เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 48 สมรู้ร่วมคิด (ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 48 สมรู้ร่วมคิด (ปลาย)

“อ๋อ ข้าเข้าใจแล้ว!” ซูอันพยักหน้ารับรู้หลังจากได้ยินคำอธิบาย เขายังคงสังเกตการต่อสู้ด้านล่าง แต่คราวนี้เขาไม่สับสนเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป เขาสามารถวัดระดับการบ่มเพาะของคนทั่วไปได้แบบคร่าว ๆ แล้วคราวนี้

โจรชุดดำส่วนใหญ่อยู่อันดับสอง แม้ว่าจะมี 2-3 คนที่ไปถึงระดับสามแล้ว แต่มีเพียงหัวหน้ากลุ่มเท่านั้นที่อยู่ในระดับที่สี่

เมื่อรวมกับสิ่งที่เขาได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้ ผู้บ่มเพาะระดับสี่ก็สามารถเป็นเจ้าเมืองเล็ก ๆ ได้แล้ว ในขณะที่ผู้บ่มเพาะระดับสามสามารถทำหน้าที่ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ของเมืองเล็ก ๆ ได้ ตัดสินโดยมาตรฐานดังกล่าว คงไม่ฉลาดนักที่จะคิดว่าค่ายเมฆาทมิฬเป็นแค่กลุ่มโจรธรรมดา

หัวหน้าผู้คุ้มกันของตระกูลอวี้ ก็อยู่ในระดับที่สี่เช่นกัน ในขณะที่คนอื่น ๆ อยู่ที่ระดับสามทั้งหมด หากพวกเขาอ่อนแอกว่านั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะอยู่รอดได้จนถึงตอนนี้ น่าเสียดายที่ฝั่งกลุ่มคนชุดดำมีจำนวนมากกว่าเยอะเกินไป ดังนั้นชะตากรรมของพวกเขาจึงถูกตัดสินเอาไว้แล้วว่าต้องพ่ายแพ้

“นั่นใคร?“ จู่ ๆ หัวหน้ากลุ่มโจรชุดดำก็หันขวับมาทางที่ ซูอันและจี้เสี่ยวซีซ่อนตัวอยู่ ปรากฏว่าเมื่อครู่พวกเขาคุยกันดังเกินไปหน่อย มันเลยกลายเป็นการเปิดเผยตัวเองไปโดยปริยาย

“ท่านรีบหนีไปเร็ว!” จี้เสี่ยวซีรีบเอ่ยขึ้นกับซูอันทันที นางเป็นคนเสนอให้มาที่นี่เพื่อช่วยคนบาดเจ็บ ดังนั้นนางจึงไม่อยากให้ ซูอันต้องมาเดือดร้อนเพราะความเอาแต่ใจของนาง

“แล้วเจ้าล่ะ?“ ซูอันรู้สึกประทับใจในตัวนาง ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะรั้งอยู่เพื่อจัดการกับโจรเหล่านี้งั้นเหรอ?

“ไม่ต้องห่วง ข้าสามารถป้องกันตัวเองได้ นอกจากนี้พ่อของข้าคือจี้เติ้งถูเชียวนะ โจรพวกนี้ไม่กล้าลงมือกับข้าแน่นอน” จีเสี่ยวซีพูดอย่างเร่งรีบ

ซูอันส่ายหัว “โจรพวกนั้นกล้าแตะต้องแม้แต่ตระกูลอวี้ที่มีชื่อเสียง! ไม่มีทางที่พวกมันจะไว้หน้าพ่อของเจ้าที่มีดีแค่รักษาคนเก่งหรอก!”

จี้เสี่ยวซีตกตะลึงกับคำพูดของซูอันนางอยากจะบอกเขาว่าพ่อของนางเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามจริง ๆ แต่ก่อนที่นางจะได้พูดออกไป ซูอันก็พูดแทรกขึ้นด้วยสีหน้าแน่วแน่ว่า “ซ่อนตัวให้ดีและอย่าออกมา!”

หลังจากนั้น ซูอันก็กระโดดออกไปเผชิญหน้ากับกลุ่มโจรและพูดอย่างโอหังว่า “โอ้โห! กลางวันแสก ๆ แบบนี้พวกเจ้ายังกล้ากระทำการปล้นอย่างอุกอาจ พวกเจ้าไม่กลัวทางการจะยกพวกมากบั่นคอพวกเจ้ารึไง?”

จี้เสี่ยวซีอ้าปากค้างเพราะความตกตะลึง นางสงสัยว่า ซูอันเสียสติไปแล้วงั้นเหรอ? หากซูอันเปิดเผยตัวโดยการวิ่งหนีไปเพื่อล่อให้พวกโจรตามเขาไปเพื่อช่วยนาง นางก็คงพอเข้าใจได้ แต่ตอนนี้เขากลับกระโดดออกไปยั่วยุพวกโจรเสียอย่างนั้น!

ตามที่คาดไว้ กลุ่มโจรชุดดำเริ่มตะโกนตอบโต้ทันที “ไอ้เด็กเหลือขอเจ้าเป็นใครกัน? เจ้าคิดจะเข้ามายุ่มย่ามกับธุระของพวกข้า ค่ายเมฆาทมิฬ งั้นเหรอ”

ซูอัน แสร้งแสดงสีหน้าตกตะลึง “พวกเจ้าคือคนของ ค่ายเมฆาทมิฬ?

“ถูกต้อง! แล้วเจ้าเป็นใครกัน?“ หัวหน้ากลุ่มโจรชุดดำจ้องไปที่ซูอันอย่างระมัดระวัง มีคนไม่มากนักที่จะกล้าหาญกระโดดออกมาแส่เรื่องเป็นตายของคนอื่นแบบนี้ ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าแท้จริงแล้วซูอันเป็นใครไม่งั้นหากซูอันเป็นลูกคนใหญ่คนโตขึ้นมาและถ้าเขาจัดการกับซูอันไปมันจะกลายเป็นพวกเขาที่เดือดร้อนในภายหลัง

การปรากฏตัวของซูอันส่งผลให้การต่อสู้ระหว่างกลุ่มของค่ายเมฆาทมิฬและตระกูลอวี้ หยุดลงชั่วคราว

ซูอันกำหมัดของเขาและพูดว่า “ข้าคือ ‘เฉิงโซวผิง’ ทุกคนคนในยุทธภพต่างรู้จักข้าดีในฐานะผู้ที่มีริมฝีปากแน่นราวกับจุกขวด!!”

ในพุ่มไม้จี้เสี่ยวซีกะพริบตาปริบ ๆ งุนงงว่า ‘เฉิงโซวผิง’ คือใคร?

กลุ่มของค่ายเมฆาทมิฬและตระกูลอวี้ก็สับสนเหมือนกัน พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อเฉิงโซวผิงมาก่อน อย่างไรก็ตามด้วยสีหน้าและท่าทางที่สุขุมและมั่นใจของซูอันมันกลับทำให้พวกเขาคิดว่า ซูอันน่าจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงที่น่าเกรงขามเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นซูอันไม่มีทางกล้าออกมายืนแหกปากแบบนี้

ในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นว่าผู้บุกรุกเริ่มพูดคุยกับโจรชุดดำ คนคุ้มกันของตระกูลอวี้ต่างก็พากันแสดงสีหน้าเบิกบาน หัวหน้ากลุ่มคนคุ้มกันของตระกูลอวี้ตะโกนขึ้นเสียงดังว่า “ท่านจอมยุทธที่เพิ่งปรากฏขึ้น พวกเราคือคนของตระกูลอวี้! หากท่านเต็มใจช่วยเหลือพวกเรา ตระกูลอวี้จะตอบแทนน้ำใจของท่านอย่างงาม ไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน!”

ใบหน้าของเป๋ากังมืดลงทันที เขาชำเลืองมองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาและส่งสัญญาณให้คนของเขาอ้อมไปปิดล้อมเส้นทางหลบหนีของ’เฉิงโซวผิง’ ไม่ว่ายังไงพวกเขาไม่ยอมให้ข่าวที่พวกเขาเป็นผู้โจมตีรถม้าของตระกูลอวี้แพร่งพรายออกไปแน่นอน

“ตอบแทน?”ซูอันทวนคำพูดด้วยสีหน้าครุ่นคิด “ตอบแทนแค่ไหน?”

ผู้คนของตระกูลอวี้ ต่างตกตะลึงกับคำตอบที่ได้รับ ไฉนชายคนนี้ไม่เล่นบทจอมยุทธตามที่ควรจะเป็นเสียล่ะ! เขาควรจะพูดอะไรเช่น ‘จอมยุทธอย่างข้าไม่คาดหวังรางวัลใด ๆ’ และให้ความช่วยเหลือพวกเขาที่กำลังตกระกำลำบากหรอกเหรอ?

แต่อย่างไรก็ตาม หัวหน้าคนคุ้มกันยังคงตอบกลับคำถามของซูอันด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าไม่กล้าพูดว่าตระกูลอวี้ของเรามีอำนาจทัดเทียมกับอาณาจักร แต่ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เงิน อาวุธวิเศษ หินพลังชี่ หรือ แม้แต่การสนับสนุนให้ท่านได้รับตำแหน่งขุนนางพวกเราก็ทำให้ท่านได้หากท่านต้องการ!”

ซูอันพยักหน้าตอบ “ฟังดูเหมือนเป็นข้อเสนอที่ยุติธรรมดี แต่ข้าเป็นคนมีวัฒนธรรมที่ชอบศิลปะมากกว่า ข้าได้ยินมาว่านายหญิงของพวกเจ้าเคยเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาก่อน ข้าขอนางแทนได้ไหม?”

เป๋ากังเริ่มแรกกลัวว่าผู้มาใหม่รายนี้จะเข้ามาแทรกแซงและช่วยเหลือกลุ่มของตระกูลอวี้ แต่หลังจากได้ยินคำพูดล่าสุด สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงและเกือบจะตะโกนออกไปว่า ‘อ้าวพวกเรามันพวกเดียวกันนี่หว่า!’ เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่รายนี้ไม่มีจุดมุ่งหมายที่ขัดกับพวกของตนเอง เขาจึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กำลังโอบล้อมซูอันให้กลับมาและเฝ้าระวังไว้

ในขณะเดียวกันสีหน้าของหัวหน้าผู้คุ้มกันตระกูลอวี้มืดลงทันที “ท่านจอมยุทธได้โปรดอย่าล้อพวกเราเล่นแบบนี้เลย!”

ซูอันยักไหล่อย่างไม่แยแสและตอบกลับไป “ข้าไม่ได้ล้อเล่น ตราบใดที่นายหญิงของเจ้าเต็มใจที่จะไปกับข้าสักคืน ข้าจะจัดการพวกค่ายเมฆาทมิฬให้กับเจ้าทันที”

หลังพุ่มไม้สีหน้าของจี้เสี่ยวซีเปลี่ยนเป็นแดงก่ำเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าซูอันกำลังเขียนเสือให้วัวกลัว…

ในทางกลับกันถึงแม้ว่านางจะรู้ว่า ซูอันเป็นอย่างไรแต่คนของตระกูลอวี้ไม่ใช่ ทางด้านคนของตระกูลอวี้ทั้งหมดต่างจ้องเขม็งมาที่ ซูอันด้วยสีหน้าโกรธจัด

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ อวี้ปิน สำเร็จได้

รับคะแนนความโกรธแค้น +99!

ท่านยั่วยุ อวี้จวิน สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!

ท่านยั่วยุ อวี้เมิ่ง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!

———————————————————————————————

เมื่อเห็นคะแนนความโกรธแค้นหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก ซูอันรู้สึกว่าระบบคะแนนความโกรธแค้นนั้นเหมาะกับเขาดีจริง ๆ สำหรับเขา การหาคะแนนความโกรธแค้น นั้นง่ายพอ ๆ กับการหายใจ สิ่งเดียวที่เขาเสียใจก็คือระบบคะแนนความโกรธแค้นนี้มันน่าจะมาตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในโลกที่แล้ว ตอนที่เขาชอบยั่วให้ไอ้พวกคนในเว็บบอร์ดโมโหอยู่ทุกวัน ป่านนี้เขาคงมีคะแนนพอที่จะทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นพระเจ้าไปแล้วแน่ ๆ!

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ทำให้ ซูอันประหลาดใจก็คือนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลอวี้ไม่ได้ให้คะแนนความโกรธแค้นใด ๆ แก่เขาเลย

นี่นางไม่ใส่กับคำพูดหยาบคายของเขาเลยงั้นเหรอ?

ซูอันหันไปหาเป๋ากัง และพูดขึ้นโดยไม่ใส่กับสายตากินเลือดกินเนื้อของพวกตระกูลอวี้ “อันที่จริงข้าเคยได้ยินวีรกรรมของพวกท่าน ค่ายเมฆาทมิฬมาก็เยอะซึ่งมันทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมพวกท่านมาโดยตลอด ความเสียใจเพียงอย่างเดียวที่ข้ามีในชีวิตก็คือการไม่มีโอกาสเข้าร่วมกลุ่มของพวกท่าน แต่ในเมื่อโชคชะตาพาเรามาพบกันในวันนี้ ข้าขอสมัครเข้าร่วมกับพวกท่านเลยจะได้ไหม? ข้าไม่ต้องการอะไรมากมาย ข้าแค่หวังว่าเมื่อจบเรื่องนี้พวกท่านจะแบ่งปันนายหญิงตระกูลอวี้มาให้ข้าได้เล่นสนุกด้วยบ้างก็เท่านั้น”

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ อวี้ปิน สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +199!

ท่านยั่วยุ อวี้จวิน สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +199!

ท่านยั่วยุ อวี้เมิ่ง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +199!

———————————————————————————————

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท