เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน – ตอนที่ 274 สาสน์ของจักรพรรดิไร้ราตรี

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

ตอนที่​ 274 สาสน์​ของ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​

ทันใดนั้น​พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​มีสีหน้า​มิสู้ดี​เท่าไร​นัก​

โดยเฉพาะ​หนาน​กง​เสวียน​จี

ที่​มีใบ​หน้าเขียว​คล้ำ​ ตรง​ขมับ​ยัง​เต็มไปด้วย​เส้นเลือด​ที่​ปูด​โปน​ขึ้น​มา

ข้า​หนาน​กง​เสวียน​จีบำเพ็ญ​เพียร​มานับ​พันปี​ และ​มิเคย​ถูก​ใส่ร้าย​เช่นนี้​มาก่อน​

ทว่า​ที่นี่​เป็น​สถานที่พักผ่อน​ของ​ผู้อาวุโส​เย่​

อีก​ทั้ง​คนใน​เมือง​แห่ง​นี้​ยังมี​ความเป็นไปได้​สูงว่า​ทุกคน​ที่นี่​ล้วน​เป็น​ผู้อาวุโส​ที่​สำเร็จ​จน​เป็น​เซียน​หมด​แล้ว​

เช่นนี้​แล้ว​ต่อให้​ผู้อาวุโส​เย่​หรือว่า​สิ่งมีชีวิต​ต้องห้าม​ตน​นั้น​มิลงมือ​ เขา​ก็​มิใช่คู่ต่อสู้​ของ​คน​เหล่านี้​อยู่ดี​ !

หลังจาก​นิ่งเงียบ​อยู่​พักใหญ่​ หนาน​กง​เสวียน​จีจึงสูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​ ๆ พยายาม​สงบสติอารมณ์​ของ​ตัวเอง​ จากนั้น​จึงเอ่ย​กับ​คน​ขาย​เนื้อ​ซุน​ที่​มีท่าทาง​เกรี้ยวกราด​ด้วย​ใบหน้า​แหย​ ๆ

“ท่าน​เข้าใจผิด​แล้ว​ ! ”

“วันนี้​พวกเรา​สามคน​ไป​พบ​ท่าน​เย่​มา เพราะ​ดื่ม​มาก​ไป​หน่อย​จึงทำให้​รู้สึก​มึนเมา​ และ​ชน​กับ​ภรรยา​ของ​ท่าน​เข้า​โดย​มิได้​ตั้งใจ​ ขอ​ท่าน​อย่า​ได้​ถือสา​เลย​นะ​”

‘ท่าน​เย่​ ? ’

ได้ยิน​เช่นนั้น​คน​ขาย​เนื้อ​ซุน​และ​เปา​ต้า​เหมย​ก็​มีท่าที​อ่อน​ลง​ในทันที​ ก่อน​จะเผย​รอยยิ้ม​ซื่อ ๆ​ ออกมา​

“ที่แท้​พวก​ท่าน​ก็​เป็น​แขก​ของ​ท่าน​เย่​นี่เอง​ ! ”

เปา​ต้า​เหมย​ยิ้ม​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งใจ​ ก่อน​จะรีบ​เข้าไป​ประคอง​หนาน​กง​เสวียน​จีให้​ลุกขึ้น​

หนาน​กง​เสวียน​จีถึงกับ​นิ่งอึ้ง​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​จะรีบ​พยักหน้า​รับ​ “พวก​ข้า​เพิ่ง​ออก​มาจาก​เรือน​ของ​ท่าน​เย่​จริง ๆ​ ”

“พวก​ท่าน​เป็น​แขก​ของ​ท่าน​เย่​ก็​น่าจะ​รีบ​บอก​ตั้งแต่แรก​นี่​นา​”

เปา​ต้า​เหมย​ยื่นมือ​ไป​ตบ​ลง​บน​ไหล่​ที่​ค่อนข้าง​บาง​ของ​หนาน​กง​เสวียน​จี ก่อน​จะเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “พวก​เจ้าคง​ยัง​มิรู้​กระมัง​”

“ท่าน​เย่​นั้น​สนิท​กับ​ข้า​ราวกับ​ครอบครัว​เดียวกัน​ หาก​เจ้ารีบ​บอก​แต่แรก​ว่า​เจ้ารู้จัก​กับ​ท่าน​เย่​ พวกเรา​จะเข้าใจผิด​กัน​เช่นนี้​หรือ​”

ตอนนั้น​เอง​

“เอาเยี่ยง​นี้​ก็แล้วกัน​”

คน​ขาย​เนื้อ​ซุน​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เพียง​เรื่อง​เข้าใจผิด​กัน​ พวกเรา​มานั่ง​ดื่ม​กัน​อีก​สัก​จอก​ ท่าน​เย่​มักจะ​กล่าว​ว่าความ​แค้นเคือง​พึง​ละ​ มิพึง​ผูก​ คงจะ​เป็น​เช่นนี้​กระมัง​”

น้อย​นัก​ที่​เปา​ต้า​เหมย​จะเอ่ย​อย่าง​ใจกว้าง​ “ใช่แล้ว​ ใน​เมื่อ​เป็น​แขก​ของ​ท่าน​เย่​ เช่นนั้น​ก็​ถือว่า​เป็น​แขก​ของ​เรา​ด้วย​”

เมื่อ​เห็น​ทั้งสอง​คน​มีท่าทาง​เปลี่ยนไป​ราวกับ​หน้า​มือ​เป็น​หลัง​มือ​เช่นนี้​

พวก​หนาน​กง​เสวียน​จีก็​ถึงกับ​ตะลึงงัน​ไป​ทันใด​

“น้ำใจ​ของ​พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ พวกเรา​ขอรับ​เอาไว้​ด้วยใจ​ แต่ว่า​วันนี้​พวกเรา​จำเป็นต้อง​รีบ​กลับ​ จึงมิขอ​รบกวน​ดีกว่า​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ประสาน​มือขึ้น​ พลาง​เอ่ย​ปฏิเสธ​อย่าง​นุ่มนวล​

เมื่อ​เห็น​ทั้ง​สามคน​มีกลิ่น​สุรา​คละคลุ้ง​ ใบหน้า​แดงก่ำ​

เปา​ต้า​เหมย​และ​คน​ขาย​เนื้อ​ซุน​จึงสบตา​กัน​เล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ว่า​ “ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ก็​เอาไว้​ครั้งหน้า​ก็แล้วกัน​”

“อืม​ ๆ ครา​หน้า​ก็แล้วกัน​ ! ”

จากนั้น​เปา​ต้า​เหมย​และ​คน​ขาย​เนื้อ​ซุน​ก็ได้​ยืน​ส่งทั้ง​สามคน​

จน​ในที่สุด​พวก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เดิน​ออก​มาจาก​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​ได้​สำเร็จ​

“คนเมือง​เสี่ยว​ฉือ​แห่ง​นี้​ล้วนแต่​ได้รับ​ความเมตตา​จาก​ท่าน​เย่​จริง ๆ​ ด้วย​”

เมื่อ​ออก​มาถึงด้านนอก​ของ​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​ทอดถอนใจ​ออกมา​ พลาง​หันกลับ​ไป​มอง​อีกครั้ง​อย่า​งอด​มิได้​

หนาน​กง​เสวียน​จีจึงพยักหน้า​รับ​ พร้อมกับ​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​คิด​ว่า​มีบางอย่าง​ที่​บางที​พวกเรา​อาจจะ​เข้าใจผิด​ไป​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ขมวดคิ้ว​เบา​ ๆ ก่อน​จะเอ่ย​กับ​หนาน​กง​เสวียน​จีด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “พี่​หนาน​กง​หมายความ​เช่นไร​งั้น​หรือ​ ? ”

จากนั้น​หนาน​กง​เสวียน​จีก็ได้​เอ่ย​ประโยค​ ที่​ทำให้​ทุกคน​ต้อง​ตกใจ​ออกมา​ “ชาวเมือง​เสี่ยว​ฉือ​เหล่านี้​ให้​ความเคารพ​ผู้อาวุโส​เย่​ถึงเพียงนี้​ เช่นนั้น​ข้า​มองว่า​พวกเขา​เหมือน​เป็น​เซียน​ที่​คอย​ติดตาม​ผู้อาวุโส​เย่​เสีย​มากกว่า​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นิ่ง​อยู่​สักพัก​ ก็ได้​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ใช้ความคิด​ว่า​ “มีความเป็นไปได้​ เยี่ยง​ไร​เสีย​ทั้งหมด​นี้​ล้วนแต่​เป็น​เพียง​การ​คาดเดา​ของ​พวกเรา​เท่านั้น​”

