เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 31 สายสัมพันธ์พี่น้องที่ลึกซึ้ง (ต้น)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 31 สายสัมพันธ์พี่น้องที่ลึกซึ้ง (ต้น)

ซูอัน หัวเราะขึ้นและพูดว่า “คงจะวิเศษมากที่มีท่านร่วมเดินทางไปด้วย!”

ซูอันพอจะยืนยันได้คร่าว ๆ ว่าชายผู้นี้มีเจตนาชั่วอยู่ในใจแน่นอน ซึ่งนี่มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตัวเขาเองในการค้นหาว่าใครคือผู้มุ่งหวังที่จะปลิดชีวิตเขา

ทั้งสองคนจึงออกจากเมืองไปด้วยกัน

วันนี้ซูอันตระหนักได้สิ่งหนึ่งว่าตนโชคดีเพียงใดที่ในวันแรกที่ถูกส่งมายังโลกใบนี้เขานอนแอ้งแม้งอยู่ตรงบริเวณแค่ขอบชานเมืองห่างจากกำแพงเมืองไปไม่ไกลนัก เพราะถ้าหากเขาไปนอนโดนฟ้าผ่าในป่าลึก เขาคงจะไม่รอดจากคมเขี้ยวของพวกสัตว์ร้ายเป็นแน่

ถัดจากำแพงเมืองออกไปด้านนอกยังคงมีบริเวณที่ถูกแผ่วถางให้มนุษย์อยู่อาศัยได้ ที่นั่นมีกองกำลังทหารและผู้บ่มเพาะลาดตระเวนพื้นที่อยู่เสมอเพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาใกล้ แต่ถ้าหากล้ำออกไปในเขตป่าลึกนั่นคือสถานที่อันตรายต่อมนุษย์ทั่วไปอย่างแท้จริงโดยเฉพาะสถานที่ที่ถูกเรียกว่าภูเขามังกรซ่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากเมืองจันทร์กระจ่างและที่นั่นคือศูนย์รวมของสัตว์ป่าดุร้ายจำนวนนับไม่ถ้วน

ในบางครั้ง พวกสัตว์ป่าเหล่านี้ก็ปรากฏตัวขึ้นบริเวณชานเมืองอยู่บ้างคอยดักทำร้ายผู้ที่สัญจรผ่านไปมาในพื้นที่ ดังนั้นตามจุดทางแยกสำคัญที่มุ่งลึกเข้าไปในป่าจึงมีด่านเล็ก ๆ ของกองกำลังทหารที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันสัตว์ป่าตลอดจนคอยกันเหล่าพลเมืองธรรมดาพวกตาสีตาสาที่ไม่รู้อะไร เผลอเข้าไปในเขตป่าเป็นอันขาด

โชคดีที่ซูอันมีเจ้าดอกบ๊วยสิบสองอยู่กับเขา เมื่อเดินไปถึงด่านดอกบ๊วยสิบสองก็แสดงเอกสารบางอย่างซึ่งซูอันเดาได้ว่าน่าจะเป็นเอกสารที่เอาไว้ใช้สำหรับผ่านทางรวมไปถึงเผยให้เห็นระดับการบ่มเพาะของผู้ถือครอง และด้วยเอกสารนี้มันจึงทำให้ผู้คุมด่านอนุญาตให้พวกเขาผ่านไปได้

หลังจากออกจากด่านแล้วซูอันก็หันไปมอง ดอกบ๊วยสิบสอง ด้วยท่าทางชื่นชม “พี่ชาย ระดับการบ่มเพาะตอนนี้ของท่านอยู่ระดับไหนงั้นเหรอ? ทำไมทหารพวกนั้นถึงได้มองท่านอย่างชื่นชมขนาดนั้น?”

ซูอันใช้โอกาสนี้หลอกถามข้อมูลของอีกฝ่าย เพื่อที่เขาจะเตรียมการรับมือล่วงหน้า

ดอกบ๊วยสิบสอง รู้สึกปลาบปลื้มกับคำพูดของซูอัน“ระดับการบ่มเพาะของข้าไม่เท่าไหร่หรอก ข้าแค่อยู่ในระดับที่สามของขั้นที่สองเท่านั้นเอง!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เขารู้สึกโล่งใจ อย่างน้อย ๆ ชายคนนี้ก็ไม่ได้มีระดับการบ่มเพาะที่แข็งแกร่งไปกว่าเขา!

เมื่อแจ้งระดับการบ่มเพาะของตัวเองเสร็จดอกบ๊วยสิบสอง ก็รอให้ซูอันยกย่องเขาต่อเพื่อที่เขาจะได้คุยโวต่ออย่างถ่อมตนต่อไป แต่ซูอัน กลับเงียบไปเสียนี่

แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกสงสัยอะไรในตัวซูอัน เขาคิดไปเองว่าซูอันคงโง่งมมากจนไม่รู้ระดับบ่มเพาะขั้นพื้นฐานเลย แน่นอนว่าคนธรรมดาที่โง่เง่าอย่างซูอันคงไม่รู้แน่นอนว่ามันยากแค่ไหนที่จะบ่มเพาะไปถึงระดับสามของขั้นที่สองได้

ฝ่ายซูอันที่นิ่งคิดอยู่สักพักจึงแสร้งทำเป็นตื่นเต้นและถามต่อว่า “โห…นี่ท่านต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พี่น้องของท่านเลยใช่ไหม?”

เขาจำนวนิยายที่เขาอ่านในชีวิตก่อนหน้านี้ได้ แทบจะทุกครั้งหลังจากที่ตัวเอกกำจัดศัตรูได้แล้ว บรรดาสหายของของศัตรูหรือไม่ก็บรรดาญาติพี่น้องของศัตรูมักจะโผล่มาตอนหลังเสมอเพื่อมาแก็แค้นตัวเอก ดังนั้นเขาจึงแสร้งชมเพื่อเป็นการหลอกถามข้อมูลญาติพี่น้องของดอกบ๊วยสิบสอง

“ไม่ใช่หรอก ๆ ยังมีอีกหลายคนที่แข็งแกร่งกว่าข้าซะอีก ซึ่งคนที่แข็งที่สุดก็คือน้องชายคนที่สิบสามของข้า ตอนนี้เขาบ่มเพาะไปถึงขั้นที่สามแล้ว” ดอกบ๊วยสิบสองตอบด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

“ในเมื่อพวกท่านทุกคนแข็งแกร่งขนาดนี้ ถ้างั้นเจ้าสำนักของท่านก็ยิ่งน่าทึ่งมากเลยจริงไหม?”ซูอันแกล้งตามน้ำไปเรื่อย ๆ

“แน่นอน! เจ้าสำนักของข้าตอนนี้อยู่ในระดับ…” แต่แล้วจู่ ๆ ดอกบ๊วยสิบสองก็นึกได้ว่าตัวเขาพูดมากเกินไปแล้ว จึงรีบเปลี่ยนประเด็นการสนทนาอย่างรวดเร็ว “ช่างเถอะ ๆ เจ้าไม่รู้เรื่องการบ่มเพาะอยู่แล้วดังนั้นต่อให้ข้าพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี จริงไหม?”

ซูอัน รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ชายตรงหน้าไม่ได้หลงกลตามแผนที่เขาวางเอาไว้ แต่อย่างน้อย ๆ ตอนนี้เขาก็พอได้ข้อมูลมาบ้างว่าศัตรูในอนาคตที่เขาต้องเผชิญนั้นเหนือกว่าตัวเองประมาณไหน

หลังจากเดินลึกเข้าไปในป่าได้ไม่นานซูอันก็เห็นชายผู้หนึ่งกำลังเดินสวนมาทางพวกเขา แต่เมื่อชายผู้นั้นเห็นดอกบ๊วยสิบสอง เขาก็ดึงหมวกไม้ไผ่ลงปิดใบหน้าของเขาทันทีพร้อมกับหันหลังกลับและเดินจากไปในทางอื่นอย่างรวเร็ว

ซึ่งดอกบ๊วยสิบสอง ดูเหมือนจะจำคน ๆ นั้นได้ เขารีบวิ่งตามไปในทันทีพร้อมกับร้องตะโกนว่า “พี่ถาน ท่านจะรีบร้อนไปไปไหนงั้นเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าฝั่งตรงข้ามตามมา คนผู้นั้นก็หยุดนิ่ง เขากำดาบในมือแน่นและถามกลับไปว่า “ดอกบ๊วยสิบสอง เจ้าตามข้ามาเพราะต้องการจะจับข้างั้นเหรอ?”

ดอกบ๊วยสิบสองยกมือขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีเจตนาร้าย “พี่ถาน นี่ท่านเห็นข้าเป็นคนอื่นคนไกลหรือยังไงถึงได้มาสงสัยอะไรข้าแบบนี้? ท่านยังจำวันที่เราต่อสู้กับ สำนักมังกรคราม ได้รึเปล่า? ถ้าไม่ใช่เพราะท่านเสี่ยงชีวิตเพื่อพาข้าออกมา ข้าดอกบ๊วยสิบสองคงไม่มีโอกาสมายืนคุยกับท่านเหมือนในตอนนี้แน่นอน!”

“เจ้ายังจำเรื่องในวันนั้นได้อีกเหรอ?” สีหน้าของชายฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด

“แหมพี่ถาน ข้าจะลืมหนี้บุญคุณที่ท่านมีต่อข้าได้อย่างไร และอีกอย่างเรื่องที่ท่านขัดแย้งกับท่านเจ้าสำนักมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้น ขอแค่ท่านไปหาเจ้าสำนักแล้วอธิบายสิ่งต่าง ๆ ให้เขาเข้าใจให้ถูกต้องแค่นี้ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลายแล้ว ท่านไม่เห็นจำเป็นต้องมาหลบ ๆ ซ่อน ๆ อะไรแบบนี้เลย” ดอกบ๊วยสิบสองเอ่ยขึ้น “เมื่อในอดีตท่านกับข้า พวกเราเคยไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกันร่ำสุราด้วยกันอย่างเต็มที่ แต่นับตั้งแต่ที่ท่านจากไป ข้าก็ไม่มีใครที่สามารถคบค้าได้อย่างสนิทใจเหมือนกับท่านอีกเลย”

ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำพร้อมกับกำดาบในมือแน่นมากขึ้นกว่าเดิมในขณะที่เขาพูดเสียงดังว่า “เจ้าเลิกพูดแก็ต่างให้ไอ้สารเลวนั่นได้แล้ว! หึ…เรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยงั้นเหรอ? ไอ้สารเลวนั่นพรากภรรยาของข้าไปเจ้าพูดออกมาได้ยังไงว่านี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อย! ข้าบอกเอาไว้เลยสิ่งเดียวที่ข้าเสียใจก็คือความล้มเหลวในการฆ่าไอ้เวรนั่นด้วยดาบของข้า!”

“อันที่จริงเรื่องนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะสามารถพูดอะไรได้มากนักเพราะมันเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวของท่านกับเจ้าสำนัก แต่ถ้าให้พูดจากมุมมองส่วนตัวของข้า ข้าเองก็สงสารท่านจับใจ” ดอกบ๊วยสิบสองตบไหล่ชายหนุ่มดด้วยท่าทีเห็นใจ

“ลูกผู้ชายอย่างท่านไม่มีทางขาดผู้หญิงอยู่แล้ว ด้วยความสามารถของท่าน ท่านจะหาผู้หญิงสักกี่คนมาปรนเปรอก็ได้ ดังนั้นทำไมท่านต้องมานั่งเสียโอกาสในชีวิตเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวแบบนี้ด้วย?”

ดวงตาของชายหนุ่มเป็นประกายซาบซึ้ง “หลายวันมานี้คนที่ข้าเคยคิดว่าเป็นพี่น้องของตัวเองตามล่าข้าอย่างไม่ลดละ สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่ามีแต่เจ้าเพียงคนเดียวที่ยังคงห่วงใยข้า”

“แน่นอน! เราสองคนเคยฝ่าฟันอันตรายด้วยกันนับครั้งไม่ถ้วน! คนอื่น ๆ จะแน่นแฟ้นเหมือนกับพวกเราได้ยังไง!” ดอกบ๊วยสิบสอง ตอบด้วยเสียงหัวเราะ

ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกซาบซึ้งขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเช่นนี้ เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น…น้องสิบสองข้าขอวานอะไรเจ้าอย่างหนึ่งได้ไหม?”

ดอกบ๊วยสิบสองยิ้มด้วยความยินดี เขาตบหน้าอกของตัวเองและพูดว่า “พี่ถานไม่ต้องเกรงใจท่านพูดมาได้เลยว่าท่านอยากให้ข้าทำอะไร ข้ายินดีทำเพื่อท่านเสมอ ตราบใดที่ท่านไม่ขอให้ข้าทรยศต่อสำนัก ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน!”

“วางใจได้ ข้าไม่ขออะไรที่มันทำให้เจ้าตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแน่นอน!” ชายหนุ่ม ตอบกลับ “ก่อนหน้านี้ที่ข้าหลบหนีออกมาจากสำนักเผอิญว่าข้ารีบร้อนไปหน่อยจนข้าจนไม่ทันได้หยิบเงิน 100 ตำลึงที่ข้าเก็บเอาไว้ออกมา ข้าอยากวานให้เจ้ากลับไปที่สำนักและนำมันออกมาให้ข้าได้ไหม? ข้าจะแบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นสินน้ำใจให้กับเจ้า!”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน