ตอนที่ 403 รักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่ (3)
เว่ยเมิ่งเจี๋ยหัวเราะหึ “เจี่ยงเยว่เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกข้าด้วยศีลธรรมอันสูงส่ง? ท่านพ่อข้าสู้สุดชีวิตแล้วอย่างไร? ข้าเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นจะไม่ให้กลัวตายได้อย่างไร? หากเจ้าไม่กลัวตายเจ้าก็ไปสนามรบสิ”
เจี่ยงเยว่กระทืบเท้าโกรธจัด ถ้าไม่ใช่เพราะนางกำลังตั้งครรภ์นางก็อยากจะไปสนามรบจริงๆ
แม้นางจะไม่ได้ไปสนามรบแต่พี่สาวน้องสาวของนางล้วนไปแล้ว แม้สามีของนางจะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านแต่ก็ไม่เคยหดหัว เขาภูมิใจในตระกูลเจี่ยง
และอย่างน้อยตอนที่คนในครอบครัวออกศึกนางก็จะไม่เป็นตัวถ่วงอยู่ข้างหลัง
ก็แค่ตายเท่านั้น ดีกว่าขายหน้าตระกูลเป็นไหนๆ
“เป็นอะไรไปไม่พูดแล้ว? ในเมื่อเจ้าไม่มีอะไรจะพูดเช่นนั้นก็ไม่มีสิทธิ์มาด่าข้า”
“พอแล้ว!” แววตาเว่ยผิ่นเหยาค่อยๆ เย็นชาขึ้น นางไม่มองเว่ยเมิ่งเจี๋ยอีกเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น “ข้าไล่ลูกสาวอกตัญญูผู้นี้ออกจากตระกูลแทนท่านพ่อของข้า นางไม่ใช่คนตระกูลเว่ยของเราอีก การกระทำของนางไม่ได้หมายถึงตระกูลเว่ย!”
ท่านพ่อให้ความสำคัญต่อชื่อเสียงมากกว่าสิ่งใด
นางไม่ยอมให้ชื่อเสียงของท่านพ่อที่สู้สุดชีวิตอยู่ข้างนอกต้องถูกลูกสาวอกตัญญูคนนี้ทำลายหมดสิ้น
“บังอาจ!”
ท่านย่าเว่ยใช้ไม้เท้าเดินมาด้านหน้าฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าเว่ยผิ่นเหยา “เจ้าเป็นคนแต่งออกไปมีสิทธิ์อะไรมาทำแทนตระกูลเว่ยของพวกเรา? เว่ยผิ่นเหยาเจ้ามันคนใจดำน่ารังเกียจ ทีแรกก็ครอบครองฉินซวินเอาไว้คนเดียวไม่ยอมให้น้องสาวของเจ้าเป็นอนุภรรยา ตอนนี้ก็ยังจะขับไล่นางออกจากตระกูล ข้าจะตีเจ้าให้ตายเสียก่อนนางคนน่ารังเกียจ!”
ท่านย่าหยิบไม้เท้าขึ้นมาฟาดไปทางเว่ยผิ่นเหยาอย่างแรง
ไม้เท้าของนางยังไม่ทันได้เข้าใกล้เว่ยผิ่นเหยาก็ถูกฉินอี๋จับเอาไว้แน่น
“ศัตรูข้างนอกอยู่ตรงหน้าท่านยังมีใจคิดรังแกผิ่นเหยา? เห็นตระกูลฉินของข้าไม่มีคนแล้วหรือไร? น้องชายข้ารับหรือไม่รับอนุภรรยาผิ่นเหยาไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ข้าไม่ยอมให้เขารับอนุภรรยาข้ายอมรับแค่ผิ่นเหยาผู้เดียวน้องชายข้าก็เช่นกัน เขาไม่มีทางหักหลังผิ่นเหยา!”
“เห๊อะ!” ฮูหยินเฒ่าชี้หน้าฉินอี๋ด้วยความสั่นเทา “เจ้าก็แค่ลูกสาวที่แต่งออกไปมีสิทธิ์อะไรเป็นตัวแทนตระกูลฉิน? แล้วยังขัดขวางไม่ให้ฉินซวินรับอนุภรรยา เจ้าคู่ควรหรือ?”
ลูกสาวที่แต่งออกไปก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป ใครก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยวเรื่องในตระกูลแม่อีก!
มุมปากฉินอี๋ยกยิ้มเย็น นางมองเว่ยเมิ่งเจี๋ยแล้วก็หันไปมองฮูหยินเฒ่า สุดท้ายก็เบนสายตาไปมองชายเพียงคนเดียวในที่นี้
ผู้ชายทุกคนในสามตระกูลใหญ่ไปร่วมสู้ศึกหมดแล้วมีเพียงผู้หญิงที่อยู่
แต่น่าเสียดาย…ลูกชายของอนุภรรยาตระกูลเว่ย น้องชายแท้ๆ ของเว่ยเมิ่งเจี๋ยกลับหลบซ่อน แล้วยังมาหลบซ่อนขอลี้ภัยที่จวนแม่ทัพของนาง!
ผู้ชายโตเต็มวัยคนหนึ่งให้นางที่เป็นผู้หญิงปกป้องเขา นี่มันน่าขันเพียงใดกัน?
“ผู้นำตระกูลเว่ยฉลาดหลักแหลมกล้าหาญภักดี แต่กลับเพราะมีแม่เช่นท่านทำลายเขาอย่างที่ไม่อาจช่วยได้อีกแล้ว”
นางหันหน้าไปไม่มองเว่ยฮูหยินอีก
ใบหน้าโกรธเคืองของเว่ยฮูหยินเขียวคล้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะสู้ฉินอี๋ไม่ได้นางอยากจะใช้ไม้เท้าตีผู้หญิงหน้าไม่อายนี่ให้ตาย
“เว่ยผิ่นเหยา วันนี้ข้าอยู่ที่นี่ใครก็ห้ามขับไล่เมิ่งเจี๋ยออกจากตระกูลทั้งนั้น!” เว่ยฮูหยินไม่กล้าเจาะจงฉินอี๋ก็นำความโกรธแค้นพุ่งไปที่เว่ยผิ่นเหยา
เว่ยผิ่นเหยาดูเย็นชาสีหน้าไร้ความรู้สึก
ใจนางหนาวเหน็บไปทั้งใจนานแล้วไม่สามารถกลับมาอุ่นได้ หากไม่ใช่ท่านพ่อดีต่อนางมาตลอด ชีวิตนี้ของนางไม่อยากกลับไปตระกูลเว่ยอีกเลย
ดังนั้นเพื่อท่านพ่อวันนี้ต่อให้นางต้องตายอยู่ที่นี่ก็จะไม่ยอมคุกเข่าให้ศัตรู
นางจะทำให้หลิวเฝ่ยได้รู้ว่า อย่างน้อยตระกูลเว่ยก็ยังมีนาง…กำลังรักษาศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่
………………………
ตอนที่ 404 ยอมตายดีกว่าคุกเข่า (1)
หลิวเฝ่ยหัวเราะเสียงดังลั่น “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าตระกูลเว่ยก็แตกสามัคคีกัน สามตระกูลใหญ่ที่สง่าผ่าเผยก็แค่นี้เอง! แต่ว่าข้าหลิวเฝ่ยก็เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อสาวน้อยตระกูลเว่ยคุกเข่าก้มหัวขอความเมตตาแล้วข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า”
“ส่วนคนอื่น…” สายตาของเขามองไปยังบรรดาผู้คนที่อยู่ในที่นี้ “จะคุกเข่าก้มหัวให้ข้าหรือจะเลือดสาดตรงนี้!”
นายน้อยตระกูลเว่ยส่งเสียงได้ยินดังนั้นก็รีบตะเกียกตะกายออกมาจากฝูงชนร้องไห้น้ำตานอง “ผู้นำตระกูลหลิว ข้ายินดียอมจำนน ขอท่านได้โปรดไว้ชีวิตหมาเช่นข้าด้วย”
มีเว่ยเมิ่งเจี๋ยกับเว่ยเสียงนำแล้วฮูหยินเฒ่ากับเว่ยฮูหยินรองก็คุกเข่าลงตรงหน้าหลิวเฝ่ยด้วยตัวที่สั่นเทา
เว่ยฮูหยินรองคือแม่ของเว่ยเมิ่งเจี๋ยและเว่ยเสียง และเป็นหญิงที่ฮูหยินเฒ่าบังคับให้เว่ยฝ่างรับเป็นอนุภรรยา
คนยังมีชีวิตอยู่ไม่มีผู้ใดไม่กลัวตาย
ดังนั้นพวกนางไม่ได้รู้สึกว่าวิธีทำของตัวเองมีอะไรผิดไป คนที่มีชีวิตอยู่ดีๆ เหตุใดต้องตายด้วย?
เพื่อศักดิ์ศรีที่น่าขันนั่นหรือ?
ชีวิตก็ไม่มีแล้วจะเอาศักดิ์ศรีไปทำอะไร?
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะของหลิวเฝ่ยดังขึ้นเรื่อยๆ แฝงด้วยความดูถูกเหยียดหยัน
เว่ยฝ่างตอนอายุยังน้อยก็ตามแม่ทัพเฒ่าขี่ม้าเข้าสนามรบสร้างผลงานไว้นับไม่ถ้วน
ว่ากันว่าตอนนั้นเขาถูกจับโดยศัตรูและบีบบังคับให้เขายอมจำนน เขายอมกัดฟันทนทรมานอยู่หลายเดือน
หลังจากนั้นแม่ทัพเฒ่าก็ตามมาจึงช่วยเขาออกมาจากน้ำมือศัตรูได้
ว่ากันว่าตอนแม่ทัพเฒ่าเห็นเว่ยฝ่าง ร่างกายของเขาไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่สมบูรณ์ดีเลยใกล้จะตายแต่กลับไม่ตายข้างๆ ยังมีน้ำเกลือที่เอาไว้รด ทั้งในปากของเขาถูกเขากัดจนเลือดไหลออกมา
วันนั้นทหารตระกูลน่าหลานทุกคนต่างก็ร้องไห้
ให้ความจงรักภักดีของเขา
แต่ทว่าคนหัวแข็งเช่นนี้ให้กำเนิดคนขี้ขลาดตาขาวกลัวตายสองคน
หลิวเฝ่ยที่จริงแล้วนับถือเว่ยฝ่างมาก แต่นับถือก็ส่วนนับถือความแค้นใหญ่หลวงของเขากับตระกูลน่าหลานไม่มีทางเลิกรา!
“เว่ยเสียง” หลิวเฝ่ยมองเว่ยเสียงอย่างถือตัว “หากเจ้าพูดต่อหน้าทุกคนว่าเว่ยฝ่างคือคนขี้ขลาด คนทรยศ ข้าจะปล่อยเจ้าไป”
เว่ยเสียงตาเป็นประกาย เขาแทบจะไม่ลังเลใดๆ ก็เอ่ยปากออกมา “เดิมเว่ยฝ่างก็เป็นคนขี้ขลาด เป็นคนทรยศ เขาจะไปเทียบกับผู้นำตระกูลหลิวเช่นท่านได้อย่างไร? ผู้นำตระกูลหลิวหากท่านปล่อยข้าไป วันหน้าข้าจะเคารพท่าน ตระกูลเว่ยของพวกเรามีข้าเป็นลูกชายคนเดียว ตระกูลเว่ยของข้าก็เป็นของท่าน”
เว่ยผิ่นเหยาหลับตาลง นางไม่อยากเห็นหน้าคนน่ารังเกียจพวกนี้อีกแล้ว
แต่ใจนางกลับเหมือนถูกคนทุบเจ็บปวด
ท่านพ่อ ท่านเห็นหรือไม่? นี่คือลูกชายตระกูลเว่ย เห็นแก่ตัว กลัวตาย ขี้ขลาด
ตอนแรกท่านยอมตายไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อศัตรู แต่เขากลับยังไม่ทันรบก็เข้ากับศัตรูเพื่อลี้ภัยแล้ว…หลิวเฝ่ยลงมือฉับพลันต่อยหมัดไปที่อกของเว่ยเสียง ร่างของเขาลอยไปด้านหังแล้วตกลงกับพื้น
“ท่าน…” เว่ยเสียงเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
ผู้นำตระกูลหลิวพูดแล้วแท้ๆ ขอเพียงเขาพูดถ้อยคำนั้นก็จะปล่อยเขา
หลิวเฝ่ยทำเสียงหึ๊ “ตระกูลหลิวข้าไม่ต้องการคนรักตัวกลัวตาย เมื่อครู่ที่ข้าพูดถ้อยคำเหล่านั้นก็เพียงต้องการรู้ว่ามีกี่คนที่รักตัวกลัวตาย! คนเช่นนี้ตระกูลหลิวข้าไม่มีทางเอาไว้!”
คนขี้ขลาดตระกูลหลิวมีหลิวอวี๋นเซียวคนหนึ่งแล้วไม่ต้องการคนที่สอง ไม่ต้องพูดถึงคนที่หักหลังตระกูลเพื่อมีชีวิตอยู่ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่จะหักหลังตระกูลหลิวของเขา
เขาหลิวเฝ่ยยังไม่โง่เขลาขนาดจะรับคนเช่นนี้ไว้