เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 380 กระบี่หกชีพจร

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 380 กระบี่หกชีพจร

บทที่ 380 กระบี่หกชีพจร

เมื่อเห็นชะตากรรมอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับดอกไม้ที่เขาดูแลมาตลอด ใบหน้าเหี่ยวย่นของผู้เฒ่ามี่ก็สั่นเล็กน้อย “ตอนแรกข้าก็ยังลังเลอยู่ว่าควรเข้ามายุ่งหรือไม่ แต่ตอนนี้…เจ้าต้องตาย!”

เมื่อเห็นความโกรธของผู้เฒ่ามี่ ซือเล่อจื่อก็แค่นเสียงหัวเราะ เจ้าไปเอาความกล้าที่ไหนมาอวดเช่นนี้? ดูเหมือนว่าใครก็ตามที่คุ้นเคยและสนิทสนมกับซูอัน จะล้วนเป็นพวกปลิ้นปล้อน!

ซือเล่อจื่อไม่ยั้งมือในการโจมตีของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขาตั้งใจที่จะระเบิดชายชราตรงหน้าให้เป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะใช้แรงที่เหลือของการโจมตีทำลายแขนขาของซูอัน หลังจากนั้นก็จะพาทั้งซูอันและเฉียวเสวี่ยอิงไปหานายน้อย ในขณะที่นายน้อยกำลังสนุกกับเฉียวเสวี่ยอิง เขาจะทำให้ซูอันรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้!

แต่แล้วจู่ ๆ มันกลับเหมือนมีเสียงเตือนดังขึ้นในหัว ซึ่งทำให้ซือเล่อจื่อ ขนลุกไปทั้งตัว ราวกับว่าทุกส่วนในร่างกายกำลังเตือนเขาถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เขาใจเต้นตุบ ๆ อย่างหวาดหวั่น แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เขาก็ยังนึกไม่ออกว่าสถานการณ์ตรงหน้ามีอันตรายยังไง

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?

ซือเล่อจื่อตรวจดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลย

ทหารยามของตระกูลฉู่ ไม่สามารถรีบเร่งมาที่นี่ได้ทันเวลา ซูอันก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และชาวสวนชรา…ชาวสวน? ชาวสวนหายไปไหน!?

ทันใดนั้นก็มีเสียงที่น่าขนลุกดังขึ้นข้างหลังเขา “ในเมื่อเจ้าเห็นข้าแล้ว ข้าคงปล่อยให้เจ้ารอดชีวิตออกไปไม่ได้…”

ก่อนที่ซือเล่อจื่อจะโต้ตอบ ก็รู้สึกเจ็บปวดมากที่ด้านหลังศีรษะ เขานึกขึ้นได้ทันที และกล่าวออกมาอย่างหวาดกลัวว่า “ทักษะการเคลื่อนไหวและความเร็วนี้ เจ้าคือ…”

น่าเสียดายก่อนที่เขาจะพูดจบ สติของเขาก็จมดิ่งสู่ความมืดมิดเสียก่อน ร่างกายของเขาทิ่มไปข้างหน้าแล้วตกลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง

ซูอันตกตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น “แม่เจ้าโว้ย! ข้ารู้ว่าท่านเก่ง แต่ท่านฆ่าผู้บ่มเพาะระดับแปดง่าย ๆ แบบนี้ ท่านนี่…วู้ว…”

เขาไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมพอที่จะแสดงความรู้สึกในตอนนี้ได้

ผู้เฒ่ามี่เหลือบมองซูอันอย่างไม่ใส่ใจและพูดว่า “ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการเรื่องที่นี่ เจ้าควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะอธิบายสิ่งต่าง ๆ แก่ตระกูลฉู่ แต่ถ้าหากเจ้าเปิดเผยตัวตนของข้า เจ้าก็จะได้เดินทางตามตาแก่นี่ไปปรโลกแน่นอน”

หลังจากพูดจบ ผู้เฒ่ามี่ก็หายตัวไปกับความมืดของค่ำคืน ว่าแต่ทำไมชายชราทั้งสองต่างเรียกอีกฝ่ายว่าตาแก่ด้วยล่ะนี่?

ซูอันรู้ว่า ในขณะนี้ผู้เฒ่ามี่กำลังปกปิดตัวตนของเขาอยู่ ดังนั้นจึงไม่สามารถปรากฏตัวในที่สาธารณะได้ แต่พอชายหนุ่มนึกถึงถ้อยคำอันเย็นยะเยือกที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ก่อนจากไป ร่างกายของซูอันก็สั่นสะท้าน เพราะรู้ว่าผู้เฒ่ามี่ไม่ได้แค่ขู่เล่น ๆ

ดูเหมือนว่ามีความลับบางอย่างอยู่เบื้องหลังตัวตนของเขา

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เวลาที่ซูอันจะไตร่ตรองเรื่องนี้ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของทหารยามซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงรีบซ่อนร่างของเฉียวเสวี่ยอิงไว้ในพุ่มไม้ เมื่อพิจารณาว่านางเป็นคนทรยศของตระกูลฉู่ หากนางถูกจับได้ที่นี่ นางจะต้องทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน…

ในไม่ช้า ฉินหว่านหรูและเยว่ซานก็นำกลุ่มทหารยามและเหล่าผู้คุ้มกันยอดฝีมือมาถึง เมื่อได้เห็นภาพนี้ต่อหน้าพวกเขา ต่างก็พากันหยุดฝีเท้าก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ

พวกเขาเห็นซูอันและซือเล่อจื่อยืนเผชิญหน้ากัน นิ้วของซูอันชี้ไปที่หัวของซือเล่อจื่อ ในขณะที่หมัดของซือเล่อจื่อหยุดลงที่หน้าอกของซูอัน

“ซูอัน…เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?” ฉินหว่านหรูถามด้วยเสียงสั่นเครือ

แม้จะมีคำถาม แต่หัวใจของนางก็เย็นวูบไปแล้ว นางเคยสัมผัสด้วยตัวเองแล้วว่าชายชุดดำนี้แข็งแกร่งเพียงใด ดังนั้นจึงรู้ดีว่าไม่มีทางที่ซูอันจะยังมีชีวิตอยู่ได้หลังจากได้รับหมัดนั้น

นางอดคิดไม่ได้ว่าซูอันได้ล่อชายชุดดำออกมาที่นี่เพื่อช่วยนาง และมันทำให้นางรู้สึกแย่เป็นอย่างยิ่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางไม่เคยลังเลที่จะแสดงความรังเกียจต่อเขยคนนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มจะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยนางในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้?

ถ้าเขาต้องตายที่นี่ นางจะมองหน้าลูกสาวสองคนของนางได้อย่างไร?

“ซูอัน มั่นใจได้ ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าเอง! พวกเจ้า สับไอ้เวรนั่นให้เป็นชิ้น ๆ!” ฉินหว่านหรูคำรามอย่างโกรธจัด

“ต่อให้เจ้าจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับแปด แต่คฤหาสน์ตระกูลฉู่ก็ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าสามารถมาและไปได้ตามต้องการ! ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว อย่าแม้แต่คิดว่าจะมีชีวิตรอดไปได้!”

ทหารยามรีบรุดไปข้างหน้าทันที แต่เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นหลังจากนั้น

“ฮ่า ๆ ข้าเคยอยากจะปิดบังตัวตนอันยิ่งใหญ่ของข้าไว้ แต่เจ้าบังคับข้าเองนะ เจ้าน่าจะรู้ว่าไม่มีทางที่เจ้าจะมีโอกาสยืนหยัดต่อหน้าดัชนีกระบี่หกชีพจรของข้าได้!” หลังจากพูดจบ ซูอันก็ออกแรงนิ้วเล็กน้อย ดันร่างของซือเล่อจื่อที่ตายไปตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้วลงไปที่พื้นต่อหน้าต่อตาฝูงชนรอบตัวที่กำลังตกตะลึง

หลังจากใช้นิ้วดันร่างของซือเล่อจื่อให้ลงไปนอนกองที่พื้นเรียบร้อย ซูอัน ก็เป่าปลายนิ้วของเขาราวกับว่าเป่าปลายกระบอกปืน

ทุกคนอ้าปากค้าง และบริเวณรอบด้านเงียบกริบไปครู่หนึ่ง

นายหญิงบอกว่าผู้บุกรุกเป็นผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งขนาดไหนนะ? ระดับแปด?

พวกเขารีบรุดมาที่นี่โดยเตรียมใจไว้แล้วว่าจะสูญเสียกำลังคนอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง แต่ศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้กลับพ่ายแพ้นายน้อยเอาง่าย ๆ แบบนี้จริงเหรอ?

“ว่าแต่ดัชนีกระบี่หกชีพจรคืออะไร?”

ผู้คุ้มกันมองหน้ากันอย่างสงสัย แลกเปลี่ยนความสงสัยในสายตาของกันและกัน จากนั้นพวกเขาจึงรีบหันไปมองผู้นำกลุ่มอย่างเยว่ซานที่มีความรู้มากกว่าพวกเขาแทน

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง!”

ใบหน้าของเยว่ซานร้อนขึ้น เขารู้เคล็ดลับการบ่มเพาะและทักษะการต่อสู้มากมายก็จริง แต่ก็ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับดัชนีกระบี่หกชีพจรมาก่อนเลย

แม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับทักษะนี้มาก่อน แต่แค่ชื่อก็บอกเป็นนัยว่ามันไม่ใช่ทักษะธรรมดา อย่างน้อยที่สุด มันควรจะเป็นทักษะระดับปฐพี หรือไม่บางทีมันอาจจะเป็นทักษะระดับสวรรค์ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นชื่อที่ฟังดูอลังการขนาดนี้

เช่นเดียวกับหินพลังชี่และอาวุธ ทักษะการต่อสู้ในโลกนี้สามารถแบ่งออกเป็นระดับมนุษย์ ระดับปฐพี และระดับสวรรค์ยกตัวอย่างเช่น 13 ท่วงท่ากระบี่พื้นฐานของสถาบันจันทร์กระจ่าง จัดเป็นทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์

ในขณะที่ทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์อาจฟังดูอ่อนแอ แต่มันก็ยังสามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับผู้บ่มเพาะทั้งหลายที่มีมันและไม่มีได้อย่างชัดเจน ต้องรู้ว่าสถานที่ที่ผู้บ่มเพาะจะได้เรียนรู้ทักษะการต่อสู้นั้นมีแต่ในตระกูลใหญ่หรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ดังนั้นผู้บ่มเพาะทั่วไปนั้นแทบจะไม่มีทางเข้าถึงทักษะการต่อสู้เลย พวกเขาส่วนใหญ่พึ่งพาแต่สัญชาตญาณและประสบการณ์การต่อสู้ของตัวเองในการต่อสู้กับศัตรูก็แค่นั้น

ในบรรดาผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกัน ผู้ที่มีทักษะการต่อสู้ย่อมเหนือกว่าผู้ที่พึ่งพาแต่สัญชาติญาณแต่เพียงอย่างเดียว

ในบรรดาผู้บ่มเพาะที่มีทักษะการต่อสู้ ส่วนใหญ่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์โดยปกติ เฉพาะอัจฉริยะของสถาบันศึกษาและสมาชิกหลักของตระกูลใหญ่เท่านั้นที่สามารถเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี สำหรับทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นเป็นเพียงเรื่องในตำนานเท่านั้น ไม่เคยได้รับการยืนยันว่ามีอยู่จริง…

ในขณะที่ผู้คุ้มกันของตระกูลฉู่กำลังพยายามจินตนาการว่าทักษะดัชนีกระบี่หกชีพจร เป็นทักษะการต่อสู้แบบไหน แต่ฉินหว่านหรูยังคงไม่หายตกใจ

คนอื่นไม่เคยต่อสู้กับชายชุดดำลึกลับที่ตายไปแล้ว แต่นางได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของชายชุดดำด้วยตัวเองไปเรียบร้อย

แม้จะเป็นผู้บ่มเพาะระดับหก แต่นางก็ยังพ่ายแพ้ชายชุดดำในการโจมตีเพียงครั้งเดียว นั่นแสดงว่าชายชุดดำแข็งแกร่งกว่านางมาก ถ้าเขาต้องการฆ่าข้า ตอนนี้ข้าคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้

อย่างน้อยที่สุด เขาต้องเป็นผู้บ่มเพาะในระดับที่เจ็ดขั้นปลาย หรืออาจถึงระดับแปดด้วยซ้ำ

แต่ซูอันฆ่าผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังขนาดนี้ได้อย่างง่ายดาย?

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว? การต่อสู้ทั้งหมดแทบไม่มีสุ้มเสียงเลย ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ซูอันเอาชนะชายชุดดำด้วยความแตกต่างทางฝีมือที่เหนือชั้นกว่า

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

ซูอันยังคงทำท่าดัชนีกระบี่หกชีพจรค้างไว้ โดยปกติแล้ว ใครก็ตามที่เห็นท่านี้คงจะสงสัยว่าเขาทำบ้าอะไรอยู่ แต่ในตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าดูเหมือนชายหนุ่มจะถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีอันเจิดจ้า

“เร็วเข้าตรวจสอบตัวตนของชายชุดดำนั่น!”

ในไม่ช้า ฉินหว่านหรูก็หายจากอาการงุนงงและพยายามควบคุมสถานการณ์ นางสั่งให้ทหารยามตรวจสอบผู้บุกรุกที่ตายไปแล้วก่อนจะเดินไปหาซูอัน

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน