ตอนที่ 299 คือนางผู้หยิ่งผยอง (2)
ผลไป๋เฉากั่วนี่นางเก็บไว้ในห่อผ้า ถ้าหากเก็บไว้ในอีกมิติหนึ่งป่านนี้คงโดนพวกเจ้าตัวเล็กกินหมดเกลี้ยงแล้ว
โชคยังดีที่เหลือผลไป๋เฉากั่วพวกนี้อยู่
“เจ้าหมาป่า เอาผลไป๋เฉากั่วไปให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เดี๋ยวข้าจะไปรักษาพวกเขาอีกที”
ผู้เฒ่าฉินกับท่านตาไม่ได้เจ็บหนักอะไร ผลไป๋เฉากั่วเพียงพอแล้วในการรักษา
แต่พวกขุนนางใหญ่อาการสาหัส ผลไป๋เฉากั่วช่วยรักษาได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น มีเพียงยาวิเศษที่ผ่านการต้มที่จะช่วยให้พวกเขาหายดีได้
แต่ว่ายาวิเศษชามสุดท้ายนั้นนางให้เสด็จพ่อดื่มไปแล้ว ตอนนี้ที่ใช้ได้ก็มีเพียงผลไป๋เฉากั่วเท่านั้น!
“อู๊วๆ”
หมาป่าสีขาวเห่ารับ มันคาบเอาห่อผ้าไปวางไว้ที่พื้น
เมื่อเปิดห่อผ้าออก ผลไป๋เฉากั่วก็กลิ้งออกมา มันดูสะดุดตามาก ดึงดูดสายตาคนทั้งหลายในทันที
“ผลไปเฉากั่วระดับสาม?” เสิ่นเยว่หน้านิ่งไป
ยาวิเศษระดับสามไม่ได้มีความหมายกับเขาเท่าใดนัก เพราะสินสอดที่คู่หมั้นของจื่อเยียนให้มามียาวิเศษระดับสามอยู่ด้วย
ที่เขารับไม่ได้ก็คือ คนไม่เอาไหนอย่างเฟิงหรูชิงไปเอายาวิเศษระดับสามมาจากไหนกัน
นัยน์ตาของเขามีประกายชั่วร้าย เขามองดูหญิงสาวที่หน้าตางดงามเกินใคร เขาเกิดความเข้าใจบางอย่างและมีความคิดดูถูกนาง
“เดิมข้ารู้สึกสนใจในตัวเจ้า แต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะยอมขายตัวเพื่อแลกกับยาวิเศษระดับสาม ช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน!”
หากเป็นแม่ทัพเฒ่า เฟิงเทียนอวี้หรือผู้เฒ่าฉินที่หายาวิเศษระดับสามมาได้ เขาคงไม่ตกใจเท่าไร อย่างมากก็แค่รู้สึกไม่พอใจเท่านั้น
แต่ดันเป็นเฟิงหรูชิงที่มียาวิเศษระดับสาม!
คนไม่เอาถ่านคนหนึ่ง ถ้าไม่ขายตัวแลกมา จะเอายาวิเศษระดับสามมาจากไหน
หากเป็นเฟิงเทียนอวี้…
ถ้าเฟิงเทียนอวี้เป็นคนให้ละก็ ตัวเขาเองก็ต้องมี นี่พอจะพิสูจน์ได้ว่ายาวิเศษพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา!
“อู๊วๆ !”
หมาป่าสีขาวโมโห ไอ้สารเลวนั่นมันหมายความว่าอย่างไร คิดว่ามันเป็นหมาป่าแล้วฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องอย่างนั้นหรือ
กล้าดูหมิ่นเจ้านาย? นี่เท่ากับไม่เห็นหมาป่าสีขาวอย่างมันอยู่ในสายตา!
“เจ้าเอาผลไป๋เฉากั่วพวกนี้ไปที่อื่น” เฟิงหรูชิงมองดูหมาป่าสีขาว สีหน้าไร้อารมณ์
หมาป่าสีขาวเห่ารับแล้วหอบเอาผลไป๋เฉากั่วไป
เฟิงหรูชิงหันไปมองชายสูงวัยสามคนนั้น
ตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ นางไม่เคยมองเสิ่นเยว่เลยแม้แต่น้อย แม้แต่คำพูดของเขานางก็ไม่เอามาใส่ใจ
ใจของนางมีแต่เรื่องตาแก่สามคนนั่น ความโกรธของนางโหมกระหน่ำดังเช่นคลื่นทะเล ไม่อาจสงบนิ่งได้
“เมื่อครู่ใครทำเสด็จพ่อข้า”
ขายสูงวัยในชุดเขียวคนนั้นเดินออกมา มองดูเฟิงหรูชิงด้วยสายตาดูถูก “ข้าเอง จะทำไม”
เฟิงหรูชิงยิ้มมุมปาก
ความรู้สึกนั้นเผยชัดถึงดวงตา แต่มันทำให้คนทั้งหลายเสียวสันหลัง
“ไม่ทำไมหรอก”
ฟับ!
เฟิงหรูชิงหายตัวไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงภาพติดตาที่ยังค้างอยู่
เมื่อคนทั้งหลายตั้งสติได้ หญิงสาวรูปงามดั่งเทพธิดาก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้าของชายสูงวัยชุดเขียว
ชายสูงวัยชุดเขียวเห็นเพียงเงาลางๆ ตรงหน้า มือเรียวๆ ข้างหนึ่งบีบคอของเขาเอาไว้
แค่ออกแรงเล็กน้อย คอก็ขาดออกจากกัน เลือดพุ่งเป็นน้ำพุ ร่างที่ไม่มีหัวหงายไปข้างหลัง ล้มพับลงบนพื้น
ในตำหนักเงียบกริบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงใบไม้ร่วงหล่น
คนทั้งหลายลืมหายใจ มองดูเฟิงหรูชิงราวกับเห็นปีศาจ
แม้เวลาจะผ่านไปสักพัก ก็ยังเรียกสติกลับคืนมาไม่ได้
การที่เฟิงหรูชิงฆ่าชายสูงวัยชุดเขียวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่เขาประมาทในตัวนาง
อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงผู้มีฌานระดับหลิงอู่ ต่อให้ประมาทศัตรู ก็ไม่น่าจะคอขาดเพราะมือข้างเดียวของนาง
นางเก่งกาจแค่ไหนกันนะ ถึงทำได้ขนาดนี้
ตอนที่ 300 คือนางผู้หยิ่งผยอง (3)
“ยังมีใครอีกที่ทำร้ายเสด็จพ่อข้า”
ดวงตาของหญิงสาวมองไปทางกลุ่มคนของแคว้นหลงอ้าว สีหน้าของนางดูหยิ่งผยอง น้ำเสียงโอหัง รังสีอำมหิตแผ่ซ่าน
“ผู้มีฌานระดับหลิงอู่!”
ยอดฝีมือคนหนึ่งของแคว้นหลงอ้าวตั้งสติได้ เขาสีหน้าเปลี่ยนและพูดด้วยความตกใจว่า “เจ้าคือผู้มีฌานระดับหลิงอู่!”
ผู้มีฌานระดับหลิงอู่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในสี่แคว้น
สมัยก่อนมีเพียงน่าหลานฮองเฮาเพียงคนเดียวที่มีพลังของผู้มีฌานระดับหลิงอู่แม้ว่านางอายุยังน้อย
นอกจากนางแล้ว ไม่มีใครที่มีพรสวรรค์อันเก่งกาจเช่นนี้!
ที่เสิ่นเยว่ได้เป็นผู้มีพรสวรรค์อันดับหนึ่งก็เพราะเขามีกำลังความสามารถของผู้มีฌานระดับเจิ่นอู่ขั้นกลางตั้งแต่อายุเพียงยี่สิบกว่า ในโลกปุถุชนความสามารถระดับนี้ถือว่าเก่งกาจมากพอแล้ว
แต่เฟิงหรูชิงเพิ่งจะอายุไม่เท่าไร
ผู้มีฌานระดับหลิงอู่ที่อายุเพียงสิบหกปี?
พรสวรรค์อะไรกันที่ทำให้นางมีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้
ที่ผ่านนางนางถูกเรียกว่าพวกไม่เอาถ่านมาตลอด!
เสิ่นเยว่ถอยหลังไปอย่างลุกลี้ลุกลน
คำพูดที่เขาเพิ่งดูหมิ่นเฟิงหรูชิงไปสักครู่ เปรียบเสมือนฝ่ามือใหญ่ๆ ตบเขาไปที่หน้าของเขาเองอย่างแรง รู้สึกขายหน้าจนอยากมุดแผ่นดินหนี
เฟิงหรูชิงคือคนไม่เอาถ่าน? ถ้านางเป็นคนไม่เอาถ่าน แล้วอย่างเขาเรียกว่าเอาอะไร
เอาอ่าวอย่างนั้นหรือ
เสิ่นเยว่กำหมัดแน่น เขาคิดว่าสิ่งที่พบเจอในวันนี้ผิดจากที่เขาเคยรู้มาตลอด
ไม่ว่าอย่างไร ผู้หญิงอย่างเฟิงหรูชิงก็ทำให้เขารู้สึกสนใจได้จริงๆ !
“เฟิงหรูชิง!” เสิ่นเยว่ตั้งใจสติได้ เขายิ้มแสยะ “ข้ายอมรับว่าเจ้ามีพรสวรรค์ แต่คู่หมั้นของจื่อเยียนเป็นผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋น ที่แคว้นหลงอ้าวมีกำลังความสามารถได้อย่างทุกวันนี้ หนีไม่พ้นการสนับสนุนจากจวนเฟิงอวิ๋น ข้าจะไม่เอาความที่เจ้าฆ่าคนของข้า ขอเพียงเจ้ายอมเป็นเมียข้า!”
“ผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋น?”
เฟิงหรูชิงหัวเราะหึ
ตอนอยู่ในป่าแห่งสัตว์วิเศษ มีผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋นคนหนึ่งที่เกือบตายด้วยน้ำมือของนางแล้วส่วนแคว้นหลงอ้าวในตอนนี้ ก็แค่พึ่งพาผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋นเท่านั้น
เฟิงหรูชิงเดินตรงไปข้างหน้า นางพุ่งหมัดไปที่ผู้มีฌานระดับหลิงอู่อีกคนหนึ่ง
ผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนนั้นตกใจหน้าซีด เขารีบพลิกตัวหลบหมัดของนาง
น่าเสียดายที่มันช้าไปหน่อย หมัดของเฟิงหรูชิงกระแทกลงบนหน้าอกของเขาเต็มแรง พลังวิเศษในตัวของเขาปั่นป่วน แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วร่างกาย
พลังวิเศษที่กระจัดกระจายไม่อาจควบคุมทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหว เสียงเอื้อดังขึ้น เขากระอักเลือดออกมา
“บังอาจ!”
ผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนสุดท้ายสีหน้าเปลี่ยน เขาชิงจังหวะที่เพื่อนของเขายังไม่ตาย รีบพุ่งเข้าหาเฟิงหรูชิง
ตอนนี้ หมาป่าสีขาวชักทนดูไม่ได้!
เจ้านายข้าชอบสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่ง เจ้าจะมาสอดทำไม
ดังนั้น…
หมาป่าสีขาวเห่าด้วยความโมโห มันกระโจนเข้าใส่ผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนนั้น พลังทั้งหมดมารวมอยู่ที่อุ้งเท้าของมัน มันตบเท้าเข้าไปที่ผู้มีฌานระดับหลิงอู่คนนั้นอย่างแรง
พลังตบของมันรุนแรงมาก บวกกับการที่ชายผู้นั้นไม่ทันได้ระวัง กายของเขาโซซัดโซเซ อีกนิดเดียวก็ล้มพับลงกับพื้นอย่างขายหน้าแล้ว
“อู๊วๆ !”
หมาป่าสีขาวชี้หน้าชายคนนั้นด้วยความโมโห ราวกับเป็นหมาป่าอันธพาลยืนด่าไม่หยุด
“นี่มัน…”
หมาป่าสีขาวระดับสี่?
เมื่อหมาป่าสีขาวออกหน้า พลังของมันก็เก็บซ่อนไว้ไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่าหมาป่าของจวนองค์หญิงตัวนี้เลื่อนระดับเป็นหมาป่าระดับสี่?
องค์หญิงหายตัวไปสองเดือน ได้เจออะไรมาบ้าง ไม่เพียงแค่นางบรรลุฌานระดับหลิงอู่ แม้แต่หมาป่ายังกลายหมาป่าระดับสี่ด้วย
หลิ่วอวี้เฉินมือสั่น เขากลืนความขมขื่นลงคอ
เขาก้มหน้า มีเพียงการทำเช่นนี้จึงข่มใจตัวเองไม่ให้สนใจเฟิงหรูชิงได้