ไหปีศาจ – บทที่ 246 เรียกเหล่าพันธมิตร

ไหปีศาจ

บทที่ 246

เรียกเหล่าพันธมิตร

ไม่มีการตอบสนองใด ๆ

ทูตเฉียนหลงหันศีรษะเดินจากไป เห็นได้ชัดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้หายากเท่าไหร่ และพวกเขาไม่มีความคิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

ดวงตาของลั่วอู๋กวาดไปทั่วฝูงชนพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเยาะเย้ยบนใบหน้าของเขา

ศิษย์ทุกคนของสำนักเฉียนหลงที่อยู่ตรงนี้ล้วนเป็นคนรุ่นเดียวกัน

แม้ว่าหลายคนจะได้ไปถึงมิติวิญญาณระดับทองแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังอยู่ในระดับเงิน มิติวิญญาณของลั่วอู๋นั้นแม้ว่ามันจะไม่สูง แต่มันก็ไม่ได้ต่ำอย่างแน่นอน

ตามหลักแล้วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจต้านทานได้ สิ่งที่เขาควรทำก็คืออดทนอดกลั้น

แต่แล้วทำไมในตอนนี้เขาถึงต้องทนด้วยล่ะ?

เขาสมควรได้รับการปฏิบัติตัวด้วยแบบนี้จริง ๆ เหรอ?

“ช่างหยิ่งยโสอะไรเช่นนี้” ใบหน้าของหนิงฮัวแดงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกละอายใจกับคำพูดของตัวเองไปชั่วขณะ

ทั้งที่เขานั้นมาจากตระกูลหนิงแท้ ๆ

แต่ถึงอย่างนั้นเพราะอีกฝ่ายท้าทายด้วยสังเวียนแห่งชีวิตและความตาย เขาจึงเริ่มแสดงร่องรอยของการล่าถอย

ลั่วอู๋จ้องมองไปที่หนิงฮัว “ข้าอยากจะเห็นเจ้าบนสังเวียนแห่งชีวิตและความตาย เพราะงั้นขอชื่อของเจ้าหน่อยสิ”

“ข้าคือบุตรชายจากตระกูลหนิง หนิงฮัว” หนิงฮัวพยายามสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของความกล้าหาญ “คนในตระกูลหนิง ไม่เคยกลัวที่จะต้องเสี่ยงชีวิต หรือความตาย เจ้าจะได้เจอข้าแน่บนสังเวียนแห่งชีวิตและความตาย”

หลายคนต่างพยักหน้า

เขาช่างคู่ควรกับตระกูลหนิง แม้จะหุนหันพลันแล่น แต่ความกล้านี้ก็น่าจะสืบทอดกันมาในตระกูลไม่ผิดแน่

“เขาไม่กล้าหรอก” ไม่ไกลนักมีเสียงอุทานดังขึ้นมาอย่างชัดเจน

หนิงฮัวโกรธมาก “ใครมันกล้าดูถูกข้า”

แต่เมื่อเขาเห็นเจ้าของเสียง หนิงฮัวก็คำนับในทันที อารมณ์ที่กล้าหาญก็หายไปเพียงเพราะผู้หญิงตรงหน้าเขาคนนี้นั้นดุร้ายกว่าเขา

“ท่านพี่สาว … ” หนิงฮัวกระซิบ

ข้างหน้าของเขาคือหนิงหลิงหลิง

หนิงหลิงหลิง วางมือบนสะโพกของนางแล้วปัดหางเปีย “ห้าวจังนะ เพิ่งเข้ามาได้ก็กล้าท้าสู้กับผู้ในสำนักชั้นใน เจ้าทำตัวแบบนี้ได้อย่างไร?”

หนิงฮัวเป็นน้องชายต่างแม่ของนาง วันนี้นางจึงเดินทางมารับเขา เพื่อช่วยให้เขาได้ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสำนักชั้นใน แต่ใครจะไปคิดว่านางจะได้เห็นฉากนี้

เด็กน้อยกล้าท้าสู้กับคนอื่น

แถมยังเป็นลั่วอู๋คนนั้นอีกด้วย

แน่นอนว่านางโกรธมาก ถ้าท่านอาจารย์บาดเจ็บขึ้นมา นางจะแบกหน้าอยู่ในกลุ่มพี่สาวน้องสาวต่อไปได้อย่างไร

“นี่ท่านพี่ … ” หนิงฮัวพูดอย่างอับอาย “เขาเป็นคนยั่วโมโหข้าก่อน ข้าไม่สามารถทนเสียศักดิ์ศรีของตระกูลหนิงได้”

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบรึไง ข้าเป็นพี่สาวของเจ้านะ เห็นได้ชัดว่าเจ้ามันชอบโอ้อวด เดินไปขอโทษท่านอาจารย์เดี๋ยวนี้เลยนะ” หนิงหลิงหลิงกล่าวอย่างโกรธเคือง

ทุกคนต่างอยู่ในความงุนงง

ท่านอาจารย์?

หมายถึงใครกัน?

หนิงฮัวพูดด้วยความสับสน “ท่านอาจารย์เหรอ ท่านพี่กำลังพูดถึงใครกัน?”

“ก็หมายถึงลั่วอู๋น่ะสิ เจ้ามีปัญหาอะไร?” หนิงหลิงหลิงตะคอกแล้วหันไปหาลั่วอู๋เพื่อขอโทษอย่างจริงใจ “ท่านอาจารย์น้องชายของข้ายังเด็กและไร้ซึ่งหัวคิด โปรดอย่ากังวลไปเลย”

ลั่วอู๋โบกมือและพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะบังเอิญถึงขนาดนี้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นบ้าง แม้ว่าเมืองหลวงของจักรวรรดิจะมีกองกำลังมากมาย แต่ผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดส่วนใหญ่ ก็ยังคงมาจากตระกูลใหญ่เหล่านี้

หนิงฮัวตกตะลึง

โอ้ ท่านเทพเจ้า!

นางยังเป็นพี่สาวของเขาผู้มุ่งมั่นจะต่อสู้ในสนามรบและเปิดดินแดนใหม่คนเดิมอยู่อย่างนั้นเหรอ?

คนอื่น ๆ ก็ดูสับสนแปลก ๆ เช่นกัน

องค์หญิงแห่งตระกูลหนิง ในฐานะที่เป็นหลานสาวของคนโปรดของนายพลหนิงเฉียว ผู้มีชื่อเสียงในเรื่องอารมณ์ร้อนและความไม่เคารพในกฎหมาย

นางกลับพูดกับลั่วอู๋อย่างสุภาพและเรียกเขาว่าท่านอาจารย์ของนางได้อย่างไร?

ฉูจงฉวนมองไปที่ลั่วอู๋ด้วยสายตาแปลก ๆ ลั่วอู๋นั้นเพิ่งเข้ามาในสำนักชั้นในได้ไม่กี่วัน ก็ผูกมิตรสมรู้ร่วมคิดกับองค์หญิงน้อยแห่งตระกูลหนิงเสียแล้ว

“ทำไม ? เจ้าอยากโดนข้าหวดใช่ไหม ? ถ้าเจ้ายังไม่รีบมาขอโทษล่ะก็ โดนดีแน่” หนิงหลิงหลิงมีสีหน้าที่โกรธ นางจ้องมองไปที่หนิงฮัว

มันช่างขมขื่นใจ

นางคือพี่สาวของเขา และเขาก็เป็นน้องชายของนาง

เขาไม่มีทางเลือกอื่น

“ท่านหญิงหนิง ท่านเป็นคนไม่มีเหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไรกัน” ทันใดนั้นชายคนหนึ่งก็เดินออกมา

ชายผู้นั้นสง่างามและโดดเด่นคนนั้นมีชื่อว่าเย่ฉวน เขาเป็นคนจากตระกูลเย่ ซึ่งมาจากเมืองหลวงของจักรวรรดิเช่นกัน อีกทั้งตระกูลของเขายังเป็นตระกูลใหญ่ที่ทรงพลังมาก

“หืม? เย่ฉวนงั้นเหรอ?” หนิงหลิงหลิงมองไปที่ฝูงชนและเห็นพี่น้องตระกูลเอ๋า ทันใดนั้นนางก็พูดออกมาว่า “มันเป็นความขัดแย้งระหว่างตระกูลเอ๋ากับตระกูลลั่ว เย่ฉวนเจ้ามาเกี่ยวข้องเพื่ออะไร? เพื่อที่จะทำให้ตระกูลเอ๋าพอใจงั้นเหรอ ? หน้าไม่อายเลยจริง ๆ”

เย่ฉวนโกรธมาก “ข้าแค่เป็นเพื่อนกับพี่ชายทั้งสองคนของตระกูลเอ๋า ใครจะไปคิดว่าหมาบ้าอย่างลั่วอู๋จะท้ากัดคนไปทั่ว เจ้ามีเหตุผลอะไรมาค้านไหม?”

“มันเป็นความจริง.”

“พวกเราเองก็กำลังดูอยู่”

“เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการยั่วยุอันมุ่งร้ายของลั่วอู๋” ผู้คนรอบ ๆ พี่น้องตระกูลเอ๋าได้ส่งเสียงเสริม

มีความโกรธอยู่ในดวงตาของลั่วอู๋

ถ้าคนเหล่านี้แค่ดูเฉย ๆ เขาจะโกรธถึงขนาดนี้ได้อย่างไร

“ดี ข้าไม่คิดว่าข้าจะเข้าใจสถานการณ์ผิดไป! ถ้าพวกเจ้าต้องการพูดเรื่องไร้สาระ ข้าจะแสดงให้เจ้าเข้าใจเอง” หนิงหลิงหลิงเข้าใจว่าอีกฝ่ายนั้นดูไม่มีเหตุผลมากเพียงพอ

วินาทีนั้นหนิงหลิงหลิงก็ได้อัญเชิญม้าผีออกมา

มันเงยหน้าขึ้นฟ้าและส่งเสียงขู่ก้องไปทั่ว

แม้มันไม่ดังเท่าไหร่ แต่มันก็มีเสียงขู่อันน่าเกรงขามดังไปทั่วสำนักชั้นใน

ทันใดนั้นลำแสงหลายดวงก็พุ่งเข้ามารวมตัวกันอย่างรวดเร็วจากทุกส่วนของสำนักชั้นใน

กลุ่มเด็กผู้หญิงที่ก้าวร้าวต่างก็ปรากฏตัวขึ้นมารวมกันที่นี่

ใบหน้าของพวกผู้ชายหลายคนเปลี่ยนไป

มันมีบางอย่างผิดปกติ พวกนางเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นคณะแม่มดที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงของจักรวรรดิ พวกนางมีภูมิหลังที่ลึกซึ้งและรับมือได้ยากมาก อย่างไรก็ตามท่านพี่สาวของพวกเขายังไม่ปรากฏตัวออกมาด้วย

“หลิงหลิงมีอะไรงั้นเหรอ ? ใครกันที่มารังแกพี่สาวของพวกเรา?” มีคนในกลุ่มสาว ๆ ถาม

หนิงหลิงหลิงเล่าเรื่องอย่างรวดเร็ว

“มีคนกล้ามารังแกท่านอาจารย์งั้นเหรอ ?!” เหล่าสาวต่างโกรธเกรี้ยว

เมื่อไม่นานมานี้พวกนางเพิ่งได้รับประโยชน์มากมายมาจากท่านอาจารย์ และตอนนี้ท่านอาจารย์กำลังถูกรังแก ถ้าพวกนางยืนดูอยู่ห่างๆโดยไม่ทำอะไร มันจะเสียชื่อของกลุ่มแม่มด

ผู้ชายทุกคนต่างประหลาดใจ

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกนางทั้งกลุ่มถึงออกมาเรียกลั่วอู๋ว่าท่านอาจารย์

ลั่วอู๋ไปทำอะไรกลุ่มสาว ๆ ที่มีพรสวรรค์และหยิ่งผยองกลุ่มนี้ถึงได้ยอมเคารพเขา

สาวสวยคนหนึ่งลุกขึ้นยืนด้วยความไม่พอใจอย่างมากและร้องตะโกนออกมาว่า “เย่ฉวน!”

ร่างกายของเย่ฉวนสั่นสะท้าน “เสี่ยวหยู่ … ”

ผู้คนต่างจำได้ในทันทีว่าหญิงสาวคนนี้ชื่อว่าเสี่ยวหยู่ เป็นคู่หมั้นของเย่ฉวน พวกเขาได้ยินมาว่าทั้งคู่นั้นเป็นคู่รักกันตั้งแต่ในวัยเด็กและสนิทกันมาก

“เจ้ารีบมาขอโทษท่านอาจารย์ของข้าเลยนะ” เสี่ยวหยู่มีสีหน้าโกรธที่ทำให้เย่ฉวนรู้ในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาขัดคอนาง

เย่ฉวนหัวเราะอย่างขมขื่น “ท่านพี่เอ๋า ข้าขอโทษ แต่ขัดคอภรรยามันไม่ใช่เรื่องดี”

เย่ฉวนเดินเข้าไปขอโทษแต่โดยดี

ตอนนี้ผู้คนเข้าใจแล้วว่า หนิงหลิงหลิงหมายถึงอะไรตอนนางพูดออกมาว่า “ถ้าพวกเจ้าต้องการพูดเรื่องไร้สาระ ข้าจะแสดงให้เจ้าเข้าใจเอง”

จากนั้นเหล่าเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็เริ่มสร้างปัญหา

เลยมีฉากตลก ๆ เกินขึ้นพร้อมกัน

ถึงขนาดที่หลี่หยินขยับตัวไปไม่ถูก

“ลูกพี่ลูกน้อง!”

“เสี่ยวหยาน ถ้าเจ้าไม่เดินมาขอโทษ ข้าจะบอกแม่ว่า เจ้ารังแกข้า”

“น้องสาวเจ้าช่วย ช่วยรักษาหน้าให้พี่ชายของเจ้าหน่อยได้ไหม?”

“ฝันไปเถอะ ถ้าเจ้ายังไม่รีบกลับไปกลั่นยาและมาจ่ายเงินคืนข้า เจ้าได้เจอดีแน่ เอาแต่มายืนมองธุระของคนอื่นแบบนี้”

“ได้ ได้ โอ้พระเจ้า ข้าจะไปแล้ว”

“หยางเจิ้ง เดินมาขอโทษเดี๋ยวนี้หรือจะให้ข้ารายงานปู่ของเจ้า!” หญิงสาวที่น่ารักคนหนึ่งร้องเรียก

อัจฉริยะหนุ่มชื่อดังผู้มีชื่อนั้นได้แต่สลดใจเดินออกมาเต็มไปด้วยความขมขื่น

ฝูงชนมองไปที่กลุ่มหญิงสาวด้วยความหวาดกลัว

ส่วนฝั่งหญิงสาวต่างรู้สึกละอายและเกาหัว “แม้ว่าตระกูลของพวกเขาจะเก่าแก่ แต่พวกเขาอายุยังน้อยมากเกินไป”

ทันใดนั้นผู้คนรอบข้างสองพี่น้องตระกูลเอ๋าก็กระจัดกระจายไป

พวกเขาเสพติดการฝึกฝน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เหงา แต่พวกเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับใครอื่น

ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจึงไม่มีมิตรสหายที่ดีพอและพร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้างพวกเขาอย่างมั่นคง

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
หากคุณชอบแนว มั่วๆซั่วๆจับมารวมกันได้ของเทพ อย่าพลาดเรื่องนี้!!ลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท