เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 306 สู้สุดชีวิต

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 306 สู้สุดชีวิต

ในชีวิตก่อนของเขามีสิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องแปลก ๆ จากทั่วทุกมุมโลก นักเลงคีย์บอร์ดตัวจริงจะต้องเรียนรู้ทุกเรื่องอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะได้นำไปใช้เป็นเหตุผลในการถกเถียง…

“ถุย หน้าด้าน!” เฉียวเสวี่ยอิงถ่มน้ำลายด้วยความโกรธ นางบ้าไปแล้วที่เรียกไอ้หมอนี่ว่าท่านพี่!

ห่าฝนลูกธนูหยุดลงในไม่ช้าหลังจากที่ทหารดินเผารู้ว่าลูกธนูของพวกมันทำอะไรศัตรูไม่ได้ ทหารราบแถวแรกเริ่มเดินหน้า โดยรักษากระบวนทัพอย่างเคร่งครัด พวกมันเดินมาข้างหน้าอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ในมือถือโล่ยกขึ้นเพื่อป้องกันแสงจากไฟฉายวิเศษ

ซูอันจำได้ว่าเคยอ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับสงครามในยุคโบราณว่าวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับทหารราบคือการโจมตีจากด้านข้างหรือด้านหลังเพื่อทำให้กระบวนทัพยุ่งเหยิง มิฉะนั้นแม้จะเป็นทหารม้าที่ได้เปรียบก็ยังต้องเสียหายอย่างหนักหากต้องเข้าประจันหน้ากับเหล่าทหารราบในกระบวนทัพที่สมบูรณ์แบบ

ซูอันมองม้าในบริเวณรอบ ๆ เนื่องจากทหารม้าดินเผาเพิ่งพ่ายแพ้ จึงมีม้าดินเผาสองสามตัวที่สามารถขี่ได้หลงเหลืออยู่

“เราจะขี่ม้าอ้อมตลบหลังกระบวนทัพของพวกมัน!”

ซูอันกระโดดขึ้นไปบนม้าตัวหนึ่งอย่างรวดเร็วก่อนที่จะควบไปข้างหน้า แม้ว่าม้าเหล่านี้จะทำมาจากโคลน แต่พวกมันก็ไม่ต่างจากม้าศึกปกติ อันที่จริงแล้ว พวกมันดูเชื่องกว่าม้าที่ซูอันเคยเห็นในละครด้วยซ้ำ

“เร็วเข้า!” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงยืนงงงวย เขาจึงกวักมือเรียกนางอย่างรวดเร็ว

“ด…ได้…” เฉียวเสวี่ยอิงฝืนยิ้มขณะที่นางพยายามจะกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า แต่ร่างกายของนางสั่นสะท้านและทรุดตัวลงกับพื้นเสียก่อน

โชคดีที่ชายหนุ่มสังเกตเห็นความผิดปกติและรีบลงไปจับนาง “เจ้าเป็นอะไรไป?”

ซูอันรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งเปียกมือ เมื่อมองดูใกล้ ๆ ก็พบว่ามันคือเลือดสด ๆ เขารีบพลิกนางไปรอบ ๆ ก็ได้เห็นว่ามีลูกธนูดอกหนึ่งเจาะเข้าที่หลังของนาง ทำให้เสื้อคลุมของนางเปียกโชกไปด้วยเลือด

“ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าบาดเจ็บ? เจ้ามีเวลาเถียงกับข้าตั้งมากมาย แต่เจ้ากลับไม่มีเวลาบอกเรื่องที่สำคัญอย่างนี้เหรอ?” ชายหนุ่มกดบาดแผลของนางอย่างระมัดระวังเพื่อทำให้เลือดไหลช้าลงหน่อย

เฉียวเสวี่ยอิงอ้าปากจะตอบโต้ แต่ก็พบว่านางอ่อนแอเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้

“อดทนไว้ก่อน!” ซูอันตะโกน เขามองดูกลุ่มทหารราบที่เคลื่อนตัวมาหาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นเขาก็ฉีกเสื้อที่คลุมแผ่นหลังของนางออก

“ท…ทำอะไรน่ะ!” เฉียวเสวี่ยอิงตื่นตระหนกและพยายามดิ้นรนอย่างรวดเร็ว

“อย่าขยับ! ข้าจะช่วยเจ้าดึงลูกธนูออก ไม่งั้น เราจะไม่มีทางห้ามเลือดได้” ซูอันหยิบก้อนหินที่แตกอยู่บนพื้นขึ้นมาและใช้แท่งพิษเหลาก้อนหินให้แหลมอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะใช้หินที่ลับคมแล้วค่อย ๆ กรีดผิวหนังบริเวณแผลของเฉียวเสวี่ยอิงให้เปิดออกกว้างกว่าเดิม จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ ดึงหัวลูกธนูออกมา

“อา!” เฉียวเสวี่ยอิงตัวสั่นเทา เหงื่อไหลย้อยเต็มหน้าผาก

ชายหนุ่มใช้ผ้ากดบาดแผลของนางอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาถามว่า “ยาสมานแผลของเจ้าอยู่ที่ไหน?” เขาจำได้ว่าเฉียวเสวี่ยอิงยังมีอยู่บ้างจากคราวก่อน

“มันอยู่ในเสื้อคลุมของข้า แต่…”

ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้พูดจบ ซูอันก็สอดมือเข้าไปหาในเสื้อคลุมของนางแล้ว

“เจ้า!” เฉียวเสวี่ยอิงยกมือขึ้นจะตบเขา แต่นางอ่อนแอเกินกว่าที่จะทำอะไรได้

“อย่าบ่น! ไม่มีเวลามาถือสานั่นนี่แล้ว และใช่ว่าข้าไม่เคยสัมผัสตัวเจ้ามาก่อน!” ซูอันกล่าว

เขาทายาให้นางก่อนจะรีบทำแผล

คำพูดของเขาทำให้เฉียวเสวี่ยอิงนึกถึงเหตุการณ์พัวพันระหว่างนางกับเขาที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่ ใบหน้าที่ซีดขาวของนางกลายเป็นสีแดง

“น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถ…”

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของนาง เฉียวเสวี่ยอิงก็สั่นสะท้าน

นี่ข้ากำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?!

เมื่อเห็นว่าทหารราบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซูอันก็ไม่กล้าที่จะเสียเวลาอีกต่อไป เมื่อรู้ว่าเฉียวเสวี่ยอิงขี่ม้าด้วยตัวเองไม่ได้ เขาจึงดึงนางเข้ามากอดและขี่ม้าตัวเดียวกัน

เขาใช้ผ้าผูกเฉียวเสวี่ยอิงไว้กับตัวก่อนจะกระตุ้นม้าให้พุ่งเข้าหาส่วนปีกของกระบวนทัพทหารราบ

เฉียวเสวี่ยอิงรู้สึกเขินอายอย่างยิ่ง พวกเขาทั้งสองกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากันบนหลังม้า เพื่อป้องกันไม่ให้นางตกลงไป ซูอันได้จัดต้นขาของนางให้โอบรัดร่างกายของเขา ส่งผลให้นางนั่งนิ่งตัวแข็งในอ้อมกอดของเขา

โชคดีที่นางตัวเล็ก ไม่เช่นนั้นซูอันจะไม่สามารถมองเห็นข้างหน้าได้ด้วยซ้ำ

แม้ว่ามันจะยากสำหรับนางที่จะยอมรับ แต่นางก็รู้ว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผลที่สุด ถ้าเขาทิ้งนางไว้ นางคงถูกทหารราบดินเผาฉีกเป็นชิ้น ๆ และนางอ่อนแอเกินกว่าจะขี่ม้าได้ การยึดร่างกายของซูอันด้วยแรงของตัวเองก็เกินความสามารถของนาง ดังนั้นท่านั่งอันประดักประเดิดนี้จึงเป็นท่าที่ดีที่สุดแล้ว

ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าการนั่งในท่านี้น่าขายหน้าเกินไป! นางอายเกินกว่าจะพูดออกมาได้ ดังนั้นนางจึงเพียงแค่เอนศีรษะพิงไหล่ของเขาและแสร้งทำเป็นหมดสติไป

ในขณะเดียวกัน ซูอันก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสนุกสนานกับสถานการณ์เช่นกัน ชายหนุ่มแค่ดีใจที่เฉียวเสวี่ยอิงเบาพอที่จะไม่เกะกะการเคลื่อนไหวของเขามากเกินไป

เขากระตุ้นม้าให้วิ่งไปรอบ ๆ กองทหารราบเพื่อมองหาช่องที่จะโจมตี

เมื่อพวกทหารราบเห็นว่าเขาได้ย้ายไปอยู่ด้านข้างของพวกมันแล้ว พวกมันจึงหันกระบวนทัพเลี้ยวมาเผชิญหน้ากับเขาทันที อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้นอกเหนือจากสิ่งที่ซูอันคาดไว้ เขายังคงบังคับม้าวนเวียนไปรอบ ๆ กระบวนทัพในขณะที่ส่องไฟฉายไปทางพวกมันเพื่อรอโอกาสที่จะโจมตี

พลธนูดินเผายังคงยิงลูกธนูออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ม้าดินเผาเคลื่อนที่เร็วเกินกว่าลูกธนูของพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้น พวกพลธนูดินเผาไม่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างอิสระเพราะกลัวแสงจากไฟฉาย ดังนั้นความคล่องตัวของพวกมันจึงถูกจำกัดเป็นอย่างมาก

เมื่อกระบวนทัพของทหารดินเผาตกอยู่ในความยุ่งเหยิง พลธนูก็ค่อย ๆ สูญเสียการประสานงานกัน ทำให้ปัญหาเรื่องห่าฝนลูกธนูนั้นเบาบางกว่าในตอนแรกอยู่มาก…

ซูอันควบม้าหลบหลีกไปรอบ ๆ สถานที่ด้วยท่าทางที่หลากหลายทุกประเภทเท่าที่จะจินตนาการได้ จนมาถึงจุดหนึ่งที่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกอยากจะอาเจียนด้วยความเวียนหัว ในที่สุดก็เห็นช่องโหว่ที่จะสามารถใช้ประโยชน์ได้

เขาควบม้าพุ่งตรงไปทางด้านหลังของกระบวนทัพทหารราบเพื่อกำจัดพลธนูที่อยู่ในแนวหลัง พลธนูเป็นปัญหาใหญ่มาตลอดดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดการกับพวกมันเป็นอันดับแรก

การพุ่งเข้าใส่ของม้าทำให้กลุ่มพลธนูดินเผาแตกกระจัดกระจาย พวกมันต่างอลหม่านสับสน

ซูอันกระโดดลงจากหลังม้า และปล่อยให้ม้าพุ่งตรงไปยังกลุ่มทหารราบเพื่อซื้อเวลา จากนั้นเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนปรากฏเป็นภาพเบลอ และทำลายเหล่าพลธนูดินเผาทุกตัวในระยะที่เขาขยับผ่าน

พลธนูเหล่านี้อาจเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงในระยะไกล แต่เมื่อซูอันสามารถเข้าใกล้พวกมันได้ พวกมันก็กลายเป็นเหมือนหมูที่รอเชือด พวกมันอ่อนแอกว่าทหารราบและทหารม้าในการต่อสู้ระยะประชิด

ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ของชายหนุ่มทำให้พวกมันไม่สามารถแม้แต่จะขึ้นสายคันธนูได้ทัน นับประสาอะไรกับการหยุดเขาจากการอาละวาดทำลายพวกมัน

ในขณะเดียวกัน เฉียวเสวี่ยอิงยังคงห้อยตัวอยู่ด้านหน้าเขาเหมือนหมีโคอาล่าที่เกาะอยู่บนต้นไม้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเคลื่อนไหวของเขา นางรวบรวมพลังที่เหลืออยู่และกอดเขาไว้แน่น…

นางพยายามสังเกตทักษะการเคลื่อนไหวของเขาอย่างใกล้ชิด โดยหวังว่านางจะสามารถเข้าใจมันได้ แต่สิ่งนี้กลับทำให้นางรู้สึกเวียนหัวแทน ดังนั้นนางจึงตัดสินใจหลับตาลงและฟังเสียงรอบตัว

อย่างไรก็ตาม การได้ฟังเสียงมีดสั้นของซูอันที่ฉีกร่างของพลธนูดินเผาทีละตัวกลับฟังดูน่าพึงพอใจอย่างประหลาด

โชคดีที่คุณหนูไม่อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นหากนางได้มาเห็นภาพที่เขาพยายามปกป้องข้านางคงจะ…

ไม่นานนักเสียงรอบด้านก็เงียบลงในที่สุด มีเพียงเสียงลมหายใจหนัก ๆ ของซูอัน นางลืมตาขึ้นและเห็นว่าพลธนูทั้งหมดแตกกระจายลงไปกองกับพื้น ไม่ว่าพลธนูจะอ่อนแอเพียงใด พวกมันก็มีจำนวนไม่น้อย จึงไม่แปลกที่ซูอันจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน