บทที่ 681 ถังขยะ ‘เจ้าช่วยมีมารยาทหน่อยได้หรือไม่?’
ตัวยังไม่ออก โผล่มาเพียงแค่เสียงตะคอกก็สามารถโจมตีเหล่าสมบัติจนถอยร่นได้ ไม่ต้องสงสัยเลย สิ่งที่อยู่ด้านในกระจกทองแดงจะต้องทรงพลังไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ใบหน้าของมัจฉาสัตมายาเคร่งขรึม เมื่อครู่เหล่าสมบัติเพิ่งปกป้องมันเอาไว้ ไม่เช่นนั้นกระทั่งวิญญาณของเขาจะต้องดับสลายหายไปอย่างแน่นอน!
สิ่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในพลังพิศวงกำลังจะออกมาอย่างนั้นหรือ?
มันคิดขึ้นมาในใจ
“คนผู้นี้…คนผู้นี้เผชิญหน้าด้วยไม่ง่ายเลย!”
ชามกระเบืองเคลือบเปิดปากเอ่ยออกมา ด้านในน้ำเสียงมีความหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย มันไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ภายในใจจึงเกิดความหวาดหวั่นขึ้นมา
ชามกระเบื้องเคลือบที่เหลืออีกเจ็ดใบเองก็สั่นสะท้านเล็กน้อยเช่นเดียวกัน พวกมันล้วนมีวิญญาณเป็นสตรีเพศ ทำให้ค่อนข้างจะขี้อายอยู่บ้าง อีกทั้งยังไม่เคยพบพานอันตรายใหญ่หลวงอันใดมาก่อน เพิ่งได้เผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ในกระจกทองแดงซึ่งสามารถคุกคามพวกมันได้เป็นครั้งแรก จะแสดงท่าทางเช่นนี้ออกมาก็นับเป็นเรื่องปกติ
สำหรับสมบัติชิ้นอื่น ๆ แม้จะไม่ได้หวาดกลัว แต่ก็อดเกิดความสับสนตื่นตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พวกมันมีประสบการณ์น้อยเกิดไป แม้ว่าจะเคยต่อสู้มาก่อน แต่การต่อสู้ครั้งนั้นก็เป็นศึกที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง ไม่มีอันตรายหรือความกดดันอันใดให้พูดถึงทั้งสิ้น แตกต่างกับตอนนี้โดยสิ้นเชิง สิ่งที่อยู่ในกระจกทองแดนอันตรายเป็นอย่างมากและสามารถคุกคามพวกเขาอย่างหนัก!
ให้กล่าวแล้วผู้ที่สงบที่สุดก็คือ จอบเซียน
มันมีเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ ไม่เหมือนกับสมบัติชิ้นอื่น ๆ แม้มันจะประหลาดใจกับความทรงพลังของสิ่งที่อยู่ในกระจกทองแดง แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก ไม่ได้หวาดเกรง ทั้งยังใจเย็นเป็นอย่างมาก
“ค่อนข้างจะน่าสนใจ!”
เสียงที่ออกมาจากกระจกทองแดงเองก็มีความประหลาดใจอยู่ มันคิดว่าเสียงที่เพิ่งตะโกนไปเมื่อครู่จะทำลายสมบัติทั้งหมดทิ้งได้ทันที ไม่คาดว่าเหล่าสมบัติทำเพียงแค่กระเด็นถอยออกไป
ตัวตนของมันเป็นสิ่งใด?
เป็นถึงจ้าวผู้หนึ่งในแดนกำเนิดพิศวง!
แม้ว่าเมื่อครู่มันจะไม่ได้ใช้พลังมากมายอันใด แต่ก็เพียงพอที่จะลบสมบัติทั่วไปในอาณาจักรอันแสนต่ำต้อยออกไปได้ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาที่การใช้พลังของมันแต่อย่างใด
ผลออกมาคือนอกจากมันจะไม่สามารถกำจัดสมบัติเหล่านี้ได้ ยังไม่อาจสร้างความเสียหายให้พวกมันแม้แต่น้อย เช่นนั้นแล้วจะให้มันไม่แปลกใจได้อย่างไร?
ดูเหมือนว่าอาณาจักรเบื้องนอกแสนต่ำต้อยจะไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่มันคิดจินตนาการ!
“ให้ข้าดูเสียว่าพวกเจ้าเป็นสิ่งใดกันแน่”
มีเสียงดังออกมาจากกระจกทองแดงอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงของมันมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่เล็กน้อย
ตามปกติแล้ว อาณาจักรเบื้องนอกอันแสนต่ำต้อย ไม่ควรจะมีสมบัติเหล่านี้ปรากฏออกมา…
เพียงชั่วพริบตา ลมหายใจอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเดิมก็กระเพื่อมออกมาจากกระจกทองแดง ทำให้เหล่าสมบัติสัมผัสได้ถึงอันตรายและแรงกดดันที่มากขึ้น
ชามกระเบื้องเคลือบทั้งแปดสั่นสะท้านหนักกว่าเดิม พวกมันไม่มีประสบการณ์การต่อสู้เช่นนี้ ทั้งยังไม่เคยต้องมาสัมผัสกับภัยอันตรายใด ๆ มาก่อน
“ไม่ต้องกลัว! พี่ชายอยู่ที่นี่แล้ว!”
จอบเซียนตะโกน ก่อนพุ่งมาอยู่ด้านหน้าพี่น้องชามกระเบื้องเคลือบทั้งแปด ช่วยต้านทานลดทอนแรงกดดันที่ชามกระเบื้องเคลือบได้รับ
“ของคุณพี่จอบ!”
“พี่จอบยอดเยี่ยมที่สุด!”
ด้วยความช่วยเหลือจากจอบเซียน ทำให้พี่น้องชามกระเบื้องเคลือบทั้งแปดได้รับแรงกดดันน้อยลง พวกมันจึงรีบเอ่ยขอบคุณจอบเซียนอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร สำหรับข้าแล้วนับเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย”
จอบเซียนเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระ เมื่อถูกพี่สาวน้องสาวชามกระเบื้องเคลือบเรียกว่า พี่จอบก็พลันอิ่มเอมใจขึ้นมา
“พี่จอบ ท่านช่วยข้าด้วยได้หรือไม่? ข้ารู้สึกกดดันเป็นอย่างมากจนเริ่มหายใจลำบากบ้างแล้ว!”
มัจฉาสัตมายาอดเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ มันเองก็ต้องการให้จอบเซียนช่วยเหลือ เพราะเริ่มจะทนไม่ได้บ้างแล้วจริง ๆ
“ไปให้พ้น! ไปหาพี่ชายคนอื่นของเจ้าเสีย!”
จอบเซียนตอบกลับด้วยความขุ่นเคือง ยังคิดจะให้เขาแบ่งแรงกดดันไปอีกงั้นหรือ?!
แรงกดดันที่อยู่บนตัวมันนับว่าไม่น้อย การช่วยเหลือพี่สาวน้องสาวทั้งแปดทำให้มันรับภาระหนัก อาจสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ
หากมันช่วยเหลือมัจฉาสัจมายาอีก มันคงต้องพังทลายลงภายในพริบตา
สิ่งที่อยู่ด้านในกระจกทองแดงนั้นน่ากลัวจริง ๆ!
“นอกจากนี้ ต่อไปก็อย่าได้เรียกข้าว่าพี่จอบอีก! เจ้าเรียกแล้วทำให้ข้ารู้สึกแขยงใจ เอาถังขยะมาราดใส่ข้ายังรังเกียจน้อยเสียยิ่งกว่า!”
มันพูดต่อ เมื่อนึกถึงเสียงของมัจฉาสัตมายาที่เรียกมันว่าพี่จอบ ก็พลันรู้สึกเกินจะทน คิดอยากจะอาเจียน!
“!!!”
มัจฉาสัตมายาอับจนคำพูด จอบเซียนช่างสองมาตราฐานเสียเหลือเกิน พี่สาวน้องสาวชามกระเบื้องเคลือบทั้งแปดเรียกได้ แต่มันเรียกไม่ได้หรือ?
นี่ก็แค่เห็นหญิงดีกว่ามิตรภาพ!
“???”
ถังขยะฉงน เหตุใดจึงดึงมันไปเกี่ยวข้องด้วยเล่า!
“เจ้าช่วยมีมารยาทหน่อยได้หรือไม่?” มันอดเอ่ยกับจอบเซียนไม่ได้
จอบเซียนนั้นไม่มีมารยาทแม้สักนิดเดียว!
วิ้งงงง!
แสงเจ็ดสีสาดทอออกมาจากกระจกทองแดง ทั่วทั้งอาณาจักรอวี้ซวีสั่นสะเทือน กระทั่งดาราดวงอื่นรอบบริเวณยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
หลังจากนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตปรากฏออกมาจากกระจกทองแดง
มันเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มหึมาที่มองไม่ออกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด หลังจากมันออกมาจากกระจกทองแดง ท้องฟ้าทั้งหมดก็คล้ายพังทลาย อาณาจักรอวี้ซวีไม่อาจทนรองรับมันได้!
ร่างกายส่วนบนของมันอยู่เหนือสูงขึ้นไปจนถึงด้านนอกอาณาจักอวี้ซวี ขนยาวปลิวสยายไปทั่ว แต่ละเส้นประหนึ่งมังกรยักษ์โผล่บิน ทั้งยังมีสีสันเปลี่ยนไปตลอดเวลา ดูแล้วชวนสะท้านขวัญจนไม่อาจบรรยายออกมาได้!
“ให้ข้าดูเสียว่าพวกเจ้าเป็นสิ่งใดกันแน่…”
มันมองลงมายังโลกอวี้ซวี ดวงตาทั้งสองข้างประหนึ่งดวงดาราจับจ้องมาทางเหล่าสมบัติ
“นี่มัน…ของเล่นอันใดกัน!”
หลังจากได้เห็นสมบัติมันก็ตกตะลึงไปชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด มันคาดไม่ถึงเลยว่าสมบัติเหล่านี้จะกลายเป็นเพียงเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของปุถุชนทั่วไป!
มีทั้งหม้อ ชาม กระบวย เกาอี้โยก ไม้เขี่ยฟืน แล้วก็ถังขยะ???
ทั้งหมดนี่มันอันใดกัน!
มันมึนงงอยู่บ้าง หรือว่ามันไม่ได้มายังที่แห่งนี้นานเกินไป จึงไม่รู้ว่าอาณาจักรที่แสนต่ำต้อยเหล่านี้จะพัฒนาขึ้นมาถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว?
กระทั่งปุถุชนก็สามารถครอบครองสมบัติระดับสูงเช่นนี้ได้?
ไม่มีทาง!
มันไม่อยากจะเชื่อ
แต่ว่าหากไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว เช่นนั้นผู้ใดจะสร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเล่น ๆ?
อีกทั้งผู้แข็งแกร่งที่ไหนกันยังจำเป็นต้องใช้สิ่งเหล่านี้!
ผู้ที่ยังต้องใช้สิ่งเหล่านี้ย่อมต้องเป็นปุถุชนทั่วไป!
ไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งเสียด้วยซ้ำ กระทั่งผู้ฝึกตนธรรมดา ๆ ก็ยังไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งของเหล่านี้!
หากไม่ใช้ก็แสดงว่าต้องหมกมุ่น!
ผู้สร้างต้องหมกมุ่นกับสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างมาก!
“พูดจาอันใดไร้สาระ!? อย่าคิดว่าตัวใหญ่แล้วพวกเราจะกลัวเจ้า!”
ถังขยะตะโกนออกมา มันเรียกใครว่าของเล่นกัน?
มันได้ยินคำเยาะเย้ยและเหยียดหยามเต็มน้ำเสียงของสิ่งมีชีวิตตนนั้น
มันโกรธเป็นอย่างมาก!
พวกมันทั้งหมดล้วนถูกคุณชายสร้างขึ้นมาเอง การที่เยาะเย้ยเหยียดหยามพวกมันเช่นนี้ ก็เหมือนกับการเยาะเย้ยเหยียดหยามคุณชาย!
“เอะอะเสียงดัง!”
สิ่งมีชีวิตตนนั้นเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาพร้อมท่าทางที่ดุร้ายขึ้น “เป็นเพียงของผุพังกองหนึ่ง กล้าดีอย่างไรมาพูดเช่นนี้กับข้า หากอยากตายก็ไม่ควรหาหนทางตายเช่นนี้!”
จากนั้นมันก็ชี้นิ้วไปทางจ้าวหลานที่กลายสภาพเป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณ พลันเกิดความผันผวนจากพลังพิศวงขึ้น
พริบตาต่อมา ร่างของจ้าวหลานก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าจะหลงเหลือเศษวิญญาณอยู่บ้าง แต่หากมันต้องการจะฟื้นฟูตัวเอง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งยังจำเป็นต้องเผชิญกับความยุ่งยากอีกด้วย
อย่างไรเสีย ฝ่ามือของสิ่งมีชีวิตพิศวงตนนี้ก็มีพลังอันไม่สามารถจินตนาการได้ถึง ยังคงหลงเหลือพลังตกค้างในร่างของมัน หากมันต้องการจะฟื้นฟูตนเอง แม้จะเป็นเพียงแค่การฟื้นฟูบางส่วนก็จะต้องลำบากและใช้เวลานานเป็นอย่างยิ่ง
“ขอบพระคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่!”
จ้าวหลานรีบเอ่ยขอบคุณสิ่งมีชีวิตพิศวงตนนี้
ครั้งนี้มันไม่เพียงแต่ฟื้นตัวกลับมาอย่างสมบูรณ์ แต่ยังแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ขนยาวบนร่างกายของมันก็เกิดการแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ ซึ่งแข็งแกร่งกว่าสีน้ำเงินก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก!
มันในตอนนี้ เพียงแค่ยกมือก็สามารถสยบจักรพรรดิเซียนลงได้อย่างไม่มีปัญหา!
มันคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตพิศวงเช่นนี้ออกมาจากกระจกทองแดง แข็งแกร่งและน่ากลัวเสียยิ่งกว่า ‘ผู้ยิ่งใหญ่’ ที่มันเคยพบเจอมาหลายเท่า!
คนผู้นี้จะต้องมาจากแดนกำเนิดพิศวงอย่างแน่นอน อีกทั้งตำแหน่งฐานะในแดนกำเนิดพิศวงจะต้องสูงเป็นอย่างมาก มีบทบาทไม่ธรรมดา!
มันคิดขึ้นมาภายในใจ
ทว่าความจริงแล้ว แม้สิ่งมีชีวิตพิศวงตนนี้จะมาจากแดนกำเนิดพิศวงจริง แต่นั่นก็ไม่ใช่แดนกำเนิดพิศวงตามที่จ้าวหลานคิด
ภายในใจของจ้าวหลานคิดว่าสถานที่แห่งนั้นที่อยู่อีกด้านหนึ่งถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยแดนบรรพโกลาหล
ในความคิดของจ้าวหลานและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในจักรวาลโกลาหล สถานที่ถัดออกไปที่ถูกแดนบรรพโกลาหลปิดกั้นเอาไว้คือ แดนกำเนิดพิศวง
แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น
แหล่งที่มาแท้จริงของความพิศวงนั้นมาจากด้านนอกจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ และสิ่งมีชีวิตพิศวงตนนี้ก็มาจากที่นั่น!
นี่นับเป็นข้อแตกต่างที่สำคัญ ที่มีช่องว่างความแตกต่างมากเกินไป
หากสิ่งมีชีวิตพิศวงตนนี้มาจากสถานที่ที่ถูกแดนบรรพโกลาหลปิดกั้นเอาไว้ มันจะไม่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้ ไม่อาจคุกคามและนำพาความรู้สึกอันตรายให้กับเหล่าสมบัติได้หนักหนาขนาดนี้
มีเพียงแต่แดนกำเนิดพิศวงที่ก้าวข้ามจักรวาลโกลาหลได้จึงจะสามารถนำพาอันตรายและแรงคุกคามขนาดหนักมาสู่เหล่าสมบัติได้!
“คราวนี้เจ้าทำได้ดีมาก ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะหัวเราะเสียงดังน่าเกลียดมากจนทำให้ข้าแขยงก็ตาม แต่ก็มีผลงานน่ายกย่อง ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าแล้วกัน”
สิ่งมีชีวิตพิศวงตนนั้นอ้าปากพูดต่อ “ไป ไปจำกัดพวกมันให้สิ้นซากเสีย!”
หากไม่ใช่เพราะจ้าวหลานส่งพลังเข้าไปยังกระจกทองแดงอย่างสุดแรงด้วยความสิ้นหวัง ทำให้มันที่อยู่ในอีกด้านสัมผัสตอบรับได้ มันคงไม่อาจจะมายังสถานที่แห่งนี้ได้
นี่เป็นเหตุผลที่ก่อนหน้านี้มันจึงไม่สังหารจ้าวหลานทิ้ง
มันเคยมอบกระจกทองแดงให้กับสิ่งมีชีวิตพิศวงที่อยู่ในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ ทำให้เหล่าสิ่งมีชีวิตพิศวงเกิดการต่อสู้แย่งชิงกระจกทองแดงบานนี้ ทว่าตัวมันเองนั้นลืมเรื่องของกระจกทองแดงในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ไปนานแล้ว
ด้วยลักษณะของกระจกทองแดงช่างไม่ดึงดูดสายตาของมันเลย อีกทั้งในมือของมันยังมีกระจกทองแดงอยู่อีกจำนวนมาก มันไม่ได้มอบกระจกทองแดงให้กับสิ่งมีชีวิติพิศวงในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้เท่านั้น มันยังได้มอบให้กับสิ่งมีชีวิตพิศวงในจักรวาลโกลาหลแห่งอื่นอีกด้วย
ไม่คาดคิดเลยว่า กระจกทองแดงที่มันเคยไม่เห็นค่าในสายตา กลับสร้างความดีความชอบครั้งใหญ่!
พวกมันต้องการเข้ามายังจักรวาลโกลาหลแห่งนี้มาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สบโอกาส ทั้งยังไม่กล้าเคลื่อนไหวมากเกินไป
การที่มันสามารถเข้ามาในจักรวาลโกลาหลแห่งนี้ได้ นับว่าเป็นการช่วยเหลือพวกมันครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
‘ข้ามาพร้อมกับภารกิจที่แบกรับเอาไว้ คราวนี้จำเป็นต้องตรวจสอบทุกอย่างให้กระจ่างชัด!’
มันคิดขึ้นมาในใจพร้อมรอยยิ้มที่ยกขึ้นมุมปาก
ครั้งนี้มันไม่ได้มาเพื่อช่วยเหลือจ้าวหลานอะไรนี่
จ้าวหลานไม่คู่ควรกับความช่วยเหลือจากจ้าวแห่งความพิศวงอย่างมัน