Legend of the mythological genes – ตอนที่ 273
ยานบินแล่นผ่านท้องฟ้าและลังขนาดยักษ์หล่นลงมาจากอากาศ ส่องแสงสว่างสีแดงทำให้มองเห็นชัด แม้จะอยู่ไกล
นั่นเป็นเสบียงมีค่าที่สมาคมการบ่มเพาะส่งมาให้ ภายในนั้นมียาพันธุกรรมระดับสูงทุกประเภทที่สามารถเติมพลังงานหรือเพิ่งพลังการต่อสู้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่หายากที่สุดน่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับ5 ทั้งหมดนี้คือการสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ระดับสุดยอด เช่นปืนควอนตัม ระเบิดมรณะ ไมโครเมชาของซีรีย์โรมมิ่ง …
ปืนรังแสงควอนตัมสามารถยิงรังสีควอนตัมความเข้มสูงที่สามารถทำลายและเจาะทุกอย่าง มันสามารถทำลายวัตถุทุกอย่างในจักรวาลปัจจุบันได้ 99.9999% ไม่มีวิธีที่จะปิดกั้นมันได้
แม้ว่าระเบิดมรณะจะไม่มีพลังอันยิ่งใหญ่ในด้านความเสียหายทางวัตถุ แต่ความสามารถในการสังหารสิ่งมีชีวิตนั้นยิ่งใหญ่มาก เมื่อมันระเบิดออกมารังสีแห่งความตายจะซึมซับเข้าไปทั่วทุกพื้นที่ ระดับการสลายตัวของเซลล์และโมเลกุลทางพันธุกรรมไม่มีวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีจะสามารถช่วยคนถูกทำลายด้วยระเบิดมรณะได้
สำหรับไมโครเมชาของซีรีย์โรมมิ่ง มันเป็นตัวแทนชุดเกราะระดับสูงของมนุษยชาติระหว่างดวงดาว ชุดไมโครเมชานี้มีขนาดเท่ากับมนุษย์ธรรมดา แต่มันสามารถเสริมความสามารถทางพันธุกรรมของมนุษย์ได้อย่างมาก เคลื่อนที่อย่างอิสระในอวกาศ โดยไม่สนใจข้อจำกัดเรื่องแรงโน้มถ่วง
…
จากข้อมูลการตรวจสอบ กล่องจะประกอบด้วยอุปกรณ์ระดับ 5 แบบสุ่ม 10 แบบ หากใช้งานได้ดีพวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์ แต่มันก็หายากมาก
และเฟิงหลินค้นพบว่ากล่องในอากาศถูกโยนลงมาโดยตรงผ่านอากาศเคลื่อนไปยังส่วนลึกของบึงน้ำ
แม้ว่าทีมของเฟิงหลินและทีมญี่ปุ่นจะอยู่ในช่วงระหว่างการต่อสู้เพื่อชีวิตและความตาย แต่พวกเขาก็ไม่อาจละความสนใจจากมันได้
หัวใจของเฟิงหลินทรุดตัวลง กล่องบรรจุเสบียงมีค่าอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่าหลายทีมจะมารวมตัวกันที่นี่พยายามต่อสู้เพื่อสิ่งต่าง ๆ มันจะวุ่นวายมาก
พวกเขาจะพยายามฆ่ากันเพื่อให้ได้มาซึ่งสมบัติและสิ่งต่างๆ มันจะอันตรายอย่างยิ่ง
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดในตอนนี้ สิ่งสำคัญสำหรับเฟิงหลินตอนนี้คือการจัดการกับทีมญี่ปุ่นก่อน
สมาชิกของทีมญี่ปุ่นต่างก็ไร้ความปรานี เป็นธรรมดาที่เฟินหลินจะไม่สุภาพกับพวกเขา
“ฮาราดะซัง!”
“แกกล้าฆ่าสมาชิกในทีมของฉัน!”
“ทีมของเราจะไม่หยุดจนกว่าแกทั้งหมดจะถูกกำจัด!”
…
ชาวญี่ปุ่นคนอื่นเริ่มตะโกนอย่างโกรธแค้น
สำหรับองเมียวจิ การแสดงออกของเขาดูมืดมนมาก
สมาชิกคนหนึ่งของทีมเขาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ซึ่งเท่ากับการโดนตบหน้า
แต่เดิมพวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายอยู่แล้ว ทำไมจะต้องเสียเวลาพูดเรื่องไร้สาระด้วย?
ริมฝีปากของเฟิงหลินขดเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวเหมือนสายฟ้าผ่าพุ่งตรงไปที่องเมียวจิ
หมัดวัชระสะกดอสูร!
ตอนนี้เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุด สถานะพลังของเขานั้นสูงมาก ด้วยการชกเพียงหมัดเดียวปราณและเลือดของเขาก็ปั่นป่วน หมัดของเขานั้นแข็งแกร่งมาก การโจมตีเป็น ‘หยาง’ ธรรมชาติ
ปีศาจและผีเหล่านี้เกิดจากปราณ ‘หยิน’ธรรมชาติ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเฟิงหลิน มันก็เหมือนกับว่าพวกมันได้พบกับแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า และพวกมันทั้งหมดก็เหือดหายไปในอากาศ
ขบวนร้อยอสูรนี้สามารถเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นเหมือนนรกในโลกมนุษย์
เฟิงหลินปลุกปราณและเลือดของเขาอย่างบ้าคลั่ง เผาพวกมันเหมือนดวงอาทิตย์ที่ลุกโชติช่วงขึ้นไปบนท้องฟ้า
ปีศาจและผีต่างก็กรีดร้องเมื่อพวกมันสัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่แผดเผา พวกมันกลายเป็นปราณสีดำและกระจายหายไป
“เทคนิคเลือดและปราณอะไร” องเมียวตะโกนอย่างเย็นชา
“ขบวนจอมอสูร!”
เสื้อคลุมของเขากระพือปีกราวทำให้เกิดเครื่องรางจำนวนมากบินออกมา เครื่องรางสีเหลืองกระจายอยู่ในสายลม
ในขณะนี้อากาศที่น่ากลัวแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ ราวกับเงาปีศาจยักษ์
มันมีความยาวกว่าสิบเมตร สิ่งมีชีวิตอสูรตัวนี้มีรูปร่างเหมือนวัวและรูปร่างของมันก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรูปหน้า ใบหน้าของมันถูกปกคลุมด้วยหน้ากากสไตล์ญี่ปุ่น
ร่างกายของปีศาจตัวนี้แตกต่างจากปีศาจและผีร้อยกว่าตัวก่อนหน้า
อู้ววว
ปีศาจวัวคำราม เขาของมันแทงออกมาอย่างโหดเหี้ยม
เฟิงหลินกวาดกระบองออกมาแนวนอน ในขณะที่เกิดการกระแทกด้วยแรงประมาณ 10,000 กิโลกรัมไหลเข้ามาในร่างกาย ทำให้ร่างกายของเขาถอยหหลังจากแรงกระทบ
” กลืนกิน!” องเมียวจิโจมตีอีกครั้งควบคุมวิญญาณบินรอบซูลี่และอยากจะกินวิญญาณของเขาอีก
(อืม เขาต้องการต่อสู้กับเราสองคนพร้อมกัน?จองหองอะไรขนาดนั้น?)
เฟิงหลินหัวเราะเยือกเย็น กระดูกของดังลั่นเมื่อร่างของเขาขยายกลายเป็นร่างสูงสามเมตรทันที กล้ามเนื้อของเขาขึงตึง
ร่างใหญ่ของปีศาจวัวถูกผลักกลับอย่างแรง ขาของมันทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นดินลึกเพื่อต้านทานผลกระทบ
“ฮ่าห์!” เฟิงหลินตะโกนเหมือนเสียงฟ้าร้องแสดงความแข็งแกร่ง คว้าเขาปีศาจและดึงยกสูงขึ้น โยนมันใส่ปีศาจตัวอื่น
ขบวนภูติผีนับร้อยนั้นถูกทำลายลงทันที
เพลิงปีศาจ!
แรงกดดันของซูลี่บรรเทาลงอย่างมากในขณะนี้ร่างผอมของเขาลอยอยู่ในอากาศและหางทั้งสามของเขาเคลื่อนไหวเกิดประกายเปลวไฟตกลงมาด้านล่าง
ปีศาจและผีที่สัมผัสกับเปลวไฟนั้นถูกเผาจนหมด
“ทำลาย!” แสงสีเงินพุ่งออกมาจากกึ่งกลางคิ้วของเฟิงหลิน เปล่งประกายกลิ่นอายความโหดเหี้ยมออกมา
ร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่ไร้ตัวตนเหล่านี้แข็งทื่อราวกับว่าพวกมันเจอกับโชคร้ายและเริ่มพังทลายลงมา
ขบวนร้อยอสูร
ผีและปีศาจร้ายเหล่านี้ก่อตัวขึ้นจากกลิ่นอายหยิน ซึ่งได้รับจากเจตนาชั่วร้ายของมนุษย์
อย่างไรก็ตามตราบใดที่พลังวิญญาณของพวกเขาสูงพอ พวกเขาก็ไม่ต้องกลัว
ในอดีตเมื่อราชานักฆ่าเปลี่ยนไปเป็นราชาอสุราแห่งนรกสิบแปดระดับ มันก็ไม่สามารถทำอะไรเฟิงหลินได้
ดังนั้นเทคนิคนี้เป็นเหมือนเรื่องตลกในสายตาของเฟิงหลิน เมื่อเขาเปรียบเทียบสิ่งนี้กับเทคนิคของราชานักฆ่า
พลังวิญญาณของเขาทะลักออกมากลายเป็นวาตภัยที่ทำให้ผีและปีศาจกระจายไป
การโจมตีของพวกเขาทำให้ผีและปีศาจได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เกิดเป็นรูขนาดใหญ่เผยให้เห็นในกลุ่มของพวกเขา
ซูลี่เปลี่ยนร่างเป็นเงาดำและมาถึงข้างๆเฟิงหลินแล้ว
“สถานะพลังขององเมียวนี้สูงเกินไป ฉันไม่ใช่คู่มือเขา” ซูลี่พูดด้วยน้ำเสียงหนัก ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เขาไม่ได้เปรียบบ้างเลย
เฟิงหลินไม่ใส่ใจมากนัก เขายิ้มสงบ “นายทำให้เขาต้องถอยออกไปนานพอแล้ว ตอนนี้ปล่อยองเมียวนี้ให้ฉัน”
“โอเค” ซูลี่อ่อนเพลีย เขาพยักหน้าและวิ่งตรงไปหายานาช่วยเธอจัดการกับนินจาที่ควบคุมวิญญาณดิน
“คิดจะหนีไปไหน” องเมียวจิหัวเราะเยือกเย็น เขาประกอบท่ามืออย่างรวดเร็ว
“สามจอมปีศาจจุติ!”เขาประสานมือ
เงาลวงตาสามเงาปรากฎ
พวกมันคุ้นเคยกับเฟิงหลินเป็นอย่างมากและไม่ใช่ใครนอกจากจอมปีศาจสามตัวในเทพนิยายญี่ปุ่นชุเท็น โดจิ, คิวบิ โนะ คิตสึเนะและไดเท็นกุ!
ไดเท็นกุไม่ได้ก่อตัวสมบูรณ์และ มันกระพือปีกบินไปทางซูลี่แล้ว
“ คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน” เฟิงหลินหัวเราะเบาๆ ร่างของเขาไหววูบและปรากฏตัวต่อหน้าไดเท็นกุ เขายกหมัดของเขาขึ้นแล้วกระแทกลงเหมือนค้อน ทำให้พื้นที่รอบตัวสั่น
รอยประทับค้อนผลิกฟ้า!
ไดเท็นกุดึงคาตานะของมันออกมา แต่ก็ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ทันที
พายุวิญญาณ!
ในขณะนี้แสงสีเงินพุ่งออกมาจากหน้าผากของเฟิงหลิน ก่อให้เกิดกระแสน้ำวนสีเงินซึ่งเปลี่ยนเป็นพลังวิญญาณเล็ก ๆ นับไม่ถ้วน มันเปลี่ยนเป็นตาข่ายแหลมคมซึ่งสามารถหั่นทุกอย่างได้
แม้กระทั่งก่อนจอมปีศาจอีกสองจะปรากฏ พวกมันก็ถูกขังอยู่ในตาข่ายแล้ว ในเวลาต่อมา พวกมันก็แยกย้ายกันไปเป็นควันดำและจางหายไปอย่างสมบูรณ์
ปีศาจและผีมันไม่สามารถเอามาเทียบกับพลังวิญญาณได้
และในขณะที่ยีนวิญญาณของเขาพัฒนาเป็นลิงหินวิญญาณ พลังวิญญาณของเขาก็ไม่ได้ลดลง มันกลับเพิ่มขึ้นแทน
พลังลิงหัวใจสามารถแทรกแซงวัตถุผ่านพลังงาน มันคือการระเหิดของพลังวิญญาณ
ผีไม่มีตัวตนเหล่านี้ไม่สามารถทนมันได้
“อะไรกัน?” องเมียวจิตกใจมาก เขาเพิ่มความเร็วมือของเขา “ร้อยอสูรขโมยวิญญาณ!”
ปราณสีดำด้านหลังของเขาระเบิดขึ้นอย่างแรง ในขณะที่หัวผีจำนวนมากปรากฏ
เฟิงหลินหัวเราะเยือกเย็น เขาไม่คิดแม้แต่จะหลบ
พวกผีทะยานใส่เขา มีหลายตัวซ้อนทับกันจนเกิดเป็นภูเขาลูกเล็กๆ คิดอยากกัดแทะเฟิงหลิน
อย่างไรก็ตามร่างกายของเฟิงหลินเปล่งประกายแวววาวดุจหยก ผิวของเขาดุจดั่งโลหะ ผีเหล่านี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ ฟันของพวกมันอาจคม แต่ฟันจะแตกจากการกระแทก
น้ำและไฟทำอะไรเขาไม่ได้!
เขามีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีรูปแบบพลังงาน ดังนั้นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนผีลวงตาเหล่านี้จะทำร้ายเขาได้ยังไง?
หากองเมียวจินี้มาจากตำนานญี่ปุ่นที่คล้ายกับนักบวชผู้มีเวทมนตร์ เฟิงหลินก็เปรียบเสมือนมัจจุราชของเขา
ในสถานการณ์ที่สถานะพลังของพวกเขาไม่แตกต่างกันมาก เฟิงหลินจะสามารถตอบโต้คู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างสมบูรณ์
องเมียวจะเล่นลูกไม้อะไรอีก?
หมัดของเฟิงหลินบรรจุพลังงานจากธรรมชาติ บดขยี้ผีเหล่านี้ออกเป็นชิ้น ๆ
เมื่อเห็นว่าเขาเสียเปรียบ องเมียวที่ลอยอยู่ในอากาศก็ปลี่ยนเป็นราชาปีศาจที่ควบคุมผีเหล่านี้ ทำให้พวกมันรีบวิ่งเข้าไปโจมตีเฟิงหลิน
….
เทคนิคดาบบิน!
ฉั่ว ฉั้ว ฉั้ว
ซามูไรกระโดดขึ้นไปในอากาศ เขาถือดาบไว้ในมือทั้งสองข้างและเริ่มหมุนดาบ ลำแสงที่ไม่มีที่สิ้นสุดสาดส่องออกมาบรรจบกัน
คู่ต่อสู้เขาคือแอริส รูปปั้นของเธอกระโจนใส่ลำแสงและสู้กับเขาซึ่งๆหน้า
“ธาตุดิน: แม่น้ำดินพลุกพล่าน!”
นินจาเข้ามาในดินและควบคุมบึงน้ำ ต้องการจะกดเฟิงหลินและทีมของเขาให้จมอย่างสมบูรณ์
” อีกาทองทะยาน!”
ลำแสงสีทองพุ่งทะลุท้องฟ้าราวกับลูกไฟตกลงมา ระเบิดทุกสิ่ง
อี้ยิงธนูใส่ ทำให้นินจาไม่สามารถซ่อนได้
นินจาคนอื่นยังคงใช้นินจูตสึ โดยใช้ทั้งภาพลวงตาและอาวุธที่ซ่อนอยู่ ต้องการเข้าใกล้เพื่อทำการลอบสังหาร
อย่างไรก็ตามยานาคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว เธอย้ายไปหาน้องสาวของเธอและต่อสู้ร่วมกัน
แอริสเพียงแค่วิ่งไปข้างหน้าในขณะที่ยานาอยู่ข้างๆคอยสนับสนุนด้วยการโจมตีทางจิตของเธอ การผสมผสานระหว่างวัตถุและการโจมตีที่ไร้รูปแบบนั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก
ในขณะนี้ซูลี่ก็ช่วยด้วยการรออยู่ที่ด้านข้าง หาโอกาสและปลดปล่อยวิชาปีศาจของเขาเมื่อมีโอกาส
นินจาและซามูไรถูกล้อมรอบ และในช่วงเวลาหนึ่งพวกเขาถูกบังคับให้ต้องล่าถอย
ในขณะนี้ความสมดุลระหว่างทั้งสองทีมนั้นเสียไป ทีมของเฟิงหลินครอบครองความได้เปรียบ
องเมียวไม่สามารถรักษาความเย่อหยิ่งของเขาได้อีกต่อไป การตายของซามูไรทำให้เกิดหิมะถล่ม เ
พลังวิญญาณของเฟิงหลินแทรกซึมเข้าไปในบริเวณโดยรอบและองเมียวก็ไม่สามารถเรียกผีใด ๆ ได้เลย
” ค่ายกลยามาตะ!” ในที่สุดองเมียวจิก็ตื่นตระหนก เขาเริ่มร่ายคาถา
“จ้าวอสรพิษผู้ขดตัวในบึงยักษ์ เปี่ยมไปด้วยอำนาจล้น มีแปดหัวและแปดหาง สามารถทำลายล้างสวรรค์และโลก ทำให้โลกมนุษย์แปดเปื้อน..”
ปราณปีศาจข้างหลังเขาปั่นป่วนและทำให้ยามาตะ โนะ โอโรจิปรากฏขึ้น หัวแปดหัวจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ในขณะที่มันโหยหวน เปล่งกลิ่นอายก่อให้เกิดความเย็นในหัวใจของทุกคน
สี่หัวในหมู่พวกมันมองตรงไปยังเฟิงหลิน ในขณะที่อีกสี่หัวมองไปทางอื่น
แอริส อี้ ยานาและซูลี่ต้องล่าถอยอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี
“มานี่!” องเมียวจิคำราม
สมาชิกในทีมทั้งสามจากทีมญี่ปุ่นรู้สึกเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกและรีบเคลื่อนไปทางองเมียวจิ
“แค่นี้เหรอ?” เฟิงหลินคำราม
ปัง
เขาโบกกระบองของเขา ทุบสี่หัวของยามาตะ โนะ โอโรจิขณะกระโจนออกไป
ขยาย! ขยาย! ขยาย!
กระบองเป็นเหมือนเสาสวรรค์ทุบลงอย่างแรงใส่ทีมญี่ปุ่น พลังจากกระบองทำให้อากาศในพื้นที่เปลี่ยนด้วยแรงกดดัน
ธาตุดิน: ดินและหินกลายเป็นภูเขา!
นินจาที่ใช้ธาตุดินรีบวิ่งออกไป ใบหน้าของเขาซีดเซียว ชั้นดินและหินปกคลุมเขา เขาพยายามอย่างหนักเพื่อป้องกันการโจมตีของกระบองสวรรค์
“ท่านอาเบะ พวกท่านออกไปก่อน!” นินจายอมตาย
“ไปกัน!” องเมียวเป็นคนที่โหดร้ายเช่นกัน เขาและลูกน้องอีกสองคนไม่ลังเลที่จะทิ้งเพื่อนของพวกเขา และหนีไป
เขาจ้องมองเฟิงหลินและทีมของเขา “ฉันจะจำแกทุกคนไว้ คราวนี้พวกแกชนะ แต่จะไม่มีโอกาสที่พวกแกจะทำแบบนี้ได้อีกในอนาคต ฉันอาเบะเกย์เมย์ จะไม่มีวันลืมพวกแก!”
หลังจากพูดเขาประกบมือและทั้งสามคนก็กลายเป็นควันหายไปอย่างรวดเร็ว
เทคนิคนี้แปลกมาก แต่มีความเร็วในการหลบหนีที่ดี
แม้แต่เฟิงหลินก็มองไม่เห็นข้อบกพร่องใด ๆ ดังนั้นเขาทำได้แค่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปก่อนตอนนี้
สำหรับคำที่อาเบะเกย์เมย์พูดก่อนที่เขาจะจากไป เฟิงหลินแค่หัวเราะเยาะเย้ย
(สุนัขที่พ่ายแพ้ต้องการโอ้อวด?เป็นลูกหลานของอาเบะ โนะ เซย์เมย์แล้วไง?)
(ในเมื่อแกแพ้ฉันครั้งหนึ่งแล้ว แกจะไม่มีโอกาสได้กลับมาชนะอีก)
เฟิงหลินเองก็ชัดเจนว่าด้วยความสามารถของสมการทางพันธุกรรมที่เขามี ความเร็วในการเติบโตของเขาจะเกินกว่าเพื่อนๆของเขา
อาเบะ เกย์เมย์พ่ายแพ้ไปแล้วและเขายังต้องการเย่อหยิ่งอะไรอีก?
ช่างโง่เขลา
หลังจากฆ่านินจา ทีมของเฟิงหลินก็เริ่มปล้นร่างของสมาชิกในทีมญี่ปุ่นสองคน พวกเขามีสมบัติมากมายให้คุณค่าพอที่จะเอาชนะทีมปกติมีอุปกรณ์ระดับ5 2อัน ระดับ2 3 อัน และระดับ1 4 อันที่มีชื่อว่าหนอนไหมเลือด
หนอนไหมเลือดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเอกลักษณ์ในโลกแห่งปราณจิตวิญญาณนี้ ไหมของมันเรียบเนียนราวกับหิมะและเบามาก แต่ความสามารถในการป้องกันนั้นสูงมาก สามารถกันลูกปืนได้
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเสียดายคือเขาไม่ได้รับทั้งหมด
หลังจากนั้นเฟิงหลินและทีมก็เดินทางต่อไป
สำหรับกล่องเสบียง แม้ว่าทีมของพวกเขาจะไม่ได้รับ พวกเขาก็จะไม่ปล่อยให้ทีมอื่นได้ไปง่ายๆ
ถ้าไม่อย่างนั้นสถานการณ์ของพวกเขาจะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น
ภายในบึงน้ำ หมอกควันลอยอยู่ทุกที่และเส้นทางก็สับสน
แต่แสงสีแดงสดใสจากกล่องนั้นสามารถทะลุผ่านหมอกและหมอกควันได้
“เราใกล้จะถึงแล้ว เราน่าจะถึงเร็ว ๆ นี้” ยานากล่าว
“ระวัง!” เฟิงหลินเตือน
สัญญาณจากกล่องเสบียงนั้นชัดเจนมาก น่าจะเป็นไปได้ว่าหลาย ทีมจะต้องพยายามได้มัน ซึ่งมันจะต้องเป็นอันตรายอย่างมาก
สมาชิกในทีมคนอื่นของเขาพยักหน้า ขณะที่พวกเขาเดินหน้าอย่างระมัดระวัง
กล่องเสบียงนี้มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้าน ตอนนี้พวกเขามองเห็นแล้ว
อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกก็คือว่าในบริเวณรอบ ๆ กล่องไม่มีความวุ่นวายเลย มีเพียงความเงียบที่น่าขนลุกในบรรยากาศ
“ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครมาถึง เรามาคว้าอุปกรณ์แล้วรีบหนีไปกันเถอะ” แอริสพูดด้วยความดีใจ
“เดี๋ยวก่อน!” เฟิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงต่ำ “สวมเสื้อคลุมล่องหนและตามฉันมาติดๆ”
“วิชาแปลงกาย!” เฟิงหลินยังคงรู้สึกว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะระมัดระวัง เขาโบกมือของเขาและพลังลิงหัวใจก็พุ่งออกมาเปลี่ยนรูปลักษณ์ของพวกเขาให้กลายเป็นก้อนหิน
การเปลี่ยนแปลงนี้ …
ซูลี่และอี้ที่เป็นสมาชิกใหม่ต่างตกตะลึง ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงนี้แปลกประหลาดเกินไป
เฟิงหลินยิ้มแล้วพูดด้วยเสียงเบา ๆ กับยานาว่า “เธอรู้ที่ตั้งของกี่ทีม?”
“สองทีม” ยานาหลับตาแล้วส่งพลังจิตของเธอไปสำรวจ
“ฉันเจอสามทีม” เฟิงหลินหัวเราะ
“ทีมอื่นที่ฉันหาไม่เจอ อยู่ไหน?” ยานาขมวดคิ้ว
“ มีอีกหนึ่งทีมที่ซ่อนตัวอยู่ในโคลน ปกปิดกลิ่นอายของพวกเขา ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด พวกนั้นน่าจะเป็นสามคนจากทีมญี่ปุ่น!” เฟิงหลินระบุ
“ฉันเข้าใจแล้ว” ยานาพยักหน้า ใบหน้าของเธอมีสีหน้าครุ่นคิด
หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา แอริสและอีกสองคนก็เข้าใจประเด็น
ฉากสงบนี้มีกระแสน้ำหลายสายในที่มืด ทีมอื่นๆได้เตรียมการซุ่มโจมตีเอาไว้แล้ว
ใครก็ตามที่เป็นคนแรกจะโดนโจมตีอย่างแน่นอน
(ดังนั้นจึงปรากฎว่าทุกคนเป็นนักวางแผน! น่าสนใจ)
พลังวิญญาณของเฟิงหลินพุ่งกระฉูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายบนหน้า
(มาดูกันว่าใครจะทนได้นานสุด!)