บทที่ 41 พวกท่านหยุดสู้ได้แล้ว
เหยาเล่ยส่ายหัว “ลูกชายของเจ้ารังแกลูก ๆ ของนาง พวกเรามาที่นี่เพื่อทวงความยุติธรรม แล้วจะหยุดมือได้อย่างไร?”
จากนั้นเขาก็เดินไปหาชายหนุ่มจำนวนหนึ่งและทุบทำลายหน้าต่างเรือนหลักด้วยไม้คาน หลังกระทุ้งไปสองสามที หน้าต่างก็ทะลุเป็นรูใหญ่หลายรู ส่งผลให้ลมหนาวพัดผ่านมาในห้อง
“นี่พวกเจ้ากำลังทำสิ่งใดกัน?!”
เสียงแหลมสูงของสตรีดังขึ้น จากนั้นคนร่างอ้วนขนาดพอกันก็ก้าวออกมาที่ประตูและตะโกนใส่เจ้าอ้วนเหยา “ท่านพี่! มัวทำอันใดอยู่! หน้าต่างบานนี้เละเทะไปหมดแล้ว คืนนี้พวกเราจะนอนได้อย่างไร?”
เจ้าอ้วนเหยาหันกลับไปและตะโกนว่า “หุบปาก!”
เขาดูออกว่าการพูดอะไรก็แล้วแต่กับกลุ่มคนที่ดุร้ายที่กำลังทำลายข้าวของบ้านเขานั้นไร้ประโยชน์ หากอะไรที่สามารถช่วยหยุดคนเหล่านี้ได้คงเป็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างงดงามในตอนนี้
“อาซู!”
เจ้าอ้วนเหยารีบวิ่งไปตรงหน้าของเหยาซู เช็ดเหงื่อบนหน้าผากและพูดว่า “อาซู น้องสาวคนดี รีบบอกให้พวกเขาหยุดเถอะ! เมื่อก่อนพี่ชายล่วงเกินเจ้าอย่างไรจะได้ชดใช้ให้เจ้า! ตอนนี้หน้าต่างบ้านพังหมดแล้ว คืนนี้พวกเราจะนอนกันอย่างไร คงได้แข็งตายกันทั้งบ้านเป็นแน่!”
เหยาซูส่ายหัวแล้วแสร้งทำเป็นคนมีเหตุผล “พี่ใหญ่ท่านวางใจได้ พวกเขาแค่ทุบทำลายสิ่งของเพียงเท่านั้น ไม่ทำร้ายผู้อื่นหรอก” หญิงสาวมองย้อนกลับไปที่หน้าต่างชำรุดและกระเบื้องที่แตกเหล่านั้น “ข้าจะชดเชยเป็นเงินให้กับท่านเอง”
จากนั้นนางก็พูดเสียงดังขึ้นอีกหน่อย “ในลานบ้านเกือบหมดแล้ว ไปพังในห้องอีกเสียหน่อย เสร็จแล้วพวกเราค่อยกลับ ถือว่าเป็นการไว้หน้าพี่อ้วนเหยา”
ทุกคนร้องเฮก่อนจะเข้าไปในห้อง
เจ้าอ้วนเหยารู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันทีและรีบหยุดเอาไว้ “ไม่ ๆ อาซูอย่าได้ทุบบ้านของข้า!”
เหยาซูยิ้มเยาะ “ทุบไม่ได้อย่างนั้นหรือ? มีปะการังอยู่ในบ้านท่านอย่างนั้นหรือ? หรือว่ามีดวงแก้วอยู่? ทีลูกชายและลูกสาวของข้า ครอบครัวของท่านยังทุบตีได้ เหตุใดวันนี้ข้าจะทำลายสิ่งของบางอย่างไม่ได้?”
“เข้าไปทุบเลย! ทุบให้หมด! ผ้าห่มก็โยนลงพื้น สาดน้ำลงไปด้วย หากมันไม่ฉีกขาดก็เหยียบซ้ำซะ! พวกเราตรากตรำเดินทางมาที่นี่ด้วยความยากลำบากก็ควรสังคายนาบ้านของเขาให้หมดจด!”
คำพูดของเหยาซูยิ่งกระตุ้นให้คนหนุ่มเหล่านั้นกลายเป็นหมาป่าหิวโหยกรูเข้าไปในเรือนหลักของเจ้าอ้วนเหยา เสียงโต๊ะเก้าอี้พังดังขึ้นทำให้เจ้าอ้วนเหยาเหงื่อแตกพลั่ก
หากผ้าห่มที่นอนเสียหาย ตอนกลางคืนพวกเขาจะนอนที่ใด!
“น้องสาว พวกเราไม่เคยทุบตีลูกของเจ้ามาก่อน พวกเราไม่ได้ทำ!”
ภรรยาของเจ้าอ้วนเหยากรีดร้องและสาปแช่งอยู่ในห้อง นางยังคงยื้อฉุดแย่งของอยู่กับเหยาเล่ยและกลุ่มคนของเขา ในบ้านเต็มไปด้วยความโกลาหล
เหยาซูยังคงยืนอยู่ในลานบ้านราวกับว่าเรื่องเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง
นางยังวางท่าสง่างามและพูดอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นหรือ? แล้วคนอื่นเล่า ลูกยังเด็กอยู่ไม่มีใครสั่งสอน หรือจะให้คนอื่นช่วยเจ้าสั่งสอนลูกของเจ้ากันเล่า”
เมื่อเจ้าอ้วนเหยานึกถึงตอนกลับบ้านหลังจากงานเลี้ยงเมื่อคืน และได้เห็นใบหน้าบวมช้ำของลูกชาย เขาก็เข้าใจทุกอย่าง
“นี่ นี่เป็นเพียงแค่เด็ก ๆ ทะเลาะกัน ไม่จำเป็นต้องจริงจังถึงเพียงนี้ น้องสาวข้าขอร้อง ให้พวกเขาหยุดก่อนเถิด!”
เหยาซูไม่สะทกสะท้าน “ลูกชายของเจ้าด่าทอลูกชายและลูกสาวข้า บอกว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ นี่ควรเป็นคำพูดของเด็กอย่างนั้นหรือ? หากไม่มีใครสอนเขาจะเอาคำพูดเหล่านี้มาจากไหน?”
ใบหน้าของเจ้าอ้วนเหยาเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ภรรยาของตนอิจฉาเหยาซูที่หาเงินได้จากในเมือง ทั้งวันทั้งคืนก็ด่าทอเหยาซู ในขณะที่เด็ก ๆ อยู่ในบ้านก็เรียนรู้คำเหล่านั้นไปด้วย
ภรรยาของเจ้าอ้วนเหยายังคงสบถออกมา “นางแพศยาเหยาซูงั้นหรือ? เมื่อวานตีลูกของข้า ข้ายังไม่ได้คิดบัญชีที่บ้านเจ้าเลย แต่เจ้ากลับมาที่บ้านของข้า พวกเจ้า พวกนางแพศยารอก่อนเถอะ…!!”
เจ้าอ้วนเหยาโกรธจัดจนควันแทบพุ่งออกมาจากร่างอ้วนท้วนของเขา เขาเดินบิดตัวอย่างรวดเร็วและเข้าไปตบหน้าภรรยาอย่างรุนแรง “หุบปาก! อยากมีบ้านไว้ซุกหัวนอนคืนนี้หรือไม่?!”
ภรรยาของเจ้าอ้วนเหยาถูกตบจนมึนงง นางตอบสนองไม่ทันไปชั่วขณะ จากนั้นก็กรีดร้องตะโกนใส่เจ้าอ้วนเหยา ใช้เล็บข่วนใส่หน้าเจ้าอ้วนเหยาอย่างรุนแรง
“เจ้าตีข้าอย่างนั้นเหรอ? เจ้าอ้วนเดนตาย กล้าดีอย่างไรมาตีข้า?!”
ใบหน้าของเจ้าอ้วนเหยาเต็มไปด้วยรอยเล็บ มันทำให้เขาเจ็บปวดนัก ยิ่งเมื่อเห็นว่าภรรยาของเขายังคงต้องการข่วนใบหน้าของตน เจ้าอ้วนเหยาจึงได้จิกคว้าผมของนางขึ้นแล้วตบหน้าซ้ำอีกรอบ
ภรรยาของเจ้าอ้วนเหยาเป็นเพียงสตรีนางหนึ่ง จะเป็นคู่ต่อสู้กับเจ้าอ้วนเหยาได้อย่างไร? นางจึงร้องไห้ออกมา และพยายามที่จะเอาคืนสามี ซึ่งเจ้าอ้วนเหยาที่เคลื่อนไหวไม่ถนัดทั้งยังไม่ทันระวังก็ถูกข่วนจนใบหน้าและลำคอของเขามีรอยแผลเลือดซิบหลายรอย
เมื่อเห็นทั้งสองสามีภรรยาเริ่มต่อสู้กัน คนที่ทุบของอยู่ในห้องก็ค่อย ๆ หยุดมือ
เจ้าเด็กอ้วนผู้เป็นลูกชายตกใจขวัญผวาอยู่บนเตียงเตานานแล้ว ในตอนนี้เขาร้องไห้แล้วตะโกนออกมา “ท่านพ่อ! ท่านแม่! พวกท่านหยุดสู้กันได้แล้ว!”
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจอตัวการเสี้ยมเด็กแล้ว เป็นนังอ้วนเมียเจ้าอ้วนนี่เองที่อิจฉาอาซูแล้วว่าเสีย ๆ หาย ๆ น่าจะจับมัดติดกับต้นไม้แล้วปล่อยให้หนาวอยู่ข้างนอกในคืนหิมะตกหนึ่งนะ โดนอย่างนั้นแล้วจะปากดีอยู่ไหม
แต่ใด ๆ คือวิธีการเอาคืนของอาซูโหดได้ใจมากค่ะ ไม่ทำร้ายคน แต่พังบ้าน ไม่มีบ้านที่อบอุ่นป้องกันตัวจากลมหนาวในคืนฤดูหนาวนี่มันทรมานนะ
ไหหม่า(海馬)