เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 236 แก้ต่าง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

ฉู่จงเทียน โบกมือทันทีเพื่อขจัดกลิ่นอายของซือเล่อจื่อและกล่าวว่า “เจ้าควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะพยายามก่อเรื่องขัดแย้งในศาล นอกจากนี้อาซูก็ไม่ได้พูดอะไรผิดเช่นกัน เขาเป็นอาจารย์ที่สถาบันจันทร์กระจ่าง ถูกต้องแล้วที่ซือคุนจะกราบไหว้เขาในฐานะนักศึกษา”

ใบหน้าของซือคุนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขารู้สึกอึดอัดอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีทางที่เขาจะยอมก้มหัวให้ซูอันอย่างสุภาพในฐานะนักศึกษาต่อหน้าคนจำนวนมากได้ แน่นอนว่าหากทำเช่นนั้นชื่อเสียงของเขาต้องป่นปี้!

เสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกอยากจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดแทนนายน้อยของนางเช่นกัน แต่อย่างไรก็ดีนางรู้สึกผิดที่ต้องเผชิญหน้ากับเจ้านายเก่าของนางอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงได้แต่ยืนนิ่งอย่างไร้คำพูด…

โชคดีสำหรับซือคุนที่ซ่างหงได้ยื่นความช่วยเหลือมาให้เขาทันเวลา “ซูอันอยู่ในตำแหน่งจำเลยแล้ว จนกว่าเขาจะล้างข้อกล่าวหาของเขาได้ในที่สุด เราไม่ควรมองว่าเขายังคงเป็นอาจารย์ของสถาบันจันทร์กระจ่าง ข้าเชื่อว่าเราสามารถข้ามพิธีการไปก่อน สำหรับนายน้อยซือไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เขาจะดูกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่มีตำแหน่งทางการรองรับตัวเขาเอง ฉะนั้นข้าขอเชิญให้ท่านไปยืนรอผลตัดสินอยู่หน้าประตูทางเข้าแทน!”

ซ่างหงเอ่ยออกมาเองว่าเขาจะวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด ดังนั้นจึงไม่มีใครโต้แย้งเกี่ยวกับคำพูดของเขาในประโยคนี้

แต่กระนั้นซือคุนที่คิดว่าตัวเองจะสามารถนั่งดูการพิจารณาคดีในแถวหน้าได้อย่างสบายใจเฉิบ กลับถูกจัดให้อยู่หน้าทางเข้าแบบเดียวกับฝูงชนทั่วไปเช่นนี้ มันทำให้เขารู้สึกทั้งอับอายและไม่พอใจ

เพื่อให้ซือคุนไม่อึดอัด ซือเล่อจื่อจึงได้แอบปลดปล่อยกลิ่นอายอันทรงพลังของเขาเองเพื่อป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ซือคุน ทำให้นายน้อยของเขามีความเป็นส่วนตัวบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นซือคุนก็ยังคงเดือดดาล

ซูอัน!!! เจ้าดีใจไปก่อนเถอะ ก่อนที่จะหัวเราะไม่ออกในภายหลัง!

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธ +444!

“ทุกคนจงเงียบ!” เมื่อเห็นว่าฉู่จงเทียนและซ่างหงนั่งลงในตำแหน่งของพวกเขาเซี่ยอี้เริ่มต้นด้วยการปรามฝูงชนก่อนที่จะตบโต๊ะและพูดว่า “ซูอัน เจ้าจะสารภาพผิดหรือไม่”

ซูอันยักไหล่อย่างสบาย ๆ ขณะที่เขาตอบว่า “ข้ามีความผิดอะไร?”

หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวหรูหราชี้นิ้วไปที่ซูอันและตะโกนว่า “ซูอัน ไอ้เจ้าคนสารเลว! เจ้าเอาชนะสามีของข้าในสถาบันจันทร์กระจ่างได้แล้วแต่เจ้าก็ยังไม่พอใจและลอบสังหารเขาอย่างโหดเหี้ยม! เจ้าต้องชดใช้ให้กับชีวิตอันน่าสงสารของเขาและความเสียใจของข้า!”

หญิงวัยกลางคนยังคงโวยวายอย่างน่าสงสาร แต่ปฏิกิริยาของนางไม่ได้ทำให้ซูอันรู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด เขาถามอย่างใจเย็นว่า “การตายของหยางเว่ยเกี่ยวกับข้ายังไง?”

เซี่ยอี้ไอค่อกแค่กเบา ๆ และพูดว่า “ใต้เท้าหยางทิ้งข้อความก่อนตายซึ่งชี้ให้เห็นว่าเจ้านั่นเองที่เป็นฆาตกร!”

“ข้อความก่อนตาย?” ซูอันขมวดคิ้ว

จากนั้นรองผู้พิพากษาผางชุนได้ก้าวเข้ามาเพื่ออธิบายรายละเอียด

“ผู้ตายหยางเว่ย เขียนคำว่า ‘ซู’ ทิ้งไว้ก่อนที่เขาจะจากไป เจ้าไม่เพียงแต่มีความขัดแย้งกับเขาในสถาบันจันทร์กระจ่างเมื่อสองวันก่อนเท่านั้น แต่ยังไม่มีใครใช้แซ่ ‘ซู’ ในเมืองจันทร์กระจ่างอีกด้วย ดังนั้นบุคคลที่ข้อความสุดท้ายของเขาหมายถึงย่อมไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้า”

แม้แต่ฉู่จงเทียนเองก็สับสนกับข้อความก่อนตายของหยางเว่ย แต่ซูอัน กลับยังสามารถบังคับตัวเองให้สงบนิ่ง ช่วงเวลาเช่นนี้เขาจะตื่นตระหนกไม่ได้ เขาเคยดูละครที่โจทก์เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ ‘ข้าถูกใส่ร้าย!’ และ ‘ข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!’ มามาก และแน่นอนว่าการทำเช่นนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ซูอันไตร่ตรองเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “การฆาตกรรมย่อมประกอบไปด้วยแรงจูงใจ แต่ข้าไม่มีเหตุผลที่จะฆ่าหยางเว่ย”

“ไม่มีเหตุผลงั้นเหรอ? เจ้ามีเรื่องขัดแย้งกับหยางเว่ยในสถาบันจันทร์กระจ่าง มีคนเป็นร้อยที่สามารถเป็นพยานเรื่องนี้ได้! เจ้าคงแค้นมากเลยลอบสังหารสามีของข้า ไอ้คนชั่ว!” ภรรยาของหยางเว่ยตะโกนใส่ซูอัน ใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

“ข้าทะเลาะกับหยางเว่ยก็จริง แต่มันก็เป็นแค่การทะเลาะเบาะแว้งเกี่ยวกับเลขคณิตซึ่งข้าชนะเขาไปแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ใหญ่เจียงก็ได้แต่งตั้งข้าเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ชั่วคราวแทนเขาแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่มีเหตุผลอะไรจะต้องไปแค้นเขาเลย”

“ตรงกันข้ามหยางเว่ยได้รับความอับอายต่อหน้าผู้คนมากมาย และถูกไล่ออกจากสถาบันจันทร์กระจ่าง ข้าจะเป็นฝ่ายเคืองแค้นได้อย่างไร คงมีแต่หยางเว่ยเท่านั้นแหละที่จะแค้นเคืองข้าจริงไหม? ตรงกันข้ามเลยว่าหยางเว่ยนี่แหละน่าจะพยายามเอาชีวิตข้าซะมากกว่า” ซูอันตอบกลับ

เซี่ยอี้และผางชุนมองหน้ากันและพยักหน้าเห็นด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่ซูอันจะเกิดแรงจูงใจในการสังหารหยางเว่ย

ฉู่จงเทียนมองซูอันด้วยความประหลาดใจ…

ตลอดมา เขาเคยคิดว่าลูกเขยของตัวเองเป็นคนไม่เอาไหน และปากของซูอันสามารถพ่นอะไรก็ได้ที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาอย่างไม่มีแก่นสาร อันที่จริงแล้วหลังจากการประลองระหว่างสองตระกูล แม้ว่าซูอัน จะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่ความประทับใจของเขาที่มีต่อซูอันก็ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่นักเพราะอย่างไรเสีย…ซูอันก็เป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะระดับที่สาม ซึ่งถือเป็นระดับปกติธรรมดาในตระกูลฉู่

แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นความสามารถของซูอันในการวิเคราะห์รากเหง้าของปัญหา เขากลับรู้สึกประทับใจขึ้นมาจริง ๆ เขาตระหนักขึ้นมาได้ว่าบางทีเขาและภรรยาอาจทำผิดต่อซูอันมาโดยตลอด

ในเวลานี้เองที่เหมยเชาฟงซึ่งเฝ้าดูอยู่เงียบ ๆ จากด้านข้างก้าวออกมาข้างหน้าและกล่าวว่า “ถึงเจ้าจะพูดเช่นนี้ แต่ในการประลองเมื่อวานนี้ เราทุกคนก็ได้เห็นความพยาบาทของเจ้าที่มีต่อหยวนเหวินจี้ เจ้าฟันแขนเขาจนเขาพิการเพียงเพราะหยวนเหวินจี้พลาดทำร้ายคุณหนูรองตระกูลฉู่ จากสิ่งที่เจ้าทำกับหยวนเหวินจี้อย่างโหดร้ายมันย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าเป็นคนที่มีความพยาบาทมาดร้ายสูง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุให้เกิดแรงจูงใจในการล้างแค้นกับหยางเว่ยได้”

เนื่องจากซือคุนถูกสั่งให้รออยู่ด้านนอก เหมยเชาฟงจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเป็นคนพูดแทน ซึ่งสิ่งที่เขาพูดนั้นสอดคล้องและเป็นประโยชน์กับฝ่ายภรรยาของหยางเว่ย นางจึงเอ่ยสนับสนุนขึ้นทันที

“ถูกต้อง! มันเป็นอย่างนั้นแหละ! ใต้เท้าเซี่ย ใต้เท้าผาง โปรดชดเชยความสูญเสียของครอบครัวข้าด้วย! สามีของข้าเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจยิ่งนัก!”

เซี่ยอี้และผางชุนขมวดคิ้วโดยไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างไร ฝ่ายซ่างหงเองก็เข้าร่วมบทสนทนานี้ด้วยเช่นกัน “ซูอัน เจ้าจะอธิบายเรื่องข้อความก่อนตายที่ใต้เท้าหยางทิ้งไว้ว่าอย่างไร?”

“ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าใต้เท้าหยางเป็นคนทิ้งข้อความนั่นไว้? ลองคิดดูสิ ถ้าข้าเป็นฆาตกร ข้าจะยอมให้เหยื่อเขียนชื่อของข้าทิ้งไว้ไหม?” ซูอัน ตอบกลับ

ซ่างหงยิ้มโดยไม่พูดอะไร มันไม่ใช่หน้าที่เขาที่จะลงมือสอบสวนซูอัน ด้วยตัวเอง เขาแค่ถามในสิ่งที่เขาสงสัยเท่านั้น…

ผางชุนพูดขึ้นทันที “ในตอนที่เราพบศพ มือของใต้เท้าหยางได้ปิดบังข้อความนั้นไว้ ดังนั้นฆาตกรจึงไม่เห็นและไม่ได้ทำลายข้อความก่อนตายของใต้เท้าหยางลง”

ซูอันระเบิดเสียงหัวเราะ “เอาเข้าจริง ๆ ฆาตกรคนไหนที่จะทำตัวประมาทถึงขนาดปล่อยเหยื่อที่กำลังจะตายให้ทิ้งชื่อของตัวเองไว้ในที่เกิดเหตุโดยที่ไม่ทันสังเกต? มันสมเหตุสมผลงั้นเหรอ?”

เสียงของฝูงชนที่เริ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเองดังขึ้นเซ็งแซ่

“เงียบ!” เซี่ยอี้ทุบโต๊ะ “ซูอัน สิ่งที่เจ้าพูดนั้นสมเหตุสมผล แต่หลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าเจ้าคือฆาตกรโดยไม่ต้องสงสัย หากเราไม่พบหลักฐานอื่น ข้าเกรงว่าคงเป็นการยากที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเจ้า!”

“ข้าขอถามว่าหยางเว่ยตายเมื่อไหร่?” ฉู่จงเทียน ถามขึ้น

“ท่านอ๋องฉู่ ตามรายงานการชันสูตรศพ เขาเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ระหว่างชั่วโมงจื่อถึงชั่วโมงโจว”[1]

“ไม่มีทางที่ฆาตกรจะเป็นอาซู เมื่อคืนนี้เขาพักผ่อนอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ทั้งคืน หลังจากเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นบ่อยครั้ง ข้าจึงได้จัดทหารยามหลายคนคอยเฝ้าเขาตลอดเวลา ไม่มีทางที่เขาจะแอบออกไปจากคฤหาสน์ได้สำเร็จโดยที่ข้าไม่รู้แน่นอน!”

“ข้าเข้าใจแล้ว” เซี่ยอี้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก การที่ซูอันมีข้อแก้ตัว ย่อมทำให้เรื่องง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เซี่ยอี้กำลังจะตัดสินใจก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น…

“ถ้าข้าจำไม่ผิด คำให้การของญาติของโจทก์สามารถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงเท่านั้น ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้…ข้าพูดถูกไหม?” ซือคุนที่อยู่ด้านนอกตะโกนขึ้น

คำพูดของ ซือคุน ทำให้เซี่ยอี้ขมวดคิ้ว มีกฎดังกล่าวอยู่จริง เพื่อป้องกันการช่วยเหลือกันของสมาชิกในครอบครัว

ฉู่จงเทียนหันไปหาซือคุน “เจ้าจะบอกว่าข้าพูดโกหกงั้นเหรอ!?” เขาพูดอย่างเย็นชา

“ขออภัยท่านอ๋องฉู่ ข้าไม่ได้สงสัยคำพูดท่าน แต่ถ้าดูจากจำนวนคนในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ ไม่มีทางที่ท่านจะรู้ที่อยู่ของทุกคนได้ ในส่วนของ ซูอัน เราก็ได้เห็นกันแล้วในการประลองเมื่อวานว่าเขามีทักษะการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดเอาชนะคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับห้าได้ ดังนั้นการที่เขาที่จะหลบเลี่ยงทหารยามย่อมไม่ใช่เรื่องยาก หากเขาตั้งใจจะแอบออกคฤหาสน์ตระกูลฉู่จริงๆ”

ฉู่จงเทียนอ้าปากเพื่อโต้กลับ แต่ไม่มีคำพูดใดเล็ดรอดออกมา ข้อโต้แย้งของซือคุนนั้นสมเหตุสมผลอย่างสมบูรณ์ ทำให้ฉู่จงเทียนไม่สามารถตอบโต้ได้ ฝูงชนต่างหันไปมองซูอันอย่างสงสัยทันที…

ชั่วโมงจื่อคือช่วงเวลา 23.00-01.00 น. ชั่วโมงโจวคือ 01.00-03.00 น.

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน