เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 271 ผู้อาวุโสเย่สอนหลักธรรมให้แก่หนานกงเสวียนจี

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

“ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ขอบคุณ​ท่าน​เย่​ที่​มอบ​ของขวัญ​มีค่า​เช่นนี้​ให้​ขอรับ​ ! ”

หลังจาก​ได้สติ​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​อีกครั้ง​ ก่อน​จะโค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง

เมื่อ​เห็น​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​และ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ยินดี​ถึงเพียงนี้​

ใบหน้า​เกลี้ยงเกลา​ของ​เย่​ฉางชิงก็​เผย​รอยยิ้ม​พึงพอใจ​ออกมา​

‘ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​เหล่านี้​ เป็น​คน​ที่​พึงพอใจ​อะไร​ง่าย ๆ​ จริง ๆ​’

‘ข้า​เพียงแค่​มอบ​ภาพ​ให้​คนละ​ภาพ​ ผู้บำเพ็ญเพียร​สอง​ท่าน​นี้​ก็​ตื่นเต้น​ดีใจ​กัน​ถึงเพียงนี้​แล้ว​’

‘สมกับ​คำ​ที่ว่า​ผู้​ที่​รู้จัก​พอ​จึงจะมีความสุข​ จิตใจ​เช่นนี้​ช่างน่าอิจฉา​จริง ๆ​ ! ’

“แค่​เรื่อง​ง่าย ๆ​ เท่านั้น​ มิได้​ลำบาก​อัน​ใด​เลย​ ! ”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​พลาง​โบกมือ​ให้​อย่าง​มิใส่ใจ

พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นิ่งอึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะฉีก​ยิ้ม​ออกมา​

จริง​ด้วย​ !

มิว่า​จะเป็น​อักษร​พู่กัน​หรือว่า​ภาพวาด​ สำหรับ​พวกเขา​แล้ว​ มิต่าง​อะไร​กับ​โอกาส​และ​วาสนา​อัน​ยิ่งใหญ่​เลย​

ทว่า​สำหรับ​ผู้อาวุโส​เย่​แล้ว​ กลับเป็น​เพียง​เรื่อง​ธรรมดา​เท่านั้น​ !

นี่​คือ​คน​ที่อยู่​ใน​ระดับสูง​อย่าง​ผู้อาวุโส​เย่​นี่เอง​ !

ผู้​ที่​ทำให้​พวกเขา​ทำได้​เพียง​วาดหวัง​ที่จะ​เจริญรอยตาม​ !

หลังจาก​เงียบ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ค่อย ๆ​ เงยหน้า​ขึ้น​ และ​เอ่ย​กับ​เย่​ฉางชิงว่า​

“ท่าน​เย่​ หาก​ท่าน​มีสิ่งใด​ที่​ต้องการ​ได้​โปรด​บอก​มาได้​เลย​ ข้า​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​รวมทั้ง​ตระกูล​ซีเห​มินข​อง​ข้า​จะทำ​ตามคำสั่ง​อย่าง​มิมีข้อแม้​ขอรับ​”

ความหมาย​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นั้น​ชัดเจน​อย่าง​มาก​

นั่น​ก็​คือ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​รวมทั้ง​ตระกูล​ซีเห​มิน​เต็มใจ​ที่จะ​เป็น​หมาก​ให้​กับ​เย่​ฉางชิงนั่นเอง​

เมื่อ​ได้ยิน​คำสัญญา​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​

หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​อย่า​งอด​มิได้​

ผู้อาวุโส​อย่าง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ยัง​ประกาศ​เจตนา​ชัดเจน​ถึงเพียงนี้​แล้ว​ พวกเขา​เอง​ก็​ย่อม​มิอาจ​นิ่งเฉย​ได้​

คิดได้​เช่นนั้น​ หนาน​กง​เสวียน​จีจึงลุกขึ้น​ พร้อม​เอ่ย​กับ​เย่​ฉางชิงด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ “ท่าน​เย่​ นับแต่​นี้​ต่อไป​ ข้า​ หนาน​กง​เสวียน​จี จะยอม​บุกน้ำลุยไฟ​เพื่อ​ท่าน​เอง​ขอรับ​ ! ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอง​ก็​มิยอมแพ้​เช่นกัน​ “ท่าน​เย่​ แต่​นี้​ต่อไป​ท่าน​สามารถ​เรียก​ใช้ข้า​ ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ รวมทั้ง​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ของ​ข้า​ได้​ตลอด​เลย​นะ​ขอรับ​ ! ”

ทว่า​เมื่อ​เย่​ฉางชิงได้​เห็นภาพ​ตรงหน้า​

กลับ​มีท่าทาง​ตกตะลึง​อย่าง​ห้าม​มิได้​

ก่อนหน้านี้​ตอน​อยู่​ใน​หอ​เก็บ​ตำรา​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ เขา​ได้​ทำความเข้าใจ​กับ​การ​แบ่ง​อำนาจ​ของ​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​แห่ง​นี้​มาบ้าง​แล้ว​

อย่างเช่น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ผู้​นี้​ มีความเป็นไปได้​สูงที่​เขา​จะมาจาก​ตระกูล​โบราณ​ซีเห​มิน​ที่​เป็น​หนึ่งในสี่​ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​

มีตำรา​โบราณ​ใน​หอ​เก็บ​ตำรา​บันทึก​เอาไว้​

ระหว่าง​ที่​ลัทธิ​เต๋า​ใน​จงหยวน​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ความเป็นความตาย​

ได้​มีสี่ตระกูล​ลับ​โบราณ​ปรากฏตัว​ขึ้น​ และ​ได้​ช่วยเหลือ​ลัทธิ​เต๋า​เอาไว้​ ช่วย​ให้​ทุก​ชีวิต​พ้น​จาก​อันตราย​

มิหนำซ้ำ​สี่ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​นี้​ยัง​ลึกลับ​อย่างยิ่ง​อีกด้วย​

ผู้​แข็งแกร่ง​ภายใน​ตระกูล​ราวกับ​เมฆา น้อย​นัก​ที่​คน​ของ​ตระกูล​โบราณ​จะเข้ามา​ยังโลก​มนุษย์​ แต่​หาก​เข้ามา​เมื่อใด​ย่อม​ต้อง​สั่นสะเทือน​ไป​ทั่ว​ทั้งโลก​บำเพ็ญ​เพียร​อย่าง​แน่นอน​

แค่​คิด​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​สี่ตระกูล​โบราณ​นี้​น่าเกรงขาม​เพียงใด​

แน่นอน​ว่า​หนึ่งในสี่​ตระกูล​โบราณ​

ยัง​มีตระกูล​โบราณ​หนาน​กง​รวม​อยู่​ด้วย​

อีก​ทั้ง​หนาน​กง​เสวียน​จียัง​เป็น​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​อีกด้วย​ เช่นนั้น​ฐานะ​ของ​เขา​ย่อม​มีบทบาท​สำคัญ​อย่าง​แน่นอน​

ส่วน​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ที่​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​เอ่ยถึง​นั้น​

แม้นิกาย​หมื่น​กระบี่​จะมิใช่หนึ่ง​ใน​ห้า​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​จงหยวน​ แต่​กล่าว​กัน​ว่า​ความสามารถ​ของ​นิกาย​หมื่น​กระบี่​ก็​มิได้​ด้อย​ไป​กว่า​ห้า​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​แต่อย่างใด​

เมื่อ​เห็น​ท่าที​ของ​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​ทั้ง​สามท่าน​เช่นนี้​ อีก​ทั้ง​ยัง​เกี่ยวพัน​ถึงตระกูล​และ​สำนัก​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ของ​พวกเขา​แล้ว​

เย่​ฉางชิงก็​รู้สึก​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​วิ๊ง​ดัง​ขึ้น​โสตประสาท​

‘นี่​มัน​ดูเล่น​ใหญ่​เกินไป​หน่อย​กระมัง​ ! ’

‘พวก​เจ้าควรจะ​รู้​เอาไว้​ว่า​ ตอนนี้​ข้า​เป็น​เพียง​ผู้บำเพ็ญเพียร​น้องใหม่​ที่อยู่​ระดับ​รวม​ชีพจร​เท่านั้น​นะ​’

‘และ​การ​ที่​พวก​เจ้าเล่น​ใหญ่​กัน​เช่นนี้​ คนใน​ตระกูล​หรือ​สำนัก​ของ​พวก​เจ้าเขา​รู้เรื่อง​ด้วย​หรือไม่​ ? ’

‘อีก​อย่าง​พวก​เจ้าช่วย​คิดถึง​จิตใจ​ของ​ข้า​บ้าง​เถอะ​’

‘เพราะ​คำพูด​เหล่านี้​ของ​พวก​เจ้า ทำให้​ข้า​มิอยาก​ที่จะ​ต่อสู้​กับ​อะไร​แล้ว​’

‘เฮ้อ​ ! ’

‘พวก​เจ้ารวมหัว​กัน​แกล้ง​ข้า​ชัด​ ๆ ! ’

เย่​ฉางชิงได้​แต่​พร่ำบ่น​อยู่​ภายในใจ​ ก่อน​จะพ่น​ลมหายใจ​ออกมา​ พลาง​พยายาม​สะกดอารมณ์​ของ​ตัวเอง​เอาไว้​

เขา​รู้ดี​ว่า​หาก​ฐานะ​ที่​แท้จริง​ของ​ตน​เปิดเผย​ขึ้น​มาวันใด​ ทั้งหมด​นี้​ก็​จะเป็น​เพียง​เรื่อง​ที่​เคย​เกิดขึ้น​เท่านั้น​

และ​มิเพียงแต่​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​เหล่านี้​เท่านั้น​ที่​เขา​มิควร​ล่วงเกิน​ ทว่า​ยัง​รวมถึง​ตระกูล​และ​สำนัก​เบื้องหลัง​ของ​พวกเขา​อีกด้วย​!

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​พักใหญ่​ เย่​ฉางชิงก็​ยก​ยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​ออกมา​ จากนั้น​ก็​โบกมือ​ปฏิเสธ​ให้​แก่​ทั้ง​สามคน​

“ความหวังดี​ของ​ทั้ง​สามท่าน​ ข้า​ขอรับ​เอาไว้​ด้วยใจ​ แต่​มิต้อง​ทำ​ถึงขนาด​นั้น​หรอก​”

เย่​ฉางชิงมิได้​แสดง​สีหน้า​ใด​ ๆ ออกมา​ เขา​เพียงแค่​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​อ่อนโยน​เท่านั้น​

“อีก​อย่าง​ข้า​มองว่า​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เรา​ควร​อยู่​กัน​อย่าง​สงบ​ มิควร​เกิด​ความขุ่นเคือง​กัน​เพราะ​เรื่องเล็ก​ ๆ น้อย​ ๆ และ​ยิ่ง​มิควร​เกิด​การต่อสู้​ระหว่าง​สำนัก​ขึ้น​ด้วย​”

“ข้า​หวัง​ว่า​ทุกท่าน​จะอยู่​กัน​อย่าง​สงบ​ ! ”

พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ส่งสายตา​ให้​กัน​ จากนั้น​จึงพยักหน้า​น้อย​ ๆ

‘ใช่แล้ว​ ! ’

‘บางที​ผู้อาวุโส​เย่​อาจจะ​ต้องการ​หา​ที่​บำเพ็ญ​เพียร​ที่​สงบ​ ๆ มิใช่เพราะ​วางแผน​จะทำ​สิ่งใด​ หรือ​เห็น​สิ่งมีชีวิต​เป็น​ของเล่น​ก็ได้​’

‘มิเช่นนั้น​ด้วย​อิทธิฤทธิ์​ของ​เขา​’

‘ทั่ว​ทั้งโลก​บำเพ็ญ​เพียร​คง​เกิด​ความปั่นป่วน​ขึ้น​นาน​แล้ว​ ไหน​เลย​จะมีสภาพ​เช่น​ทุกวันนี้​ได้​ ? ’

‘ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ก็ได้​บอก​แล้ว​ว่า​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​เรา​ควร​อยู่​กัน​อย่าง​สงบ​ ! ’

“ผู้น้อย​น้อม​รับ​คำสั่ง​ท่าน​เย่​ขอรับ​ ! ”

พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​โค้ง​คำนับ​ให้​แก่​เย่​ฉางชิง พลาง​เอ่ย​รับ​พร้อม​ ๆ กัน​

เย่​ฉางชิงจึงพยักหน้า​ให้​พร้อม​รอยยิ้ม​บาง​ ๆ ทว่า​ภายในใจ​กลับ​เต็มไปด้วย​ความ​โศกเศร้า​

“พวก​ท่าน​นั่งลง​เถอะ​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​พลาง​โบกมือ​ไปมา​

พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​สบตา​กัน​เล็กน้อย​ ก่อน​จะทยอย​นั่งลง​

ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงจึงได้​เอ่ย​กับ​หนาน​กง​เสวียน​จีว่า​ “ต่อไป​พวกเรา​มาคุย​กัน​เรื่อง​วิถี​หมาก​เถอะ​”

ใบหน้า​ของ​หนาน​กง​เสวียน​จีจึงเต็มไปด้วย​ความยินดี​ขึ้น​มาทันที​

ในที่สุด​ก็​ถึงตา​ของ​เขา​แล้ว​

เย่​ฉางชิงจึงเอ่ย​ต่อ​ “เอา​เช่นนี้​ก็แล้วกัน​ พวกเรา​มาเล่น​หมากรุก​ไป​พลาง​ แล้ว​ข้า​จะอธิบาย​ความเข้าใจ​ของ​ข้า​เกี่ยวกับ​วิถี​หมาก​ให้​ท่าน​ฟังไป​พลาง​ก็แล้วกัน​”

บัดนี้​เมื่อ​อยู่​ต่อหน้า​ผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​ทั้ง​สาม

และ​เพื่อ​เป็นการ​แสดงถึง​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​ เขา​ย่อม​เดินหมาก​ด้วย​วิธี​ที่​มิธรรมดา​อยู่แล้ว​

และ​สิ่งที่​ยาก​ที่สุด​ของ​วิถี​หมาก​นั่น​ก็​คือ​หมากรุก​จีน​นั่นเอง​

เช่นนั้น​เย่​ฉางชิงจึงเลือก​ที่จะ​เอ่ย​เช่นนี้​ออกมา​

หนาน​กง​เสวียน​จีได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ จากนั้น​จึงเอ่ย​อย่าง​นอบน้อม​ “เช่นนั้น​คง​ต้อง​รบกวน​ท่าน​เย่​แล้ว​ขอรับ​ ! ”

เย่​ฉางชิงจึงยิ้ม​ออกมา​ ก่อน​จะเอ่ย​เรียบ ๆ​ ว่า​ “เช่นนั้น​เจ้าก็​เริ่ม​เดิน​ก่อน​เถอะ​”

“สี่สี่”

“สี่สิบห้า​”

“……”

ทั้งสอง​คน​วางหมาก​ต่อกัน​จน​ถึงตา​ที่​สิบ​

ตอนนั้น​เอง​

“ข้า​มองว่า​สิ่งที่​เรียก​ว่า​วิถี​หมาก​ นั่น​ก็​คือ​วิถี​ของ​มนุษย์​ วิถี​ของ​การ​บำเพ็ญ​เพียร​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ประโยค​ที่​แฝงความหมาย​ลึกซึ้ง​กับ​หนาน​กง​เสวียน​จี

“สอง​คน​ดวล​หมาก​กัน​ บางคน​หลังจาก​ชิงเดินหมาก​ก่อน​แล้ว​ ก็​จะรีบ​พุ่ง​ทะลวง​ไป​มิปล่อย​ให้​คู่ต่อสู้​ได้​มีโอกาส​หายใจ​”

“ส่วน​บางคน​ต่อให้​โชคดี​เป็น​ฝ่าย​ได้​เดิน​ก่อน​ แต่​ยังคง​เดิน​อย่าง​ระมัดระวัง​ ต่อให้​จะใกล้​จบเกม​แล้วก็​ยังคง​ให้โอกาส​คู่ต่อสู้​…”

ระหว่าง​ที่​เย่​ฉางชิงเอ่ย​ยัง​มิทัน​จบ​ประโยค​ ด้านหลัง​ของ​เขา​พลัน​ปรากฏ​นิมิต​ขึ้น​

ด้านหลัง​ของ​เย่​ฉางชิงเกิด​การสั่น​ไหว​ขึ้น​กลางอากาศ​

เพียง​พริบตา​หมอก​หลาก​สีสัน​ก็​แผ่​ออกมา​

จากนั้น​ไอ​มหาศาล​ก็​ปะทุ​ออกมา​ พร้อมกับ​กระดาน​หมาก​ขนาดใหญ่​แผ่น​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​

และ​ด้านบน​ของ​กระดาน​

ได้​มีดวงดาว​สว่างไสว​มากมาย​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​ แผ่​ไอ​พลัง​มหาศาล​ออกมา​

“เปรี้ยง​ ! ”

หลังจาก​เกิด​เสียงดัง​สนั่นหวั่นไหว​ขึ้น​

ดาว​ดวง​หนึ่ง​พลัน​ร่วงหล่น​ลง​มาจาก​ฟ้า ตกลง​บน​ตำแหน่ง​หนึ่ง​บน​กระดาน​ กลายเป็น​หมาก​ดำ​

จากนั้น​ก็​มีดาว​อีก​ดวง​ร่วง​ลงมา​ ตกลง​ยัง​ตำแหน่ง​ข้าง ๆ​ หมาก​ดำ​ ก่อน​จะกลายเป็น​หมาก​ขาว​ตัว​หนึ่ง​

เวลา​ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

ก็​มีดวงดาว​อีก​นับ​สิบ​ดวง​ตกลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ ก่อน​จะกลายเป็น​หมาก​ดำ​และ​หมาก​ขาว​

แต่​สิ่งที่​ทำให้​รู้สึก​คาด​มิถึงก็​คือ​

หมาก​ดำ​และ​หมาก​ขาว​เหมือน​จะตกลง​บน​กระดาน​มิหยุด​ ทว่า​กลับ​เลือนลาง​ยิ่งนัก​ อีก​ทั้ง​ยังมี​การเปลี่ยนแปลง​เกิดขึ้น​มิหยุด​อีกด้วย​

ขณะเดียวกัน​ไอ​พลัง​วิถี​เต๋า​อัน​บริสุทธิ์​ไร้​ที่​เปรียบ​สาย​หนึ่ง​ก็​พุ่ง​เข้าใส่​หนาน​กง​เสวียน​จี

ส่วน​คำสอน​ของ​เย่​ฉางชิงก็​ราวกับ​เสียง​แห่ง​วิถี​เต๋า​ที่​ดังก้อง​อยู่​ใน​หู​ของ​หนาน​กง​เสวียน​จี ทำให้​เขา​เข้าสู่​ความ​รู้แจ้ง​อัน​พิสดาร​

เมื่อ​เห็นภาพ​ตรงหน้า​ รวมทั้ง​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​วิถี​เต๋า​ที่​แผ่​ออกมา​รอบกาย​หนาน​กง​เสวียน​จี

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ใน​ใจพลัน​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ตื่นตระหนก​ว่า​

‘ผู้อาวุโส​เย่​ กำลัง​สอน​หลักธรรม​ให้​แก่​หนาน​กง​เสวียน​จีอยู่​หรือ​นี่​ ! ’

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… ……เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท