ตอนที่ 293 คือนางผู้งามเหนือใคร (1)
เดิมทีเฟิงเทียนอวี้ตั้งใจว่าจะจัดการทุกสิ่งให้เรียบร้อยก่อนที่จะยกแคว้นหลิวอวิ๋นให้เฟิงหรูชิง
แต่ตอนนี้ เห็นทีว่าคงทำไม่ทันแล้ว
โชคยังดี โชคยังดีที่ชิงเอ๋อร์กับคนในจวนแม่ทัพกลับมาคืนดีกันแล้ว เมื่อได้รับการช่วยเหลือจากจวนแม่ทัพ เขาก็รู้สึกวางใจ
ปัง!
น่าหลานจิ้งถูกเสิ่นเยว่ต่อยเข้าอีกหมัด เขาตกลงบนแท่นจัดเลี้ยงอีกครั้ง น่าหลานจิ้งเอามือกุมที่หน้าอก สายตาของเขามองดูชายที่เดินเข้ามาอย่างไม่หวาดกลัว
“น่าหลานจิ้ง เจ้ามันกระจอกมาก สิบปีก่อน น่าหลานเยียนอาหญิงของเจ้าบุกตีแคว้นหลงอ้าวของข้าอย่างหนัก แคว้นของข้าจำต้องใช้จื่อเยียนเป็นข้อเสนอแลกเอาความสงบสุขกลับคืนมาได้!” นัยน์ตาของเสิ่นเยว่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ตอนนี้ไม่มีน่าหลานเยียนที่ร้ายกาจนั่นแล้ว แคว้นหลิวอวิ๋นของพวกเจ้าจะไปเหลืออะไร”
เดิมทีต่อให้ไม่มีน่าหลานเยียน อย่างน้อยยังมีเฟิงเทียนอวี้อยู่ ดังนั้น แคว้นหลงอ้าวจึงได้แค่รุกรานแนวชายแดนเท่านั้น ไม่กล้าคิดกำเริบเสิบสานบุกตีมาถึงพื้นที่ชั้นใน
แต่ตอนนี้เพราะมีจื่อเยียน กำลังของแคว้นหลงอ้าวจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ถ้าต้องการยึดแคว้นหลิวอวิ๋น นั้นง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
แล้วจะต้องกลัวอะไร
น่าหลานจิ้งปาดเลือดที่มุมปาก เขาลุกขึ้นมา “ท่านอาข้าไม่ได้ทำอะไรผิด! ตอนนั้น องค์ชายแคว้นหลงอ้าวของพวกเจ้ามาฆ่าคนของแคว้นข้าที่เขตชายแดน ท่านอาข้าเป็นฮองเฮา ต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ ไม่ยอมให้ใครมาเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์!”
ท่านอาไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่ผิดคือพวกเสเพลที่ทำกับผู้บริสุทธิ์เหมือนเป็นผักปลา
เสิ่นเยว่ตาแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น “ก็แค่พวกชาวบ้านร้านตลาด ชีวิตของพวกเขาจะมาเปรียบอะไรกับเสด็จพี่ของข้า พวกไพร่ตายก็ตายไปสิ น่าหลานเยียนที่ร้ายกาจนั่นกล้าทำสงครามกับแคว้นของข้าเพื่อคนชั้นต่ำพวกนั้น แถมยังบีบให้เสด็จพี่ข้าต้องตาย สมน้ำหน้า ที่อาเจ้าได้รับผลกรรมชั่ว ไม่เพียงตัวตาย แต่ยังได้ลูกสาวที่ทำแต่เรื่องเลวๆ มาอีกคน ฮ่าๆๆ !”
ศึกครั้งนั้น น่าหลานเยียนนำทัพเลือดเหล็กออกสมรภูมิเพียงทัพเดียว
ทัพเลือดเหล็กไม่มีผู้เสียชีวิตเลยสักคน แต่แคว้นหลงอ้าวเสียหายหนัก
เมื่อจนตรอก เสด็จพี่ของเสิ่นเยว่จำต้องเอาชีวิตตนเองชดเชยความผิด และให้จื่อเยียนหมั้นหมายกับน่าหลานจิ้ง และได้สาบานว่าต่อไปจะไม่เข่นฆ่าชาวบ้านของแคว้นหลิวอวิ๋นอีก จึงทำให้แคว้นหลงอ้าวผ่านพ้นวิกฤตมาได้!
โชคดีที่น่าหลานเยียนหญิงอำมหิตได้รับเวรกรรมตอบสนองแล้ว!
ตรงกันข้าม แคว้นหลงอ้าวโจนทะยาน เพราะพึ่งพาผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋น!
แบบนี้แหละที่เรียกว่าทีใครทีมัน!
ความแค้นในอดีต ถึงอย่างไรก็ต้องสะสาง!
เอื้อ!
เสิ่นเยว่แววตาอำมหิต เขาปล่อยพลังลมปราณออกจากฝ่ามือ น่าหลานจิ้งกระอักเลือด ใบหน้าของเขาซีดขาวไร้เลือดฝาด
“จิ้งเอ๋อร์!” น่าหลานฉางเฉียนตาแดงก่ำ
ในขณะที่เขากำลังจะเข้าไปช่วยน่าหลานจิ้ง ชายสูงวัยคนหนึ่งก็มาขวางทางเขาไว้
หมัดอันทรงพลังพุ่งตรงเข้ามา ก่อนที่มันจะกระแทกเข้าที่หน้าอกของน่าหลานฉางเฉียน มีมืออันแข็งแรงข้างหนึ่งได้ยื่นเข้ามา คว้าหมัดของชายสูงวัยไว้แน่น
ชุดมังกรของชายผู้นั้นปลิวไสว ใบหน้าอันงามสง่าดูน่าเกรงขาม เค้าโครงหน้าคม เขาเม้มริมฝีปาก
“แม่ทัพน่าหลาน พาจิ้งเอ๋อร์ไปจากที่นี่”
“ฝ่าบาท!”
“ต่อไป ชิงเอ๋อร์ยังต้องการการสนับสนุนจากพวกเจ้า ดังนั้นคนของจวนแม่ทัพ ห้ามตายแม้เพียงสักคน!”
ฟึบ!
เขาผายฝ่ามือออก พลังวิเศษได้พุ่งเข้าใส่ชายสูงวัย ทำให้ชายสูงวัยถอยไปข้างหลังหลายก้าว ก่อนที่จะตั้งหลักได้
พวกองครักษ์ในวังไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวเพราะเฟิงเทียนอวี้ได้สั่งเอาไว้ แต่พวกเขาไม่ได้ออกไปไหน ยังคงถือกระบี่คุมเชิงคนที่กำลังต่อสู้อยู่ตรงนั้น
บรรดาขุนนางคนอื่นๆ ต่างหลบอยู่ตามมุมตำหนัก เพราะการต่อสู้แบบนี้พวกเขาไม่มีปัญญาเข้าไปขัดขวาง ไม่ว่าใครที่เข้าไปก็ล้วนไม่มีทางต้านทานการออกอาวุธของฝ่ายตรงข้ามได้!
ตอนที่ 294 คือนางผู้งามเหนือใคร (2)
เฟิงเทียนอวี้ยกมือขึ้น เอากระบี่ในมือขององครักษ์มาถือไว้ในมือของตน
เขายืนอยู่กลางสายลมในยามค่ำคืน สีหน้าเคร่งขรึมราวกับว่าได้ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ไม่เกรงกลัวความตาย
“เยียนเอ๋อร์ ข้าเคยรับปากเจ้าไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ข้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไป”
“แต่น่าเสียดาย ที่ข้าทำไม่ได้ ครั้นสูญเสียเจ้าไป ชีวิตของข้าก็ไร้ความหมาย”
“แต่เพื่อชิงเอ๋อร์ ข้าอดทนอยู่มานานหลายปี บัดนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอข้าอยู่ในปรโลกคนเดียวอีกต่อไป ข้าจะไม่ยอมให้…เจ้าต้องอยู่เดียวดายไร้เพื่อนอีกแล้ว”
อันที่จริง เมื่อตัดสินใจเช่นนี้ เขาก็รู้สึกโล่งอก
จากรอยยิ้มที่น่ากลัวก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ชายสูงวัยสามคนนั้นต่างมองหน้ากัน
เฟิงเทียนอวี้บ้าไปแล้วใช่หรือไม่ ในเวลาแบบนี้ยังยิ้มออกมาได้
ในระหว่างที่พวกชายสูงวัยยังไม่ทันตั้งสติ เฟิงเทียนอวี้ก็บุกเข้าไปตรงหน้าพวกเขาก่อนแล้ว
พลังวิเศษอันแข็งแกร่งปรากฏอยู่รอบตัวเฟิงเทียนอวี้
ลมพัดแรง ทำให้โต๊ะเก้าอี้ทั้งหมดถูกพัดรวมอยู่ในอากาศ เมื่อเฟิงเทียนอวี้ฟันกระบี่ลงโต๊ะเก้าอี้ก็พุ่งเข้าใส่ชายสูงวัยสามคนนั้น
หลินกงกงเห็นเฟิงเทียนอวี้ที่มีพลังวิเศษแผ่ซ่านปกคลุมร่างกาย เขารู้สึกเป็นกังวล
องค์หญิง ทำไมท่านยังไม่กลับมาสักที
ฝ่าบาทใช้พลังวิเศษแล้ว แบบนี้เขาต้องไม่รอดแน่ๆ !
แม้แต่หลินกงกงเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเวลานี้ คนที่เขาคิดถึงเป็นคนแรก คือเฟิงหรูชิงที่คนทั้งหลายต่างรังเกียจ
แต่ในใจของเขากลับมีความคิดที่แปลกประหลาด
หากนางกลับมา สถานการณ์ที่มองไม่เห็นความหวังเช่นนี้ อาจเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
…
กระบี่ที่ฟันลงทำให้เก้าอี้มังกรถูกฟันขาดออกเป็นสองซีก
แต่ชายสูงวัยทั้งสาม นอกจากได้รับบาดเจ็บผิวเผินแล้ว ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก
เฟิงเทียนอวี้เอามือกุมหน้าอกแน่น เขาไอและกระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดขาวไร้เลือดฝาด
เพราะปัญหาสุขภาพเป็นเหตุ เขาไม่อาจใช้พลังได้อย่างเต็มที่
ถ้าไม่เป็นเพราะอาการป่วยหนักมาฉุดรั้งเอาไว้ เขาก็คงอดทนต่อไปได้อีกสักพักจนกว่าพวกแม่ทัพเฒ่าจะมาถึง มันคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
“ฝ่าบาท!”
พวกขุนนางใหญ่ต่างนั่งไม่ติด พวกเขารีบลุกขึ้น
เดิมพวกเขาคิดว่าเฟิงเทียนอวี้จะถ่วงเวลาไว้ได้อีกสักพัก ขอเพียงให้แม่ทัพเฒ่ากับผู้เฒ่าฉินเดินทางมาถึง ก็จะพบทางออก
แต่ฝ่าบาทเป็นอะไรไป…ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเริ่มต่อสู้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน เหตุใดจู่ๆ ถึงมีอาการเช่นนี้
“แค่กๆ !” กายของเฟิงเทียนอวี้โยกไปมา เขากระอักเลือดไม่หยุดดูราวกับคนป่วยใกล้ตาย พร้อมล้มฟุบลงได้ทุกเวลา
เสิ่นเยว่เมื่อหายอึ้งก็หัวเราะเสียงดังออกมา
“เฟิงเทียนอวี้ ดูท่าท่านคงไม่รอดแล้วล่ะ ก่อนนี้…ท่านคงกินผลจางหงกั่วเข้าไปถึงทำช่วยให้ดูเป็นปกติ ตอนนี้ท่านอาการหนักไร้ทางเยียวยา แคว้นหลิวอวิ๋นของท่านจะเอาอะไรมาสู้กับข้า”
คำพูดนี้ทำให้เหล่าขุนนางทั้งหลายตกใจจนมึนงงไปหมด
สุขภาพของฮ่องเต้…ไม่ดีมานานแล้ว? เพื่อปิดบังอาการป่วยของตัวเองไม่ให้แสดงออกมา เขากินผลจางหงกั๋วไปอย่างนั้นหรือ
เหตุใด…เหตุใดฝ่าบาทต้องทำแบบนี้ ผลข้างเคียงหลังกินผลจางหงกั่วเข้าไปยิ่งร้ายแรงกว่าเดิม! นี่เขาไม่รู้จริงๆ หรือ
เฟิงเทียนอวี้ก้มหน้า เดิมเขาคิดจะปิดบังอาการป่วยไว้อีกสักพัก เพื่อยืดเวลาให้ชิงเอ๋อร์
ดูท่าตอนนี้คงไม่ไหวแล้ว
เขาปาดเลือดที่มุมปาก แล้วหัวเราะสะใจ “ต่อให้ร่างกายข้าไม่ไหว ก็ไม่มีทางล้มพับไปต่อหน้าพวกขี้แพ้สู้ฮองเฮาของข้าไม่ได้หรอก!”