เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา – ตอนที่ 541 ฮ่องเต้ที่หนีออกจากวังไป (5)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 541 ฮ่องเต้ที่หนีออกจากวังไป (5)

บรรยากาศเงียบลงทันใด

น่าหลานเยียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะร้องอ้อขึ้นมา “เมื่อสักครู่ข้าแค่ล้อเล่นน่ะ สร้างบรรยากาศสักหน่อย ความจริงข้ารู้อยู่แล้วว่าเขาคือเสนาบดีหลิ่ว จริงๆ นะ”

เหล่าขุนนางต่างเงียบ

คำพูดของท่าน…เกรงว่าแม้แต่ตัวท่านเองก็คงไม่เชื่อ

“ในเมื่อเจ้าคือเสนาบดีหลิ่วก็ง่ายเลย เทียนอวี้ ท่านถอดยศและสั่งสืบสวนเขาเถอะ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้ว”

น่าหลานเยียนพูดพร้อมสะบัดมือไล่

“ได้”

เดิมได้ยินคำพูดของน่าหลานเยียน เสนาบดีหลิ่วก็ยืนขาสั่นอยู่แล้ว ใครจะรู้ว่าเมื่อเฟิงเทียนอวี้ตอบว่าได้หนึ่งคำ มันทำให้เขาเหมือนตกลงไปในนรก ตัวอ่อนปวกเปียกล้มลงกองอยู่บนพื้น ร้องไห้คร่ำครวญ “ฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทำผิดอะไรหรือ”

น่าหลานเยียนลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปหาเสนาบดีหลิ่วอย่างช้าๆ

“ข้าได้ยินมาว่า ตอนชิงเอ๋อร์ดึงดันจะแต่งงานกับหลิ่วอวี้เฉิน เทียนอวี้รักลูกสาวมากจึงยอมออกราชโองการตามที่นางขอ แต่พี่ชายข้าได้ไปที่บ้านสกุลหลิ่ว บอกว่าจะช่วยออกหน้าปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้แทนสกุลหลิ่ว แต่เจ้ากลับไม่ยอม จะให้ชิงเอ๋อร์แต่งเข้าบ้านให้ได้”

นางหยุดฝีก้าว ยืนอยู่ตรงนั้น

“แต่พอชิงเอ๋อร์แต่งเข้าไปอยู่ในบ้านเจ้า คนสกุลหลิ่วกลับไม่ปฏิบัติต่อนางให้ดี เกือบทำให้ลูกสาวที่รักของข้าต้องตายเสียแล้ว”

เมื่อเทียบกับเสนาบดีหลิ่ว ตอนแรกนางไม่ได้รู้สึกรังเกียจหลิ่วอวี้เฉินแต่อย่างใด

เพราะตอนนั้นหลิ่วอวี้เฉินปฏิเสธที่จะแต่งงานกับชิงเอ๋อร์ แต่เป็นเสนาบดีหลิ่วที่อ้างว่าขัด

ราชโองการต้องถูกประหารทั้งโคตรมาบีบบังคับหลิ่วอวี้เฉิน

ความจริงแล้ว ท่านพี่ก็ไม่ยอมให้ชิงเอ๋อร์แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักนาง และตั้งใจว่าจะออกหน้าปฏิเสธราชโองการแทนเสนาบดีหลิ่ว แต่เป็นเสนาบดีหลิ่วเองที่ไม่รับข้อเสนอของน่าหลานฉางเฉียนเสียเอง

อีกอย่าง ต่อให้เทียนอวี้โมโห ก็คงเพ่งเป้าไปที่หลิ่วอวี้เฉินคนเดียว ไม่ถึงขั้นสั่งประหารคนทั้งสกุลหลิ่วเพียงเพราะความโมโหนี้

ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้น…นางได้ยินว่าหลิ่วอวี้เฉินมักหาเรื่องทำให้ชิงเอ๋อร์โกรธเป็นประจำ หากไม่มีเรื่องเหล่านั้น นางคงไม่รังเกียจหลิ่วอวี้เฉินแบบนี้!

กว่าชิงเอ๋อร์จะเปลี่ยนใจได้ ยอมเลิกกับหลิ่วอวี้เฉิน แต่เขายังตามรังควานนาง ถ้าไม่เรียกว่ากระทำการสามานย์แล้วจะเรียกว่าอะไร

เมื่อเห็นแววตาอันดุดันของน่าหลานเยียน เสนาบดีหลิ่วนัยน์ตาดูสิ้นหวัง

เขารู้ว่าครั้งนี้บ้านสกุลหลิ่วคงถึงคราวจบสิ้น

“เทียนอวี้ ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าจะไปจวนองค์หญิงก่อนล่ะ ท่านเลิกว่าราชการแล้วค่อยตามไปหาข้า”

น่าหลานเยียนยิ้ม เมื่อพูดกับเฟิงเทียนอวี้จบก็เดินออกจากท้องพระโรงไป

หากต้องเปลืองน้ำลายกับคนพวกนี้ นางไปหาลูกสาวสุดที่รักยังดีเสียกว่า

น่าหลานฉางเฉียนเห็นน่าหลานเยียนกำลังจะเดินออกไป และมองเห็นพวกขันทียกเหล้าวิเศษเข้ามา เขาไม่สนใจคนอื่น เขาหันหน้าไปถวายบังคมเฟิงเทียนอวี้แล้วรีบวิ่งออกจากท้องพระโรง ไปเดินอยู่ข้างๆ น่าหลานเยียน

“เยียนเอ๋อร์ เจ้าช่วยข้าถามชิงเอ๋อร์หน่อยได้หรือไม่ว่าร้าน…อยู่ที่ไหนหรือ”

เหล้ากาเดียว ไม่พอดื่ม เขาต้องหาร้านให้เจอ จะได้ซื้อมาหลายๆ ไห

น่าหลานเยียนอึ้ง นางกลับหลังมา ทำคิ้วขมวด “ร้านอะไรกัน”

“ก็ร้านขายเหล้าอย่างไรเล่า”

ท่านพ่อหาร้านขายเหล้าเจอ แล้วทำไมเขาถึงหาไม่เจอล่ะ

น่าหลานเยียนถามแบบสับสน “ข้าไม่รู้ว่าร้านอะไร มันเป็นเหล้าที่ข้าได้มาจากห้องใต้ดินของชิงเอ๋อร์ นางบอกข้าว่านางเรียนรู้วิธีหมักเหล้ามาจากคนอื่น อาจเป็นเหล้าที่นางหมักเองหรือเปล่า ถ้าท่านต้องการละก็ ไปขอจากชิงเอ๋อร์เองก็ได้”

ใบหน้าของน่าหลานฉางเฉียนค่อยๆ ปรากฏรอยยิ้มที่ดูชัดเจน

จนน่าหลานเยียนเดินลับตาไป ใบหน้าที่เดิมดูเคร่งขรึมของเขาก็ยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม

วันนั้น คนแคว้นหลิวอวิ๋นที่ไม่รู้สาเหตุ ต่างก็คิดไปว่าน่าหลานฉางเฉียนบ้าไปแล้ว

เขาบ้าขนาดเอาถ้วยโถโอชามในบ้านออกมาขว้าง ทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ กระทั่งมีคนได้ยินเสียงเขาทะเลาะกับแม่ทัพเฒ่า

……………………….

ตอนที่ 542 ฮ่องเต้ที่หนีออกจากวังไป (6)

กว่าจะถึงตอนค่ำที่เหตุการณ์สงบลง ใครจะรู้ว่าวันต่อมาจะมีราชโองการมาถึงจวนแม่ทัพ น่าหลานฉางเฉียนที่เพิ่งอาการดีขึ้นไม่นานถึงคราวต้องเป็นบ้า!

“แม่ทัพน่าหลาน รับราชโองการ” หลินเจิ้นอวิ๋นถือราชโองการมา ใบหน้ายิ้มแย้ม “แต่ต่อไปต้องเรียนท่านว่าอ๋องผู้สำเร็จราชการแล้วล่ะ ยินดีกับท่านด้วยท่านอ๋องน่าหลาน”

ดวงตาของน่าหลานฉางเฉียนแดงก่ำ เส้นเลือดแดงฉานเต็มลูกตา เขาพูดด้วยความโมโห “ข้าจะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท ข้าจะไปเข้าเฝ้าเขา!”

“ท่านอ๋อง ฝ่าบาทกับฮองเฮาเสด็จออกจากวังไปแล้ว ต่อไปเรื่องราชสำนักท่านอ๋องจะเป็นผู้ดูแล”

“เฟิงเทียนอวี้!!!” น่าหลานฉางเฉียนโมโหจนตัวสั่น ดูคล้ายกับคนกำลังเป็นบ้า “เจ้ามันคนไม่รับผิดชอบ มีสิทธิ์อะไรเอาภาระพวกนี้มาโยนให้ข้า แล้วพาน้องสาวข้าออกไปเที่ยวเล่นตามใจเฉิบ โอ๊ยๆๆ! อิสระเสรีของข้า! ความฝันของข้า! ชีวิตของข้า!!!”

เดิมเขาคิดไว้ว่า เมื่อน้องสาวกลับมา เขาคงไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องแคว้นหลิวอวิ๋นอีก

เขาจะได้พาภรรยากับลูกสาวไปเที่ยวเล่นให้สบายใจ ไม่ต้องถูกพันธนาการไว้ในแคว้นหลิวอวิ๋น

แต่ตอนนี้…

ล่มไม่เป็นท่า แผนที่วางไว้พังทลาย!

ความฝันที่จะเที่ยวชมขุนเขาสายน้ำ ความผ่อนคลายในการหลีกเร้นอาศัยอยู่ในชนบทที่คิดไว้ พริบตาเดียว หายวับไปกับตา!

คราวนี้ น่าหลานฉางเฉียนร้องไห้ออกมาจริงๆ น้ำตาไหลริน ท่าทางน้อยอกน้อยใจและเจ็บใจ

ถ้ารู้แต่ทีแรก…เขานำทัพไปรักษาการณ์ชายแดนยังจะดีเสียกว่า

ยังง่ายกว่าการดูแลราชสำนัก!

เมื่อเทียบกับน่าหลานฉางเฉียนที่กำลังเป็นบ้า เฟิงหรูชิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก

มือของนางถือจดหมายฉบับหนึ่งแน่น สีหน้าไม่สบอารมณ์

“นี่มันอะไรกัน เสด็จแม่กับเสด็จพ่อหนีออกไปจากวังแล้วหรือ จะให้ข้าไปดูแลจวนเฟิงอวิ๋น? แล้วให้แวะจัดการบ้านสกุลถังด้วย?”

เสด็จแม่ไม่ไปแก้แค้นเองแล้วหรือ

หนีออกไปจากวัง ไม่บอกกันสักคำ?

ทิ้งนางไว้ที่นี่? แถมยังให้นางดูแลจวนเฟิงอวิ๋นอีก?

ในจวนเฟิงอวิ๋นมีสาวใช้หน้าตาสวยๆ หรือไม่

ถ้าไม่มีละก็ นางจะไปทำไม นางมีกั๋วซือแล้ว แถมยังมีทัพเลือดเหล็ก และยังมีชิงหลิงกับหลิวลี่ แล้วยังมีถังอิ่นเพิ่มมาอีกคน…แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว! จะเอาจวนเฟิงอวิ๋นมาเพิ่มอีกเพื่ออะไรกัน

“ฮองเฮาตรัสว่าจะไปตามหาองค์ชายที่หายสาบสูญไปเพคะ…” ชิงหลิงเห็นเฟิงหรูชิงที่กำลังโมโห นางกลัวจนตัวสั่น “ดังนั้นฮองเฮากับฝ่าบาทก็เลยเสด็จออกไปแล้วเพคะ”

เฟิงหรูชิงหยีตา “แล้วเสด็จแม่จะยกจวนเฟิงอวิ๋นให้ข้าดูแลเพื่ออะไร ในจวนมีคนตั้งเยอะแยะ ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ข้าเข้าไปยุ่งเลย เสี่ยวอิ่น เจ้าไปจวนเฟิงอวิ๋นแทนข้า ตามตัวผู้อาวุโสเหลยอวิ๋นมา อ้อ จริงสิ บอกให้เขาพาตัวกู้เจิ้นหยางกับสองพ่อลูกของบ้านสกุลถังมาหาข้าด้วย!”

ถังอิ่นนั่งลงข้างๆ เฟิงหรูชิงอย่างเชื่อฟัง นางพยักหน้ารับ ดูน่ารักน่าเอ็นดู “ได้เลยเสี่ยวชิง”

“จริงสิ เสี่ยวอิ่น เจ้าช่วยดูให้ข้าหน่อยว่า ในจวนเฟิงอวิ๋นมีบ่าวรับใช้หน้าตาดีหรือ….”

เฟิงหรูชิงยังพูดไม่ทันจบประโยค จู่ๆ นางก็มองไปเห็นชายชุดขาวดูราวกับเทพ เดินมาพร้อมกับแสงอรุณจากที่ไม่ไกล

มือของชายผู้นั้น ยังคงลากสายจูงสุ…คนมาด้วยคนหนึ่ง!

กู้เจิ้นหยางถูกหนานเสียนจูงด้วยโซ่ล่ามสุนัขมาตลอดทาง เขาถูกผู้คนมากมายมองด้วยสายตาประหลาดและเหยียดหยาม เขาอับอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนี

“เสี่ยวชิง เมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรนะ” ถังอิ่นถามด้วยความสงสัย

ในตอนนั้น สายตาของเฟิงหรูชิงจับจ้องเพียงใบหน้าอันสง่างามไร้ผู้ใดเปรียบของชายผู้นั้น

เขาเปรียบราวกับบัวขาวกับรัศมีแห่งดวงจันทร์

“ไม่มีอะไร” เฟิงหรูชิงยิ้ม “ข้าแค่คิดว่า โลกใบนี้คงไม่มีชายใดจะรูปงามไปกว่ากั๋วซืออีกแล้ว”

สายตาของถังอิ่นจ้องมองไปที่หนานเสียนทันที นางกำชายแขนเสื้อแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเศร้าและเคียดแค้น

ไอ้ชายยั่วสวาท!

หนานเสียนคือชายยั่วสวาท!

………………………

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

Status: Ongoing
นิยายแปลไทยเรื่อง : เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดาผู้เขียน : เซียวชีเหยี่ย ถึงคราวบอกลาชีวิตสุดเศร้า เมื่อเป้าหมายใหม่ในร่างองค์หญิงล้วนใหญ่ยิ่งสมสถานะ นอกจากลดน้ำหนัก ท่องตำรา ปลูกยาวิเศษ… ก็คือการมัดใจเขาคนนั้นให้ได้!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-ทะลุมิติ ที่นางเอกเป็นเจ้าหญิง พ่วงภารกิจรักชวนเร้าใจ ลืมไปเสีย! ความรันทดในอดีตเมื่อ ‘เฟิงหรูชิง’ หญิงใบ้ชีวิตอาภัพจากยุคปัจจุบันลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องตกตะลึง เพราะเตียงผู้ป่วยในสถานฟื้นฟูที่เคยนอน บัดนี้กลับเปลี่ยนเป็นเตียงบรรทมอันแสนโอ่อ่าในวัง อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของตนยังพองใหญ่กลายเป็นสตรีอวบอ้วนตัวกลม และที่น่าตกใจที่สุดคือนาง…พูดได้แล้ว?!หลังจากตั้งสติให้ดี เฟิงหรูชิงก็เข้าใจว่านางได้ลาจากภพเดิมมายังโลกแห่งใหม่ โดยเจ้าของร่างที่นางมาอาศัยอยู่นี้มีชื่อเหมือนกันกับตน ทว่ามีศักดิ์เป็นถึงองค์หญิงแห่งแคว้น อีกทั้งยังไม่ใช่องค์หญิงธรรมดา แต่เป็นองค์หญิงม่ายที่ถูกสามีทิ้ง! ด้วยความเศร้าโศกที่ถูกขอหย่า เฟิงหรูชิงคนก่อนจึงปลิดชีพตัวเองจากไปอย่างน่าสงสาร…แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเฟิงหรูชิงคนก่อน เพราะตอนนี้นางมิใช่คนเดิมอีกแล้ว! เมื่อสามีเก่าไม่สนใจ นางก็หาสามีใหม่เสียสิ เอาเป็น ‘หนานเสียน’ ท่านราชครูรูปงามผู้แสนลึกลับคนนั้นเป็นอย่างไร ดีละ นางได้เป้าหมายแล้ว ถึงเวลาบอกลาชีวิตเก่าสุดรันทด ชีวิตใหม่นี้นางจะลดน้ำหนัก ฝึกวิชา ท่องตำรา ปลูกยาวิเศษ รวมถึงหาวิธีมัดใจเขาคนนั้นให้ได้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท