เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 226 เหนือสิ่งอื่นใดคือชื่อเสียง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

หลังจากที่เจียงลั่วฝูจากไป ผู้ชายส่วนใหญ่ที่แอบลอบมองขาอ่อนนางอยู่เรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่าสนใจอีกต่อไปแล้วดังนั้นพวกเขาจึงพากันสลายตัวจากไป

เซี่ยอี้ประสานมือคารวะไปทางซ่างหงและกล่าวคำอำลาก่อนจะกลับไปที่จวนเจ้าเมือง ระหว่างทางกลับเขาถามเซี่ยซิวลูกชายของตนเอง “ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับซูอันมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวใช่ไหม?”

เซี่ยซิวพยักหน้า “เราพอรู้จักกันอยู่บ้างท่านพ่อ”

“เจ้าจงพยายามตีสนิทเขาให้มากขึ้น เด็กคนนี้มีอะไรมากกว่าที่เราเห็น ต่อให้เจ้าไม่สามารถผูกมิตรกับเขาได้ เจ้าต้องแน่ใจว่าเจ้าจะไม่เป็นศัตรูกับเขา บางทีนี่อาจจะเป็นหนทางทำให้ตระกูลฉู่มาอยู่เคียงข้างเรา”

เซี่ยซิวแสดงสีหน้าเหนื่อยใจทันที “ท่านพ่อ ท่านก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าข้าเป็นคนอย่างไร ข้าสามารถเอาชนะใจผู้หญิงได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าท่านต้องการให้ข้าใกล้ชิดกับผู้ชาย…นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าถนัดเลย!”

ดวงตาของเซี่ยอี้เบิกกว้างด้วยความโมโห “ไอ้ลูกไม่รักดี! นี่เจ้ายังกล้าอวดอ้างความสามารถที่น่าปวดหัวของเจ้าออกมาให้ข้าฟังอีกงั้นเหรอ! เจ้ารู้รึเปล่าว่าไอ้การที่เจ้าเที่ยวไปยุ่งกับผู้หญิงคนโน้นทีคนนี้ทีมันสร้างปัญหาให้ข้ามากมายขนาดไหน? เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผู้นำตระกูลจางก็เพิ่งมาบ่นกับข้าเรื่องที่เจ้าไปพัวพันกับลูกสาวของเขา! เจ้ารู้ไหมว่าข้าอับอายแค่ไหน!”

เซี่ยซิวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนไม่กล้าพูดอะไรต่อ

เฮ้อ…ทำไมผู้หญิงทั้งหลายถึงชอบทำราวกับว่ามันเป็นจุดจบของโลกทุกครั้งที่ข้าบอกเลิกพวกนาง?

ในเวลาเดียวกัน เซี่ยเต๋าอวิ๋นจ้องเขม็งไปที่น้องชายของนางอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับพ่อของนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านพ่อ โปรดทิ้งเรื่องของซูอันให้ข้าจัดการเอง ข้าเองก็อยากรู้จักเขาเหมือนกัน”

เซี่ยซิวแทบจะสำลักเมื่อได้ยินคำพูดของพี่สาวตัวเอง “ไม่ได้นะท่านพี่! ไอ้คนๆ นั้นเป็นเสือผู้หญิงตัวฉกาจ! ท่านห้ามเข้าใกล้เขาเด็ดขาดไม่เช่นนั้นท่านจะโดนเขาหลอกแน่นอน!”

เซี่ยเต๋าอวิ๋นคว้าหูน้องชายของนางและบิดอย่างโกรธเคือง “เจ้าคิดว่าทุกคนในโลกนี้เหมือนเจ้าทั้งหมดรึไง? นอกจากนี้ ข้าจะไปปรึกษาเขาเกี่ยวกับเรื่องดนตรีด้วย เจ้าคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านั้นไปได้?”

“อ…เอ่อแค่ก็แค่กังวลใจแทนท่านก็เท่านั้น” เซี่ยซิวตอบกลับด้วยสีหน้าหดหู่

พี่สาวของข้ามีมาตรฐานสูง นางเคยบอกว่าสามีของนางต้องฉลาดพอที่จะปกครองเมืองและเข้มแข็งพอที่จะสร้างความมั่นคงให้กับบ้านเมือง คนโง่อย่างซูอันดูไม่เข้ากับเกณฑ์ของนางเลย ดูเหมือนว่าข้ากังวลคงกังวลมากเกินไปจริงไหม?

หลังจากเห็นว่ากลุ่มตระกูลเซี่ยจากไปแล้ว ซ่างเชียนก็รีบเดินไปที่ด้านข้างของบิดาเขาเองและพูดขึ้นอย่างกังวล “ท่านพ่อ! นี่ท่านประกาศให้ไอ้ซูอันได้รับชัยชนะไปได้ยังไง? แล้วแบบนี้…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซ่างหงพลันเอ่ยขึ้นแทรกอย่างฉุนเฉียว “แล้วเจ้าคาดหวังให้ข้าทำอะไร? ด้วยสายตาที่จ้องมองมาที่ข้ามากมาย เจ้าคิดว่าข้าสามารถพลิกผลตัดสินได้ตามใจนึกงั้นเหรอ? เจ้าควรจำใส่สมองเอาไว้ว่าถึงแม้ชายผู้ที่อยู่เหนือพวกเราทั้งหมดต้องการที่จะจัดการกับตระกูลฉู่ แต่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องนั้นคือชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของราชสำนัก!”

“นอกจากนี้ เจ้าไม่ได้ปรึกษาข้าแม้แต่น้อยในเรื่องที่เจ้าไปเปิดบ่อนด้วยตัวเอง …หลังจากนี้ข้ากับเจ้ามีเรื่องที่ต้องคุยกันยาวแน่! และเจ้า! เจ้าก็จะต้องจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง!”

หลังจากด่าลูกชายของตัวเองเสร็จ ซ่างหงก็จากไปพร้อมกับลูกน้องของเขาด้วยใบหน้าที่หงุดหงิด แน่นอนว่าเขาไม่พอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้

สีหน้าของซ่างเชียนก็กลายเป็นมืดหม่นเช่นกัน

แม้ว่าพ่อของข้าจะเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามในราชสำนัก แต่ดูเหมือนเขาจะวางลำดับความสำคัญของตระกูลให้เป็นรอง เขาไม่ยอมใช้อิทธิพลของตัวเองหารายได้เพิ่มเติมเข้าตระกูลเลย แล้วแบบนี้เมื่อไหร่พวกเราจะมั่งคั่งเหมือนตระกูลใหญ่ตระกูลอื่น?

อีกอย่าง นี่เป็นเรื่องปกติเป็นอย่างมากของพวกขุนนางที่จะหาผลประโยชน์ใส่ตัวผ่านกิจการของพวกเขาเอง พ่อของข้าหัวโบราณและไม่ยืดหยุ่นเกินไป!

ทันใดนั้นเสียงที่อ่อนโยนก็ดังขึ้นไม่ไกลจากหูของเขา “ผู้ตรวจการซ่างไม่เต็มใจที่จะช่วยใช่ไหม?”

กลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศมากเกินพอที่จะทำให้ใบหน้าที่หงุดหงิดของเขาเปลี่ยนเป็นผ่อนคลาย “ใช่ เจ้าน่าจะเดาได้ว่าพ่อของข้าเป็นอย่างไร เขาไม่เต็มใจที่จะเอาตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”

เจิ้งตานขมวดคิ้ว “แล้วเราจะทำอย่างไรต่อดี? เราจะจ่าย 1,000,000 ตำลึงเงินจริงๆ เหรอ?”

ถึงแม้ว่าตระกูลซ่างจะร่วมลงทุนในบ่อน แต่เงินส่วนใหญ่ที่ลงทุนไปนั้นเป็นของฝั่งตระกูลเจิ้ง ดังนั้นหากบ่อนสูญเสียเงินเป็นจำนวนมากผู้ที่เจ็บหนักคือตระกูลเจิ้ง

“ไม่แน่นอน!” ซ่างเชียนอุทาน!

เขาคาดหวังเป็นอย่างมากที่จะได้กำไรจากการลงทุนเปิดบ่อน ดังนั้นมันไม่มีทางที่เขาจะยอมเสียเงิน 1,000,000 ตำลึงเงินไปแบบง่ายๆ แน่นอน!

เขาหันไปมองที่ตระกูลฉู่ และความคิดก็ผุดขึ้นในใจของเขา “ถ้าให้ข้าเดา เนื่องจากซูอันต้องขึ้นไปบนเวทีประลอง ดังนั้นข้าคิดว่าเขาจะต้องมอบตั๋วเดิมพันให้กับคนสนิทเพื่อเก็บรักษาเอาไว้ก่อนป้องกันมันเสียหายจริงไหม?”

“ท่านกำลังบอกว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ในตอนนี้เพื่อฉกตั๋วเดิมพัน?” ดวงตาของเจิ้งตานเป็นประกาย

“แน่นอนและเราจำเป็นต้องทำมันให้เร็วที่สุดด้วย ไม่เช่นนั้นถ้าเราช้าไปเราจะไม่มีโอกาสทำมันได้อีกเลย!” ซางเชียนตอบกลับ

“อืมถ้าเช่นนั้นก็เอาตามนี้!” เจิ้งตานรีบเขียนตั๋วเดิมพันอีกแผ่นทันทีก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มเดินไปที่ตระกูลฉู่

ไม่ไกลนัก ซือคุนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของพวกเขาและขมวดคิ้ว “สองคนนั้นทำอะไรกัน?”

เสวี่ยเอ๋อร์ส่ายหัวโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ซือคุนจึงขมวดคิ้วและพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา “ตอนนี้ข้ามาคิดๆ ดูแล้ว สองคนนี้เป็นคนที่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องแก่เราเมื่อวานนี้… ดังนั้นไม่แน่ว่าพวกเขาอาจสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลฉู่ อย่างลับๆ ได้ใช่ไหม?”

ชายชราผู้ที่อยู่ด้านหลังซือคุนตลอดเวลา ซือเล่อจื่อเอ่ยขึ้นแทรก “นายน้อยหกข้าไม่คิดอย่างนั้น มีโอกาสมากกว่าที่พวกเขาเองก็ถูกหลอกโดยเจ้าเด็กเหลือขอคนนั้นเช่นกัน”

“ถ้างั้นต่อจากนี้เราควรทำอย่างไร?” ซือคุนถามกลับด้วยสีหน้าหนักใจ

ตอนนี้ซูอันได้กลายเป็นตัวตนคนสำคัญของตระกูลฉู่ไปแล้ว เขาไม่ใช่คนที่ ‘ไร้ค่า’ อย่างที่ทุกคนเข้าใจอีกต่อไป นับจากนี้ทุกคนในตระกูลฉู่จะมองเขาอย่างให้เกียรติ และบางทีฉู่ชูเหยียนอาจตกหลุมรักเขาด้วยซ้ำ!

แค่คิดว่าซูอันจะกลายเป็นลูกเขยที่แท้จริงของตระกูลฉู่และได้โอบกอดผู้หญิงที่ตัวเองหมายปองมาหลายปีมันก็เพียงพอแล้วที่ซือคุนจะกระอักเลือดออกมาด้วยความอิจฉา

ที่เลวร้ายไปกว่านั้น ความล้มเหลวของการพยายามลอบสังหารครั้งก่อนทำให้ตระกูลฉู่เพิ่มการเฝ้าระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ดังนั้นมันจะไม่ง่ายเลยที่จะลอบสังหารซูอันอีกรอบ!

“นายน้อย มันเป็นเพราะจิตใจของท่านตอนนี้อยู่ในความสับสนจนท่านมองไม่เห็นว่าจริงๆ แล้วเรามีข้อได้เปรียบบางอย่างที่เหนือเขา” ซือเล่อจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“หืม?” ซือคุนรีบหันไปมอง

ซือเล่อจื่อกล่าวต่อ “ท่านต้องไม่ลืมว่าเรามีอิทธิพลทางการเมืองที่มหาศาล ดังนั้นเราสามารถใช้ข้อได้เปรียบของเราตรงนี้ในการกำจัดเขา ไม่ว่าตระกูลฉู่จะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็ไม่มีกำลังพอจะต่อต้านราชสำนักอย่างเปิดเผย สิ่งที่เราต้องทำมีเพียงแค่…”

เมื่อได้ยินแผน ใบหน้าของซือคุนก็เปลี่ยนเป็นพึงพอใจมากขึ้นเรื่อยๆ “ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าปัญญาจะมาพร้อมกับอายุ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมพ่อของข้าถึงแต่งตั้งเจ้าให้อยู่เคียงข้างข้า!”

เสวี่ยเอ๋อร์ประหลาดใจกับสิ่งที่นางได้ยินด้วยเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมจำนวนผู้บ่มเพาะไร้สังกัดจึงมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ บรรดาผู้มีอำนาจรู้วิธีใช้อำนาจในมือของตัวเองเป็นอย่างดี และใครก็ตามที่ทำให้พวกเขาขุ่นเคืองท้ายที่สุดจะถูกอุบายต่างๆ เล่นงานก่อนที่จะถูกทำให้หายไปจากโลก!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน