เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 272 ทุกคนในเมืองเสี่ยวฉือล้วนเป็นเซียนหมดแล้ว

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่​ 272 ทุก​คนใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ล้วน​เป็น​เซียน​หมด​แล้ว​ ?

ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ผ่าน​ไป​ไว​ราว​พริบตา​

เมื่อ​เห็น​หนาน​กง​เสวียน​จีหลับตา​แน่น​ ราวกับ​ตก​อยู่​ใน​อยู่​ใน​ภวังค์​บางอย่าง​อยู่​

เย่​ฉางชิงก็​ยิ้ม​ออกมา​ และ​ตัดสินใจ​มิพูด​สิ่งใด​ต่อ​อีก​

ใน​เมื่อ​หนาน​กง​เสวียน​จีสามารถ​ทำความเข้าใจ​ได้​ง่าย ๆ​ เช่นนี้​ และ​เขา​เอง​ก็ได้​พูด​ออกมา​เยอะ​มาก​พอแล้ว​

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ก็​ปล่อย​ให้​หนาน​กง​เสวียน​จีค่อย ๆ​ ไตร่ตรอง​ไป​ก็แล้วกัน​

ต้อง​บอ​กว่า​เพื่อ​เป็น​การตอบแทน​ที่​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ นำ​หิน​หุน​หยวน​กลับมา​ให้​ถึงหนึ่ง​ล้าน​ก้อน​

เขา​หา​ได้​หวง​ความรู้​ใด​ ๆ ไม่

และ​เขา​เอง​ก็ได้​อธิบาย​ความรู้​ ความเข้าใจ​ ใน​วิถี​หมาก​ของ​ตัวเอง​ทั้งหมด​ที่​มีให้​แก่​หนาน​กง​เสวียน​จีไป​มิน้อย​

สิ่งเหล่านี้​มีแต่​เรื่องสำคัญ​ทั้งสิ้น​ !

อีก​อย่าง​ก่อนหน้านี้​เขา​ก็​เคย​เดินหมาก​กับ​หนาน​กง​เสวียน​จีมาแล้ว​ ความ​แตกฉาน​ใน​วิถี​หมาก​ของ​อีก​ฝ่าย​เป็น​เช่นไร​ เขา​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ

เช่นนั้น​ต่อให้​เขา​พูด​ไป​มากกว่า​นี้​ ก็​มิแน่​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะสามารถ​เข้าใจ​ได้​ทั้งหมด​

อีก​ทั้ง​สำหรับ​มือใหม่​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​อย่าง​หนาน​กง​เสวียน​จีแล้ว​

สิ่งที่​เขา​พูด​ไป​ หาก​อีก​ฝ่าย​สามารถ​เข้าใจ​ได้​ทั้งหมด​ ภายภาคหน้า​จะต้อง​เป็นประโยชน์​ต่อ​การ​เดินหมาก​ของ​เขา​อย่าง​แน่นอน​

ขณะเดียวกัน​เย่​ฉางชิงก็​ชำเลือง​มอง​หนาน​กง​เสวียน​จีที่​มีท่าทาง​เคร่งเครียด​ พลาง​ลอบ​ทอดถอนใจ​กับ​ตัวเอง​

‘เป็น​ถึงผู้บำเพ็ญเพียร​ระดับสูง​แล้ว​ เหตุใด​ยัง​ต้อง​ลุ่มหลง​การ​เดินหมาก​เช่นนี้​อีก​เล่า​ ? ’

‘เจ้าอย่า​บอก​นะ​ว่า​เจ้าหนาน​กง​เสวียน​จี เป็น​ผู้บำเพ็ญเพียร​ใน​วิถี​หมากล้อม​ ? ’

‘เป็นไป​มิได้​ เป็นไป​มิได้​เด็ดขาด​ มิเช่นนั้น​ข้า​ก็​คง​บรรลุ​เป็น​เซียน​ด้วย​วิถี​หมาก​ไป​นาน​แล้ว​ ! ’

หลังจาก​พร่ำบ่น​ภายในใจ​แล้ว​ เย่​ฉางชิงก็​เพิ่งจะ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตัวเอง​นั้น​ เป็นหนี้บุญคุณ​หิน​หุน​หยวน​หนึ่ง​ล้าน​ก้อน​ของ​หนาน​กง​เสวียน​จีและ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​อยู่​

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ เชิญพวกเขา​อยู่กิน​หม้อไฟ​เสือดำ​สัก​มื้อ​ก็แล้วกัน​

