ตอนที่ 203 เฟิงหรูซวงผู้โชคร้าย (3)
นัยน์ตาหลิวหรงฉายแววแปลกประหลาด แต่ก้อนหินที่ทับใจนางอยู่ก็ได้วางลงเสียที
ด้วยนิสัยของเฟิงหรูชิงแล้ว หากซวงเอ๋อร์ไม่ไปนางต้องสร้างเรื่องใหญ่โตแน่ แล้วยังส่งผลกระทบต่อท่านพ่อได้
ดังนั้นเรื่องสำคัญเร่งด่วนต้องเกลี้ยกล่อมเด็กนี่ไปก่อนค่อยว่ากัน
ส่วนเรื่องกั๋วซือ…
ถึงเวลานั้นแคว้นหลิวอวิ๋นก็เป็นของตระกูลหลิวแล้ว ต่อให้ซวงเอ๋อร์จะโวยวายก็ไม่มีประโยชน์
“ซวงเอ๋อร์” เห็นท่าทางดีใจของเฟิงหรูซวงแล้วใจหลิวหรงก็เกิดรู้สึกผิด นางทอดถอนใจ “เจ้าไปค่ายทหารแล้วห้ามสร้างปัญหาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้ากลัวเฟิงหรูชิง…”
“ท่านแม่ ข้าเข้าใจ” เฟิงหรูซวงเงยหน้าขึ้นยิ้มแย้ม “เพื่อจะได้แต่งกับกั๋วซือ ข้าทนได้ทุกอย่างท่านวางใจได้เพคะ”
“เช่นนั้นก็ดี”
หลิวหรงถอนหายใจ นางลุกขึ้นยืนสงสัยอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “ข้ายังถูกกักบริเวณอยู่แอบมาเพื่อเจอเจ้า ตอนนี้ข้าต้องกลับไปแล้ว มิเช่นนั้นหากคนอื่นรู้เข้าเกรงว่าจะเกิดปัญหาใหญ่”
“เพคะ” เฟิงหรูซวงจิตใจเบิกบานไร้ซึ้งความโกรธ “ท่านแม่กลับไปก่อนเถิด อีกเดี๋ยวคนของจวนแม่ทัพก็จะมาแล้ว ข้าก็ต้องไปเช่นกันเพคะ”
ครั้งนี้หลิวหรงไม่ได้พูดอะไรอีก นางมองเฟิงหรูซวงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหมุนตัวเดินออกนอกคุกไป
นางจากไปได้เพียงไม่นานนายทหารของจวนแม่ทัพก็มาถึง
พวกเขานึกว่าเฟิงหรูซวงจะตะโกนขัดขืน แต่นึกไม่ถึงว่านางจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น ตามหลังพวกเขาออกมาอย่างว่าง่าย
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ ในตอนที่เฟิงหรูซวงผ่านป่าไผ่ทิศใต้ก็พบกับหนานเสียนที่เดินออกมาจากป่าไผ่พอดี
ชายใต้แสงอาทิตย์ตกยังคงเยือกเย็นและสูงส่ง น่านับถือเช่นเดิม
บนมือของชายหนุ่มมีงูเขียวตัวยาวพันอยู่ กำลังร้องห่มร้องไห้บอกอะไรบางอย่าง
ฝีเท้าเฟิงหรูซวงหยุดลง แววตามองใบหน้ารูปงามสมบูรณ์พร้อมของชายหนุ่มนิ่งค้าง
ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง หนานเสียนหันหน้ามา สายตาไร้อารมณ์ตกอยู่ที่ใบหน้านิ่งค้างของเฟิงหรูซวง
“องค์หญิงรองยังไม่รีบไปอีก?” นายทหารเอ่ยเร่งด้วยความใจร้อน
เฟิงหรูซวงจึงจะได้สติกลับมา นางมองหนานเสียนอีกครั้งแล้วหันหน้าเดินต่อไป
ดวงตาของนางไม่ได้อยู่ที่หนานเสียนแต่ใจของนางมีความเพียรพยายามเพิ่มมากขึ้น
กั๋วซือ ข้าจะต้องกลับมาแต่งงานกับท่าน ไม่มีวันยอมเสียท่านไป!
…
“ฮือ ฮือ นายท่าน ข้าจะไม่หนีออกจากบ้านอีกแล้ว ท่านอย่าโยนข้าออกไปเลย ข้ารู้แล้วว่าผิด…”
นอกป่าไผ่ทิศใต้ ชิงจู๋ร้องไห้น่าสงสาร น้ำมูกน้ำตานองหน้า ร่างของมันเกี่ยวพันอยู่บนตัวหนานเสียนด้วยกลัวว่าเขาจะโยนมันทิ้ง
หนานเสียนขมวดคิ้วน้อยๆ สีหน้านิ่งเรียบ “นางเป็นใคร? ข้ารู้จักหรือ?”
ชิงจู๋งงงันก่อนจะมองตามสายตาหนานเสียนไป พบกับเงาร่างคุ้นเคยเล็กน้อยที่ด้านหน้า
มันเอียงคอคิดอยู่นานกว่าจะคิดตัวตนของหญิงสาวออก
“อ้อ หญิงผู้นั้น…ไม่ใช่ที่เมื่อก่อนแอบเข้ามาในป่าไผ่แล้วยังฉวยโอกาสนอนบนเตียงท่าน หญิงที่ต้องการล่อลวงท่านคนนั้นหรือ? เหตุใดท่านจึงลืมนางเสียเล่า?”
“คนที่ไม่สำคัญ ข้าไม่เคยจำหน้าตาได้”
ชิงจู๋มองตาปริบๆ “เช่นนั้นเหตุใดจู่ๆ นายท่านถึงได้ถามถึงนาง?”
“อือ…” สีหน้าหนานเสียนเรียบนิ่งเย็นชากว่าเก่า “แววตานางเมื่อครู่ ข้าไม่ชอบ…”
ชิงจู๋กรอกตาไปมา “กั๋วซือ ข้าได้ยินมาว่าองค์หญิงรองคนนี้ ผลักองค์หญิงกระเด็นแล้วยังชอบรังแกนาง พวกเราแอบไปจัดการนางดีหรือไม่? เอาหัวของนางมาให้องค์หญิงดีใจ?”
………………..
ตอนที่ 204 เฟิงหรูซวงผู้โชคร้าย (4)
แบบนี้แล้ว ชายชู้ที่ชื่อฉินเฉินนั่นก็หมดหวัง…ชิงจู๋จิตใจเบิกบาน อีกเดี๋ยวนายท่านจะต้องชมมันแน่นอน!
ขอเพียงนายท่านอารมณ์ดีก็จะไม่โยนมันทิ้งแล้ว
แววตาหนานเสียนเปร่งประกายแสงบางอย่าง แสงนั่นหายไปอย่างรวดเร็วจนไม่อาจจับได้
ดวงตาของเขามองตามเฟิงหรูซวงไป นัยน์ตาเย็นชาแฝงด้วยอารมณ์บางอย่างไม่ชัดเจน
ฆ่านางแล้วชิงเอ๋อร์จะ…ดีใจ?
ชั่วขณะนั้นหนานเสียนก็คิดถึงคำพูดที่เฟิงหรูชิงพูดกับเขาก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลงทันที
“นางเคยบอกว่าไม่ต้องการให้ข้าแก้แค้นให้นาง นางต้องการใช้พละกำลังของตัวเอง” ริมฝีปากของหนานเสียนมีรอยยิ้มบางๆ
“หากข้าสั่งสอนนิดหน่อยคงจะ…ไม่นับว่าแก้แค้น?”
เฟิงหรูซวงที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก อาจเป็นเพราะทำใจไม่ได้จึงอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหนานเสียนอีกเวลานั้นหนานเสียนกำลังจ้องมองมาที่นาง ในแววตานิ่งเรียบไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ วินาทีที่สายตาของทั้งสองประสานกัน ใจนางเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ แก้มแดงก่ำแฝงด้วยความเขินอาย
ดูเหมือนว่าที่ท่านแม่พูดไว้จะไม่ผิด กั๋วซือชอบนางจริงๆ ไม่เช่นนั้นวันนี้คงจะไม่ตั้งใจออกมาส่งนาง และยิ่งไม่มีทางใช้สายตาอาลัยอาวรณ์ส่งนางจากไปเช่นนั้น
ในตอนที่ใจเฟิงหรูซวงกำลังเต็มไปด้วยความสุขนี้เอง จู่ๆ ต้นไม้ด้านข้างก็ล้มลงมาไม่ทันได้ตั้งตัว โครม ต้นไม้ล้มทับร่างเฟิงหรูซวงทำให้นางต้องล้มลงไปนอนแผ่อยู่ที่พื้น
เจ็บจนสีหน้านางซีดขาว เหงื่อไหลออกมาไม่หยุด
แต่ในตอนที่นางคิดจะตะเกียกตะกายออกมาก็มีก้อนหินจากฟ้าหล่นลงมาใส่อกนางอย่างแรง แรงกดทับทำให้นางกระอักเลือด
นายทหารด้านหลังต่างพากันตื่นตะลึง จ้องมองเฟิงหรูชิงกระอักเลือดโดยไม่รู้ตัว นัยน์ตาฉายแววแตกตื่นชัดเจน
นี่…นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ต้นไม้อยู่ดีๆ ก็ล้มลงมา แล้วยังมีก้อนหินยักษ์ปริศนาอีก…
“เอ่อ พวกเราต้องหาคนมารักษานางก่อนหรือไม่?” นายทหารนายหนึ่งเอ่ยถามด้วยความสงสัย
ทหารอีกคนครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ “เราทุกคนต่างก็เป็นผู้บำเพ็ญตบะ หินทับก็ไม่ตาย พานางไปค่ายทหารเลยหากยังชักช้าอยู่ ท่านแม่ทัพกับองค์หญิงต้องอารมณ์ไม่ดีแน่”
เฟิงหรูซวงที่เดิมบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว เมื่อได้ยินประโยคนี้เข้าก็โกรธจนกระอักเลือดออกมาอีก สีหน้าโหดเหี้ยม
เฟิงหรูชิง!
นี่ต้องเป็นเฟิงหรูชิงทำแน่!
นางจะไม่ยอมปล่อยนางไปเด็ดขาด!
ภายใต้แสงพระอาทิตย์ตกดิน หนานเสียนเอามือไพล่หลังข้างหนึ่ง ชายเสื้อโบกปลิวตามแรงลม แววตานิ่งเรียบของเขากวาดมองชิงจู๋ที่พันอยู่บนท่อนแขน เอ่ยออกมาเสียงเรียบ “คำพูดใดที่ควรพูด คำพูดใดที่ไม่ควรพูด เจ้ารู้หรือไม่?”
ชิงจู๋เรียกสติกลับมาจากที่อึ้งอยู่ทันควัน มันรีบพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ นายท่าน ข้าจะไม่ให้องค์หญิงรู้เข็ดขาด”
“อือ…” หนานเสียนละสายตานิ่งเรีบของเขาออกจากเฟิงหรูซวง หันหลังเดินเข้าไปในป่าไผ่ทิศใต้
วินาทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในป่าไผ่ ชิงจู๋หันกลับไปใช้สายตาแบบเดียวกันมองไปเฟิงหรูซวงที่ถูกต้นไม้ทับ
ยายเด็กนี่รังแกใครไม่รังแก มารังแกคนที่นายท่านอยากปกป้อง…
ดังนั้นวันนี้ก็เป็นเพราะนางรนหาที่เอง!
นายท่านน่ะชอบปกป้องจะตาย คนที่ท่านชอบไม่มีทางยอมให้คนอื่นรังแกหรอก!
…
ตั้งแต่หมาป่าสีขาวถูกรังแก เฟิงหรูชิงก็ตั้งใจจะเพิ่มระดับพลังของตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น และทัพเลือดเหล็กก็คือส่วนหนึ่งของพลังของนาง
ดังนั้นวันนี้นางจึงได้เข้าวังเพื่อไปค่ายกองทัพเลือดเหล็ก แต่คิดไม่ถึงว่าตอนเดินผ่านป่าไผ่ทิศใต้นางเผลอเลอเดินเข้าไปในนั้น และก็เผลอนอนบนเตียงกั๋วซือไปหนึ่งวัน
เดินมาถึงด้านนอกค่ายนางก็ยกมือขึ้นกุมหน้าผากถอนหายใจแผ่วเบา “ความงามทำให้มนุษย์ผิดพลาด ความงามทำให้มนุษย์ผิดพลาดโดยแท้…มิได้ ต่อไปนี้จะเป็นเช่นนี้อีกมิได้ ข้าจะต้องมุ่งเน้นเรื่องงานเป็นหลัก!”
………………