ตอนที่ 573 ซู่อีที่ตะลึง (2)
ลืมมันไปได้หรือไม่?
สีหน้าหลิ่วฮูหยินกระดากอายยิ่งกว่าเก่า หน้านิ่งถมึงทึงลงจ้องมองบรรดาคนที่เอ่ยด้วยสายตาดุร้าย แล้วหันไปมองเฟิงหรูชิงอีกครั้ง
“ไม่ใช่ องค์หญิง…หม่อมฉันมาเพียงเพื่อต้องการทูลองค์หญิงว่า เมื่อครู่มีหญิงผู้หนึ่ง…”
“ท่านเป็นใคร?”
เฟิงหรูชิงยกยิ้มที่มุมปากเอ่ยถาม
แววตาหลิ่วฮูหยินแข็งทื่ออีกครั้ง “หม่อมฉันไม่ใช่ทูลไปแล้วหรือ หม่อมฉันเป็น…”
“อ้อ ข้าไม่มีแม่สามีอะไรนั่นยอมไม่รู้จักท่านด้วย หมาป่าสีขาวส่งแขกให้ข้า”
“เอ๋าว์วู!”
หมาป่าสีขาวยกอุ้งเท้าขึ้นอีกครั้งโบกออกไปอย่างไม่ลังเล
อุ้งเท้านี้ทำให้หลิ่วฮูหยินลอยออกไปกลิ้งหลายตลบกับพื้น
“องค์หญิงองอาจยิ่งนัก อยากแต่งกับองค์หญิงให้กำเนิดลูกให้พระองค์…”
หญิงสาวที่มีกระบนใบหน้าคนหนึ่งยกมือสองข้างขึ้นกุมหัวใจ ใบหน้าเขินอาย
หมาป่าสีขาว “…”
นายท่านเพียงแค่นั่งบนหลังมันออกคำสั่ง หญิงสาวผู้นี้เห็นนายท่านองอาจตรงไหนกัน?
ที่องอาจคือมันต่างหาก!
เฟิงหรูชิงมองหญิงสาวที่มีกระบนใบหน้า
ในใจหญิงสาวยินดีแต่กลับอยากปิดบังกระบนใบหน้าตัวเองเอาไว้
ทว่าคำพูดของเฟิงหรูชิงทำให้นางเอามือลง
“กระนี่น่าเอ็นดูดีนะ ข้าจำได้ว่าดูเหมือนเจ้าจะเป็นหญิงสาวตระกูลรองเสนาบดีกรมครัวเรือน ท่านพ่อและพี่ชายของเจ้าล้วนเป็นผู้กล้า เพื่อสงครามครั้งนี้ยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย แคว้นหลิวอวิ๋นของพวกเราเคารพผู้ที่ปกป้องบ้านเมืองเสมอมา!”
รอยยิ้มของนางเจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ งดงามดุจสายรุ้ง
ในสายตาของนาง ไม่ว่าหญิงสาวคนใดล้วนน่าเอ็นดูทั้งสิ้น ขอเพียงไม่ใช่หญิงเช่นถานซวงซวงกับเฟิงหรูซวงนางล้วนชื่นชอบ
ใจดวงน้อยของหญิงสาวที่มีกระเต้นแรง
ไม่นึกเลยว่าองค์หญิงยังจำนางได้ ดีจริง…
ทหารอารักขาจวนเฟิงอวิ๋นที่แอบตามอยู่ด้านหลังจดถ้อยคำของเฟิงหรูชิงลงสมุดเล่มเล็กเงียบๆ
คุณหนูชอบหญิงสาวที่มีกระ เขาจะต้องไปรายงานท่านผู้อาวุโส สาวใช้ที่จะส่งมาจวนองค์หญิงทั้งหมดจะต้องมีกระ
บรรดาหญิงสาวรอบข้างมองเฟิงหรูชิงแล้วก็หันไปมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจของหญิงสาวที่มีกระ ทุกคนหลับตาลงราวกับกำลังวางแผนบางอย่าง…
…
ตั้งแต่ได้ยินคนเหล่านั้นเรียกเฟิงหรูชิงสายตาของซู่อีก็ไม่ได้ละไปจากร่างเฟิงหรูชิงอีกเลย
แววตาของนางนั้นเปิดเผยชัดเจนจนเฟิงหรูชิงยากจะมองผ่าน
ดังนั้นเฟิงหรูชิงจึงละสายตาไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของซู่อี
ไม่รู้เพราะเหตุใด นางรู้สึกว่าหญิงตรงหน้าดูคุ้นตาราวกับเคยเห็นที่ใดมาก่อน ทว่านางก็แน่ใจว่านางไม่เคยพบมาก่อน
นัยน์ตาเฟิงหรูชิงฉายแววลังเลเอ่ยถาม “หญิงงามท่านนั้นพวกเราเคยเจอกันที่ใดมาก่อนหรือไม่?”
ซู่อี “…”
ไม่รู้นางคิดไปเองหรือไม่ รู้สึกเหมือน...เจอเข้ากับอันธพาล
ทว่า…
เห็นสายตาราวกับเสือหมาป่าของบรรดาผู้หญิงเหล่านั้นแล้วคิ้วซู่อีก็ขมวดน้อยๆ แววตาเย็นยะเยือกกวาดมองไปยังกลุ่มหญิงสาวราวกับกำลังเตือนให้พวกนางเก็บอาการเสียหน่อย
เฟิงหรูชิง…เป็นลูกสะใภ้ของนาง
หญิงสาวเหล่านี้จ้องมองนางตลอดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?
ริมฝีปากซู่อีขยับ “ข้าคือ…เพื่อนของหงส์ขาว มันให้ข้ามาหาเจ้า”
“อ้อ” เฟิงหรูชิงเข้าใจได้ในทันที “หงส์ขาวเล่า? ข้ายังไม่ได้ขอบคุณหงส์น้อยตัวนั้นเลย ครั้งก่อนหากไม่ได้มันเกรงว่าเสด็จพ่อของข้าคงจะเป็นอันตรายไปแล้ว”
“ไม่ต้องขอบคุณมันหรอก นั่นเป็นสิ่งที่มันสมควรทำ”
ชิงเอ๋อร์เป็นภรรยาของหนานเสียน หงส์ขาวปกป้องนางก็เป็นเรื่องสมควร ยังจะต้องขอบคุณไปทำไม?
…………………
ตอนที่ 574 ซู่อีที่ตกตะลึง (3)
“หากท่านรู้จักหงส์ขาวก็ต้องรู้จักหนานเสียนด้วยใช่หรือไม่?” เฟิงหรูชิงยิ้มกว้าง
เพราะนางพบว่า จนถึงตอนนี้ที่ข้างกายหนานเสียนนางรู้จักเพียงงูชิงน้อยตัวเดียว เกี่ยวกับเรื่องของเขานางไม่รู้อะไรเลย…
“หนานเสียน?” สายตาซู่อีฉายแววงงงัน “เขาเป็นใคร?”
สายตาเฟิงหรูชิงฉายแววประหลาดใจ ดูแล้ว…ซู่อีจะเป็นเพียงแค่แค่เพื่อนของหงส์ขาวไม่ได้รู้จักหนานเสียน น่าเสียดาย…นางอยากเข้าใจเรื่องของหนานเสียนบ้าง ชิงน้อยก็ถามอะไรก็ไม่รู้ท่าเดียว
เห็นว่าเฟิงหรูชิงดูเหมือนจะเชื่อคำของนาง ซู่อีก็ถอนหายใจเงียบๆ
นางนึกว่า…ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหนานเสียนจะถูกเฟิงหรูชิงรู้เข้าเสียแล้ว
นางในตอนนี้ยังเตรียมตัวไม่พร้อม…อย่างน้อยก็รอหลังจากนางจัดการเรื่องตระกูลมู่ให้เรียบร้อยเสียก่อน ค่อยมาพบนางในฐานะแม่ของหนานเสียน
นางไม่ยอมให้ว่าที่ภรรยาของหนานเสียนรู้จักตระกูลมู่ ไม่ยินยอมให้นางต้องเผชิญหน้ากับสถานที่เกินทนนั่น…
หากให้ชิงเอ๋อร์รู้ฐานะของนางแล้วเกิดนางถามถึงพ่อของหนานเสียน จะต้องเกี่ยวพันธ์ถึงตระกูลมู่ด้วยอย่างแน่นอน
นางในฐานะแม่คนหนึ่ง เคยไม่สามารถปกป้องลูกชายได้
เช่นนั้นวันหน้านางจะให้พื้นที่ใต้แสงอาทิตย์กับพวกเขาสองสามีภรรยา ไม่ให้ที่มืดมิดมาทำให้จิตวิญญาณของพวกเขามีมลทิน
นี่เป็นมุ่งมั่นของนาง! และเป็นเหตุผลที่นางเลือกถีบหงส์ขาวออกไป!
“เจ้าผู้หญิงสารเลว” หลิ่วฮูหยินคลานกลับมาแล้ว นางก็เห็นซู่อีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเฟิงหรูชิงในทันที ชี้นิ้วใส่นางแล้วเอ่ยปากด่าทอ
“องค์หญิง เมื่อครู่ที่หม่อมฉันต้องการจะทูลก็คือนางสารเลวผู้นี้ นางต้องการจะยั่วยวนฝ่าบาท องค์หญิง ผู้หญิงเช่นนี้…”
เฟิงหรูชิงเลิกคิ้วขึ้น “หมาป่าสีขาว เจ้าส่งแขกไปไกลไม่พอ”
หมาป่าสีขาวโมโหร้อง ‘เอ๋าว์วู’ แล้วโบกหลิ่วฮูหยินออกไปอีกครั้ง
ครั้งนี้จากร่างของหลิ่วฮูหยินกลิ้งไปหลายตลบแล้วหายลับไปท่ามกลางสายตาทุกคน...
ซู่อีมองเฟิงหรูชิงค้าง “เมื่อครู่นางพูดเช่นนั้น เจ้าเชื่อหรือ?”
เฟิงหรูชิงยิ้ม “คนโง่จึงจะเชื่อคำของคนอื่น ที่ข้าเชื่อมีเพียงสัญชาตญาณของตัวเองเท่านั้น! มีบางครั้งแม้จะมองเห็นด้วยตาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องจริง…”
ก็เหมือนกับตอนแรกที่นางรู้อยู่แล้วว่าถังอิ่นเข้าใกล้นางเพราะมีจุดประสงค์ ทว่านางหนูนั่นบริสุทธิ์เกินไป ดังนั้นนางจึงไม่ได้ไล่นางไปอย่างเด็ดขาดจริงจัง
เพราะว่านางเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง!
คนคนหนึ่งมีใจคิดร้ายและจุดประสงค์ร้ายหรือไม่ แค่มองก็เห็นได้อย่างชัดเจน!
นัยน์ตาซู่อีฉายแววเข้าใจ “ใช่แล้ว มีเพียงคนโง่เท่านั้นที่เชื่อคำพูดของคนอื่น”
ตอนอยู่ตระกูลมู่ เฉินชิงเยียนใส่ร้ายนางไม่น้อย ชายคนนั้นที่พูดชัดถ้อยชัดคำว่าจะปกป้องนางทั้งชีวิตไม่เคยเชื่อนางเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเฉินชิงเยียนพูดอะไร แม้ไม่มีหลักฐานใดๆ เขาก็เชื่อและมีแค่ผู้หญิงคนนั้นเสมอ!
เห็นได้ว่า…ตระกูลมู่โง่เขลามากเพียงใด?
แม้แต่เศษเสี้ยวของชิงเอ๋อร์เขายังเทียบไม่ได้
แม้ซู่อีจะปล่อยวางมู่หลิงไปนานแล้ว แต่สำหรับที่มู่หลิงไม่เชื่อนางมากพอในตอนนั้นในใจนางยังคับแค้นอยู่
ทว่าตอนนี้ ร่องรอยทิฐิเพียงหนึ่งเดียวนั้นก็ได้หายไปแล้ว
คนโง่คนหนึ่ง เหตุใดนางจะต้องคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเหล่านี้กับเขา? นางเพียงแต่เห็นใจเขา สงสารเขา ถูกคนปั่นหัวแล้วยังไม่รู้ตัวสักนิด!
“หงส์ขาวบอกว่า ก่อนหน้านี้เจ้าเผชิญกับอันตราย ดังนั้นมันจึงให้ข้ามาที่นี่ปกป้องเจ้า”
น้ำเสียงซู่อีนิ่งเรียบ ดุจดั่งก้อนเมฆและสายลม
“อีกทั้ง เมื่อครู่ข้าก็พบว่ามีชายคนหนึ่งจ้องมองเจ้าตลอด ต้องการจะทำไม่ดี”