คิดได้​เช่นนั้น​

“ทั้งสอง​ท่าน​ดู​จาก​สถานการณ์​แล้ว​ เกรง​ว่า​พวก​ท่าน​คง​มิอาจ​กลับ​ไป​เร็ว ๆ นี้​ได้​แล้ว​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​กับ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​และ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ข้า​จะไป​เตรียม​หม้อไฟ​ พวก​ท่าน​ดื่ม​เป็นเพื่อน​ข้า​สัก​จอก​ค่อย​กลับ​เถอะ​”

“ท่าน​เย่​ คือ​ว่า​…”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​และ​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​มีท่าทาง​อึกอัก​ขึ้น​มาทันใด​

เย่​ฉางชิงจึงรีบ​โบกมือ​ปฏิเสธ​ทันที​ “ท่าน​ทั้งสอง​อย่า​ได้​เกรงใจ​ ผู้​ที่มา​ต่าง​ก็​ล้วน​เป็น​แขก​ทั้งสิ้น​”

เอ่ย​จบ​เย่​ฉางชิงก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ก่อน​จะเดิน​ตรง​ไป​ทาง​ห้องครัว​

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ก็​หันไป​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ แล้วก็​เหลือบมอง​ทาง​ห้องครัว​ ก่อน​จะเพ่ง​กระแสจิต​และ​เอ่ย​ออกมา​ว่า​

“ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ผู้อาวุโส​เย่​ต้อนรับขับสู้​พวกเรา​ถึงเพียงนี้​ ผู้น้อย​รู้สึก​เกรงใจ​จริง ๆ​ เลย​ขอรับ​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ยิ้มแห้ง​ ๆ ออกมา​ พลาง​ส่ายหน้า​ไปมา​ “ใคร​กัน​จะมิรู้สึก​เช่นนั้น​เล่า​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​จึงเอ่ย​ถามพร้อม​รอยยิ้ม​ว่า​ “ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ เหตุใด​ผู้น้อย​รู้สึก​ว่า​ครา​นี้​ผู้อาวุโส​เย่​ เหมือน​จะมอบ​โอกาส​อัน​ยิ่งใหญ่​ให้​แก่​พี่​หนาน​กง​เลย​ขอรับ​”

“ต้อง​ยอมรับ​ว่า​นี่​เป็น​โอกาส​และ​วาสนา​ที่​ยิ่งใหญ่​จริง ๆ​ ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป​ของ​หนาน​กง​เสวียน​จี ที่​ยังคง​ตกอยู่ในภวังค์​ ก่อน​จะเอ่ย​สนับสนุน​

“หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​หลังจากที่​เขา​ตื่น​จาก​ภวังค์​แล้ว​ อีก​มินาน​เขา​จะต้อง​บรรลุ​ระดับ​ได้​สำเร็จ​ อาจ​ถึงขนาด​บรรลุ​ต่อเนื่อง​หลาย​ขั้น​เลย​ก็​เป็นได้​”

“ห๊ะ​ ! ”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ทันที​

ก้าว​เดียว​สามารถ​ทะลวง​พันธนาการ​ของ​ระดับ​ถ้ำสวรรค์​ ก้าว​สู่ระดับ​มหายาน​ได้​

อีก​ทั้ง​ยัง​มีโอกาส​บรรลุ​ต่อเนื่อง​หลาย​ขั้น​

โอกาส​ที่​ผู้อาวุโส​เย่​มอบให้​จะยิ่งใหญ่​เกินไป​แล้ว​กระมัง​ !

หลังจาก​นิ่งเงียบ​อยู่​สักพัก​ ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ก็​มอง​หนาน​กง​เสวียน​จีที่​ตกอยู่ในภวังค์​ด้วย​ใบ​หน้าที่​เต็มไปด้วย​ความอิจฉา​ พลาง​เอ่ย​ภายในใจ​ว่า​ “พี่​หนาน​กง​ ต้อง​ยอมรับ​ว่า​ข้า​รู้สึก​อิจฉา​ท่าน​จริง ๆ​ ”

“แต่​การ​ที่​ผู้อาวุโส​เย่​ทำ​เช่นนี้​ย่อม​ต้อง​มีเหตุผล​ของ​เขา​ ภายภาคหน้า​ท่าน​และ​ข้า​ต้อง​จดจำ​บุญคุณ​ใน​ครา​นี้​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​เอาไว้​ให้​ดี​ล่ะ​ ! ”

ตอนนั้น​เอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​จึงเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “พวกเรา​สอง​คน​ก็​อย่า​ได้​นั่ง​อยู่​ตรงนี้​เลย​ ไป​ถามผู้อาวุโส​เย่​ดีกว่า​ว่า​มีสิ่งใด​ให้​ช่วย​หรือไม่​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​พยักหน้า​เห็นด้วย​ ก่อน​จะลุกขึ้น​ยืน​ในทันที​

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​เกือบ​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​

ในที่สุด​หนาน​กง​เสวียน​จีก็ได้​ตื่นขึ้น​จาก​ภวังค์​อัน​ลึกลับ​

ทว่า​ใน​วินาที​ที่​เขา​ลืมตา​ขึ้น​มานั้น​ รอบกาย​พลัน​เกิด​สัญญาณความผันผวน​ของ​พลัง​ปราณ​ที่​มิอาจ​ควบคุม​ได้​ขึ้น​

อีก​ทั้ง​เขา​ยัง​สัมผัส​ได้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​

หาก​เขา​ต้องการ​ก็​สามารถ​ทะลวง​พันธนาการ​ของ​ระดับ​ถ้ำสวรรค์​ และ​เข้าสู่​ระดับ​มหายาน​ได้​ทันที​

มิเพียง​เท่านั้น​เนื่องด้วย​ความ​รู้แจ้ง​ใน​วิถี​หมาก​ รวมทั้ง​ความเข้าใจ​ใน​วิถี​หมาก​หลาย​ปี​มานี้​ ถึงขนาด​มีโอกาส​เข้าสู่​ระดับ​มหายาน​ขั้น​กลาง​ด้วยซ้ำ​ไป​

แน่นอน​ว่า​สำหรับ​คำอธิบาย​วิถี​หมาก​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​

ด้วย​ความสามารถ​ของ​เขา​เวลา​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ จึงสามารถ​ทำความเข้าใจ​ได้​เพียง​เศษเสี้ยว​ของ​ความหมาย​ที่​แท้จริง​เท่านั้น​

ทว่า​หาก​ทำความเข้าใจ​และ​ตกอยู่ในภวังค์​เช่นนั้น​ต่อไป​ เชื่อ​ว่า​ภายใน​ระยะเวลา​สิบ​ปี​นี้​ เขา​จะสามารถ​กระตุ้น​ทัณฑ์​สวรรค์​ เพื่อ​บรรลุ​เป็น​เซียน​ได้​อย่าง​แน่นอน​

คิดถึง​ตรงนี้​

“นี่​ก็​คือ​ความเก่งกาจ​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​นี่เอง​ ! ”

หนาน​กง​เสวียน​จีที่​ตอนนี้​รัศมี​มีการพัฒนา​ขึ้น​โดย​มิรู้ตัว​ เอ่ย​ขึ้น​มาอย่าง​ตื่นเต้น​ว่า​ “หาก​เขา​ต้องการ​คง​สามารถ​ช่วย​ให้​ใครก็ตาม​ บรรลุ​เป็น​เซียน​ได้​โดยง่าย​เป็นแน่​ ! ”

ใน​ตอนนั้น​เอง​ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ที่​ยก​จานชาม​ออก​มาจาก​ห้องครัว​ เมื่อ​เห็น​หนาน​กง​เสวียน​จีตื่น​จาก​ภวังค์​แล้ว​ จึงเอ่ย​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “พี่​หนาน​กง​ ท่าน​อย่า​มัว​อึ้ง​อยู่เลย​ มาช่วยกัน​ตรงนี้​เถอะ​”

หนาน​กง​เสวียน​จีจึงได้สติ​ขึ้น​มาทันที​ ก่อน​จะยิ้ม​เต็ม​ใบหน้า​ พลาง​ลุกขึ้น​ยืน​ทันที​

จน​เวลา​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ก้านธูป​

ตอนนี้​บน​โต๊ะ​ได้​มีจานชาม​วาง​เอาไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ในที่สุด​หม้อ​ทองแดง​ที่​ตั้งอยู่​บน​โต๊ะ​ก็​เริ่ม​เดือด​ปุด​ ๆ ขึ้น​มา

ส่วน​พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นั้น​ต่าง​ยืน​อยู่​หน้า​โต๊ะ​ไม้ เพื่อ​รอ​เย่​ฉางชิงเดิน​ออก​มาจาก​ภายใน​ห้องครัว​อย่าง​เงียบ ๆ​

มินาน​เย่​ฉางชิงก็​ยก​เนื้อ​เสือดำ​ที่​แล่​เรียบร้อย​แล้ว​ ออก​มาจาก​ห้องครัว​สอง​จาน​

ทว่า​เมื่อ​พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​สัมผัส​ได้​ถึงปราณ​ชีวิต​อัน​รุนแรง​ และ​กลิ่น​คาวเลือด​ที่​ฉุน​ขึ้น​จมูก​ที่​แผ่ออก​มาจาก​เนื้อ​เสือดำ​ ก็​มีสีหน้า​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​มิอยู่​

‘มิผิด​แน่​ ! ’

‘ปราณ​ชีวิต​และ​กลิ่น​คาวเลือด​ที่​รุนแรง​เช่นนี้​ มีเพียง​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​เท่านั้น​’

‘คาด​มิถึงว่า​ผู้อาวุโส​เย่​จะชอบ​อาหาร​ที่​ทำ​จาก​เนื้อ​เสือดำ​ ! ’

‘นี่​คือ​วิถีชีวิต​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​สินะ​ ! ’

‘มิน่าเล่า​ผู้อาวุโส​เย่​ถึงสามารถ​กลั่น​หิน​หุน​หยวน​เพื่อ​บำเพ็ญ​เพียร​ได้​ เกรง​ว่า​ใน​โลก​นี้​คง​มีเพียง​ผู้อาวุโส​เย่​เท่านั้น​ที่​สามารถ​ทำ​เรื่อง​เหล่านี้​ได้​ ! ’

“ข้า​บอก​แล้ว​มิใช่หรือ​ อยู่​ที่นี่​พวก​เจ้ามิต้อง​เกรงใจ​”

เย่​ฉางชิงกวาดตา​มอง​ทั้ง​สามคน​ จากนั้น​ก็​เดิน​มาหน้า​โต๊ะ​ด้วย​รอยยิ้ม​

เขา​วาง​เนื้อ​เสือดำ​แล่​สอง​จาน​ไว้​ตรงหน้า​ของ​ทั้ง​สามคน​ พลาง​เอ่ย​อย่าง​หยอกล้อ​ว่า​ “เนื้อ​เสือดำ​ตัว​นี้​คน​ทั่ว​ทั้งเมือง​เสี่ยว​ฉือ​กิน​มาเกือบ​หนึ่ง​ปี​แล้ว​เพิ่งจะ​กิน​หมด​”

“พวก​ท่าน​ทั้ง​สามนับว่า​มีลาภปาก​มิน้อย​ ตอนนี้​ทั้งเมือง​เสี่ยว​ฉือ​เกรง​ว่า​คงเหลือ​ที่​ข้า​อีก​สอง​จาน​เท่านั้น​”

ได้ยิน​เช่นนั้น​ พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​มีสีหน้าที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ในทันที​

คน​ทั่ว​ทั้งเมือง​เสี่ยว​ฉือ​กิน​มาหนึ่ง​ปี​แล้ว​ !

หมายความว่า​ชาวเมือง​เสี่ยว​ฉือ​เหล่านี้​ สามารถ​รับ​ปราณ​ชีวิต​และ​กลิ่น​คาวเลือด​ที่​รุนแรง​ที่อยู่​ภายใน​เนื้อ​ของ​จ้าว​ปีศาจ​เสือดำ​ตัว​นี้​ได้​อย่างนั้น​หรือ​

แต่​ปัญหา​ก็​คือ​ !

นี่​เป็น​เนื้อ​ของ​จ้าว​ปีศาจ​เสือดำ​ อย่า​ว่าแต่​มนุษย์​ธรรมดา​เลย​ เกรง​ว่า​แม้แต่​ผู้บำเพ็ญเพียร​ที่​ต่ำกว่า​ระดับ​ถ้ำสวรรค์​ก็​มิอาจจะ​รับได้​ !

หรือว่า​ !

หรือว่า​ผู้อาวุโส​เย่​จะสำแดง​อิทธิฤทธิ์​อัน​สูงส่ง ช่วย​ให้​ทุก​คนใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​เข้าสู่​ระดับ​มหายาน​

หรือ​ว่าด้วย​ความช่วยเหลือ​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​ จึงทำให้​ทุก​คนใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​บรรลุ​เป็น​เซียน​กัน​หมด​แล้ว​ ?

มิใช่หรอก​กระมัง​ ?

นี่​มัน​ไร้เหตุผล​สิ้นดี​ !

แต่​ผู้อาวุโส​เย่​ก็​มิน่าจะ​โกหก​พวกเขา​สามคน​ด้วย​เรื่อง​แค่นี้​นี่​นา​ ?

น่า​เหลือเชื่อ​ !

ช่างน่า​เหลือเชื่อ​ยิ่งนัก​ !

ใน​ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงก็ได้​เอ่ย​เร่ง​ขึ้น​มา “พวก​ท่าน​สามคน​อย่า​มั่ว​แต่​รีรอ​อยู่เลย​ เนื้อ​เสือดำ​นี่​เป็น​อาหาร​รส​เลิศ​เชียว​นะ​ ! ”

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… ……เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท