ดน้ำตา ถามเบาๆ “ท่านน้าชิง ท่านแม่ของข้าเป็นอย่างไรขอรับ?”
“ไม่เป็นไร รอกลับไปแล้วพักผ่อนให้ดี ก็จะปกป้องเจ้าและดูแลเจ้าได้แล้ว”
“ขอรับ” เย่หลานเฉิงพยักหน้า แววตามองไปยังสองมือของสวีโหรว แววตาดำมืด
หนานหนานชำเลืองมองเขา ทันใดนั้นก็ตบไหล่ของเขา พยายามปลอบใจเขาอย่างเต็มที่ “ไม่เป็นไรแล้วๆ พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่หรือ? สำคัญที่สุดคือท่านน้าโหรวไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ส่วนเรื่องอื่น…เจ้าไม่ต้องคิดถึงแล้ว อีกอย่างต่อไปข้างกายท่านน้าโหรวก็จะมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องกังวลว่านางจะต้องทำสิ่งใดแล้ว แล้วก็ยังมีเจ้าที่เป็นบุตรชายสุดที่รักคอยดูแลนางอีก ต่อให้จะตาบอดหรือพิการ เจ้าก็ยัง… ไอ้หยา ท่านแม่ทำไมต้องตีข้าด้วย”
“มีเจ้าคอยปลอบเช่นนี้น่ะหรือ พูดอะไรไร้สาระ” อวี้ชิงลั่วถลึงตามองเขาอย่างหงุดหงิด
หนานหนานมุ่ยปาก เอ่ยเถียง “ที่ข้าพูดน่ะคือความจริงที่ไม่สวยหรูต่างหาก ท่านแม่ ข้าหวังดีนะขอรับ”
ในที่สุดเย่หลานเฉิงก็หัวเราะคิกคักออกมา แม้บนใบหน้าจะยังมีคราบน้ำตาอยู่ แต่อารมณ์กลับไม่ได้สับสนกังวลใจเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไปแล้ว
เขามองหนานหนาน จับมือของเขาไว้แล้วลูบเบาๆ “หนานหนาน ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า เจ้าดีกับข้า ข้ารู้ดี ข้อมือเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือไม่ ดูเหมือนจะแดงเล็กน้อยแล้ว”
หนานหนานถูกเขาจับมือไว้แล้วลูบอยู่เช่นนั้นก็รู้สึกแปลกใจนัก ราวกับมีบางอย่างผิดปกติ เขาอยากจะชักมือกลับมา แต่ก็รู้สึกว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เย่หลานเฉิงเสียใจ จึงทำได้เพียงทำหน้าขมขื่น ฝืนใจปล่อยให้เขาลูบข้อมือของตน
ทว่าศีรษะกลับส่ายไปมาราวกับกลองป๋องแป๋ง “ไม่เป็นไรๆ จริงๆ แล้วก็เพียงแค่ตอนแรกไม่ทันได้สนใจวิธีการนัก เหมือนว่าข้อมือจะกระแทก แต่ยังดีที่ท่านน้าโหรวไม่หนักเลยแม้แต่นิด”
ถึงตอนที่ยกท่านน้าโหรวขึ้นมาบนหลังเจ้าเสือจะเจ็บจริงๆ แต่ตอนนี้ต่อให้เจ็บเพียงไหนเขาก็ไม่สามารถร้องออกมาได้ อืม คงเป็นเพราะจุดยืนในการจัดการสิ่งต่างๆ อย่างลูกผู้ชายอย่างไรเล่า
อวี้ชิงลั่วหัวเราะ ให้สวีโหรวพิงร่างของฟ่านเสี่ยวเสี่ยวไว้ ลุกขึ้นแล้วกลับมาอยู่ข้างกายเย่ซิวตู๋อีกครั้ง
ทางด้านเหมิงซินนั้นราวกับว่าได้ผ่านการไตร่ตรองและเลือกด้วยความเจ็บปวดแล้ว ในที่สุดก็หันหน้ามา กล่าวกับอวี้ชิงลั่วด้วยดวงตาสีแดง “ขอเพียงเจ้านำยาแก้พิษให้ข้า ข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าออกไป ไม่อย่างนั้น พวกเจ้าก็ทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เสียเถอะ”
เหมิงกุ้ยเฟยที่อยู่ในอ้อมกอดเขาพยายามอดทนต่อความเจ็บปวดสุดชีวิตไม่ให้ส่งเสียงออกมา เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของเหมิงซิน แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นดวงตากลมก็ถลึงโต ขยุ้มอกเสื้อของเขาแน่น กล่าวเสียงแหบพร่า “ไม่ได้ เหมิงซิน วันนี้หากเจ้ากล้าปล่อยพวกเขาไป ข้าจะตายให้เจ้าดูเสีย ฆ่าพวกมัน ขอเพียงฆ่าพวกมันให้หมดเสียที่นี่ ถิงเอ๋อร์ก็จะได้นำกองทัพเข้าตีเมืองหลวง และจะได้เป็นฮ่องเต้ เจ้าฆ่าพวกมันเสีย”
“ขุยเอ๋อร์… ข้าไม่สามารถ… ทนดูเจ้าตายไปต่อหน้าข้าได้หรอก”
“หากเจ้าไม่ฆ่าพวกมัน ข้าก็จะตายต่อหน้าเจ้าอยู่ดี เหมิงซิน เจ้าลืมเป้าหมายของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาไปแล้วหรือ? นี่คือโอกาสเดียวเท่านั้น เป็นโอกาสเดียวของเรา วันนี้หากไม่ฆ่าพวกมัน ต่อไปก็จะยิ่งยาก แม้แต่ แม้แต่ถิงเอ๋อร์และเจ้าก็ตายด้วยน้ำมือของพวกมันได้”
เหมิงกุ้ยเฟยยิ่งกล่าวก็ยิ่งร้อนรน ราวกับว่าเป็นกังวลว่าเหมิงซินจะไม่ฟังคำของตน รีบพยุงร่างของตนเองขึ้น แม้แต่สีหน้าก็ซีดเผือด
แววตาของเหมิงซินยิ่งแดงก่ำ ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา “นี่เจ้าคิดจะเอาชีวิตของตนเข้าแลกกับการให้ฮ่าวถิงขึ้นครองบัลลังก์หรือ? เช่นนี้ต่อให้เขาขึ้นครองตำแหน่งนั้น หากไม่มีเจ้าอยู่ เขาเองก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง ขุยเอ๋อร์ ข้าและฮ่าวถิงขาดเจ้าไม่ได้นะ”
อวี้ชิงลั่วเห็นชัดถึงน้ำตาที่เหมิงซินกลั้นไว้ ราวกับขอเพียงกะพริบตา หยดน้ำตานั้นก็จะร่วงหล่นลงมา
นางอดไม่ได้ที่จะยอมรับ ต่อให้เหมิงกุ้ยเฟยจะจิตใจโหดเหี้ยม ต่อให้เหมิงซินจะถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ความรู้สึกของทั้งสองคนกลับไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะเหตุนี้เลย
เพื่อกันและกันแล้ว ราวกับว่าสามารถทำเพื่ออีกฝ่ายได้ทุกอย่าง รวมถึงการสละชีวิตเพื่อกันและกันด้วย
น้ำตาที่หางตาของเหมิงกุ้ยเฟยไหลลงมาแล้ว “เหมิงซิน เจ้าฟังข้า พวกเรามีโอกาสเพียงครั้งเดียว วันนี้หากเขาไม่ตาย ต่อไปพวกเราก็จะตาย ข้าไม่เป็นอะไร ขอเพียงทำให้เป้าหมายของเราบรรลุผล ข้าก็ไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น ต่อไปถิงเอ๋อร์จะได้กลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เจ้าก็จะเป็นหัวหน้าแห่งอวี้เฟิงถัง ฐานะสูงส่งเกินใครเทียบ ก็จะไม่มีใครทำอะไรพวกเจ้าได้อีกแล้ว พวกเจ้ายังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ รวมสี่อาณาจักรเป็นหนึ่ง ทำลายดินแดนเหมิง พวกเรายังมีเรื่องต้องทำอีกมาก จะตายได้อย่างไรเล่า”
เหมิงซินส่ายหน้าอย่างเจ็บปวด ในที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลลงมา “ข้าทำไม่ได้หรอก ข้าทำไม่ได้”
เหมิงกุ้ยเฟยกัดฟัน สีหน้าดูบ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม
ทันใดนั้นนางก็หันหน้ามา จับจ้องสายตาชั่วร้ายไปยังอวี้ชิงลั่ว จากนั้นก็มองไปยังเย่ซิวตู๋
ผ่านไปครู่ใหญ่ ทันใดนั้นนางก็รวบรวมกำลังผลักเหมิงซินออกไป หยิบมีดสั้นที่ตกอยู่ที่พื้นเมื่อครู่ขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายยิ่งกว่าเดิม
ในขณะที่รูม่านตาของเหมิงซินหดลง นางก็นำมีดสั้นนั้นจ่อไว้ที่คอของตนเอง
“ขุยเอ๋อร์…” เหมิงซินใจสั่น ทันใดนั้นก็หยุดการกระทำ ตกใจเสียจนหน้าซีด “เจ้าทำอะไร วางมีดลงเสีย”
“ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ายังไม่ลงมือ ข้าก็จะตายเสียตอนนี้”
“ขุยเอ๋อร์ เจ้า…”
“หนึ่ง!!”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว เหมิงกุ้ยเฟยมาถึงขั้นที่บ้าคลั่งไปแล้วจริงๆ เพื่อฆ่าพวกเขาแล้ว แม้แต่ชีวิตของตนเองก็ไม่ต้องการ
นางโน้มตัวไปใกล้หูของเย่ซิวตู๋ ถามเสียงเบา “เจ้าบอกว่ามีผู้ช่วยไม่ใช่หรือ? อยู่ไหนกัน หากยังไม่ปรากฏตัวอีก เราจะเป็นอันตรายนะ”
“สอง!!” น้ำเสียงของเหมิงกุ้ยเฟยดังขึ้นกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดเสียจนเหงื่อไหลโซมไปทั้งร่าง แต่น้ำเสียงยังดังฟังชัดไม่แผ่วลงแม้แต่น้อย
ลำคอของนางปรากฏรอยเลือดแล้ว ขณะที่มีดสั้นเล่มนั้นกรีดลึกลงมากขึ้น
เหมิงซินจ้องเขม็ง ในที่สุดเมื่อคำว่า ‘สาม’ ของเหมิงกุ้ยเฟยถูกกล่าวออกมา เขาก็หลับตาแน่น เปล่งเสียงอออกมา “จัดการ ฆ่าพวกมันให้ตายคาที่”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะพลิกกระดานได้เหรอนังกุ้ยเฟย ดูเหมือนจะใช้ไพ่ตายไปหมดแล้วนะ ในขณะที่ฝั่งของท่านอ๋องซิวยังเหลือไพ่ลับซ่อนอยู่
ไหหม่า(海馬)