อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] – ตอนที่ 1071 ฮือฮากันทั้งเมือง

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

ตอนที่ 1071 ฮือฮากันทั้งเมือง

ตอนที่ 1071 ฮือฮากันทั้งเมือง

เย่หลานเฉิงเป็นไท่จื่อ ส่วนเย่ซิวตู๋เป็นอุปราช!!

ข่าวนี้ไม่เพียงทำให้คนทั้งตำหนักอ๋องซิวตกใจเท่านั้น แต่ยังทำให้คนทั้งราชสำนักและทั่วอาณาจักรเฟิงชางตกใจด้วย

ทุกคนรู้สึกเหลือเชื่อ เกือบทุกคนคิดว่าเย่ซิวตู๋เป็นผู้มีส่วนร่วมมากที่สุด ในการปราบปรามการก่อความไม่สงบนี้

และไม่ว่าจะเป็นองค์ชายใหญ่ องค์ชายสาม องค์ชายหกและคนอื่น ๆ ต่างก็ฟังคำพูดของเย่ซิวตู๋ แม้แต่ในหมู่ขุนนางหลายร้อยคน พวกเขาทั้งหมดก็อยู่ภายใต้คำสั่งของเย่ซิวตู๋

สถานะเช่นนี้ ความสามารถมากถึงเพียงนั้น และยังเป็นองค์ชายที่ฮ่องเต้โปรดปรานที่สุด คาดไม่ถึงเลยว่า… ไม่ได้ครองตำแหน่งไท่จื่อจริงหรือ?

กลับกลายเป็นโอรสของอดีตไท่จื่อ เด็กน้อยที่มีอายุเพียงเจ็ดแปดขวบ ที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเฟิงชาง

ข่าวนี้น่าตกใจเกินไป ทุกคนที่รู้ต่างตกใจ และรู้สึกว่าสถานการณ์ในเมืองหลวงกำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง

ขุนนางทุกคนในราชสำนักยังไม่มีปฏิกิริยาใด แต่เย่ซิวตู๋เป็นฝ่ายนำพระราชกฤษฎีกาขอบคุณไปให้ก่อน และถือสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อช่วยไท่จื่อบริหารอาณาจักร

ฮ่องเต้ไม่รอให้ทุกคนพูดกันไปต่าง ๆ นานา ประกาศสละราชสมบัติทันที

เมื่อเหล่าขุนนางทุกคนออกมาจากวัง พวกเขาก็ยังคงสับสนและมึนงงเล็กน้อย

หลังจากนั้นผู้คนจำนวนมากก็เข้าออกจากตำหนักขององค์ชายหนึ่ง องค์ชายสาม องค์ชายหก และจวนเสนาบดีฝั่งขวาบ่อยมาก ซึ่งทุกคนดูเหมือนจะคาดเดาความตั้งใจของฮ่องเต้ได้ และต้องการทราบข่าวจากบุคคลเหล่านั้นที่เป็นเพื่อนที่ดีของเย่ซิวตู๋ บางคนถึงกับแนะนำทำนองว่าให้เขียนหนังสือ ‘บีบบังคับ’ ฮ่องเต้ให้เปลี่ยนใจแต่งตั้งเย่ซิวตู๋เป็นไท่จื่ออีกครั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจก็คือองค์ชายใหญ่และเสนาบดีฝั่งขวา ไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของฮ่องเต้เลย อีกทั้งยังขอให้ทุกคนพยายามช่วยเหลือไท่จื่อองค์ใหม่อย่างเต็มที่ด้วย

ขณะที่ความแปลกประหลาดในท้องพระโรง ทำให้ทุกคนไม่สบายใจอย่างมาก

และทั่วทั้งเมืองหลวงกำลังฮือฮากันเช่นนี้ ตำหนักอ๋องซิวกลับเงียบผิดปกติ นับตั้งแต่ฮ่องเต้ออกพระราชกฤษฎีกา ตำหนักอ๋องซิวก็ขอบคุณแขกผู้มาเยือน แต่ปิดประตูไม่ให้แขกเข้ามา

สวีโหรวก็รู้ข่าวนี้เช่นกัน นางกังวลจนแทบรอไม่ไหวที่จะพบอวี้ชิงลั่ว

ในที่สุดอวี้ชิงลั่วก็สามารถยกเลิกการห้ามออกจากตำหนักได้ เมื่อข่าวมาถึง ตำหนักอ๋องซิวก็ปิดประตูอีกครั้ง นางจึงเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

แต่นางก็รู้อารมณ์ของสวีโหรวในขณะนี้เช่นกัน นางจึงระงับความขุ่นเคือง แล้วพาสวีโหรวไปนั่งอาบแดดที่ศาลาในสวน

“เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก ข้าคิดว่าอีกสักครู่ไทเฮาจะประกาศให้เจ้าเข้าวัง ตอนนี้เจ้าหายดีแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยดีนัก จึงควรหลีกเลี่ยงลมเย็น และทีหลังก็สวมเสื้อผ้าให้หนากว่านี้ด้วย”

สวีโหรวระงับอารมณ์ปั่นป่วนในใจ ก่อนจะรีบคว้ามือของอวี้ชิงลั่วมากุมไว้ โดยไม่ได้สนใจสิ่งที่นางพูดเมื่อสักครู่นี้เลย แต่พูดอย่างกังวลว่า “ข้าไม่เข้าใจฝ่าบาทเลย เหตุใดฝ่าบาทจึงตัดสินใจเช่นนั้น? หากให้ตัดสินจากผลงานและความสามารถ ท่านอ๋องเหมาะที่จะเป็นไท่จื่อมากที่สุด การก่อกบฏครั้งนี้ หากไม่มีท่านอ๋องคอยปราบปราม เกรงว่าพวกเราทุกคนต้องแย่แน่ แต่สุดท้ายเฉิงเอ๋อร์กลายเป็นไท่จื่อไปได้อย่างไร?”

ไม่น่าแปลกใจที่เมื่อเช้านี้ ตอนที่อ๋องซิวเข้าไปในวัง เขาก็พาเย่หลานเฉิงไปด้วย นางยังคงรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก

เผลอเพียงชั่วครู่ โลกก็เปลี่ยนไปเสียแล้ว

อวี้ชิงลั่วหัวเราะ “เจ้าอย่าดูถูกตัวเองเลย หลานเฉิงไม่ใช่คนธรรมดา แม้ว่าเขาจะอายุน้อย แต่เขาก็ฉลาดและมีเมตตา ทั้งฮ่องเต้และองค์ชายเชื่อว่าเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่ชาญฉลาดในอนาคต นั่นคิดเหตุผลที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเช่นนั้น”

“แต่ เขายังเด็กมาก…” ยิ่งกว่าการได้รับสถาปนาเป็นไท่จื่อ คือเขาได้รับการแต่งตั้งให้ปกครองอาณาจักรทันที

“แม้จะยังเด็ก แต่ก็ยังมีเย่ซิวตู๋ใช่หรือไม่? เขาเป็นอุปราช และเขาจะช่วยหลานเฉิง จนกว่าเขาจะสามารถบริหารอาณาจักรเองได้”

สวีโหรวรู้สึกงุนงง “ถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุใดไม่ให้อ๋องซิวเป็นไท่จื่อไปเลยเล่า? อ๋องซิวเหมาะสมกว่าหลานเฉิง เขา…”

“เหมาะสมตรงไหนกัน?” อวี้ชิงลั่วถอนหายใจ “เย่ซิวตู๋ไม่ชอบครองตำแหน่งนั้นเลย พูดตามตรงคือถ้าเขามีใจจะเป็นจริง เหตุใดเขาต้องรอจนถึงตอนนี้? ฮ่องเต้กับเย่ซิวตู๋เชื่อว่าหลานเฉิงทำได้ คนอื่น ๆ ก็เชื่อมั่นเช่นกัน ว่าหลานเฉิงจะเป็นฮ่องเต้ในอนาคตได้ อีกทั้งเขายังมีเจ้าอยู่เคียงข้างไม่ใช่หรือ?”

สวีโหรวตกตะลึง ใช่แล้ว ด้วยความรักของฮ่องเต้ที่มีต่อเย่ซิวตู๋ และความสามารถของเย่ซิวตู๋ เหตุใดเขาต้องรอจนถึงตอนนี้ หากเขาต้องการครองตำแหน่งไท่จื่อ?

แน่นอนว่านางรู้ดีว่าโอรสของนางมีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ห่วงใยบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎร์ ในอนาคตเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่ดีได้แน่นอน

สวีโหรวสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองใบหน้ามั่นใจของอวี้ชิงลั่ว ในที่สุดก็ถอนหายใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าเข้าใจแล้ว”

ขณะที่นางกำลังพูด หงเย่ก็เข้ามาบอกว่ามีคนจากวังมา โดยบอกว่าต้องการมารับสวีโหรวเข้าไปในวัง

อวี้ชิงลั่วหันมามองนาง “ไปเถิด หลานเฉิงน่าจะยังอยู่ในวัง เขายังเด็ก เรื่องบางอย่างอาจกะทันหันเกินไปสำหรับเขา เจ้าควรคุยกับเขาดี ๆ”

สวีโหรวเข้าใจคำพูดของอวี้ชิงลั่ว นางเกรงว่าตอนนี้หลานเฉิงกำลังเป็นทุกข์ แม่ลูกอย่างพวกเขาจึงจำเป็นต้องคุยกันดี ๆ

นางยืนขึ้นบอกลาอวี้ชิงลั่ว จากนั้นเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงทีละก้าว

อวี้ชิงลั่วนั่งอยู่ในศาลาพลางมองไปยังแผ่นหลังของนาง แล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก่อนพูดกับแม่นมเซียวที่อยู่ข้างหลังนางว่า “แม่นมดูสิ ความจริงแล้วสวีโหรวเป็นคนใจเย็น นางเหมาะมากที่จะเป็นผู้ปกครอง ในอนาคตหากนางได้ดูแลวังหลัง เห็นทีคงจะสงบสุขมากกว่านี้เป็นแน่”

แม่นมเซียวเป็นคนในวังอาวุโส นางเป็นคนมองคนออกมาโดยตลอด ตอนนี้นางก็พยักหน้าเช่นกัน “หากนางไม่ถูกอดีตไท่จื่อครอบงำ ด้วยสติปัญญาของนาง นางย่อมสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง”

อวี้ชิงลั่วนิ่งเงียบ ใช่แล้ว วิถีของโลกเป็นเช่นนี้เอง สวีโหรวแต่งงานกับสามีของนางในฐานะสตรีที่เชื่อฟังสามี และสามีคนนั้นบังเอิญเป็นไท่จื่อผู้มีนิสัยงี่เง่ายิ่งนัก เขาไม่สนับสนุนนางเลย ไม่ว่านางจะมีความสามารถเพียงใด นางก็ได้แต่ถูกกักขังอยู่ในตำหนักไท่จื่อเท่านั้นโดยไม่อาจทำอะไรได้ สิ่งเดียวที่นางทำได้คือคอยช่วยอดีตไท่จื่อให้มากที่สุด แต่อดีตไท่จื่อผู้นั้นก็โง่เขลาเหมือนหมูจริง ๆ

ยังดีที่ตอนนี้ความคิดทั้งหมดของนางอยู่ที่หลานเฉิง หลานเฉิงเป็นคนกตัญญู มีเหตุผลและมีความสามารถ หลังจากเข้ารับตำแหน่งในอนาคต เขาจะสามารถปรึกษาสวีโหรวได้ทุกเรื่อง และมันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต

“ว่าแต่ เมื่อไหร่แม่นมเก๋อจะมาถึงเมืองหลวง?”

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของแม่นมเซียว “เดาว่าคงอีกไม่กี่วัน เมื่อได้ยินข่าวดีของท่าน นางก็ไม่ต้องการรอช้าแม้เพียงครู่เดียว นางอายุมากแล้ว จะดีกว่าหากไม่เดินทางอย่างรีบร้อนเกินไป”

“อืม น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสสกุลหมิงยังไม่ฟื้น” ไม่รู้ว่าทางหมอเฒ่าฉยงซานมีความคืบหน้าบ้างหรือไม่ หลังจากคอยรักษาเขาอยู่นาน

โชคดีที่ครั้งนี้เขาไม่เรียกร้องตามมาด้วย เหมือนเขาจะพอใจกับชีวิตที่ไม่เหมือนใครเช่นนี้มาก

ทั้งสองกำลังคุยกัน ขณะที่เย่ซิวตู๋เดินมาไกลลิบ ๆ

ดูเหมือนว่าจะมีคนตามหลังเขามาด้วย คนผู้นั้นผอมบาง ก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยท่าทางอ่อนน้อม ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

ตำแหน่งอุปราชนี่ก็ใหญ่เหมือนกันนา เท่ากับเป็นผู้สำเร็จราชการแทนเลย

ใครตามมากันนะ

ไหหม่า(海馬)

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]

Status: Ongoing
จากภรรยาผู้เป็นที่รังเกียจของสามีและถูกใส่ความว่าเป็นชู้กับบุรุษอื่นจนกระทั่งมีบุตรด้วยกัน​ อีกหกปีให้หลังได้เป็นหมอหญิงฉายา​ ‘หมอปีศาจ’​ ผู้ลือนามพร้อมบุตรชายแสนซนที่สรรหาเรื่องราวต่างๆ​ รวมถึงบุรุษที่คาดว่าจะเป็นบิดาตนมาให้ไม่หยุดหย่อน​ อวี้ชิงลั่ว​ แพทย์หญิงมือฉกาจจากยุคปัจจุบันผู้ทะลุมิติ​มาเข้าร่างของหมอปีศาจผู้นี้จะทำอย่างไรต่อไปดี​ ในเมื่อปริศนาเกี่ยวกับตัวเองก็ต้องสืบ​ ส่วนบิดาของลูกติดเจ้าของร่างก็ต้องหา?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท