เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 76 ลูกหงส์ทั้งเก้า(ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 76 ลูกหงส์ทั้งเก้า(ปลาย)

สวรรค์ โปรดประทานศัตรูที่ข้าสามารถยั่วยุได้แบบไม่ต้องตะขิดตะขวงใจแบบนั้นให้ข้าอีกเยอะ ๆ ด้วยเถอะ!!

ปัง!

จู่ ๆ ประตูก็ถูกผลักเปิดออก และชายหนุ่มทรงผมเรียบแปล้ซึ่งมีอายุ

ไม่มากเท่าไหร่ก็พุ่งเข้ามา เขาเดินมาที่ข้างเตียงและมองลงมาที่ ซูอัน

ด้วยสีหน้าหยิ่งผยองทันที “อาการบาดเจ็บของเจ้าหายดีแล้วแค่ไหน?

วันนี้เจ้าไปเรียนไหวรึเปล่า?”

ท่านยั่วยุ หงซิงอิง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +299!

“ข้าคงพอจะไปไหวล่ะมั้ง ข้าคิดว่านะ” ซูอัน เผลอตอบกลับโดยไม่รู้ตัว “เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เจ้าคือใคร?”

“งั้นก็ดีแล้ว” ทันทีที่ได้รับคำตอบชายหนุ่มหันหลังกลับและเดินออกจากห้องโดยไม่สนใจที่จะตอบคำถามของซูอัน แต่แล้วในระหว่างที่เขาเดินออกไป ก็บังเอิญเหลือบไปเห็นรอยบนกำแพงซึ่งมันทำให้เขาชะงักครู่หนึ่ง ชายหนุ่มผู้มาใหม่ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นเพื่อที่จะสงบสติอารมณ์ลง และจากนั้นเขาก็ออกจากห้องไปด้วยท่าทีหยิ่งผยองดังเดิม

ซูอัน ยังคงมึนงงเล็กน้อย ข้าพึ่งขอพรไปได้ไม่นาน จู่ ๆ สวรรค์ก็ตอบรับคำขอส่งศัตรูมาให้ข้าทันทีเลยงั้นเหรอ? ว่าแต่ไอ้เด็กคนนั้นคือใคร? ทำไมจู่ ๆ มันถึงโกรธข้าขนาดนั้นทั้ง ๆ ที่พวกเราเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก?

“นายน้อย~” ทันใดนั้นเองเสียงที่ดูเศร้าสร้อยก็ดังขึ้นที่หน้าประตูจากนั้น เฉิงโซวผิง ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ทางเข้าด้วยสภาพอิดโรย

“เอ๊? นี่เจ้าเป็นอะไรเนี่ย? หรือว่าเมื่อคืนมีปีศาจจิ้งจอกแอบมา

ดูดพลังหยางในร่างของเจ้าไปจนหมด?” ซูอัน สะดุ้งด้วยความตกใจ

เฉิงโซวผิง เหลือจะบรรยายเขาพยายามอดกลั้นน้ำตาเอาไว้และตอบกลับเสียงดังทันที “นายน้อย ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง? ท่านจำไม่ได้งั้นเหรอว่าเมื่อคืนข้าต้องคัดลอกกฎตระกูลให้กับท่าน100จบ ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืน

ข้ายังไม่ได้นอนเลย!”

ซูอัน ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนพร้อมกับลุกขึ้นและเทน้ำหนึ่งถ้วยให้

เฉิงโซวผิง “ผิงผิงน้อย เจ้าควรจะดีใจที่เมื่อคืนเจ้าอยู่แต่ในห้องสำนึกตนไม่งั้นถ้าเจ้าอยู่กับข้า เจ้าคงกลายเป็นศพไปแล้ว!”

“เอ่อ…ขอบคุณนายน้อย” เฉิงโซวผิง ยอมรับถ้วยน้ำของ ซูอัน

อย่างนอบน้อมก่อนที่เขาจะเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของ ซุอัน “เอ๊ะเดี๋ยวนะ

นายน้อย ท่านหมายถึงอะไรที่บอกว่า ‘ข้าคงกลายเป็นศพไปแล้ว’?”

ซูอัน ชี้ไปที่รอยร่างมนุษย์บนผนังและพูดว่า “เจ้าเห็นไหม? เมื่อคืนมีมือสังหารถูกส่งมาฆ่าข้า ต้องขอบคุณสวรรค์และทักษะที่อัศจรรย์ของตัวข้าเอง ข้าจึงสามารถรอดจากการถูกสังหารได้อย่างหวุดหวิด แต่ถ้าเมื่อคืน

เจ้าอยู่ด้วยล่ะก็ ตามหน้าที่ที่เจ้าควรจะทำเจ้าก็ต้องออกไปสู้กับมือสังหารก่อนเพื่อปกป้องข้าเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อดูจากความอ่อนแอของเจ้าแล้ว

เจ้าน่าจะตายด้วยคมมีดของมือสังหารในชั่วพริบตา”

เฉิงโซวผิง กลืนน้ำลายด้วยสีหน้าตื่นตระหนกพร้อมกับพึมพำกับตัวเองเสียงเบา “ขอบคุณสวรรค์จริง ๆ ที่ข้าอยู่ในห้องสำนึกตน…”

“เจ้าพูดว่าไงนะ?” คิ้วของ ซูอัน เลิกขึ้น

เฉิงโซวผิง ตอบกลับทันทีด้วยรอยยิ้มประจบสอพลอ “มะ…ไม่มีอะไร

นายน้อยไม่มีอะไร! ข้าบอกว่าน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้อยู่กับท่าน บ่าวที่ภักดี

อย่างข้าแน่นอนว่ายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องท่านแน่นอน มือสังหารผู้นั้นจะต้องก้าวข้ามศพข้าไปก่อนหากเขาจะสังหารท่าน!”

เมื่อเห็นว่า บ่าวตัวแสบ พูดอย่างเร่งรีบจนน้ำลายของเขากระจัดกระจายไปทั่วห้องซึ่ง ซูอัน ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจและถามต่อว่า “พอเถอะ ๆ

เจ้าไม่เบื่อบ้างรึไงกับไอ้การแสร้งทำที่เจ้าชอบทำบ่อย ๆ? ว่าแต่ข้าขอถามอะไรเจ้าหน่อยไอ้ผู้ชายที่ดูหยิ่งผยองที่เพิ่งเดินออกไปก่อนหน้านี้เป็นใครกัน?”

“เขา? เขาเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อบ้านหง ชื่อหงซิงอิง” เฉิงโซวผิงพูดต่อไปอีกด้วยความหมั่นไส้ว่า “ไอ้คนผู้นั้นมันเป็นคนที่หยิ่งยโสอันดับต้น ๆ ในคฤหาสน์เลยทีเดียวนายน้อย แต่ก็อย่างว่าแหละ มันเป็นเพราะพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของเขาคนอื่น ๆ ก็เลยไม่ว่าอะไรหากเขาจะทำตัว

หยิ่งยโสอย่างที่ทำอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่เคยผ่านการศึกษาในสถานศึกษาใด ๆ

มาก่อน แต่ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเขาก็อยู่ในระดับที่ 3 เรียบร้อย

ด้วยการฝึกฝนด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว พ่อบ้านหงภูมิใจในตัวลูกชาย

ของเขาคนนี้เป้นอย่างมาก แม้แต่นายท่านและนายหญิงก็ชมเชยเขาเช่นกัน ทุกคนต่างคาดหวังให้เขากลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของคนรุ่นใหม่ของคฤหาสน์ตระกูลฉู่”

อ้อที่แท้ไอ้เด็กนั่นก็เป็นลูกชายของพ่อบ้านหงนี่เอง มิน่าล่ะทำไมทรงผมของเด็กนั่นมันถึงถูกแต่งอย่างบรรจงแบบนั้นลูกไม้ช่างหล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ

“เหอะ ๆ มีพรสวรรค์งั้นเหรอ? บ่มเพาะมาสิบกว่าปียังอยู่แค่ระดับ 3เท่านั้นแบบนี้เรียกว่ามีพรสวรรค์งั้นเหรอ?” ซูอันเย้ยหยัน ขยะอย่างข้าสามารถบรรลุระดับ3ได้ในเวลาเพียงสามวัน ข้ายังไม่โอ้อวดเลย!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉิงโซวผิง ส่ายหัวด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงบอกว่านายน้อยผู้นี้ไม่มีสมอง ไร้ความสามารถขนาดนี้แต่กลับยังกล้าพูดจาดูถูกผู้อื่นราวกับว่าตัวเองดีกว่า หากเจ้าสามารถบ่มเพาะถึงระดับ 3 ได้ในชีวิตของเจ้า ข้าพนันเลยว่าแม้แต่นายท่านและนายหญิงคงจะหัวเราะแม้แต่ตอนอยู่ในโลง!

“เจ้าทำหน้าแบบนั้นทำไม?” ซูอัน จ้องเขม็งไปที่ เฉิงโซวผิง

บ่าวช่างยุ รีบเก็บสีหน้าละอาใจทันทีเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มประจบสอพลอ “เอ่อ…นายน้อย เอาแบบนี้ไหม วันนี้ให้ข้าไปบอกนายหญิงว่าท่านขอพักเนื่องจากท่านยังคงไม่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บดีรึเปล่า ข้ามั่นใจว่านายหญิงคงอนุญาตแน่นอน”

“ไม่จำเป็น อาการบาดเจ็บเล็กน้อยแค่นี้ไม่มีผลอะไรกับข้าทั้งนั้น พ่อตาและแม่ยายของข้าขอให้ข้าไปเรียนเพื่อประโยชน์ของตัวข้าเอง ข้าจะทำให้พวกเขาผิดหวังได้อย่างไร” ซูอัน ทุบหน้าอกของเขาในขณะที่เขาพูด

อย่างเด็ดเดี่ยว อันที่จริงเขาไม่สนใจเรื่องการไปเข้าเรียนในสำนักเลย แต่มันน่าเบื่อกว่ามากที่จะอุดอู้อยู่แต่ในคฤหาสน์

เนื่องจากการลอบสังหารเมื่อคืนนี้ ฉู่จงเทียน จึงส่งทหารสองคนมายืนเฝ้าที่ทางเข้าห้องของเขาอย่างถาวร ซึ่งมันทำให้นับจากนี้การออกไปไหนมาไหนของเขาคงไม่อิสระเหมือนเดิม ดังนั้นวิธีเดียวที่เขาจะออกไปข้างนอกได้

ก็คือไปที่สถานศึกษาและคอยหาโอกาสหนีไปทำธุระของตัวเอง

เมื่อได้ยินคำพูดนี้จากปากของซูอัน เฉิงโซวผิง อ้าปากค้างจนสามารถกินแม่ไก่เข้าไปได้ทั้งตัวในคำเดียว เขารีบวิ่งมาหาซูอันและวางมือบนหน้าผากของ ซูอัน “นายน้อย นะ นี่ท่านเป็นอะไรไป? ท่านไข้ขึ้นงั้นเหรอ”

“ไสหัวไปเลย!” ซูอัน ถีบ เฉิงโซวผิง ให้กระเด็นออกไปทันที

“ฮ่าๆๆๆ! ซูอัน ดูเหมือนว่าเจ้าเริ่มจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นแล้วสินะ

ความพยายามที่ข้าใช้ไปกับเจ้านับว่าไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ !” เสียงหัวเราะ

ดังลั่นจากด้านนอกและอึดใจต่อมา ชูซ่งเทียน และ ฉินหว่านลู่ ก็เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของพวกเขา

“ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย พวกท่านมาทำอะไรที่นี่?” ซูอัน รีบแสดงสีหน้าประจบสอพลอ

การแสดงเมื่อครู่นี้หากเป็นเมื่อชีวิตก่อน ชื่อของข้าคงถูกส่งเข้าชิงรางวัลออสการ์แน่นอน ฮ่าฮ่า!

“ข้าได้ยินจาก ซิงอิง ว่าเจ้าดีขึ้นจากอาการบาดเจ็บแล้วและต้องการไปที่สำนักจันทร์กระจ่าง ข้ารู้สึกกังวลเล็กน้อยจึงแวะมาดู” สีหน้าของ ฉินว่านหรู ที่ปกติมีแต่ความเคร่งขรึมวันนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท