บทที่ 680 กระจกทองแดงระเบิดพลังออกมา ดูเหมือนจะพบเข้ากับศัตรูตัวฉกาจ!
จ้าวหลานรู้สึกย่ำแย่ ไม่คาดคิดว่าตนเองจะถูกเจ้าหลวงขุดหลุมใส่เช่นนี้
กล่าวตามตรงแล้ว เมื่อยามที่เจ้าหลวงบากหน้ามาขอพึ่งใบบุญ ถ้าหากเจ้าหลวงไม่ได้นำของดีจำนวนมากมาด้วย เกรงว่ามันคงไม่แม้แต่จะชายตามองเสียด้วยซ้ำ
มันมีผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นจำนวนมาก แต่ละคนล้วนเหนือชั้นกว่าเจ้าหลวง เช่นนั้นแล้ว มันจะใส่ใจเจ้าหลวงในฐานะน้องชายได้อย่างไร? ไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่
แม้ครั้งหนึ่งมันจะเคยดูแลให้ความช่วยเหลือเจ้าหลวงมาไม่น้อย แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนผ่านไปนานมากจนมันลืมเลือนหมดสิ้นแล้ว ถ้าหากเจ้าหลวงไม่มาพบ มันคงลืมไปเสียแล้วว่ามีตัวตนเช่นเจ้าหลวงอยู่ด้วย
มันไม่ได้มาอาณาจักรอวี้ซวีด้วยเหตุผลที่ต้องการล้างแค้นให้เจ้าหลวงแม้แต่น้อย เจ้าหลวงไม่คุ้มค่ากับการที่มันจะทำสงครามครั้งใหญ่เช่นนี้ เป้าหมายของมันคือเหล่าสมบัติที่เจ้าหลวงกล่าวถึงต่างหาก
แต่ผู้ใดจะรู้กันว่า มันจะถูกผู้ที่เล็กจ้อยจนตนเองไม่เหลียวแลขุดหลุมใส่ ทั้งยังฉกฉวยโอกาสหลบหนีของมันไป ภายในใจของมันเต็มไปด้วยรสชาติหลากหลาย!
‘จ้าวตะเข้เองก็คงจะโดนมันหลอกเช่นนี้!’
มันกัดฟันเอ่ยขึ้นมาในใจด้วยความชิงชัง
ตอนนี้มันมั่นใจอย่างสมบูรณ์แล้วว่า จ้าวตะเข้เองก็โดนเจ้าหลวงขุดหลุมใส่ด้วยวิธีเช่นนี้ เจ้าหลวงชักจูงให้จ้าวตะเข้มาจัดการกับเหล่าสมบัติ และเมื่อผลออกมาว่าสู้ไม่ได้ก็ถูกเจ้าหลวงทิ้งเอาไว้ วิ่งหลบหนีไปเพียงผู้เดียว!
‘มารดามันเถอะ นี่อาจเป็นแผนการที่มันวางเอาไว้นานแล้วใช่หรือไม่!?’
หน้าของมันซีดลง รู้สึกว่านี่อาจเป็นกับดักที่เจ้าหลวงวางเอาไว้ตั้งแต่แรก ก่อนหน้านี้ก็เป็นจ้าวตะเข้ ตอนนี้ถึงคราวของมัน ต่างโดนล่อลวงมาเพื่อให้ถูกกำจัด จากนั้นก็รับช่วงเอานครพิศวงของพวกมันไป
มีความเป็นไปได้มาก!
ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าหลวงจะนำทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจ้าวตะเข้มาได้อย่างไร?!
ต่อไปเจ้าหลวงก็จะฉกชิงทรัพย์สมบัติทั้งหมดของมัน!
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ภายในใจของมันยิ่งรู้สึกเจ็บปวด มันถูกผู้ที่ไม่มีค่าในสายตาอย่างเจ้าหลวงวางแผนใส่ตั้งแต่ต้น ตัวมันช่างโง่งมเสียจริง!
เหล่าสมบัติยังไม่ได้ลงมือในทันที ทำเพียงแค่ล้อมรอบจ้าวหลานที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงลำพังผู้เดียวเอาไว้ มันเป็นถึงผู้มีอำนาจแข็งแกร่งที่สุด พวกสมบัติย่อมต้องการจะเล่นสนุกกับจ้าวหลานเสียก่อน
“ข้าบอกแล้วว่าเจ้ากำลังถูกขุดหลุมใส่ แต่เจ้าก็ยังไม่เชื่อ ทั้งยังปฏิบัติราวกับมันผู้นั้นเป็นน้องชาย จิ๊จิ๊ ดวงตาของเจ้าจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!”
เปลวเพลิงลุกโชนบนไม้เขี่ยฟืน มันหัวเราะพลางกล่าวออกมา “ไฟสามารถทำให้ตาของเจ้าสว่างขึ้นได้ ข้าจะช่วยเจ้ารักษาตาให้เอง”
อะ…อันใดนะ?
ไฟสามารถทำให้ตาสว่างได้?
บัดซบ!
แม้จะพูดจาไร้สาระแค่ไหนก็ไม่อาจพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นนี้ได้!
ไฟนั่นจะทำให้ตาสว่างได้อย่างไร ทำได้แค่เพียงช่วยให้ตาบอดเท่านั้น!
จ้าวหลานระงับความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ เห็นได้ชัดเจนว่าไม้เขี่ยฝืนเตรียมพร้อมจะเล่นกับมันแล้ว!
“มาสิ มาให้ข้าช่วยรักษาดวงตาของเจ้า ตาของเจ้าจะได้สว่าง ไม่ต้องตาบอดแยกดีชั่วไม่ออกเหมือนตอนนี้อีกต่อไป”
ไม้เขี่ยฟืนลงมือส่งเปลวเพลงพุ่งออกไปใส่ดวงตาของจ้าวหลานโดยตรง
จ้าวหลานจะยอมให้เปลวเพลิงนั้นสัมผัสกับดวงตาของตนได้อย่างไร หากเป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าตามันจะต้องถูกทำลายจนบอดอย่างแน่นอน
มันชูกระจกทองแดงในมอขึ้นมา ถ่ายถอดพลังพิศวงเข้าไปด้านในอย่างบ้าคลั่ง หากมันใช้พลังของตนเองต่อกรกับเหล่าสมบัติ นั่นคงไม่ต่างอันใดไปจากการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง มันไม่อาจสู้ได้โดยสิ้นเชิง กระจกทองแดนนับว่าเป็นความหวังเดียวของมัน
กระจกทองแดงนั้นไม่ธรรมดาสามัญเลย แม้มันจะศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองมานานแสนนาน มันก็ยังไม่มีความเข้าใจอันใดกับกระจกทองแดง
อย่าว่าแต่มันจะไม่เข้าใจเลย กระทั่งข้อมูลสักเล็กน้อยมันยังไม่รู้ กระจกทองแดงลึกล้ำเกินไป ห่างไกลจากความรู้ความเข้าใจของมันอย่างสิ้นเชิง
มันรู้เพียงแค่ว่า กระจกทองแดงมาจากสถานที่อันเป็นต้นกำเนิดความพิศวง เป็นของล้ำค่าอันไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ทว่าน่าเสียดายที่มันไม่อาจไขความลับของกระจกทองแดงได้
หากมันสามารถไขความลับของกระจกทองแดงได้ มันจะไม่ต้องมาลงเอ่ยเช่นนี้อย่างแน่นอน มันจะต้องประสมความสำเร็จสูงล้ำ มีพลังเหนือเกินกว่าที่จะสามารถจินตนาการได้ และก่อตั้งนครพิศวงที่ยิ่งใหญ่สุดขึ้นมา
เกรงว่าต่อให้เป็นภพเซียน มันก็สามารถยกทัพไปกำราบได้อย่างง่ายดาย
ในตอนนั้นเอง ก็มีเรื่องเหนือกว่าความคาดคิดเกิดขึ้น มีพลังอันน่าสะพรึงกลัวกระเพื่อมออกมาจากตัวกระจกทองแดง ขณะเดียวกันก็มีแสงเจ็ดสีพุ่งออกมาจากด้านในกระจกทองแดง ทำลายเปลวเพลิงของไม้เขี่ยฟืนทิ้งภายในพริบตา ไม่หลงเหลือสิ่งใดเอาไว้
“นี่มัน…เกิดเรื่องใดขึ้น!”
จ้าวหลานตกตะลึงจนพูดติดขัด มันไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!
นี่เป็นครั้งแรกที่กระจกทองแดงระเบิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ทั้งยังเปล่งแสงเจ็ดสีอันชวนสะท้านขวัญ
มันอดสั่นสะท้านไปถึงจิตวิญญาณไม่ได้ พลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้คือสิ่งใดกัน?! มันไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการถึง นี่มันน่าหวาดกลัวเกินไป เป็นพลังที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่มันเคยพบเจอมา!
มันไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย ด้วยพลังนี้กระทั่งจักรพรรดิเซียนก็ไม่อาจเทียบ บรรพจารย์เท่านั้นจึงจะพอต้านทานได้!
“มี…มีหนทางรอดแล้ว!”
มันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างถึงที่สุดในทันที ดวงตาของมันเต็มไปด้วยประกายวาววับ!
มีหนทางรอดเกิดขึ้นในเส้นทางสู่ความตาย มันจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?
ความลับอันยิ่งใหญ่ของกระจกทองแดงคล้ายระเบิดจนเผยออกมา เป็นหนทางรอดของมัน!
“ฮ่าฮ่า!”
มันหัวเราะออกมาอย่าบ้าคลั่ง ไม่ต้องกล่าวเลยว่ามันตื่นเต้นมีความสุขถึงเพียงใด
ในตอนนี้ มันไม่ได้ชิงชังเจ้าหลวงแล้ว ทั้งยังเกิดความขอบคุณกับเจ้าหลวงขึ้นมาในใจ
ถ้าหากเจ้าหลวงไม่พามันมาที่นี่ ความลับอันยิ่งใหญ่ในกระจกทองแดงก็จะไม่ถูกเปิดเผย ตอนนี้มันตื่นเต้นมีความสุขเสียยิ่งกว่าการได้รับสมบัติเหล่านั้นมาเสียอีก!
เมื่อความลับอันยิ่งใหญ่ของกระจกทองแดงเปิดเผยออกมาแล้ว อนาคตของมันจะต้องสดใสอย่างแน่นอน สมบัติเหล่านั้นไม่อาจเทียบมูลค่าได้แม้แต่น้อย
อีกด้านหนึ่ง เหล่าสมบัติต่างรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล พวกมันเร่งบินถอยกลับไปรวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากกระจกทองแดงทำให้พวกมันรู้สึกถูกคุกคามเป็นอย่างมาก!
มันเก็บท่าทางอยากเล่นสนุกก่อนหน้าทันที ตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวในกระจกทองแดงกำลังจะออกมา
นี่ไม่ใช่เรื่องสนุกแต่อย่างใด พวกมันอาจกำลังจะต้องเผชิญหน้ากับอันตราย!
“ไฟสามารถทำให้ตาสว่างได้? บัดซบ! ไม้เขี่ยฟืนเช่นเจ้า กลับกล้าพูดจาเช่นนี้! รอก่อนเถอะ ข้าจะสับเจ้าแล้วเผาเป็นฟืน!”
ดวงตาของจ้าวหลานเปล่งประกายดุร้าย มันตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็นชา ภายในใจไร้ซึ่งความตึงเครียดแล้วหวาดกลัว
มันยังต้องตึงเครียดและหวาดกลัวสิ่งใดอีก?
ไม่เห็นว่าเหล่าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเหล่านี้กำลัง ‘เบียดเสียด’ เข้าหากันด้วยความกลัวอย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้ฝ่ายที่ต้องตึงเครียดและหวาดกลัวควรเป็นเหล่าเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างหาก!
วูบ!
แสงเจ็ดสีสาดทอออกมาราวกับสามารถย้อมทั้งอาณาจักรอวี้ซวีได้ พลังพิศวงอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากด้านในกระจกทองแดง เพียงแค่พริบตาเดียว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรอวี้ซวีก็พลันรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ประหนึ่งมีประตูนรกมาเปิดอ้าต้อนรับ รอเก็บเกี่ยวชีวิตพวกเขาไปในชั่วอึดใจข้างหน้า!
ตู้มมม!
พลังที่หลั่งไหลออกมาจากกระจกทองแดงทำให้ท้องฟ้าระเบิดออก เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้นหลุมแล้วหลุมเล่า พลังอันสับสนวุ่นวายกรูเข้ามาอย่างต่อเนื่อง!
กฎเกณฑ์ของอาณาจักรอวี้ซวีพังทลายลง ไม่สามารถแบกรับพลังเหล่านี้ได้อย่างสิ้นเชิง ช่องว่างไม่ได้มีเพียงน้อยนิด หากแต่ราวกับเป็นหิ่งห้อยกับดวงตะวันอันเจิดจ้า ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้แม้แต่น้อย!
จ้าวหลานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังผยองมากยิ่งขึ้น ตอนนี้มันยิ่งไม่ตึงเครียดและหวาดกลัวมากกว่าเดิม อย่าว่าแต่เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันเหล่านี้เลย กระทั่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังของพวกมันมาเองก็ยังไม่มีความกลัวเกรง อย่างไรเสียพลังของกระจกทองแดงที่ระเบิดออกมาก็ต้องเหนือกว่า!
อีกทั้งภายในใจของมันยังมีความภาคภูมิใจอย่างถึงที่สุด ความรู้สึกของมันที่มีต่อกระจกทองแดงนั้นไม่ผิด ผลคือกระจกทองแดงทรงพลังเป็นอย่างมาก จะต้องเป็นสมบัติต้นกำเนิดของความพิศวงอย่างแน่นอน
“จงสั่นสะท้าน จงหวาดกลัวเสียเถิด พวกเจ้าเตรียมตัวเผชิญหน้ากับการดับสูญ! ข้าจะลบล้างวิญญาณทั้งหมดของพวกเจ้าทิ้ง ทำให้พวกเจ้าสูญสลายไปอย่างสมบูรณ์!”
จ้าวหลานไม่อาจหยุดหัวเราะได้ อีกทั้งยังจงใจขยายเสียงหัวเราะของตนเองออกไป ทั่วทั้งอาณาจักรอวี้ซวีดังกึกก้องไปด้วยเสียงหัวเราะ มันเบิกบานใจเป็นอย่างยิ่ง สุขใจแบบถึงที่สุด
จะไม่ให้มันมีความสุขได้อย่างไร ในอึดใจสุดท้ายก่อนที่มันจะตาย มันมองไม่เห็นความหวังในการเผชิญหน้ากับเหล่าสมบัติได้แม้แต่น้อย ทั้งยังต้องทนกับการเยาะเย้ยเล่นสนุกของไม้เขี่ยฟืนโดยไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทว่าตอนนี้กระจกทองแดงกลับสำแดงพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา มีความสามารถมากพอจะสยบสมบัติทั้งหมดลงได้ ทุกอย่างพลิกกลับตาลปัตร มันย่อมอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้
แต่ในตอนนั้นเอง พลันมีฝ่ามือขนาดใหญ่ยื่นออกมาจากกระจกทองแดงพุ่งตรงเข้าหามัน
รอยยิ้มบนใบหน้าจ้าวหลานนิ่งค้าง มันหวาดกลัวอกสั่นขวัญแขวนเกือบปัสสาวะราดออกมา!
ฝ่ามือนี้ปกคลุมไปด้วยขนทั่วบริเวณ มีเจ็ดสีสับเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดูแล้วชวนให้รู้สึกแปลกประหลาดน่าขนลุกเป็นอย่างยิ่ง
“หนวกหู!”
เสียงโบราณดังขึ้นมาจากกระจกทองแดง จ้าวหลาน มัจฉาสัตมายา และเหล่าสมบัติต่างฟังแล้วไม่เข้าใจภาษา แต่พวกมันกลับสามารถเข้าใจความหมายได้
การโจมตีของมือที่เต็มไปด้วยขนนั้นฟาดลงมาอย่างรุนแรง พลังอันน่าสะพรึงกลัวไร้ขอบเขตจับจ้าวหลานเอาไว้ แม้ว่าจ้าวหลานต้องการจะร้องขอความเมตตาก็ไม่อาจทำได้!
มันร้องไห้ออกมาทันที หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก มันก็คงจะไม่กำเริบเสิบสานเอะอะโวยวายถึงเพียงนี้!
มันไม่รู้ว่า ความกำเริบเสิบสานเอะอะของมันจะไปยั่วยุสิ่งที่สถิตอยู่ด้านในกระจกทองแดง
มันรู้สึกไม่เป็นธรรมอยู่บ้าง!
มือขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยขนตบลงบนหัวของจ้าวหลานในทันใด เพียงแค่พริบตาเดียวร่างกายทั้งหมดของมันก็ระเบิดออกกลายเป็นหมอกละอองเลือด
เห็นได้ชัดว่า เจ้าของมือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยขนไม่ต้องการจะเอาชีวิตของจ้าวหลาน แม้ว่าร่างกายเลือดและเนื้อของจ้าวหลานจะระเบิดออก แต่วิญญาณก็ไม่ได้สลายหายไป ยังคงเหลือเศษเสี้ยวของวิญญาณอยู่ ไม่ได้ตายลงอย่างสมบูรณ์
“พรืด เจ้าทำข้าหัวเราะจนแทบจะตายแล้ว!”
ถังขยะอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “สมควรแล้ว สมควรแล้วจริง ๆ วางท่าเสแสร้งจนโดนตบ เจ้าช่างสุดยอดจริง ๆ!”
ก่อนหน้านี้จ้าวหลานวางท่ากำเริบเสิบสานผยองเป็นอย่างยิ่ง แต่ปรากฏว่ายังไม่ทันไรก็ถูกมือใหญ่ด้านในกระจกทองแดงตบจนร่างระเบิดออกกลายเป็นเพียงหมองละอองเลือด นี่มันช่างน่าขันเกินไปแล้ว!
“ยังโหดเหี้ยมไม่เพียงพอ ถ้าสังหารมันไปเลยจะดียิ่งกว่านี้”
ไม้เขี่ยฟืนเอ่ย “ส่วนหนึ่งของดวงวิญญาณมันยังคงหลงเหลืออยู่ อยากให้ข้าเผาทำความสะอาดมันให้หรือไม่?”
“บังอาจ!”
ทันใดนั้นเอง เสียงด้านในกระจกทองแดงก็ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับพลังกดดันอันมหาศาล ความว่างเปล่าทั้งหมดในอาณาจักรอวี้ซวีระเบิดออกมา กระทั่งดวงดาราอื่นที่อยู่รอบบริเวณยังได้รับผลกระทบ ถึงกับมีดาวดวงหนึ่งแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ กระจายตกลงมา
ทางด้านเหล่าสมบัติก็มีพลังที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าโจมตีพวกมันพร้อมกับเสียง พวกมันรีบระเบิดพลังออกมาต้านทานเอาไว้
ทว่าครั้งนี้พวกมันไม่อาจต้านทานได้อย่างราบรื่นเหมือนเคย ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป แสงที่เปล่งอยู่รอบกายสลัวลง
สีหน้าของมัจฉาสัตมายาพลันแปรเปลี่ยน ดูเหมือนว่าคราวนี้มันจะพบกับศัตรูตัวฉกาจเข้าแล้ว!