เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 269 ฐานะของผู้อาวุโสเย่

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่​ 269 ฐานะ​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ เย่​ฉางชิงก็ได้​เอ่ย​กับ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ข้า​จะมอบ​ภาพ​อักษร​พู่​กันที่​มิใช่หัวข้อ​กระบี่​ให้​ท่าน​ก็แล้วกัน​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ และ​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิงในทันที​

“เช่นนั้น​คง​ต้อง​รบกวน​ท่าน​เย่​แล้ว​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​

เย่​ฉางชิงโบกมือ​ไปมา​ จากนั้น​ก็​มอง​ไป​ทาง​หนาน​กง​เสวียน​จี

หนาน​กง​เสวียน​จีนิ่งอึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะรีบ​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ท่าน​เย่​ ข้า​มิอยากได้​ภาพ​อักษร​พู่กัน​ และ​มิอยากได้​ภาพวาด​ขอรับ​ หาก​เป็นไปได้​ท่าน​เย่​ช่วย​ชี้แนะ​การ​เดินหมาก​ให้​ข้า​หน่อย​ได้​หรือไม่​ขอรับ​ ? ”

เย่​ฉางชิงชะงัก​ไป​สักครู่​ ก่อน​จะพยักหน้า​ออกมา​ยิ้ม​ ๆ

‘นี่​ถือ​เป็นหนี้บุญคุณ​จาก​หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​เชียว​นะ​ ! ’

‘สุดท้าย​ผู้บำเพ็ญเพียร​สอง​ท่าน​นี้​ คน​หนึ่ง​อยากได้​ภาพ​อักษร​พู่​กันที่​มิใช่หัวข้อ​กระบี่​เพียง​ภาพ​เดียว​ ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​เพียงแค่​ต้องการ​ให้​เขา​ชี้แนะ​การ​เดินหมาก​ให้​’

‘นี่​มัน​จะง่าย​เกินไป​หน่อย​กระมัง​ ? ’

เย่​ฉางชิงครุ่น​คิดในใจ​ ก่อน​จะชำเลือง​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่อยู่​ข้าง ๆ​ เงียบ ๆ​

ผู้เฒ่า​สวม​เสื้อ​ป่าน​ผู้​นี้​มิต่าง​อะไร​กับ​ผู้บำเพ็ญเพียร​คนอื่น​ ๆ คง​มิต้อง​บอ​กว่า​ตบะ​บารมี​นั้น​จะน่ากลัว​เพียงใด​

ทว่า​อาศัย​เพียงแค่​เสื้อผ้าอาภรณ์​บน​กาย​ และ​ลักษณะ​ท่าทาง​ที่​ออก​มาจาก​ภายใน​นั้น​ คงจะ​อยู่​เหนือกว่า​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีเป็นแน่​

หาก​มิใช่เพราะ​กังวล​เรื่อง​ฐานะ​ที่​สูงส่งของ​ตัวเอง​ใน​ตอนนี้​แล้ว​ล่ะ​ก็​ เย่​ฉางชิงอยาก​จะสนทนา​แลกเปลี่ยน​แนวความคิด​กับ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เสีย​เดี๋ยวนี้​

‘ท่าน​ผู้เฒ่า​ วันนี้​มาท่าน​มิมีสิ่งใด​ที่​อยาก​จะร้องขอ​บ้าง​เลย​หรือ​ ? ’

‘ข้า​เป็น​คนพูด​ง่าย​นะ​’

‘หิน​หุน​หยวน​มิกี่​แสน​ก้อน​ก็​สามารถ​แลก​ภาพ​อักษร​พู่กัน​หรือ​ภาพวาด​ของ​ข้า​ได้​แล้ว​’

‘เป็น​การค้า​ที่​ยุติธรรม​อย่าง​แน่นอน​ ! ’

………………………….

หลังจาก​นิ่งเงียบ​อยู่​สักพัก​ เย่​ฉางชิงก็​เบน​สายตา​ไปหา​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​มีท่าทาง​แปลก ๆ​

“มิทราบ​ว่าที่​ท่าน​มาวันนี้​ ต้องการ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​หรือ​ภาพวาด​เยี่ยง​นั้น​หรือ​ ? ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ถามด้วย​น้ำเสียง​ที่​นุ่มนวล​ พร้อม​ใบ​หน้าที่​แฝงรอยยิ้ม​สบาย​ ๆ เอาไว้​

แม้จะพบ​หน้า​กัน​เป็นครั้งแรก​ แต่​ใน​เมื่อ​มาแล้ว​เช่นนั้น​ก็​มอบ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​หรือ​ภาพวาด​อะไร​ให้​ไป​ก็แล้วกัน​

มิแน่​อีก​ฝ่าย​อาจจะ​มอบ​สุดยอด​สมบัติ​บางอย่าง​ให้​ก็​เป็นได้​

หรือ​บางที​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​สักพัก​ อาจจะ​นำ​หิน​หุน​หยวน​หลาย​แสน​ก้อน​มามอบให้​ก็ได้​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ พร้อมกับ​แสดงท่าทาง​หวาดหวั่น​ออกมา​

“ท่าน​… เย่​ ที่​ข้า​มาใน​ครา​นี้​ เพียง​เพื่อ​จะได้​พบ​หน้า​ท่าน​สัก​ครา​เพียง​เท่านั้น​ขอรับ​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เอ่ย​ด้วย​เสียง​ที่​สั่นเทา​ พร้อม​รอย​ยิ้มแห้ง​ ๆ

‘พบ​หน้า​สัก​ครา​ ? ’

เย่​ฉางชิงขมวดคิ้ว​เบา​ ๆ แววตา​ฉาย​ประกาย​ผิดหวัง​ออกมา​แวบ​หนึ่ง​

‘ดูท่า​แม้จะเป็น​ผู้บำเพ็ญเพียร​ที่อยู่​ใน​ระดับ​เดียวกัน​ ทว่า​แต่ละคน​กลับ​มียังมี​ความคิด​ที่​แตก​ต่างกัน​ไป​สินะ​’

‘ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ผู้​นี้​ปกติ​คงจะ​เป็น​คน​ขี้เหนียว​เป็นแน่​ คง​กลัว​ว่า​หาก​นำ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​หรือ​ภาพวาด​ไป​แล้ว​ จะต้อง​เอา​สมบัติ​อะไร​มามอบให้​เขา​เป็น​การตอบแทน​ใน​ภายหลัง​เป็นแน่​’

‘มิน่าเล่า​ถึงได้​สวม​เพียง​เสื้อ​ผ้าป่าน​ ที่แท้​ก็​มิใช่เพราะ​มีตบะ​บารมี​สูงส่งกว่า​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จี แต่​เพราะ​เป็น​คน​ขี้​งก​ก็​เท่านั้นเอง​ ! ’

เย่​ฉางชิงคิด​แล้วก็​ยก​กา​น้ำชา​ขึ้น​เติม​ให้​กับ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​

“ใน​เมื่อ​มาแล้วก็​นับว่า​มีวาสนา​ต่อกัน​ เช่นนั้น​ข้า​จะมอบ​ภาพวาด​ให้​ท่าน​สัก​ภาพ​ก็แล้วกัน​”

คำพูด​ของ​เย่​ฉางชิงนั้น​อาจ​เต็มไปด้วย​เรื่อง​ของ​โชควาสนา​ ซึ่งนั่น​ทำให้​เขา​ยิ่ง​ดู​เป็น​คน​ที่​ลึกล้ำ​ขึ้นไป​อีก​

ทว่า​ความจริง​เขา​มิได้คิด​เช่นนั้น​

ที่จริง​แล้ว​เขา​มองว่า​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ผู้​นี้​คงจะ​เป็น​คน​ขี้​งก​ ทว่า​ก็​ยัง​เป็น​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับแนวหน้า​เช่นกัน​

เช่นนี้​แล้ว​การ​ที่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​บำเพ็ญ​เพียร​มาจนถึง​ทุกวันนี้​ จะต้อง​มีของ​วิเศษ​ฟ้าดิน​หรือว่า​สมบัติ​โบราณ​ที่​สืบทอด​กัน​มาเก็บ​สะสมไว้​มากมาย​อย่าง​แน่นอน​

อีก​ทั้ง​ยัง​โดน​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีเป่าหู​มาแล้ว​

เช่นนั้น​ขอ​เพียง​เขา​มอบ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​หรือ​ภาพวาด​ให้​คน​ผู้​นี้​สัก​ภาพ​ อีก​ฝ่าย​จะต้อง​ระลึก​อยู่​ภายในใจ​อย่าง​แน่นอน​

เย่​ฉางชิงที​มีชีวิต​อยู่​มาแล้ว​ถึงสอง​โลก​ ย่อม​เข้าใจ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​เป็น​อย่าง​ดี​

นั่น​ก็​คือ​ยิ่ง​เป็น​คน​ที่​ขี้​งก​เท่าไร​ ก็​ยิ่ง​มีจิตใจ​คับแคบ​เท่านั้น​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เปลี่ยนไป​อีกครั้ง​ พร้อมกับ​มีท่าทาง​ประหม่า​ขึ้น​มาอย่าง​ชัดเจน​

หลังจาก​ลังเล​อยู่​สักพัก​ เขา​ก็​อด​มิได้​ที่จะ​ชำเลือง​มอง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​หนาน​กง​เสวียน​จีที่อยู่​ข้าง ๆ​

“ทั้งสอง​ท่าน​ ข้า​ควร​ทำ​เช่นไร​ดี​ ? ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เพ่ง​กระแสจิต​ไป​ถามหนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​

มุมปาก​ของ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​โค้ง​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​ พลาง​ตอบกลับ​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ท่าน​ยัง​จำได้​หรือไม่​ว่า​ตอน​อยู่​นอกเมือง​เสี่ยว​ฉือ​ ราชัน​ทมิฬ​กล่าว​ไว้​ว่า​เยี่ยง​ไร​?”

หนาน​กง​เสวียน​จีเอง​ก็​เพ่ง​กระแสจิต​ พร้อม​เอ่ย​ขึ้น​เช่นกัน​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ท่าน​มิต้อง​กังวล​ ผู้อาวุโส​เย่​เป็น​คน​สุภาพอ่อนโยน​เช่นนี้​มาแต่ไหนแต่ไร​ ภาพ​อักษร​พู่กัน​และ​ภาพวาด​ของ​เขา​ล้วน​แฝงไว้​ซึ่งเจตจำนง​ที่​แท้จริง​แห่ง​เต๋า​ มิต่าง​อัน​ใด​กับ​โอกาส​และ​วาสนา​อัน​ยิ่งใหญ่​เลย​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ชั่งใจอยู่​พัก​หนึ่ง​ จึงได้​พยักหน้า​น้อย​ ๆ

ขณะเดียวกัน​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ พลาง​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง “ตามที่​ท่าน​เย่​เห็นสมควร​เถอะ​ขอรับ​”

เย่​ฉางชิงยิ้ม​ออกมา​ จากนั้น​จึงลุกขึ้น​เอ่ย​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​พวก​ท่าน​โปรด​รอ​อยู่​ตรงนี้​สักครู่​”

เอ่ย​จบ​เย่​ฉางชิงก็​ค่อย ๆ​ เดิน​ไป​ทาง​ห้องนอน​

ทว่า​ทันทีที่​เย่​ฉางชิงก้าว​เข้า​ห้อง​ไป​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เหมือน​สัมผัส​ได้​ถึงบางอย่าง​

ทันใดนั้น​เขา​ก็​หันไป​มอง​ยัง​ต้น​หลิว​ที่อยู่​มิไกล​นัก​

“ไอ​พลัง​นี่​…”

สายตา​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จ้องเขม็ง​ไป​ยัง​ต้น​หลิว​ที่​เขียวขจี​ ใบ​หลิว​ปลิว​ไสว​ไป​ตาม​ลม​ต้น​นั้น​

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ภายใน​โสตประสาท​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​มีเสียง​ลึกลับ​และ​ทรงพลัง​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​

“มนุษย์​น้อย​ คาด​มิถึงว่า​เจ้ากับ​ข้า​จะได้​พบกัน​อีก​ครา​ที่นี่​”

ยัง​มิทัน​สิ้น​เสียง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พลัน​มีสีหน้าที่​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​

‘มิผิด​แน่​ ! ’

‘มิผิด​แน่​ ! ’

‘เป็น​ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​ ! ’

หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​

เขา​เคย​พูดคุย​กับ​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​หนึ่ง​ ที่​ชายแดน​ของ​แดน​ต้องห้าม​แห่ง​นั้น​

อีก​ทั้งเป็น​เขา​เอง​ที่​เปิดผนึก​ค่าย​กล​แดน​ต้องห้าม​ เพื่อ​ปล่อย​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​ออกมา​

ส่วน​เหตุผล​นั้น​ก็​มิได้​มีอะไร​ซับซ้อน​

นั่น​ก็​คือ​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​กำลังจะ​ได้​บรรลุ​เป็น​เซียน​

แม้แต่​ผนึก​แดน​ต้องห้าม​ก็​มิอาจ​ขวางทาง​ของ​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​ได้​

ในทางกลับกัน​หาก​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​ก้าว​ออกจาก​แดน​ต้องห้าม​ไป​ นั่น​หมายความว่า​ผนึก​ค่าย​กล​รอบ​ ๆ แดน​ต้องห้าม​จะถูก​ทำลาย​ลง​ไป​ด้วย​

ถึงตอนนั้น​สิ่งมีชีวิต​โบราณ​มากมาย​ก็​จะพา​กัน​กระโจน​ออกจาก​แดน​ต้องห้าม​ และ​จงหยวน​ก็​จะต้อง​เดือดร้อน​ไป​ทั่ว​ทุกหย่อมหญ้า​ กลายเป็น​นรก​บน​ดิน​

เช่นนั้น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จึงจดจำ​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

ทว่า​สิ่งที่​ทำให้​เขา​คาด​มิถึงก็​คือ​ สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นี้​กลับมา​อยู่​ที่นี่​ได้​เยี่ยง​ไร​

“ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​คารวะ​ผู้อาวุโส​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​ พร้อมกับ​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​ต้น​หลิว​ต้น​นั้น​

“นั่งลง​เถอะ​”

“นาย​ท่าน​พักผ่อน​อยู่​ที่นี่​ เจ้ากับ​ข้า​อย่า​ได้​รบกวน​นาย​ท่าน​จะดีกว่า​”

เสียง​ลึกลับ​ดัง​ขึ้น​อีกครั้ง​ “อีก​อย่าง​หาก​นับ​ดู​แล้ว​ ตอนนั้น​ข้า​เอง​ก็​ยัง​ติด​หนี้บุญคุณ​เจ้าอยู่​”

“เจ้ามาวันนี้​ นาย​ท่าน​จะต้อง​มอบ​โอกาส​ที่​หาที่เปรียบมิได้​ให้​แก่​เจ้า นับแต่นี้ไป​เจ้ากับ​ข้า​ก็​นับว่า​มิติดค้าง​อะไร​กัน​อีกแล้ว​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ลังเล​เล็กน้อย​ จากนั้น​จึงค่อย ๆ​ นั่งลง​

“ผู้อาวุโส​ ตอนนั้น​ที่​ท่าน​ออก​มาจาก​แดน​ต้องห้าม​ ท่าน​กำลังจะ​บรรลุ​ขึ้น​สวรรค์​มิใช่หรือ​ขอรับ​ เหตุใด​จึงมาอยู่​ที่นี่​ได้​เล่า​ขอรับ​ ? ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เพ่ง​กระแสจิต​ถามออก​ไป​

“การ​ขึ้น​สวรรค์​ไหน​เลย​เป็นเรื่อง​ง่าย​ ข้า​บำเพ็ญ​เพียร​มานับ​แสน​ปี​ น่าเสียดาย​ที่​ร่างกาย​นี้​กลับ​มิอาจ​ทน​รับ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​เส้น​สุดท้าย​ได้​ ท้ายสุด​จึงเกือบ​ดับสูญ​ไป​”

เสียง​ลึกลับ​เอ่ย​ตอบ​ “แต่​โชคดี​ที่​ได้​นาย​ท่าน​ หลังจากที่​ข้า​แปลงกาย​เป็น​ไม้ที่​โดน​ฟ้าผ่า​ก็ได้​กำเนิด​ขึ้น​มาใหม่​อีก​ครา​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พยักหน้า​รับรู้​ จากนั้น​จึงถามหยั่งเชิง​ว่า​

“ผู้อาวุโส​เย่​ ท่าน​…ทราบ​หรือไม่​ว่า​ ผู้อาวุโส​เย่​ท่าน​นี้​แท้จริง​แล้ว​เป็น​ผู้ใด​กัน​แน่​หรือ​ขอรับ​ ? ”

เสียง​ลึกลับ​เงียบ​อยู่​เช่นนั้น​เนิ่นนาน​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​สงบ​ว่า​

“หาก​ข้า​เดา​มิผิด​ล่ะ​ก็​นาย​ท่าน​คงจะ​ผนึก​ตนเอง​เอาไว้​ จึงจำเป็นต้อง​พักฟื้น​อยู่​ที่นี่​ ส่วน​แท้จริง​แล้ว​นาย​ท่าน​เป็น​ผู้ใด​นั้น​ ข้า​เอง​ก็​มิอาจ​คาดเดา​ได้​เช่นกัน​”

“แต่​ข้า​สามารถ​บอก​ได้​เลย​ว่า​ แม้แต่​โลก​เบื้องบน​ด้วย​ตบะ​บารมี​ของ​นาย​ท่าน​ ก็​เพียง​พอที่จะ​ทำให้​สรวงสวรรค์​สั่นสะเทือน​ได้​แล้ว​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีท่าทาง​ตื่นตระหนก​

‘ทำให้​สรวงสวรรค์​สั่นสะเทือน​ ! ’

‘จะต้อง​เป็น​คน​เช่นไร​กัน​ ! ’

‘น่า​เหลือเชื่อ​ ! ’

‘คาด​มิถึงจริง ๆ​ ! ’

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เพ่ง​กระแสจิต​อีกครั้ง​ “ขอบคุณ​ผู้อาวุโส​ที่​ช่วย​ไข​ข้อสงสัย​ขอรับ​”

“ใน​เมื่อ​วันนี้​เจ้ามาถึงนี่​แล้ว​ เช่นนั้น​เจ้าก็​นำ​โอกาส​ที่​นาย​ท่าน​มอบให้​กลับ​ไป​ด้วย​เถอะ​ ขณะเดียวกัน​วันหน้า​ก็​อย่า​ได้มา​รบกวน​ความสงบ​ของ​นาย​ท่าน​อีก​”

สิ้น​เสียง​เย่​ฉางชิงก็​เดิน​ถือ​ภาพ​อักษร​พู่กัน​และ​ภาพวาด​อย่าง​ละ​หนึ่ง​ภาพ​ ออก​มาจาก​ภายใน​ห้อง​ด้วย​ท่าที​ที่​มิรีบร้อน​

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… ……เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท