ตอนที่ 199 แต่งกับกั๋วซือ? (2)
ชิงจู๋กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก มันอยากจะร้องเรียนเจ้านายตัวเองทำอย่างไรดี?
แต่พอเห็นแววตาเย็นยะเยือกของหนานเสียน มันก็ไม่กล้าพูดออกไป
“ไม่มี ไม่มีผู้ใดรังแกข้าจริงๆ ข้าไปเที่ยวบนท้องฟ้ารอบหนึ่งเองและเพิ่งกลับลงมา”
“ไปเที่ยวบนท้องฟ้ารอบหนึ่ง? งูบินได้?”
เฟิงหรูชิงกวาดสายตามองชิงจู๋ด้วยความสงสัย
นางรู้สึกว่า งูน้อยมีเรื่องบางอย่างปกปิดนางอยู่…
“เอ่อ…” ชิงจู๋ชำเลืองมองหนานเสียนด้วยท่าทีเหนียมๆ ก่อนจะเบนสายตามาที่เฟิงหรูชิง “ข้าบอกกับนายท่านเองว่าข้าอยากไปเที่ยวบนท้องฟ้าสักรอบ สัมผัสถึงความรู้สึกของนกเสียหน่อย นายท่านก็เลยออกแรงช่วยข้า”
“เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?” เฟิงหรูชิงหรี่ตาเดินไปทางชิงจู๋ “หากให้ข้ารู้ว่าเจ้าปิดบังอะไรข้า ข้าจะสับเป็นแปดชิ้น ต้มเป็นซุปงูให้กั๋วซือบำรุงร่างกาย”
สีหน้าหนานเสียนนิ่งเรียบ “ข้าไม่ชอบหนังงู”
“ได้ เช่นนั้นข้าจะถลกหนังแล้วค่อยต้ม รสชาติต้องสดอร่อยแน่”
ชิงจู๋เบิกตากว้าง “…”
องค์หญิงนำเนื้อของมันไปเอาใจนายท่าน
แถมนายท่าน…ยังยอมรับอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ?
มันไปทำอะไรให้ใครกัน? เหตุใดต้องให้มันที่อายุยังน้อยนิดต้องมาแบกรับความเสียใจเช่นนี้?
“พวกท่านร่วมมือกันรังแกข้า!”
ชิงจู๋ร้องไห้เสียงดัง หันหลังออกไปทางประตูด้วยความรวดเร็ว
มันจะหนีออกจากบ้าน จะไม่กลับมาอีกแล้ว!
เฟิงหรูชิงมองไปทางที่ชิงจู๋ออกไปนิ่งๆ นางกะพริบตาปริบๆ แล้วหันไปมองหนานเสียน
“เมื่อครู่ข้าปรักปรำมันใช่หรือไม่? มันอาจจะอยากไปเที่ยวชมธรรมชาติบนท้องฟ้าจริงๆ …”
ไม่เช่นนั้นงูน้อยจะน้อยเนื้อต่ำใจเช่นนี้หรือ?
คิดไปคิดมาเฟิงหรูชิงก็รู้สึกผิดขึ้นมาหลายส่วน แต่ความรู้สึกผิดนี้หายไปในพริบตาเมื่อได้เห็นหนานเสียนขยับเข้าใกล้นาง
ในดวงตาทั้งสองข้างมีเพียงชายรูปงามดั่งเทพเซียนเท่านั้น
“ไม่ต้องสนใจมัน อีกเดี๋ยวมันก็จะกลับมาเอง”
“จริงหรือ?”
“อื้อ…”
ภายในห้องไม้เงียบลง
เฟิงหรูชิงกับหนานเสียนเข้าใกล้กันมาก มากจนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจของชายหนุ่ม
ภายใต้บรรยากาศเงียบสงบ เฟิงหรูชิงรู้สึกราวกับว่าอุณหภูมิรอบตัวมันเพิ่มสูงขึ้น เหงื่อออกที่แผ่นหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็มิอาจรู้ได้
“เอ่อ…กั๋วซือ เจ้ารู้สึกร้อนบ้างหรือไม่?”
“…” หนานเสียนเงียบไปครู่หนึ่ง “อยากจะถอดเสื้อข้าก็พูดมาตามตรง ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม”
เฟิงหรูชิง “…”
ในสายตากั๋วซือ นางเป็นหญิงลามกเช่นนั้นเลยหรือ?
“เช่นนั้นท่านยิมยอมที่จะถอดหรือไม่?”
ดวงตาเฟิงหรูชิงจ้องมองหนานเสียนเขม็ง ราวกับสามารถมองทะลุเสื้อผ้าเขาเห็นเนื้อหนังมังสาที่ทำให้ผู้คนเกิดความโลภได้อย่างชัดเจน
“ข้ารอให้เจ้าเอาชนะข้าให้ได้ แล้วข้าจะทำตามที่เจ้าต้องการ” หนานเสียนยิ้มบางยกมือขึ้นลูบผมเฟิงหรูชิงเบาๆ การกระทำของเขาอ่อนโยนมากและยังแฝงด้วยความเอาใจ “อีกอย่าง หากมีคนรังแกเจ้า เจ้าก็มาป่าไผ่ทิศใต้บอกกับข้า”
“หากมีคนรังแกข้า ท่านจะใช้ร่างกายของท่านปลอบข้าหรือ…” เฟิงหรูชิงจ้องเขาตาปริบๆ
รอยยิ้มของหนานเสียนมิอาจรักษาเอาไว้ได้กลับแข็งทื่อ ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความจนใจ
“ข้าจะปกป้องเจ้า”
“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าปกป้อง” เฟิงหรูชิงหรี่ตาลง “เจ้าแค่ทำหน้าที่ปลอบใจข้าก็พอแล้ว”
นางไม่ต้องการการปกป้องจากชายหนุ่ม
ถึงแม้นางจะชอบกั๋วซือ แต่นางชอบรูปร่างหน้าตาของกั๋วซือ ไม่เกี่ยวกับอย่างอื่น
นางยิ่งไม่มีทางเอาความหวังทั้งหมดไปฝากไว้กับชายหนุ่ม
หากสามารถขอความช่วยเหลือจากกั๋วซือ หรือนางจะขอให้กั๋วซือแก้แค้นแทนนางเลยก็ได้…
…………………………
ตอนที่ 200 แต่งกับกั๋วซือ? (3)
แต่เฟิงหรูชิงเข้าใจดี กำลังของคนอื่นต่อให้มากเพียงใดมันก็คือของผู้อื่นตลอดกาล ชีวิตนี้ของนางที่พึ่งได้ที่สุดก็คือตัวนางเอง!
“เจ้าไม่อยากให้ข้าปกป้องเจ้า?” แววตาหนานเสียนนิ่งเรียบดุจสายน้ำ คิ้วขมวดเล็กน้อยราวกับแฝงด้วยความสงสัย
“กั๋วซือ เจ้าสัญญาได้หรือไม่ หากข้าพบเจอกับอันตรายกับความยากลำบาก เจ้าจะปรากฏตัวขึ้นปกป้องข้าได้ทันเวลาทุกครั้ง?” เฟิงหรูชิงแย้มยิ้มบาง นิ้วของนางลูบไล้ที่ใบหน้าสง่างามของหนานเสียน
“หากว่าข้าเคยชินกับการพึ่งพาเจ้าจนไม่อาจพัฒนาตัวเอง วันหน้ากั๋วซือมาธุระจำต้องไป ไม่ได้อยู่ข้างกายข้าแล้วใครจะปกป้องข้า?”
หนานเสียนนิ่งชะงัก สายตาของเขาจับจ้องไปยังเฟิงหรูชิง
“ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ข้าได้เห็นกั๋วซือ อย่างไรข้าก็ต้องร่วมหลับนอนกับเจ้า” เฟิงหรูชิงเอ่ยยิ้มๆ “เจ้าก็เคยพูดว่าขอเพียงข้าชนะเจ้าได้จึงจะได้ร่วมหลับนอนกับเจ้า แม้ภารกิจนี้จะยากนักหนาแต่มันก็เป็นแรงผลักดันให้ข้า หากข้าให้เจ้าแก้ปัญหาทุกอย่างให้ข้าจะเติบโตขึ้นได้อย่างไร?”
“ดังนั้น…คนพวกนั้นข้าจะจัดการเอง ก็แค่ให้พวกเขาได้มีเวลาใช้ชีวิตอีกสักระยะเท่านั้น กั๋วซือเจ้าไม่ต้องยื่นมือมาเข้ามา หากข้าถูกรังแกแล้วเจ้าต้องการปลอบข้าละก็…เจ้าก็เอาเนื้อหนังมังสาของเจ้ามา…”
ตึ่ง!
เฟิงหรูชิงเพิ่งจะพูดจบ มือมือหนึ่งก็กดที่หลังศีรษะนางจนศีรษะนางชนเข้ากับอกชายหนุ่มอย่างจังชนแรงจนนางปวดหัว
“เช่นนี้พอหรือไม่?” เหนือศีรษะนางมีเสียงอ่อนโยนของชายหนุ่มดังขึ้น
เฟิงหรูชิงเงยหน้าขึ้นสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไม่พอ” นางพูดจบก็กดจูบเบาๆ ที่ปลายคางชายหนุ่ม
ริมฝีปากของหญิงสาวนุ่มนิ่ม แม้จะจูบที่ปลายคางของเขาแต่เขากลับรู้สึกราวถูกไฟช็อต ร่างทั้งแข็งทั้งชาไปทั้งร่าง ความรู้สึกนี้เขาไม่เคยมีมาก่อน แต่ในใจของเขากลับสบายผิดปกติ
“กั๋วซือ” เฟิงหรูชิงคิ้วตาโค้งยิ้มกว้าง “เจ้าไม่รังเกียจข้าหรือ?”
จูบนี้เฟิงหรูชิงอดใจไม่ไหวชั่วขณะเป็นการกระทำที่ไม่ทันคาดคิด นางคิดว่าชายหนุ่มจะผลักนางออกเสียอีก ใครจะรู้…เขาไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้นางจูบปลายคางของเขา
หนานเสียนเก็บเอาความรู้สึกในแววตาเอาไว้ ก้มลงจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอด “เหตุใดต้องรังเกียจเจ้า?”
“เพราะว่าข้าอ้วน…”
“ก็นิดหน่อย” มือของหนานเสียนลูบศีรษะหญิงสาว นัยน์ตาเย็นชาแฝงด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
“แต่เจ้างดงาม” เฟิงหรูชิงตาประกาย “จริงหรือ?”
“อื้อ…”
ไม่ว่าจะฉินเฉินหรือไต้เอ๋อร์ล้วนก็เคยชมนาง แต่คำพูดของพวกเขารวมกันยังไม่ทำให้ใจนางเบิกบานได้เท่ากับประโยคนี้ของกั๋วซือ
“กั๋วซือ ข้ายังต้องไปที่กองทัพเลือดเหล็กอีก วันหน้าข้าจะมาหาเจ้าใหม่”
“ได้”
…
หญิงสาวพูดจบเพียงไม่นาน ร่างของนางก็เดินจากไปไกลก่อนจะหายลับไปจากป่าไผ่ทิศใต้นี้หนานเสียนหลุบตาลง นิ้วเรียวยาวของเขาแตะลงที่ปลายคาง ที่ปลายคางนี้ ยังมีไออุ่นจากริมฝีปากหญิงสาวเหลืออยู่…นานไม่ไปไหน
…
ในคุก
กลิ่นชื้นๆ ตีขึ้นมากลิ่นเหม็นนั่นทำเอาหลิวหรงที่ใช้ชีวิตสุขสบายมาโดยตลอดแทบจะอ้วกออกมา
“ท่านแม่” เฟิงหรูซวงล้มลงตรงหน้าประตูห้องขังของนาง ร้องไห้อย่างเวทนาน้ำตานองหน้า
“ท่านไปหาเสด็จพ่อขอร้องพระองค์ให้ข้า เฟิงหรูชิงนางส่งคนมาแล้ว จะเอาข้าไปส่งที่ค่ายทหาร ข้ายังไม่ได้แต่งกับกั๋วซือเลย ข้าไม่อยากออกจากวังหลวง ข้าไม่อยาก!”
เดิมนางก็ยากจะพบกั๋วซืออยู่แล้ว หากต้องไปค่ายทหารยิ่งอย่าหวังจะได้เจอเขาเลย
…………………