ตอนที่ 429 ไม่หันหลังกลับ
ศักยภาพทางพันธุกรรม +110, +110, + 110 .
นับตั้งแต่ที่เขาเข้าใจแก่นแท้ของยืนเฝ้หัวใจ ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาก็เพิ่มขึ้นเหมือนจรวด
แต่ในการเปรียบเทียบตอนนี้ เขาต้องการจุดศักยภาพทางพันธุกรรม 10,000 จุด เพื่อเพิ่มระดับยีนสวรรค์ของเขาทีละจุด เขาต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
นับตั้งแต่ที่จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ตกลงกับเขา เฟิงหลินก็บ่มเพาะอย่างเต็มที่
ไม่ว่าจะเป็นฝนหรือลม เขาก็จะยืนหยัดเหมือนภูเขาสูง
วันแห่งการต่อสู้กําลังใกล้เข้ามา!
หากการเตรียมการของเขาไม่สําเร็จลุล่วงและเขาเข้าสู่สนามรบ นั่นจะเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
ตอนที่เขาไม่ได้เพิ่มศักยภาพทางพันธุกรรม เฟิงหลินก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง แม้ในขณะที่เขาพักผ่อน เขาก็ยังบ่มเพาะเทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุอย่างไม่หยุดยั้ง
เขาใช้คะแนนสะสมจํานวนมากเพื่อแลกกับส่วนผสมยาหายากและมีค่าต่างๆ
เขาใช้จ่ายเงินเหมือนน้ํา ไม่ตระหนี่เลย
คะแนนสะสม 5 ล้านคะแนนถูกใช้ไปจนหมด
เฟิงหลินไม่หยุด เขายังคงใช้ไฟแท้จริงเพื่อปรุงยา
ในไม่ช้าตะกั่วทองกลั่นเข้มจํานวนมากก็ถูกสร้างขึ้น วัตถุทรงกลมสีทองที่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดนั้นกลมอย่างสมบูรณ์แบบและแสงจาง ๆ ก็แผ่ออกมา เพียงแค่มองแวบเดียวก็รู้ว่านี้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา
หากกํามันไว้ในมือ พวกมันจะแข็งราวกับหยก ยากมากที่จะทําลาย
ภายในนั้นมีการระเบิดที่ควบแน่นรุนแรง
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้เขามีตะกั่วทองกลั่นเข้ม 100 เม็ด แต่มันไม่เพียงพอ
คราวนี้เฟิงหลินไม่ได้ทําผิดแบบเดิมอีกต่อไป เขาทําดีที่สุดและผลิตเท่าที่จะทําได้ ภายในครึ่งเดือน เขาปรุงตะกั่วทองกลั่นเข้มทั้งหมด 1,286 เม็ด ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับครั้งก่อน
เขาประกอบท่าทางมือด้วยมือข้างเดียวและส่งพลังวิญญาณของเขาออกไป ทําให้ยาเม็ดลอยอยู่ในอากาศ เม็ดยานี้เปลี่ยนเป็นดาวตก หมุนรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว เส้นแสงสีทองบางๆวนรอบเฟิงหลินส่งเสียงดัง
เมื่อมันระเบิดทุกอย่างในบริเวณนี้จะแตกสลายทันที
สําหรับพลังที่แท้จริง เฟิงหลินสามารถทดสอบได้ในสนามรบเท่านั้น
นอกจากนี้ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาของการบ่มเพาะและการกินยาเล่นแร่แปรธาตุ เฟิงหลินยังได้รับจุดพันธุกรรมสวรรค์หนึ่งจุด เขาเพิ่มจุดให้กับยืนราชาลิงเป็น 9 จุด
อาณาเขตราชาลิงขยายเป็น 27 เมตร และพื้นที่ที่มันครอบคลุมก็ขยายไป1.5เท่า ในไม่ช้าก็แตะ9หมื่นตารางเมตร
นี่เป็นตัวเลขที่น่ากลัวมาก
อาณาเขตของเฟิงหลินมีพื้นที่ขนาดใหญ่ พลังงานทั้งหมดอยู่ในการควบคุมของเขา ไม่มีมุมอับสามารถใช้เพื่อโจมตีหรือป้องกันก็ได้
หากไม่มีใครสามารถทําลายอาณาเขตของเขาได้โดยตรง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอาชนะเฟิงหลินได้
นี่เป็นพลังที่สมบูรณ์แบบที่ไม่มีข้อบกพร่อง
ผู้บ่มเพาะทุกคนมีความสามารถและพลังพิเศษของตัวเอง
พลังที่สมบูรณ์แบบจะปรากฏให้เห็นก็ต่อเมื่อมีคนเดินบนเส้นทางในตํานานที่แข็งแกร่งที่สุดนี่คือการพึ่งพาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเฟิงหลิน นอกจากนี้เขายังมีความชัดเจนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เกี่ยวกับข้อนี้
ตอนนี้ความแข็งแกร่งของยืนราชาลิงอยู่ที่ 9 จุดเท่านั้น เฟิงหลินไม่พอใจ เขาอยากเพิ่มมันได้มากที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อที่เขาจะได้ทะลุไปยังอาณาจักรที่สูงกว่านี้ ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้กับเขา
จากนั้นเขาก็เก็บตัว มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะอย่างเต็มที่ และไม่สนใจเรื่องภายนอก
แต่การต่อสู้ในสนามรบระหว่างดวงดาวยังคงดําเนินต่อไป และสงครามก็มาถึงจุดสําคัญ
เทพสงครามสีเงินเป็นของสะสมของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงมาเป็นเวลาหลายพันปีพวกเขาทั้งหมดเคยเป็นนักรบที่ทรงพลังซึ่งผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาแล้วหลายร้อยครั้งหลังจากการตายของพวกเขา พวกเขาถูกเปลี่ยนเป็น เทพสงครามสีเงินเพื่อปกป้องมนุษยชาติกลายเป็นกองทัพอมตะ
เมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่ วิชาการต่อสู้ทางพันธุกรรมของพวกเขาได้รับการบ่มเพาะจนถึงจุดสูงสุด และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสัญชาตญาณ พวกเขาไม่มีข้อบกพร่อง
นอกจากร่างจักรกลที่ไม่แตกหักแล้ว พวกเขาแต่ละคนยังกลายเป็นเครื่องจักรสังหาร ที่ทรงพลังอย่างมากอีกด้วย
แม้ว่าสัตว์จักรกลเหล่านั้นจะดุร้าย แต่ต่อหน้าทักษะของเทพสงครามสีเงินพวกมันก็ไม่ต่างอะไรจากหุ่นไม้
เทพสงครามสีเงินยังคงสังหารอย่างต่อเนื่อง ด้วยคลื่นดาบและกระบี่ของพวกเขา พวกเขาเฉือนสัตว์จักรกลเหล่านั้นออกเป็นชิ้น ๆ
สัตว์จักรกลขนาดมหึมาแต่ละตัวมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับเกาะๆนึง อย่างไรก็ตา มพวกมันทั้งหมดถูกจัดการเรียบ
ร่างจักรกลของเทพสงครามสีเงินรวมตัวกัน กลายเป็นยักษ์ที่สูงกว่าร้อยฟุต. ร่างกายจักรกลนี้มีเทคนิคการต่อสู้ของเทพสงครามทั้งหมด
หนวดโลหะของอสูรปลาหมึกยักษ์ถูกฟันเป็นสองท่อนและร่วงหล่อนลงไป
ยานอวกาศจํานวนมากบินขึ้นไปในอากาศ รวบรวมเศษซากอันมีค่าเหล่านี้
พลังของเผ่าพันธุ์วิญญาณแผ่ขยายไปทั่ว10ระบบดาว พวกมันมีวัตถุอัศจรรย์นับไม่ถ้วนในจักรวาล รวมทั้งโลหะผสมที่ทรงพลังอย่างมาก
สําหรับมนุษยชาติที่ติดอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก มันเป็นโอกาสที่ยากมากที่พวกเขาจะสามารถรวบรวมสิ่งเหล่านี้ได้
หากพวกเขาสามารถค้นพบความมหัศจรรย์ที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีของสิ่งของเหล่านี้ผ่านการวิจัย มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวิทยาศาสตร์ของมนุษยชาติ
ประวัติศาสตร์หลายพันปีที่ผ่านมาล้วนพิสูจน์ประเด็นนี้
ทุกครั้งหลังสงคราม มนุษยชาติจะต้อนรับช่วงเวลาที่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอาร ยธรรมของพวกเขาจะก้าวไปข้างหน้า
เทพสงครามสีเงินนั้นอยู่ยงคงกระพัน พวกเขาสามารถต่อกรกับศัตรูจํานวนมากได้ พวกเขาสังหารศัตรูได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะได้รับความเสียหายจากสัตว์จักรกลวิญญาณ แต่ตราบใดที่ไมโครชิปวิญญาณซึ่งเป็นแกนกลางของพวกเขาไม่ได้รับความเสียหาย พวกเขาก็สามารถกู้คืนได้ไม่สิ้นสุด
ตราบเท่าที่มีการสร้างกายใหม่ พวกเขาก็จะสามารถต่อสู้ได้ตลอดไปเช่นเดียวกับหุ่นยนต์พวกเขาไม่กลัวความตาย พวกเขาไม่รู้จักความเหนื่อยล้า พวกเขาจะไม่หยุดฆ่าและสิ่งนี้จะคงอยู่ไปจนกว่าจะหมดเวลา
ต่อหน้าอาวุธสังหารที่ดีสุดของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพง สัตว์จักรกลเหล่านี้จะถูกบดขยื้อย่างสมบูรณ์โดยไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลย
นอกกําแพงพลังงาน กระแสวิญญาณสีดําปั่นป่วนอย่างรุนแรง ตอนนี้พวกมันอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์และส่งคลื่นออกมาต้องการที่จะทําลายการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษยชาติ
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงได้เพิ่มการป้องกันแล้ว พลังงานจํานวนมหาศาลไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและเผ่าพันธุ์วิญญาณไม่มีทางทําลายสิ่งนี้ได้
กระแสวิญญาณสีดําอาจดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในที่สุดพวกมันก็มีขีดจํากัด
หลังจากประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความสามารถในการรุก รานของพวกมันจะลดลง
กลุ่มข่าวกรองของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงค้นพบจุดนี้ทันที่ผ่านการตรวจสอบของพวกเขา พวกเขาแน่ใจว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว
บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยเริ่มตึงเครียด
เฟิงหลินอยู่ในมหาวิทยาลัยและเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สังเกตเห็นสิ่งนี้ เขาเร่งความเร็วในการบ่มเพาะของเขา
ฐานการบ่มเพาะปลูกที่สูงขึ้นก็จะยากขึ้นสําหรับพวกเขาที่จะพัฒนา
ในขณะที่ยาจํานวนมากถูกกลืนเข้าไปในกระเพาะอาหาร และเมื่อวันที่สามสิบใกล้เข้ามา ในที่สุดเฟิงหลินก็สามารถเพิ่มยืนราชาลิงของเขาให้สูงสุดได้
เขาไม่ลังเลและหลอมรวมเข้าด้วยกันเพื่อพัฒนามันในทันที
ยืนราชาลิง X10 + ยื่นเต้าหัวใจ x10 = ยืนซุนหงอคง
ในที่สุดเขาก็มาถึงขั้นตอนนี้แล้ว!
ตามชื่อโดยนัย ยืนซุนหงอคงเป็นอาณาจักรที่สําคัญที่สุดในเส้นทางในตํานานของซุนหงอคงเมื่อเข้าสู่ประตูนี้
โลกใหม่จะเกิดขึ้นต่อหน้าเฟิงหลิน เขาจะสามารถได้รับแก่นแท้ความสามารถของซุนหงอคง
เฟิงหลินรู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเตรียมพร้อมสําหรับเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากทั้งร่างกายและจิตใจของเขาอยู่ในสถานะที่เหมาะสมมากที่สุด วิญญาณของเขาก็เข้าสู่อวกาศอย่างช้าๆขณะที่แผนที่พันธุกรรมปรากฏต่อวิสัยทัศน์ของเขา
กลุ่มดาวสีทองขนาดมหึมาสองกลุ่มส่องแสงเจิดจรัสคล้ายกับดวงดาวนิรันดร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
กลุ่มดาวสีทองแต่ละกลุ่มมีกิ่งก้านสาขายื่นออกมา เหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ แต่ละเส้นทางมีวิวัฒนาการและความลึกลับที่ไร้ขอบเขต
อาณาเขตราชาลิง, เต๋หัวใจที่ทําลายไม่ได้
แต่ละอันเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไร้ขอบเขต สามารถพัฒนาอาณาเขตของเขาได้ควบคุมทุกสิ่งในนั้น
ทําให้จิตใจและความคิดของเขามั่นคง แม้จะพบกับประสบการณ์มากมายในโลกมนุษย์ แต่หัวใจดวงเดิมของเขาก็ไม่มีวันหวั่นไหว
เฟิงหลินตั้งใจที่จะหลอมรวมพลังทางพันธุกรรมทั้งสองนี้ให้เป็นหนึ่งเดียว
กลุ่มดาวทั้งสองส่องแสงระยิบระยับ แสงดาวที่ไหลท่วมเหมือนน้ําจากน้ําพุไหลออกมาจากพวกมันในขณะที่พวกมันค่อยๆรวมตัวกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แปลกคือมันแตกต่างจากในอดีต แหล่งที่มาของแสงดาวสองแหล่งที่แตกต่างกันไม่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ ตอนนี้เฟิงหลินรู้สึกว่าพลังทางพันธุกรรมทั้งสองนี้ค่อนข้างเลื่อยชาและแตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด มันยากมากที่จะรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนเขาก็ยังไม่พบจุดที่จะทะลุผ่านไปได้
เมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้วและเขาทําไม่สําเร็จ เขาก็เลือกที่จะยอมแพ้ไปก่อน
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ท้อถอย
เขาทําเต็มที่แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเพราะเขาเร่งเสริมสร้างยืนของเขามากเกินไป การควบคุมของเขายังไม่ถึงระดับนั้น แต่ความแข็งแกร่งของเขาอยู่พัฒนาแล้ว
เส้นทางในอนาคตของเขาถูกชําระล้าง ต่อไปเขาต้องใช้ความพยายามปรับตัวเข้ากับมันเขาไม่ควรเร่งรีบ
เส้นทางเต๋ในตํานานที่สมบูรณ์แบบยังไงก็คือเส้นทางเต๋ในตํานานที่สมบูรณ์แบบ
ยีนสวรรค์ทั้งสองของเฟิงหลินถูกขยายออกไปจนสูงสุด สถานะพลังชีวิตของเขาทะ ลุขีดจํากัดเกิน10,000 จนถึง 12,890 แล้ว เขาไม่ได้อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับผู้ใช้ยืน และในระหว่างหนึ่งเดือนนั้นเขาสามารถปรุงยาตะกั่วทองกลั่นเข้มได้ทั้งหมด 3,272 เม็ดมันเพียงพอแล้วสําหรับเขาที่จะตั้งหลักในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย
“ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกําลังจะเริ่มขึ้น และกองทัพวิญญาณก็แสดงสัญญาณการล่าถอยแล้วสําหรับผู้ที่กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ ทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่ด้านบนของสุดยอดกําแพง” ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น สะท้อนไปทั่วทุกมุมของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพง
ในที่สุดการต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจริงๆ?
แววตาของเขาเปล่งประกายเฟิงห์
จิตวิญญาณของผู้เชี่ยวชาญรุ่นก่อนไม่ยินยอมที่จะตาย พวกเขาเลือกที่จะเป็นองครักษ์ของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงไปตลอดกาล
ในฐานะคนรุ่นหลัง ถ้าพวกเขาต้องการที่จะเหนือกว่าคนรุ่นก่อน พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่หลังผู้อาวุโสได้ยังไง?
ตอนนี้
(ถึงเวลาที่เราต้องเข้าไปอยู่ในสนามรบแล้ว!)
เฟิงหลินก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
สําหรับการต่อสู้ครั้งนี้ หากพวกเขาไม่สามารถกําจัดเผ่าพันธุ์วิญญาณได้ พวกเขาก็จะไม่กลับมาอีก