ตอนที่ 39 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (3)
ยิ่งเขาร้องเสียงดังเท่าไร เฟิงหรูชิงก็ยิ่งตีแรงขึ้นเท่านั้น เมื่อตีจนเหนื่อย นางกินผลเทียนหลิงกั่วเข้าไปหนึ่งผลแล้วก็เริ่มตีต่อไม่หยุด
จนกระทั่งหลิวอวี่ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะส่งเสียงร้องแล้ว เฟิงหรูชิงจึงโยนเขาไปกองลงบนพื้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงโหดเ**้ยมว่า “ต่อไป ถ้าเจ้ากล้าแกล้งนางอีก ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ไสหัวไปซะ!”
หลิวอวี่ในตอนนี้ เจ็บก้นระบมไปหมด เขาเอามือกุมก้นไว้แล้วมองเฟิงหรูชิงด้วยแววตาราวกับนางเป็นปีศาจ
ดังนั้นเมื่อเฟิงหรูชิงพูดจบ เขาจึงรีบกลับหลังวิ่งไปตามถนนอย่างทุลักทุเล ทั้งๆ ที่เจ็บจนไม่อาจเดินได้ แต่ก็ไม่กล้าอยู่ตรงนั้นต่อไปอีกแล้ว
…
ที่บนถนน น่าหลานไต้เอ๋อร์นั่งอยู่บนพื้น ตากลมโตของนางมองดูเฟิงหรูชิงอย่างอึ้งๆ แววตาแฝงความหวาดกลัว
“ไต้เอ๋อร์ เจ้าจำข้าได้หรือไม่”
สายตาของเฟิงหรูชิงจับต้องไปที่รอยแผลเป็นบนหน้าของน่าหลานไต้เอ๋อร์ แววตาของนางดูหม่นไป
รอยแผลนี้ เมื่อก่อนองค์หญิง…กับเฟิงหรูซวงเป็นคนทำให้นางมีแผลพุพอง
แผลพุพองนี้นางเป็นคนทำ ส่วนเฟิงหรูซวงเป็นคนกดตัวน่าหลานไต้เอ๋อร์เอาไว้ แต่เพื่อให้เสด็จพ่อไม่ทำโทษตนเอง เฟิงหรูซวงโยนความผิดทั้งหมดให้องค์หญิงรับไป
เรื่องสองคนเป็นคนก่อ แต่ความซวยตกอยู่ที่องค์หญิงเพียงคนเดียว เฟิงหรูซวงรับบทเป็นคนห้ามปราม เป็นคนดีที่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียอย่างนั้น
แต่องค์หญิงก็โง่เขลาที่รับบาปไว้เพียงคนเดียว ทั้งๆ ที่ท่านแม่ทัพรู้ว่าเฟิงหรูซวงมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรนางได้ จึงผูกใจเจ็บกับองค์หญิงมากกว่า
น่าหลานไต้เอ๋อร์ตัวสั่น กายเล็กๆ ของนางเริ่มสั่นสะท้าน แสดงอาการหวาดกลัวยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้ แสดงให้เห็นว่าเฟิงหรูชิงทิ้งภาพจำบางอย่างไว้ในใจนาง
เฟิงหรูชิงรู้สึกเสียใจ นางก้มหน้าลงมองเด็กน้อยคนนั้น “เมื่อครู่ข้าช่วยเจ้าไว้ ดูสิ คนพวกนั้นไม่กล้ารังแกเจ้าแล้ว”
แววตาของน่าหลานไต้เอ๋อร์แสดงออกถึงความสับสน “แต่ท่านแม่บอกว่าท่านพี่เป็นคนไม่ดี”
เฟิงหรูชิงยิ้มเล็กๆ รอยยิ้มของนางดูอ่อนโยน นางย่อตัวนั่งลงตรงหน้าน่าหลานไต้เอ๋อร์
“เมื่อก่อนข้าทำผิดไป แถมยังรังแกเจ้า แต่คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ ไต้เอ๋อร์ให้โอกาสข้าสักครั้งได้หรือไม่”
น่าหลานไต้เอ๋อร์กัดเล็บ เอียงคอมองดูเฟิงหรูชิง
“ดูสิ ข้าเอาของอร่อยๆ มาให้เจ้าด้วยนะ” เฟิงหรูชิงแบมือออก บนฝ่ามือของนางมีผลไม้ลูกเล็กๆ ปรากฏอยู่
ผลไม้ดูใสเป็นประกายน่ากิน กลิ่นหอมอบอวล รสชาติอร่อยล้ำ
น่าหลานไต้เอ๋อร์ไม่กล้ารับผลไม้จากมือของนาง การถูกทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เด็กสติปัญญาไม่สมประกอบคนหนึ่งเกิดความรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมา
นางกลัว กลัวว่าจะโดนรังแกอีก ความเจ็บปวดแบบนั้นนางไม่อยากเผชิญอีกแล้ว
“ถ้าข้าอยากรังแกเจ้าจริงๆ ข้าคงไม่ช่วยเจ้าไว้ ถ้าเจ้ากินผลไม้นี้ลงไป ขอรับรองว่าต่อไปข้าจะไม่รังแกเจ้าอีกเลยดีหรือไม่”
สายตาของน่าหลานไต้เอ๋อร์เคลื่อนจากใบหน้าของเฟิงหรูชิงมามองที่ผลเทียนหลิงกั่ว เสียงกลืนน้ำลายดังออกมาจากลำคอของนาง
นางทนไม่ไหว ยื่นมือน้อยๆ ออกไปที่ผลเทียนหลิงกั่วอย่างระมัดระวัง
ดูเหมือนนางยังหวาดกลัวเฟิงหรูชิงอยู่บ้าง ในดวงตากลมโตมีความขลาดกลัว จนกระทั่งนางหยิบผลเทียนหลิงกั่วไว้ในมือของตนเองได้ นางจึงรู้สึกวางใจ
คราวนี้ ญาติผู้พี่ไม่ได้รังแกนาง
“กินสิ” เฟิงหรูชิงเอามือเท้าคางมองดูน่าหลานไต้เอ๋อร์ด้วยรอยยิ้ม
น่าหลานไต้เอ๋อร์กัดผลไม้เข้าไปคำหนึ่ง น้ำอันหวานฉ่ำแผ่ซ่านไปในปาก ทำให้นางรู้สึกมีความสุขมาก
ตอนที่ 40 น่าหลานไต้เอ๋อร์ (4)
อาจเป็นเพราะเทียนหลิงกั่วอร่อยมากเหลือเกินจึงทำให้น่าหลานไต้เอ๋อร์ไม่รู้สึกกลัวเหมือนตอนแรก ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มน่ารัก “หวานจังเลย”
“ไต้เอ๋อร์ เย็นป่านนี้แล้วทำไมยังมาอยู่ข้างนอก”
น่าหลานไต้เอ๋อร์กะพริบตาอันกลมโต ก้มหน้าสลด “พี่ชายข้า …อารมณ์ไม่ดี ไต้เอ๋อร์จะไปซื้อขนมกุ้ยฮวา มาให้พี่ชายกิน แต่ไต้เอ๋อร์หาร้านไม่เจอ”
ที่ถนนทิศใต้มีร้านขายขนมกุ้ยฮวาชื่อดังอยู่ร้านหนึ่ง พี่ชายคงอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องถูกถอนหมั้นแน่นอน ดังนั้นไต้เอ๋อร์จึงแอบออกจากบ้านเพื่อไปซื้อขนมที่เขาชอบที่สุด
เฟิงหรูชิงถอนหายใจ
คิดถึงตอนที่ได้เจอกับพี่ชายวันนี้ สีหน้าของเขาดูไม่ดีจริงๆ แต่เสียดายที่ในตอนนั้นนางยังไม่รู้เรื่องที่เขาถูกถอนหมั้น
“ไปเถอะ ไต้เอ๋อร์ ข้าจะพาเจ้าไปซื้อ”
เฟิงหรูชิงลุกยืนขึ้น นางจูงมือน้อยๆ ของน่าหลานไต้เอ๋อร์แล้วยิ้มเล็กๆ
…
ฟ้าเริ่มมืด
ในจวนแม่ทัพวุ่นวายปั่นป่วนไปหมด แม้แต่ท่านแม่ทัพเฒ่าที่สุขภาพไม่แข็งแรงก็ยังลุกขึ้นจากเตียง พาคนทั้งหมดในจวนออกตามหาน่าหลานไต้เอ๋อร์
แสงโคมไฟเริ่มส่องสว่างในยามโพล้เพล้
ที่หน้าประตูทางเข้าจวนแม่ทัพ ฮูหยินน่าหลานมองไปด้านนอกไม่ละสายตา มือของนางกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่น สายตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ท่านแม่ทัพกับท่านพ่อออกไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาสักที ไม่รู้ว่าตกลงพวกเขาหาไต้เอ๋อร์เจอแล้วหรือยัง”
ไต้เอ๋อร์เริ่มคลานตอนอายุหนึ่งขวบ อายุสองขวบยังพูดไม่ได้ เพิ่งเดินได้ตอนอายุสามขวบ ทั้งสุขภาพของนางมากไปด้วยโรครุมเร้า ด้วยเหตุนี้ ฮูหยินจึงรักและเป็นห่วงไต้เอ๋อร์มากตั้งแต่นางอายุยังน้อยๆ
ถ้าไต้เอ๋อร์หายสาบสูญไปจริงๆ …แล้ว…แล้วชีวิตที่เหลือของนางจะอยู่ต่อไปอย่างไร
น่าหลานฮูหยินปาดน้ำตาที่ขอบตา ถอนหายใจเบาๆ และในตอนนั้น…
ใต้แสงคบไฟที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก เห็นร่างกายน้อยๆ ก็ปะทะกับสายตาของนางในทันใด น่าหลานฮูหยินรู้สึกดีใจ แต่เมื่อนางเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ น่าหลานไต้เอ๋อร์ สีหน้าจึงไปเปลี่ยนทันที นางรีบเดินตรงเข้าไป แล้วแย่งตัวน่าหลานไต้เอ๋อร์ออกมาจากมือของเฟิงหรูชิง จากนั้นกอดไว้แน่น
สายตาของน่าหลานฮูหยินดูหวาดกลัว นางกอดน่าหลานไต้เอ๋อร์ไว้แน่น สีหน้านั้นเหมือนกลัวว่าเฟิงหรูชิงจะรังแกน่าหลานไต้เอ๋อร์อีก
“ท่านป้า” เฟิงหรูชิงรู้สาเหตุที่น่าหลานฮูหยินรู้สึกกลัว นางจึงหัวเราะเจื่อนๆ “ท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่แกล้งนางหรอก คราวนี้ไต้เอ๋อร์อยากซื้อขนมให้พี่ชาย ข้าไปพบนางที่หลงทางเข้า เลยพานางกลับมาส่ง”
น่าหลานฮูหยินไม่อยากเชื่อเฟิงหรูชิง นัยน์ตาของนางมีความหวาดระแวง “เช่นนั้นขอขอบพระทัยองค์หญิง ต่อไปท่านไม่ต้องลำบากหรอกเพคะ ไต้เอ๋อร์ ต่อไปห้ามทำแบบนี้อีกนะลูก เจ้าทำแม่ตกใจแทบแย่”
น่าหลานไต้เอ๋อร์ซุกศีรษะเข้าไปในอ้อมกอดของน่าหลานฮูหยิน ใบหน้าเล็กๆ ของนางเผยรอยยิ้มอันสดใส “ท่านแม่ไม่ต้องกลัว ท่านพี่ …ปกป้องข้า”
เฟิงหรูชิงปกป้องไต้เอ๋อร์?
นัยน์ตาของน่าหลานฮูหยินแสดงถึงความสงสัย แค่เฟิงหรูชิงไม่รังแกไต้เอ๋อร์ นางก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว ไม่เคยคาดหวังให้เฟิงหรูชิงปกป้องไต้เอ๋อร์แต่อย่างใด
“ท่านป้า ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายจริงๆ” เฟิงหรูชิงสีหน้าจริงจัง “ที่ข้ามาครั้งนี้ ก็เพื่อถามไถ่…สุขภาพของท่านตาเป็นอย่างไรบ้าง”
นางไม่ได้พูดถึงเรื่องที่พี่ชายถูกถอนหมั้น เรื่องนี้น่าอายเกินกว่าจะพูดออกมา นางคงไม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าน่าหลานฮูหยิน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับพวกเขาคงยากที่จะฟื้นฟูกลับมา
น่าหลานฮูหยินฝืนยิ้ม “ท่านพ่อกลายเป็นแบบนี้เพราะเหตุใด องค์หญิงไม่รู้หรือป้ายเลือดเหล็กแผ่นนั้น ฮองเฮาใช้เลือดเนื้อและชีวิตทั้งชีวิตสร้างมันขึ้นมา แต่องค์หญิงกลับยกมันให้หรงกุ้ยเฟยจนได้ ท่านพ่อ ข้าวิงวอนขอร้องอยู่หน้าประตูตำหนักท่านหลายวันหลายคืน แต่ท่านไม่ยอมพบเขาสักครั้ง…หลังจากนั้นสุขภาพของเขาก็แย่ลงทุกวัน”