ตอนนั้น​เอง​

“เชื่อ​ว่า​สักวัน​ความจริง​ทั้งหมด​ คงจะ​เปิดเผย​ออกมา​ให้​ทุกคน​รับรู้​เป็นแน่​”

ซือ​ถูเจิ้น​ผิง​ถอนหายใจ​ออกมา​ จากนั้น​จึงประสานมือ​คารวะ​แก่​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ “ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ตอนนี้​ก็​ดึก​มาก​แล้ว​พวกเรา​ลา​กัน​ตรงนี้​ก็แล้วกัน​นะ​ขอรับ​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พยักหน้า​ พลาง​ประสานมือ​คา​รา​วะ​ตอบ​ “อืม​ หาก​มีวาสนา​ต่อกัน​คง​ได้​พบกัน​อีก​”

หนาน​กง​เสวียน​จี “ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ลาก่อน​”

สิ้น​เสียง​ทั้ง​สามคน​ก็​แปลง​เป็น​ลำแสง​สามสาย​ทะยาน​ขึ้นไป​บน​ฟ้า

สอง​สาย​อ้อม​ท้องฟ้า​ของ​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​ไท่​เสวียน​ อีก​สาย​หนึ่ง​เหาะ​ไป​ทางใต้​ของ​จงหยวน​

จากนั้น​เมื่อ​เวลา​ผ่าน​ไป​เกือบ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​อีกครั้ง​ยัง​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ที่​เต็มไปด้วย​สิ่งก่อสร้าง​โบราณ​มากมาย​ มีสัญลักษณ์​โบราณ​ปรากฏ​ขึ้น​รอบ​ ๆ สถานที่โบราณ​ที่​มีแสงเปล่งประกาย​ขึ้น​ริบหรี่​

เห็นได้ชัด​ว่า​ที่นี่​ก็​คือ​หนึ่งในสี่​ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​

เป็นที่ตั้ง​ของ​ตระกูล​โบราณ​ซีเห​มิน​

มินาน​หลังจาก​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก้าว​ข้าม​ค่าย​กล​ที่​ปกคลุม​ตระกูล​เอาไว้​

คนใน​ตระกูล​ที่​เฝ้าอยู่​ตามที่​ต่าง ๆ​ ของ​ค่าย​กล​ ต่าง​ก็​มีสีหน้า​ตื่นตระหนก​ก่อน​จะคุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ทันที​

“ผู้น้อย​ขอ​ต้อนรับ​ที่​ท่าน​บรรพบุรุษ​กลับมา​ขอรับ​ ! ”

ทันใดนั้น​เสียง​อัน​ดัง​กังวาน​ราวกับ​เสียง​อสนีบาต​ พลัน​กึกก้อง​ไป​ทั่ว​ทั้ง​บริเวณ​

ผ่าน​ไป​มิกี่​อึดใจ​

บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​คลุม​สีม่วง​ผู้​หนึ่ง​ ก็ได้​เดิน​นำ​คนใน​ตระกูล​ที่​สวม​อาภรณ์​หรูหรา​และ​มีท่าทาง​โดดเด่น​หลาย​คน​ออกมา​

“ผู้น้อย​ขอ​ต้อนรับ​ที่​ท่าน​บรรพบุรุษ​กลับมา​ขอรับ​ ! ”

บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​คลุม​สีม่วง​คุกเข่า​ลง​ทันที​ ผู้คน​ที่อยู่​ทาง​ด้านหลัง​เอง​ ต่าง​ก็​คุกเข่า​ลง​ตามอย่าง​มิกล้า​ชักช้า​

“ซีเห​มิน​ไค​ฉี ก่อนหน้านี้​เจ้าส่งสัญญาณถึงข้า​ด้วย​เหตุใด​กัน​ ? ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​เหาะ​ขึ้น​กลางอากาศ​ก่อน​จะหยุด​ลง​ตรงหน้า​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​คลุม​สีม่วง​ พร้อม​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ขณะ​มอง​ลงมา​

เห็นได้ชัด​ว่า​บุรุษ​วัยกลางคน​ที่​สวม​ชุด​คลุม​สีม่วง​ผู้​นี้​ ก็​คือ​หัวหน้า​ตระกูล​โบราณ​ซีเห​มินค​น​ปัจจุบัน​ !

ซีเห​มิน​ไค​ฉี !

ซีเห​มิน​ไค​ฉีได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ พลาง​เงยหน้า​ขึ้น​ “ท่าน​บรรพบุรุษ​ บรรพบุรุษ​ของ​แคว้น​กู่​เฉิน​ต้องการ​พบ​ท่าน​ขอรับ​”

“เฉินฉี​หลู่​ ? ”

ดวงตา​ของ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พลัน​เปล่งประกาย​บางอย่าง​ออกมา​ พร้อมกับ​ถามด้วย​น้ำเสียง​เย็นเยียบ​ “เขา​มาทำไม​ ? ”

ซีเห​มิน​ไค​ฉีราวกับ​สัมผัส​ได้​ถึงบางอย่าง​ จึงลอบ​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อย่า​งอด​มิได้​

“เรียน​ท่าน​บรรพบุรุษ​ ยี่สิบ​ปี่​ก่อน​เพื่อ​ปรุง​ยาวิเศษ​ขั้น​เจ็ด​ 1 เม็ด​ แคว้น​กู่​เฉิน​เคย​มอบ​ยา​วิญญาณ​ให้​เม็ด​หนึ่ง​ขอรับ​”

ซีเห​มิน​ไค​ฉีชำเลือง​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ ก่อน​เอ่ย​ต่อ​อย่าง​ระมัดระวัง​ว่า​ “ตอนนั้น​ข้า​ได้​สัญญากับ​เฉินฉี​หลู่​ว่า​ตระกูล​โบราณ​ซีเห​มินข​อง​เรา​ติดหนี้​พวกเขา​หนึ่ง​ครา​ขอรับ​”

“บัดนี้​แคว้น​ต้าเยี่ยน​และ​แคว้น​ต้าเซี่ย​ร่วมมือ​กัน​โจมตี​แคว้น​กู่​เฉิน​ แคว้น​กู่​เฉิน​จึงพ่ายแพ้​ต่อเนื่อง​หลาย​ครา​ เช่นนั้น​พวกเขา​จึงต้องการ​เชิญให้​ตระกูล​ซีเห​มินข​อง​เรา​ออกหน้า​ เพื่อ​ขัดขวาง​สงคราม​ใน​ครา​นี้​ขอรับ​”

“ซีเห​มิน​ไค​ฉี เจ้าช่างทำงามหน้า​จริง ๆ​ ! ”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ตำหนิ​เสียง​เข้ม​ “บรรพบุรุษ​ของ​สี่ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​ได้​กล่าว​เอาไว้​ อย่า​ว่าแต่​เรื่อง​ของ​โลก​มนุษย์​ แม้แต่​โลก​บำเพ็ญ​เพียร​ ตระกูล​ผู้พิทักษ์​โบราณ​ทั้ง​สี่ของ​เรา​ก็​มิควร​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​”

ซีเห​มิน​ไค​ฉีมีสีหน้า​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มาทันที​ พลัน​ก้มหน้า​ลง​กับ​พื้น​มิกล้า​เอ่ย​สิ่งใด​ออกมา​อีก​

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​เอ่ย​ขึ้น​อีกครั้ง​ว่า​ “เอาเยี่ยง​นี้​ เจ้าให้​เฉินฉี​หลู่​ไป​พบ​ข้า​ที่​ตำหนัก​ใหญ่​ก็แล้วกัน​”

สิ้น​เสียง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ก็​หาย​ไป​กลางอากาศ​

เวลา​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​ก้านธูป​

ภายใน​ตำหนัก​โบราณ​หลัง​หนึ่ง​ของ​ตระกูล​ซีเห​มิน​

ซีเห​มิน​ไค​ฉีได้​พา​ผู้เฒ่า​รูปร่าง​ผอมแห้ง​ ท่าทาง​ดุดัน​ผู้​หนึ่ง​มายัง​กลาง​ตำหนัก​

ด้านบน​ของ​ตำหนัก​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​นั่ง​รอ​อยู่​แล้วด้วย​ท่าทาง​นิ่ง​สงบ​

“ผู้น้อย​เฉินฉี​หลู่​คา​รา​วะ​ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน”​

ผู้เฒ่า​ผู้​นั้น​ชำเลือง​มอง​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่นั่ง​อยู่​ด้านบน​ ก่อน​จะโค้ง​คำนับ​ให้​

ได้ยิน​เช่นนั้น​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​ตา​หลับ​ลง​ทั้งสอง​ข้าง​พลัน​ลืมตา​ขึ้น​ พลัง​มหาศาล​ดวง​หนึ่ง​ก็​แผ่​ออกมา​ภายใน​พริบตา​

“เฉินฉี​หลู่​ ข้า​มิอยาก​จะพูดจา​ไร้สาระ​กับ​เจ้าให้​มากความ​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​มอง​เฉินฉี​หลู่​ที่​ก้มหน้า​อยู่​ด้วย​สายตา​เย็นเยียบ​ พลาง​เอ่ย​อย่าง​ไร้​ซึ่งความเกรงใจ​ว่า​ “บรรพบุรุษ​ของ​ตระกูล​ข้า​ได้​กล่าว​ไว้​ว่า​ ห้าม​มิให้​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​ของ​ผู้บำเพ็ญเพียร​ แล้ว​ยิ่ง​ห้าม​มิให้​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​ทางโลก​ เจ้ารู้เรื่อง​นี้​หรือไม่​ ? ”

เฉินฉี​หลู่​นิ่งเงียบ​ไป​ ก่อน​จะเอ่ย​รับ​ว่า​ “ผู้น้อย​ทราบ​ขอรับ​”

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​แค่น​เสียง​เย็น​ออกมา​ “ใน​เมื่อ​เจ้าทราบ​เหตุใด​ยัง​ให้​ตระกูล​ซีเห​มิน​ของ​ข้า​ ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​แคว้น​กู่​เฉิน​ของ​เจ้าอีก​เล่า​ ? ”

เฉินฉี​หลู่​ค่อย ๆ​ เงยหน้า​ขึ้น​ เอ่ย​กับ​ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​ที่​มีท่าทาง​เย็นชา​ว่า​ “เรียน​ผู้อาวุโส​ซีเห​มิน​ ผู้น้อย​มีสาส์น​ฉบับ​หนึ่ง​ของ​จักรพรรดิ​ไร้​ราตรี​ ขอ​ผู้อาวุโส​ได้​โปรด​อ่าน​ก่อน​ขอรับ​”

สิ้น​เสียง​เฉินฉี​หลู่​ก็​เพ่ง​สมาธิ หยิบ​สาส์น​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​มีสัญลักษณ์​โบราณ​ลอย​วน​อยู่​ออก​มาจาก​แหวน​เก็บ​สมบัติ​

เมื่อ​สัมผัส​ได้​ถึงไอ​พลัง​ไร้​เทียมทาน​ที่​แผ่ออก​มาจาก​สาส์น​

ซีเห​มิน​เห​ลย​หู่​พลัน​หรี่ตา​ลง​ พร้อมกับ​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​

วินาที​ต่อมา​เขา​ก็ได้​เพ่ง​สมาธิ

ก่อนที่​สาส์น​ใน​มือ​ของ​เฉินฉี​หลู่​จะลอย​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​ค่อย ๆ​ เปิด​ออก​

ทันใดนั้น​ไอ​พลัง​แห่ง​ความเป็นมงคล​จำนวน​มหาศาล​ก็​พวยพุ่ง​ออกมา​ ลำแสง​อัน​เจิดจ้า​หลาก​หลายชนิด​ก็ได้​เรืองแสง​ออกมา​ ช่างลึกลับ​น่า​ค้นหา​ยิ่งนัก​

มินาน​อักษร​โบราณ​สีทอง​แถว​หนึ่ง​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​กลางอากาศ​

ผู้​ที่​ครอบครอง​สาส์น​นี้​ สามารถ​ไป​ขอ​การ​คุ้มครอง​ที่​เขา​ไร้​ราตรี​ได้​ !

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน รายละเอียด เทพแห่งกระบี่ : หากผู้อาวุโสเย่มอบภาพอักษรพู่กันให้ข้าอีกสักภาพ พรุ่งนี้ข้าคงสามารถเปิดประตูสวรรค์ได้แล้ว …… ……เย่ฉางชิงรู้สึกเอือมระอายิ่งนัก ทั้งๆ ที่เขาเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เหตุใดถึงได้มีผู้คนแวะเวียนมาหาไม่แต่ละเว้นวันเช่นนี้นะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท