ตอนที่ 122 เม็ดยาพลิกสวรรค์
ฉู่ชิงเฉิงพาจั๋วฝานไปเนินเขา มีหลุมศพโดดเดี่ยวสามหลุมอยู่ท่ามกลางลมหนาว
“นี่คือพ่อแม่กับน้องชายของข้า!”ฉู่ชิงเฉิงถอนหายใจ
จั๋วฝานสังเกตเห็นว่าที่หลุมศพมีตัวอักษรเขียนว่า แม่ผู้เป็นที่รัก พ่อผู้เป็นที่รัก แต่ทว่า สิ่งสําคัญสุดคือบนแผ่นหินว่างเปล่า มีเสื้อคลุมสีดําพลิ้วไหวอยู่
พอเพ่งมองให้ใกล้ จะมีคําเขียนอยู่บนเสื้อคลุมว่า “เม็ดยาพลิกสวรรค์!”
“ช่างเป็นคนที่ยิ่งใหญ่นัก!”
จั๋ววฝานกรีดร้อง ผู้บ่มเพาะทุกคนต่างรู้ว่าวิถีแห่งการหลอมโอสถเป็นถนนที่กว้างและยาว ต่อให้ทุ่มเทแรงกายแรงใจจนหมด มันก็อาจเก็บได้แค่น้อยสิ่งตามทาง
แถม ทักษะหลอมอะไรที่ขัดต่อกฎสวรรค์ได้ มันอวดดีไปไหมกับชื่อเม็ดยาพลิกสวรรค์?แม้กระทั่งราชาเม็ดยาอสูรก็ไม่กล้าพูดอะไรทํานองนี้
เขาหันไปมองฉู่ชิงเฉิง ผู้ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น”เจ้าต้องพบว่ามันดูโอ้อวดสินะ?”
จั๋วฝานพยักหน้า ฉู่ชิงเฉิงเดินไปที่หลุมศพและลูบเสื้อคลุม”นี่คือน้องชายของข้า จู่ชิงเทียนและเสื้อคลุมนี้ ข้าก็ทําเพื่อเขา!”
อู่ชิงเทียน?
จั๋วฝานเลิกคิ้วพอเขานึกได้ นั่นไม่ใช่สายที่หมู่ตึกฮัวอวี่ส่งไปอยู่ข้างกายราชาเม็ดยาอสูรหรือ?[มันกลับกลายเป็นน้องชายนาง!]
[แต่การส่งน้องชายตัวเองไปเป็นสาย..ดูเหมือนหมู่ตึกฮัวอวจะขาดคนมีพรสวรรค์จริง!]
จั๋วฝานเลียริมฝีปาก
“ซ่งอรี่!”
ฉู่ชิงเฉิงหันไปมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน”เจ้ารู้ตัวไหม?ตอนเจ้าให้ผลไม้ข้าในสลัม ตอนเจ้าสู้เพื่อข้า ข้าเห็นชิงเทียนในตัวเจ้า!โดยเฉพาะตอนเจ้าสู้กับหยานฟู ภาพของเขาได้ซ้อนทับกับเจ้า”
ฉู่ชิงเฉิงน้ําตาไหลออกมา
จั๋วฝานหน้าแดงด้วยความละอาย เขามักคิดว่าการที่เขาได้เข้าใกล้ฉู่ซิงเฉิงนั้นต้องขอบคุณวิชาของตงเทียนปา มันกลายเป็นว่าเขาคือตัวแทนของน้องชายนาง
จั๋วฝานพึมพํา“งั้นพี่สาวลู่ก็พาข้ามาเพื่อเป็นน้องชายหรือ?”
ฉู่ชิงเฉิงจ้องเขา”ข้าบอกเจ้าให้หยุดเรียกข้าว่าพี่สาว เจ้าลืมแล้วหรือไง?”
จั๋วฝานสะดุ้ง
[ตัวแทนน้องชายแต่เรียกพี่สาวไม่ได้?]
ฉู่ชิงเฉิงสังเกตเห็นปฏิกิริยาเขาและส่ายหัว“บางที่ข้าคงถือว่าเจ้าเป็นน้องชายข้าแต่แรก แต่หลังวันนี้..”
ฉู่ชิงเฉิงหน้าแดงและพึมพํา“ตอนนี้ เจ้าไม่ใช่น้องชายข้าอีกแล้ว..”
นางพูดเพ้อจนจั๋วฝานไม่รู้ว่านางกําลังพูดอะไร”พ่อแม่ข้าเป็นศิษย์ทั่วไปของหมู่ตึกฮัวอวี่ ซึ่งล้มตายจากพิษของโถงราชาเม็ดยา ตั้งแต่เด็ก ข้ากับชิงเทียนสะบานว่าจะแก้แค้น ท่านย่าพบพรสวรรค์เราและสั่งสอนเราด้วยตัวเอง!”
“แต่ทว่า ชิงเทียนเป็นผู้ชายและหมู่ตึกฮัวอวี่ก็จะใช้ประโยชน์กับผู้ชายแค่ครั้งเดียว มันคือการแต่งงานและย้ายออกหมู่ตึก วิชาการหลอมของชิงเทียนนั้นสูงส่ง เขาไม่เต็มใจทิ้งขว้างมันและท้าทายหมู่ตึกโดยการไปเป็นศิษย์ของโถงราชาเม็ดยา”
“ไม่ใช่ว่าเขาเป็นสายหรือ?ทําไมเจ้าถึงใช้คําว่าท้าทาย?”จั๋วฝานขัด
ฉู่ชิงเฉิงพยักหน้าเจ้าพูดถูก แต่เราไม่รู้ถึงแผนของเขาตอนนั้น ขายังเขียนจดหมายเพื่อตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับเขาในตอนนั้น!สามปีให้หลังตอนเขากลับมาหมู่ตึกฮัวอวี่ เราถึงเข้าใจว่านี่คือแผนของท่านย่าตั้งแต่ต้น เขาไม่ได้ละทิ้งภารกิจและขโมยสูตรแก้พิษของฝ่ามือเมฆสายรุ้งมา เพราะการคุ้มกันอย่างเข้มงวดของโถงราชา เม็ดยา เขาจึงแกะสลักสูตรไว้บนแผ่นหลังเขาเอง มันจะไม่มีวันมองเห็นได้เว้นแต่จะเทของเหลวพิเศษลงไป
“เจ้ากําลังพูดว่าหนังมนุษย์ในถ้ํานั้นเป็นของน้องชายเจ้าหรือ?”หัวใจของจิ๋วฝานสั่นไหว ฉ่ชิงเทียนนั้นทําเพื่อหมู่ตึกจริงๆ
เขาต้องใช้หนังมนุษย์เพื่อเอาสูตรมา มันเห็นได้ชัดว่าอันตรายและยากลําบากแค่ไหน
นี่ทําให้จั๋วฝานคิดแผนบางอย่างที่จะใช้กับตระกูลถั่ว[ข้าควรหาพวกตายยากและส่งพวกมันไปอยู่ในตระกูลใหญ่อื่นดีไหม?]
แต่แผนของเขาต้องส่งผลกระทบมากกว่าของหมู่ตึกฮวอรี่ ขณะที่หมู่ตึกฮัวอวี่เสียเวลาเป็นสิบปีเพื่อสูตร เขามีแผนที่ใหญ่กว่าในหัว เช่นการนําสายของเข้าไปในตระกูลใหญ่ผ่านวิธีการพิเศษและรายงานทุกการเคลื่อนไหว
คัมภีร์ลับเก้าสมถะมีวิชาลับของผู้บ่มเพาะปีศาจที่ช่วยในเรื่องนี้ แต่มันโหดร้ายไป วิชาลับไม่ได้ใช้กับศัตรู แต่ใช้กับคนของเขาเอง เขามีแต่ต้องโหดเหี้ยมเพื่อจัดการกับเจ็ดตระกูลใหญ่
ดวงตาของจั๋วฝานทอประกายเย็นชา
ฉู่ชิงเฉิงพูดต่อ เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจปฏิกิริยาของเขา“การกลับมาของชิงเทียนทําให้ทุกคนตื่นเต้น ด้วยยาแก้พิษของฝ่ามือเมฆสายรุ้ง เราจะไม่มีเหตุผลต้องกลัวโกงราชาเม็ดยาอีก ขณะที่ทุกคนกระตือรือร้น ป้าเถากับชิงเทียนก็เริ่มหลอมมัน”
“แต่ทว่า สูตรนี้ช่างแปลกประหลาด!เจ้าหมู่ตึกที่โดนพิษแล้วตายตอนกําลังหลอมยาแก้ ขณะที่ผู้หลอมก็ติดพิษด้วย!”
“และน้องชายเจ้าก็ตายจากพิษ?สวรรค์ช่างโหดร้ายกับอัจฉริยะเหลือเกิน!”
จั๋วฝานถอนหายใจ นั่นคือความจริงและเขาก็รู้สึกเหมือนจะน้ําตาไหล ยาแก้พิษคือยาเม็ดระดับเจ็ด เขาคืออัจฉริยะด้านนี้อย่างแท้จริงถึงกับเข้าร่วมในการหลอมมันตั้งแต่อายุยังน้อย
[มันน่าเสียดายที่ชีวิตของเขาจบลงเร็วขนาดนี้]
ฉู่ชิงเฉิงส่ายหัว นัยน์ตานางเศร้าสลด “ไม่ เขาถูกเจ้าหมู่ตึกคนอื่นฆ่าตาย”
“อะไรนะ ไม่ใช่ว่าเขาทําเพื่อหมู่ตึกหรือ?ทําไม”
จั๋วฝานตกใจ แต่ไม่นานก็คิดออก
[ใครที่โชคร้ายสุดในโลกนี้ มันก็คือวีรบุรุษนิรนามไง!]
[ทําไม?]
[ฮ่าๆๆ เพราะไม่มีฝ่ายใดได้รับสิ่งที่ต้องการ!]
ฉู่ชิงเฉิงยืนยัน“พี่น้องข้าสงสัยว่าเขาจะเป็นสายของโถงราชาเม็ดยา เขาถึงได้นําสูตรปลอมเข้ามาทําลายบ้าน พวกนางฉวยโอกาสข้าตอนเจ้าหมู่ตึกชิงหัวกับมู่ตานไม่อยู่และทุบตีเขาจนตาย นี่คือความอัปยศของหมู่ ตึกฮัวอวี่ เราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบอกคนอื่นว่าเขาตายจากพิษ ขณะที่ป้าเถายังเชื่อว่าศัตรูนั้นเป็นของจริง และศึกษามันตลอด”
น้ําตาร่วงหล่นจากดวงตาของฉู่ชิงเฉิง จั๋วฝานอยากปลอบนางแต่นางโบกมือปฏิเสธ หยุดเขาไว้
“เพราะศพของชิงเทียนอยู่ในสภาพนั้น ข้าจึงทําได้แค่ฝังเขาไว้ที่นี่ ข้ากลัวว่าเขาจะโดนสาปส่ง ข้าจึงไม่สลักชื่อเขาไว้ ต่อมา ข้าย้ายหลุมศพของพ่อแม่ข้ามารวมกันที่นี่”
ฉู่ชิงเฉิงดึงมือของจั๋วฝานไปคํานับสามครั้งตรงหน้าหลุมศพซ่งอวี่ ตอนข้าตาย โปรดนําร่างของข้ามาพักกับพวกเขาด้วยนะ”
คําพูดของฉู่ซิงเฉิงเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและฟังดูเหมือนความปรารถนาสุดท้าย ทิ้งให้จั๋วฝานสับสน[นางวางแผนจะทําอะไร?]
“เด็กโง่ ข้าอยู่นี่ ไม่มีอะไรที่เจ้าต้องกังวล!”จั๋วฝานเผยสีหน้าจริงจังแบบหาได้ยาก
ฉู่ชิงเฉิงตกใจ แต่ไม่ช้าก็กลอกตา“เจ้ายังไม่ฟังอีก?ข้าบอกเจ้าให้เรียกชื่อข้า ตอนนี้เจ้าถึงกับกล้าเรียกข้าว่าโง่?”
“ฮ่าๆๆ พี่ชายตงบอกว่านี่จะทําให้ผู้หญิงรู้สึกปลอดภัย อะไร เจ้าไม่ชอบหรือ?” จั๋วฝานเกาหัวแกล้งทําเป็นโง่
นางจ้องเขาตาเขม็ง“พี่ชายของเจ้ามันเป็นพวกขยะ อยู่ให้ห่างจากเขาซะ!”
จั๋วฝานยักไหล่
“ตอนนี้ ตามข้าไปที่สุดท้าย”
หลังไปพบท่านย่าและทําความเคารพครอบครัว ฉู่ชิงเฉิงก็หยิบเสื้อคลุมและดึงจั๋วฝานไป
15 นาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงที่คุ้นเคย
จั๋วฝานบึงพอพบว่านี่คือสลัมที่พวกเขาพบกันครั้งแรก
“อ่อ ทําไมเราถึงมาที่นี่อีก?
จั๋วฝานหยอกล้อ“ใช่ ทําไมเจ้าหมู่ตึกใหญ่ถึงต้องมาซ่อนตัวที่นี่ในฐานะหญิงวิบัติด้วย?”
ฉู่ชิงเฉิงสูดหายใจลึก“ข้าไม่มีทางเลือก ข้าโมโหเรื่องชิงเทียน ข้าจึงไปหาหยานซึ่งเพื่อคิดบัญชี และก็ติดพิษมาด้วย ข้าไม่ได้บอกให้ใครรู้เรื่องนี้ กลัวว่าจะส่งผลต่อความมั่นคงของหมู่ตึกฮัวอวี่ ข้าอ้างว่าเขาปิดด่านบ่มเพาะ แต่จริงๆกําลังใช้พลังหยินของดวงจันทร์เพื่อสะกดพิษ นี่ทําให้ข้าโดนเรียกว่าหญิงวิบัติ”
จั๋วฝานพยักหน้าและฉู่ชิงเฉิงก็พลันนําเสื้อคลุมดํามาโอบไหล่เขา
จั๋วฝานมองนาง
ฉู่ชิงเฉิงยิ้ม“ซงอวี่ ข้ามเวลาไม่มาก ข้าหวังว่าเจ้าจะมาแทนที่ชิงเทียน และให้ข้ารู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว”
“ฮ่าๆ สุดท้ายข้าก็ยังเป็นน้องชาย..”จั๋วฝานหัวเราะ
ปีก!
ทันใดนั้นเอง ฉู่ชิงเฉิงก็โอบกอดรอบแผ่นหลังเขาและหลับตานาง จั๋วฝานตกใจจนหยุดพูด
“ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าไม่ใช่น้องชายข้า แค่ให้ข้ารู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”
ฉู่ชิงเฉิงจ้องตาเขา นางลังเลก่อนถอดผ้าคลุมหน้าออก
ความงามแสนสะดุดตาของนางเผยต่อหน้าเขาอีกครั้ง ทําให้หัวใจของเขาหยุดเต้น เขาตาลายไปชั่วขณะแม้จะเคยเห็นหน้านางมาแล้ว
ฉู่ซิงเฉิงสังเกตเห็นมันและแก้มแดงซ่งอวี่ ชิงเทียนบอกข้าว่ารอยยิ้มของข้าสามารถพลิกเมือง เม็ดยาของเขาสามารถพลิกสวรรค์ ข้าหวังว่าเจ้าจะให้ข้าได้รับรู้ถึงความทรงจําแสนอบอุ่นของเราด้วยกัน”
จั๋วฝานอดทวนคําพูดนางไม่ได้ เขาสับสนเกินไป แค่พยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว
ฉู่ชิงเฉิงยิ้มขอบคุณ ขอบใจนะ!”
ทั้งสองเริ่มใช้ชีวิตแบบชายหญิงทั่วไปในบ้าน พวกเขาเหมือนคนทั่วไป ด้วยจั๋วฝานที่ซ่อมบ้านและฉู่ชิงเฉิงซักผ้าและทําข้าวก่อนจะนั่งกินด้วยกัน
สามวันผ่านไป จั๋วฝานไม่เคยรู้สึกสงบสุขเช่นนี้มาก่อน
เขาไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยซ้ํา จักรพรรดิปีศาจผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาจะใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่าแบบนี้? แต่วันเหล่านี้ก็ใช้ไปโดยไม่มีความกังวลอะไร ราวกับเขากําลังใช้ชีวิตในฝัน
น่าเสียดาย นี่คือการกระทําที่ตกอยู่ในสายตาชั่วร้ายคู่หนึ่งซึ่งซุ่มซ่อนในความมืด
เขาคือยอดฝีมือนภา
คนคนนั้นจากไปและไม่ช้าก็ไปถึงห้องรับรองของหมู่ตึกฮัวอวี่ เขาเข้าห้องที่เต็มไปด้วยคนไปเงียบๆ
ราชาเม็ดยาอสูร หลินจือเทียนแห่งป่าไขว่ฮัว ผู้อาวุโสห้าแห่งโหยวหมิงก่ล้วนอยู่ที่นี่ และที่นําพวกเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายน้อยแห่งประตูจักรพรรดิ หวงปู่ชิงหยุน
คนคนนั้นไปกระซิบข้างหูของนายน้อยสอง
ปัง!
ถ้วยชาในมือของเขาแหลกเป็นชิ้นๆ หวงปู่ชิงหยุนโกรธจัด
“นายน้อย เกิดอันใดขึ้น?” ราชาเม็ดยาอสูรถาม
หวงปู่ชิงหยุนกําหมัด“นางแพศยานั่นถอดผ้าคลุมหน้านางให้ไอเด็กบัดซบนั่น!”
หวงปู่ชิงหยุนบินตรงไปสลัมทันที