เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 395 การประชุมของคณิกา

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 395 การประชุมของคณิกา

บทที่ 395 การประชุมของคณิกา

หลังจากที่ซูอันไปส่งจี้เติ้งถู เขาก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อทำสมาธิ ฉินหว่านหรูกำลังเฝ้าดูฉู่ชูเหยียนอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่อยากไปหาภรรยาของตัวเองในตอนนี้

ไม่นานหลังจากที่เขานั่งลง ก็มีเสียงเคาะอย่างต่อเนื่อง “อาซู ๆ เจ้าอยู่ข้างในหรือเปล่า?”

ซูอันจ้องมองไปทางประตูอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้อยู่บ้าง หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็จำได้ว่า เป็นเสียงของฉู่อวี้เฉิงที่เขาพบในงานประลองระหว่างตระกูล พวกเขายังแลกเปลี่ยนคำทักทายใน คฤหาสน์ตระกูลฉู่มาก่อน แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรมากไปกว่านั้น

ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากข้า?

ซูอันสงสัย เขาลุกขึ้นไปดู แน่นอนว่ามีชายหนุ่มร่างอ้วนคนหนึ่งยืนอยู่ที่ทางเข้าพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ปรากฏบนใบหน้า

ดวงตาของเขาหรี่แคบลงจนเกือบจะเป็นเส้น

อย่างไรก็ตาม ซูอันก็ไม่กล้าดูถูกชายอ้วนผู้นี้ เพราะระหว่างงานประลองระหว่างตระกูล ชายผู้นี้พุ่งชนคู่ประลองของตัวเองไปรอบ ๆ ลานประลอง ราวกับว่าตัวของเขาเป็นรถถัง ไขมันของเขาทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่สมบูรณ์แบบ และเอาชนะคู่ต่อสู้โดยไม่ให้โอกาสตอบโต้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ยังมีอีกคนอยู่ข้าง ๆ ซึ่งกำลังกอดกระบี่อยู่ในอ้อมอกด้วยใบหน้าที่เย็นชาและหยิ่งผยอง นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉู่ฮงไฉของตระกูลสายรอง

“เจ้าสองคนต้องการอะไรจากข้าหรือเปล่า?” ซูอันถามด้วยความสงสัย

“แน่นอน! เรามีเรื่องดี ๆ ที่อยากแบ่งปันกับเจ้า!” ฉู่อวี้เฉิงเดินเข้ามาหาและเอาแขนโอบไหล่ของซูอัน บนใบหน้าของเขาประดับไปด้วยรอยยิ้มแบบพี่ชายที่แสนดี “คืนนี้มีงานชุมนุมเหล่าคณิกาของหอสุขนิรันดร์! เจ้าจะไปด้วยกันไหม?”

“งานชุมนุมของคณิกา?” ดวงตาของซูอันสว่างขึ้น คณิกาที่ใช้ศิลปะเพื่อสร้างความบันเทิงแทนการขายร่างกายจะขาดหายไปจากละครประวัติศาสตร์และนวนิยายในชีวิตที่ผ่านมาได้ยังไง? เขาถูกดึงดูดความสนใจในทันที

ชายหนุ่มไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้สัมผัสกับเรื่องที่น่าลิ้มลองในประวัติศาสตร์เช่นนี้ด้วยตัวเอง! ขณะที่ซูอันกำลังจะตอบตกลง จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว ก่อนที่จะส่ายหน้าและพูดว่า “พวกท่านดูใบหน้าที่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรมของข้าให้ดีก่อน ข้าดูเหมือนคนที่จะไปหอคณิกางั้นเหรอ?”

ฉู่อวี้เฉิงพูดไม่ออก

ดวงตาของเขาซึ่งตี่เล็กจากการฉีกยิ้มที่มากเกินไปเปลี่ยนเป็นเบิกกว้างขึ้นทันที

ไอ้เวรนี่…หน้าตาอย่างแกเนี่ยแหละที่เป็นคนอย่างว่า!

แม้แต่ฉู่ฮงไฉที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็จ้องมองซูอันด้วยความประหลาดใจ คนที่อยู่ข้างหน้าเขาช่างไร้ยางอายเกินกว่าจะจินตนาการได้จริง ๆ

ซูอันหัวเราะอยู่ในใจ ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในตระกูลฉู่มาตั้งแต่ต้น แต่ก็นานพอที่เขาจะไม่ใช่คนแปลกหน้า ไม่มีตระกูลฉู่สายใดเลือกที่จะสนิทสนมกับเขามาก่อน แต่จู่ ๆ สองคนนี้ก็มาเชิญชวนเขาเข้าร่วมงานชุมนุมของคณิกา มันจะดูไม่น่าสงสัยได้ยังไง?

ถ้าเขาตอบตกลงรับคำชักชวนโดยไม่คิดอะไรให้ถี่ถ้วน แล้วถูกสองคนนี้นำไปฟ้องฉินหว่านหรูหรือฉู่ชูเหยียน เขาอาจถูกบังคับให้ฆ่าตัวตายเพื่อบรรเทาความโกรธของพวกนาง

หางตาของฉู่อวี้เฉิงถึงกับกระตุก ดูเหมือนว่าเขาจะเดาความคิดของซูอันได้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อาซู เจ้าคิดมากเกินไป การไปหอคณิกาเป็นเรื่องที่ชอบธรรมและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในราชวงศ์โจวของเรา ตราบใดที่เจ้าไม่พาสาวน้อยคนไหนกลับมาบ้าน มันก็ไม่มีใครคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่หรอก แม้แต่พวกข้าก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับชายชาตรีอย่างพวกเรา”

“ถูกต้อง!” ฉู่ฮงไฉยืนยันอย่างไม่ใส่ใจ

ซูอันหรี่ตาลง ฉู่ฮงไฉคนนี้หวงแหนคำพูดราวกับทองคำจริง ๆ! แต่อย่างน้อยการตอบรับของเขาก็ดูจริงใจมากกว่าไอ้อ้วนที่มีถุงใต้ตาสีเข้มตรงหน้า

ฉู่อวี้เฉิงกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ “เราสองคนกำลังวางแผนที่จะไปกันเอง แต่อยู่ ๆ เราก็นึกถึงเจ้าขึ้นมา เลยมาชวนเจ้าไปหาความสุขด้วยกัน เจ้าอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลฉู่มานานแล้ว แต่เราก็ยังไม่สนิทสนมกันเลย นี่จะเป็นโอกาสที่ดีที่พวกข้าจะให้การต้อนรับเจ้าอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ต้องกังวล ครั้งนี้พวกเราจะเลี้ยงเจ้าเอง เจ้าสามารถแสวงหาความเพลิดเพลินได้อย่างเต็มที่!”

สองคนนี้น่ารักขนาดนี้เลยเหรอ? ความสงสัยของซูอันเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เสียงของพวกเขาฟังดูจริงใจ ไม่มีวี่แววของคำโกหกแต่อย่างใด

อา นี่อาจจะเป็นเพราะข้าดูเก่งกาจเกินไปในงานประลองระหว่างตระกูล มิหนำซ้ำข้ายังช่วยฉู่ชูเหยียนออกมาจากมิติลับหยกจรัสได้!

พวกเขาคงรู้สึกว่าข้ากำลังจะรุ่งโรจน์ ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามที่จะประจบประแจงข้าเช่นนี้!

เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของซูอัน ฉู่อวี้เฉิงจึงรีบเอื้อมมือที่อวบอูมมาดึงแขนเสื้อของซูอันพร้อมกับพูดขึ้น “รีบไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นคนจะเยอะเกินไปถ้าเรามัวแต่ชักช้า ถึงตอนนั้นเราจะหาที่ว่างเข้าไปไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

“มันจะเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซูอันสงสัย

“เจ้าไม่ผิดหรอกที่จะไม่รู้” ดวงตาของฉู่ฮงไฉเป็นประกายและเขาก็พูดขึ้น ซึ่งทำให้ท่าทางหยิ่งยโสของเขาลดลงไปไม่น้อย “ตั้งแต่ชิวฮัวเล่ย มายังเมืองจันทร์กระจ่างเมื่อสองปีก่อน นางกลายเป็นคณิกาอันดับหนึ่งแบบไร้คู่แข่ง นางไม่เพียงแต่มีความงามเป็นหนึ่งเท่านั้น แต่นางยังมีความสามารถพิเศษด้านดนตรีและศิลปะ นางสมบูรณ์แบบในทุกด้าน ทักษะพิณและวิธีการเต้นของนางช่างน่าตื่นตายิ่งนัก ในความคิดของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะนางอยู่ในฐานะคณิกา แม้แต่ฉู่ชูเหยียนก็ไม่สามารถนั่งบนบัลลังก์ของสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองจันทร์กระจ่างได้อย่างสบายใจ”

“อะแฮ่ม ๆ…” ฉู่อวี้เฉิงรีบดึงแขนเสื้อลูกพี่ลูกน้องของเขา “เจ้ากำลังพูดอะไร? ชิวฮัวเล่ยเป็นนางคณิกา! เจ้าเปรียบเทียบนางกับลูกพี่ลูกน้องของเราได้ยังไง!”

ฉู่ฮงไฉมีท่าทางหงุดหงิด แต่ไม่ได้โต้แย้งอะไรเพิ่มเติม เขารู้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่เพิ่งพูดไป

“ชิวฮัวเล่ย?” ชื่อนี้ดูคุ้นเคยมาก จากนั้นซูอันก็นึกขึ้นได้ว่าจอมวายร้าย จี้เติ้งถูเคยบอกให้เขาไปหาชุดชั้นในของผู้หญิงหลายต่อหลายคน ซึ่งชิวฮัวเล่ยเป็นหนึ่งในรายชื่อของผู้หญิงเหล่านั้น

แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ต้องการให้หมอเทวะจอมหื่นรักษาเขาอีกต่อไป แต่ซูอันก็ยังอยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ เพราะนางเป็นผู้หญิงที่แม้แต่จี้เติ้งถูก็ไม่สามารถลืมได้ และคนอื่น ๆ ในรายชื่อที่จี้เติ้งถูพูดถึงตั้งแต่อวี้เหยียนลั่ว ซางหลิวอวี้ และแม้แต่ฉินหว่านหรู ล้วนแต่มีความงามระดับหนึ่งในล้าน

หืม?

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของเขา “ชิวฮัวเล่ยนี่อายุเท่าไหร่นะ?”

อวี้เหยียนลั่วและฉินหว่านหรูต่างก็รุ่นเดียวกับจี้เติ้งถู สำหรับคณิกาคนนี้คงไม่ใช่เหมือนกันใช่ไหม?

เมื่อเขานึกถึงคณิการุ่นคุณป้า…

การแสดงออกของซูอันก็เปลี่ยนไปเป็นแปลกประหลาดทันที อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าอวี้เหยียนลั่ว และคนอื่น ๆ ยังคงรักษารูปลักษณ์ที่โดดเด่นของพวกนางเอาไว้ได้ เขาก็กังวลกับอายุของชิวฮัวเล่ยน้อยลง

เนื่องจากนี่คือโลกแห่งการบ่มเพาะ การมีชีวิตอยู่ไม่กี่ร้อยปีหรือพันปีจึงเป็นไปได้ทั้งสิ้น เมื่อผู้บ่มเพาะมีระดับการบ่มเพาะถึงจุดหนึ่งแล้ว พวกเขาสามารถคงความสวยงามของรูปร่างหน้าตาโดยไม่ผันแปรไปตามวัยที่เพิ่มขึ้นได้ จึงทำให้ผู้ที่พบเห็นไม่อาจคาดเดาอายุที่แท้จริงได้

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท