ตอนที่ 34
หมดหวัง
“มอนสเตอร์งั้นเหรอ”กวีกับแก้วเห็นร่างของงูยักษ์ตัวหนึ่งโผล่พ้นขึ้นมาจากในทะเลก็รีบคว้าอาวุธขึ้นมาทันที ในข้อมูลที่กวีอ่านมาไม่เคยมีใครพบเห็นมอนสเตอร์แบบนี้ใกล้ ๆกับเมืองทันดร้ามาก่อน ยิ่งเป็นเขตที่ไม่ห่างจากตัวเมืองนักมอนสเตอร์ไม่ควรจะเลเวลสูงนักไม่ใช่หรือไง
“เจ้านั่นมาเพราะกลิ่นเลือดของนกนางแอ่นงั้นเหรอ”แก้วมองไปยังร่างของมันที่มีเกล็ดสีน้ำเงินปกคลุมร่างกายเอาไว้ เพราะไม่มีข้อมูลก็เลยไม่รู้ว่ามันเลเวลเท่าไรกันแน่ แต่แค่มองด้วยตาเปล่าก็น่าจะรู้แล้วว่ามันไม่ใช่มอนสเตอร์ทั่วไป หรือว่าเควสจัดการนางแอ่น 20 ตัวจะเป็นเควสเรียกบอสออกมา แต่ผู้เล่นเลเวลน้อยแบบนี้ไปหาเควสเรียกบอสมาจากไหนกัน
“คุณหลบไปก่อนฉันจะล่อมันเอาไว้เอง”แก้วไม่พูดพร่ำทำเพลงยิงธนูใส่ดวงตาของงูยักษ์ตรงหน้าทันที แต่ถึงจะยิงเข้าดวงตาอย่างแม่นยำแต่ลูกศรของแก้วกลับหักไม่เหลือชิ้นดีราวกับดวงตาของมันแข็งจนลูกธนูเจาะไม่เข้าเสียอย่างนั้น
เปรี้ยง!!
แม้แก้วจะบอกให้กวีหนีไปก่อน แต่กวีไม่ยอมไปแถมยังร่ายเวทสายฟ้าใส่งูยักษ์ตรงหน้าอีกต่างหาก แต่ถึงค่าปัญญาของกวีจะเยอะมากจนทำให้พลังโจมตีพอ ๆกับนักเวทเลเวล 25 ถึง 30 ก็ตาม แต่กระสุนอัสนีที่ยิงออกไปก็ไม่สร้างความเสียหายให้มันเลย
“กี๊สสสสส”เสียงแผดร้องของงูยักษ์ดังขึ้นมาพร้อมปากที่อ้ากว้างจนเห็นภายในของมันได้ พริบตานั้นร่างของงูยักษ์ก็โน้มไปข้างหลังก่อนฉกใส่พวกกวีอย่างรวดเร็ว
ตูม!!
แม้จะร่างกายใหญ่โตแต่การโจมตีของมันกลับเร็วมาก พริบตาเดียวปากของมันก็งับพื้นทรายที่แก้วและกวียืนอยู่เข้าไปทั้งหมดก่อนจะกลืนเอาทั้งพื้นทรายและตัวกวีและแก้วเข้าไปในท้องโดยไม่ให้ทั้งสองตั้งตัวเลย
.
.
“คุณแก้ว…….คุณแก้ว…..”ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่หลังจากหมดสติไปเพราะโดนเจ้างูยักษ์โจมตีกวีก็ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรกก่อนจะเข้าไปปลุกแก้วที่อยู่ข้าง ๆ แต่ดูเหมือนแก้วจะยังไม่ได้สตินี่สิ
จ๋อม…
กวีขยับร่างของตนเองที่จมอยู่ในน้ำไปเกือบครึ่งตัว ตอนนี้ตัวของกวีและแก้วเหมือนกำลังนอนอยู่บนหายทรายเพียงแต่รอบ ๆตัวกลับไม่ใช่ท้องฟ้ากว้างใหญ่เหมือนก่อนหน้านี้ แต่กลับเป็นก้อนหินยาวไปทั้งแถบ ตอนนี้เหมือนว่ากวีจะอยู่ในถ้ำที่มีทางเข้าเป็นทะเลไม่มีผิด หรือว่าเจ้างูนั่นจะเอากวีกับแก้วมาทิ้งเอาไว้ที่นี่งั้นเหรอ
“ที่ไหนกันเนี่ย”กวีถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปรอบ ๆ ด้านหลังก็เป็นถ้ำลึกที่ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะเจออะไร ข้างหน้าก็เป็นกำแพงถ้ำที่มีแค่น้ำทะเลเข้ามาได้เท่านั้น ไม่รู้ว่าหากดำน้ำออกไปจะสามารถออกไปได้หรือไม่ เป็นสถานที่ที่ชวนให้ปวดหัวจริง ๆ แถมเพื่อนร่วมทางยังไม่ได้สติอีกต่างหาก
“บางทีความสมจริงก็ลำบากเหมือนกันนะ”กวียิ้มเจื่อน ๆออกมาก่อนจะเหลือบไปมองทางแก้วที่นอนอยู่ เพราะพวกเขานอนแช่น้ำกันทั้งคู่ สภาพของกวีและแก้วเลยเปียกปอนไปทั้งตัว ทำให้ตอนนี้กวีสามารถมองเห็นทรวดทรงองเอวของอีกฝ่ายได้ชัดกว่าปกติมากจนรู้สึกเสียมารยาทไปเองเลย
“ที่นี่ ที่ไหนเนี่ย”ระหว่างกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดีแก้วที่นอนอยู่ข้าง ๆก็ได้สติเสียที เธอลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นมานั่งกับพื้นทราย
“ตื่นแล้วเหรอครับคุณแก้ว”กวีถามพลางมองไปทางแก้วอย่างโล่งอก อย่างน้อยแก้วก็ตื่นเสียที แต่ถ้าแก้วตายไปแล้วจริง ๆร่างกายก็ต้องกลายเป็นแสงสีขาวแล้วไปเกิดที่เมืองสิถึงจะถูก
“ค่ะ…นี่เราอยู่ในท้องงูงั้นเหรอคะ”แก้วถามพลางมองไปรอบ ๆ อาจจะเพราะสายตาของแก้วยังไม่ชินกับความมืดก็เลยไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหน
“โชคดีสุด ๆเลยครับที่ไม่ใช่”กวียิ้มเจื่อน ๆออกมาเพราะตัวเขาเองก็คิดแบบนั้นในตอนแรกเช่นเดียวกัน หากตื่นขึ้นมาในท้องของงูโดยยังไม่ตาย ภาพความทรงจำตอนนั้นคงเลวร้ายน่าดู
“งั้นที่นี่ที่ไหนกัน”แก้วลุกขึ้นยืนช้า ๆก่อนจะเริ่มมองไปรอบ ๆ อย่างที่กวีเห็นก่อนหน้านี้ทั้งสองทางไม่รู้ว่าจะนำพาไปที่ไหน หากเป็นคนธรรมดาก็คงต้องรู้สึกหวาดกลัวทำอะไรไม่ถูก แต่กวีไม่คิดว่าแก้วจะเป็นผู้หญิงประเภทที่เอาแต่กลัวไม่ยอมทำอะไรหรอก
“ตอนนี้พวกเราต้องเลือกระหว่างเข้าไปในถ้ำกับลองดำน้ำออกไปดู อย่างมากก็ตายแล้วกลับเมืองกันทั้งคู่”กวีตอบด้วยรอยยิ้มสบาย ๆ นี่คือข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของเกมพวกเขาไม่มีวันตายจริง ๆต่อให้เสี่ยงสักหน่อยก็ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดอยู่ดี
“งั้นพวกเราลองไปสำรวจถ้ำกันเถอะค่ะ”แก้วแทบจะไม่คิดให้เสียเวลาชี้ไปที่ถ้ำด้วยท่าทีมั่นใจ ทั้ง ๆที่การดำน้ำลงไปดูตรงปากถ้ำอาจจะพาพวกกวีออกไปได้เร็วกว่าแท้ ๆ
“ทำไมถึงเลือกทางนั้นเหรอครับ”กวีถามด้วยท่าทีสนใจ เจ้างูที่พาพวกกวีเข้ามาดูท่าทางแข็งแกร่งมาก และสาเหตุที่มันพากวีกับแก้วเข้ามานั้นก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง และคงเดาได้ทันทีว่ามันเป็นเควสอะไรสักอย่างแน่ ๆ บางทีถ้ำข้างหน้าอาจจะเป็นดันเจี้ยนเลเวลสูงที่ยังไม่ถูกค้นพบก็เป็นได้ แบบนั้นแทบจะมีแต่ตายกับตายไม่ใช่หรือไง
“ก็แค่….ทางนั้นน่าสนใจกว่าแล้วก็ท้าทายกว่า…..”แก้วตอบพลางหลบสายตากวีไปทางอื่นเสียอย่างนั้น
“แล้วอะไรอีกครับ”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีสนุกสนานก่อนจะถามย้ำแก้วไปอีกที ดูเหมือนเธอจะมีเหตุผลที่ไม่อยากบอกกวีอยู่แต่ไม่ยอมบอกออกมา
“ฉัน….ว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ”แก้วตอบออกมาด้วยท่าทีลำบากใจ ความจริงลองลงไปดำน้ำดูก็ไม่เสียหาย แต่แก้วกลับว่ายน้ำไม่เป็นนี่สิ
“ฮะ ๆ ๆ ๆ เป็นเหตุผลที่คิดไม่ถึงเลย”กวีได้ยินเหตุผลของแก้วก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เกษแก้วกัลยา คนนั้นน่ะนะว่ายน้ำไม่เป็น ศัตรูที่ทำให้กวีต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลามีกิลด์เมฆาร่วมสงครามด้วยคนนั้นกำลังทำหน้าแดงสารภาพกับเขาว่าว่ายน้ำไม่เป็น…..
“โถ่ คุณจะหัวเราะเยาะเกินไปแล้วนะคะ คนเราก็ต้องมีเรื่องไม่ถนัดบ้างสิ”แก้วเห็นกวีหัวเราะจนลืมตัวก็โวยวายออกมาทันที ทำให้กวีต้องพยายามกลั้นขำอย่างช่วยไม่ได้
“ก็ได้ งั้นพวกเราลองไปสำรวจในถ้ำกันก่อนก็แล้วกัน ไม่แน่ที่นี่อาจจะเป็นถ้ำขุมทรัพย์ก็ได้”กวียังหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อยก่อนจะหยิบไม้เท้าขึ้นมาเตรียมพร้อมเอาไว้ เมื่อเห็นเช่นนั้นฝ่ายแก้วเองก็นำอาวุธของตัวเองออกมาเช่นกัน จะบอกว่าโชคดีมากก็คงได้ที่อาวุธของแก้วกับกวียังไม่หายไปไหนแถมแก้วยังเตรียมลูกธนูเอาไว้สำหรับสู้กับเซียนหูยาวเอาไว้จำนวนมาก หากมีอันตรายเกิดขึ้นแก้วก็มั่นใจว่าจะสู้ต่อเนื่องได้แน่ ๆ
“นี่มัน ประตู…..”กวีกับแก้วเดินเข้ามาในถ้ำได้แค่ไม่กี่เมตรก็พบว่าทางด้านหน้าถูกประตูหินสลักลวดลายงูปิดทางเอาไว้จนมิด
“หรือว่าจะเป็นดันเจี้ยน…”แก้วเห็นประตูแบบนี้ก็คิดออกได้ไม่กี่อย่างเท่านั้น ในโลกของเอคโค่ที่พึ่งเปิดให้เล่นได้แค่เดือนเดียวนั้นยังมีความลับมากมายที่ผู้เล่นยังหาไม่เจอ และดันเจี้ยนแห่งนี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้นด้วย
ติ๊ง…
[ ถ้ำอสรพิษใต้สมุทร อันตรายเกินไปสำหรับระดับเลเวลของผู้เล่นในปัจจุบัน โปรดระวังตัวให้มากเพื่อเอาชีวิตรอด ]
ทันทีที่กวีลองเอามือไปแตะที่ประตูหินก็พบว่ามันเป็นดันเจี้ยนจริง ๆแถมมันยังอันตรายเกินไปสำหรับกวีในตอนนี้อีกด้วย แต่ดูเหมือนตัวเกมจะไม่ห้ามหากผู้เล่นจะเข้าไปทดสอบความสามารถตัวเองในดันเจี้ยนที่มีเลเวลสูงกว่าตนเองสินะ
“ท่าทางจะเป็นดันเจี้ยนเลเวลสูงน่าดู”แก้วเห็นกวีลองแตะไปที่ประตูก็ลองแตะไปที่ประตูบ้าง เธอเองก็ได้รับข้อความเตือนแบบเดียวกันนั่นทำให้มั่นใจได้เลยว่าดันเจี้ยนแห่งนี้ต้องมีเลเวลสูงกว่า 45 ซึ่งเป็นเลเวลปัจจุบันของแก้วอย่างแน่นอน แถมยังต้องสูงกว่าเกิน 10 เลเวลขึ้นไปถึงจะแจ้งเตือนข้อความแบบนี้ได้
“งั้น…พวกเราลองเข้าไปดูกันเถอะครับ”กวียิ้มออกมาด้วยท่าทีสนใจก่อนจะเปิดระบบข้อความของตนเองขึ้นมา ตอนนี้หากจะเข้าไปในดันเจี้ยนกวีต้องร่วมปาร์ตี้กับแก้วเสียก่อน และการมีชื่อเมฆกับไอช่าอยู่ในปาร์ตี้เดิมนั้นคงเป็นเรื่องไม่ดีเท่าไร กวีเลยตัดสินใจส่งจดหมายไปบอกเพื่อน ๆว่าตนเองเจอเควสบางอย่างต้องออกจากปาร์ตี้ชั่วคราวและให้คนอื่น ๆไปเก็บเลเวลล่วงหน้ากันก่อนได้เลย
“จะเข้าไปเหรอคะ”แก้วถามด้วยท่าทีประหลาดใจ อีกฝ่ายน่าจะเลเวลน้อยกว่าเธอเสียอีก แล้วทำไมยังกล้าเข้าไปในดันเจี้ยนที่ดูน่ากลัวแบบนี้
“ดันเจี้ยนนี้ชื่อว่า ถ้ำอสรพิษใต้สมุทร งั้นก็หมายความว่าที่นี่น่าจะอยู่ใต้ทะเล”กวีตอบพลางมองไปทางที่ตนพึ่งเดินผ่านมา แสดงว่าถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำที่ต้องดำลงมาในน้ำเพื่อจะเข้าไป และการจะออกก็ต้องดำน้ำออกไป ต่อให้ไม่ใช่แก้วที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็ยังไม่แน่ว่าจะออกไปได้หรือเปล่าเลย
“ยังไงพวกเราก็ต้องออกไปจากที่นี่ จะผ่านดันเจี้ยนแล้วค่อยออกไป หรือโดนมอนสเตอร์ฆ่าตายแล้วค่อยออกไปก็คือเป้าหมายเดียวกัน”กวีชวนแก้วเข้าปาร์ตี้พร้อมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอราวกับจะถามว่าจะร่วมทางไปกับกวีหรือเปล่า
“นั่นสินะ….”แก้วกดรับเข้าร่วมปาร์ตี้ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ ไหน ๆก็ต้องกลับอยู่แล้วก็ขอเข้าไปเห็นด้านในก่อนจะเป็นอะไรไป
“งั้นก็…..”กวีออกแรงผลักประตูหินเพียงเล็กน้อยประตูหินก็เปิดออกเองราวกับจะแสดงความยินดีต้อนรับทั้งสองให้เข้าไป ต่อให้เจอมอนสเตอร์ยากแค่ไหนกวีก็มีความเชื่อมั่นในฝีมือของแก้วอยู่เต็มเปี่ยม….
คลืนนน…..
“…………….”เพียงแต่เมื่อเห็นสภาพของดันเจี้ยนที่อยู่ด้านในใบหน้ามั่นใจของกวีก็เปลี่ยนไปนิดหน่อยเพราะดันเจี้ยนแห่งนี้เป็นภายในถ้ำกว้างใหญ่ที่มีน้ำปกคลุมไปทั้งดันเจี้ยนราวกับจะให้ว่าน้ำผ่านไป แน่นอนว่าการว่ายน้ำไปด้วยต่อสู้ไปด้วยย่อมเป็นเรื่องยาก แต่…