ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 150 ต้าเป่าจะไม่ร้องไห้อย่างสูญเปล่าหรือ

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

แม้จะถูกเหยาซูสงสัย แต่แววไม่พอใจกลับไม่มีทีท่าจะแสดงออกมาทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย นางเพียงแค่พยักหน้า “วันนี้เป็นข้าเองที่ไม่คิดให้รอบคอบ บุกมาเยี่ยมถึงบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็ไม่รบกวนครอบครัวของท่านแม่ทัพแล้ว”

ขณะพูด นางก็ตะโกนเรียกอาซู่เตรียมผละจากไป แต่กลับถูกเหยาซูเรียกดักไว้

“แม่นางตู้ช้าก่อน” หญิงสาวยิ้มพลางพูดว่า “เป็นข้าที่ไม่รู้จักพูดเอง แม่นางตู้มีความอดกลั้น คงไม่ถือสา เพิ่งมายังไม่ทันนั่งพักก็จะไปเสียแล้ว คงไม่ใช่เพราะข้ากับอาเหราต้อนรับไม่ดีหรอกนะเจ้าคะ?”

หลินเหราอยากจะต้อนรับไม่ดีด้วยซ้ำ ให้คุณหนูใหญ่ไร้เหตุผลผู้นี้รีบกลับไปเสียที

อาจื้อและอาซืออยากจะไปขี่ม้าใจจะขาดแล้ว ก้นทั้งคู่แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้

เหยาซูรู้ว่าประโยคที่พูดออกมาสร้างความกลัดกลุ้มใจให้ตู้เหิงเพียงใด

เมื่อได้ยินคำพูดที่เหยาซูพูดออกมา ตู้เหิงก็พลันขมวดคิ้ว

ในอดีต ยามนางเดินชนกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้น ก็มักจะพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้เสมอ แสดงท่าทียอมรับผิดก่อน ดักทางผู้อื่นไว้

บัดนี้เมื่อโดนผู้อื่นพูดจาเช่นนี้กลับมาจึงรู้สึกอึดอัดใจยิ่งนัก

นางรู้สึกรำคาญใจอย่างมาก แต่กลับต้องรักษารอยยิ้มไว้ “ข้าไม่ถือสาหรอก เห็นอาจื้อดวงตาแดงก่ำ เมื่อครู่คงมีการทะเลาะกันกระมัง? หากไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ข้าไม่รบกวนดีกว่า”

เหยาซูลูบศีรษะของอาจื้อ และพูดว่า “เด็กนี่นะ อาเหราพูดคำสองคำก็น้อยใจแล้ว แม่นางตู้จะไปแล้วจริง ๆ หรือ?”

ตู้เหิงจะไปแล้วจริง ๆ

เป้าหมายที่สำคัญในวันนี้คือการเจอหน้าภรรยาแต่งของหลินเหรา บัดนี้ได้เจอแล้วก็จริง แต่กลับยิ่งทำให้ตนไม่สบายใจมากขึ้น

เหยาซูไม่เพียงแต่จะไม่เหมือนกับหญิงสาวชนบทอย่างที่ตนคาดคิดไว้เท่านั้น ตรงกันข้ามยังเจ้าแผนการอีกด้วย เป็นนางเองที่ประมาทศัตรู ชะล่าใจเกินไป

ใบหน้าของตู้เหิงเย็นชาลง ก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า “ไม่รบกวนแล้ว”

นางพูดพลางลุกขึ้นยืน เจ้าบ้านจึงพากันลุกขึ้นตาม

เหยาซูทำท่าจะไปส่ง ตู้เหิงกลับพูดอย่างเกรงใจว่า “ท่านโปรดอยู่เถอะ”

เดิมทีนางคิดว่าเหยาซูมีความเกรงใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้หลินเหราออกไปส่งนาง ใครเล่าจะคิดว่าอีกฝ่ายพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า “เช่นนั้นแม่นางตู้ แม่นางอาซู่ เดินทางปลอดภัย”

เด็กทั้งสองคนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน ใบหน้าแสดงความดีอกดีใจออกมา เหมือนกับว่าอยากจะไล่พวกนางกลับอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งเห็นตู้เหิงก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ

ในอดีตอย่าว่าแต่การต้อนรับอันยิ่งใหญ่ต่อแขกที่เยี่ยมเยือนถึงบ้านของเจ้าของเลย แค่การส่งแขก ก็ยังเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนมาก

วันข้างหน้าหลินเหราต้องเข้า ๆ ออก ๆ ราชสำนัก สตรีไร้มารยาทเช่นนี้จะเตรียมตัวเข้าสังคมของสตรีชั้นสูงได้อย่างไร จะเป็นภรรยาที่คู่ควรได้อย่างไร?

ตู้เหิงปรายตาขึ้นและมองไปยังเหยาซูอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พร้อมทั้ง ‘กล่าวลา’ สั้น ๆ และหมุนตัวเดินจากไป

เมื่อนายและบ่าวคู่นั้นออกจากบ้านแล้ว อาจือก็รีบถามทันที “ท่านแม่ เราไปขี่ม้าได้แล้วใช่หรือไม่?”

เหยาซูไล่ตู้เหิงที่น่ารังเกียจผู้นั้นไปแล้ว เมื่อเห็นเด็กชายมีสีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง จึงอดยิ้มและหัวเราะไม่ได้ “พวกเจ้า! รีบไปเก็บของสิ!”

เด็กทั้งสองคนตะโกนโห่ร้องด้วยความดีใจ และพากันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

หลินเหราที่อยู่ด้านข้างไม่พูดสิ่งใดมาโดยตลอด เขาไม่ค่อยเห็นท่าทางระเบิดอารมณ์ของเหยาซูบ่อยนัก จึงรู้สึกแปลกใจต่อท่าทีของนาง

เขาจึงถามออกไปโดยตรง “อาซู เจ้าไม่ชอบนางหรือ?”

ถึงอย่างไรตู้เหิงก็มีอายุไม่มากนัก คิดว่าในอดีตชาติคงจะไม่เคยประสบกับความลำบาก จึงไม่สงบหนักแน่นมากพอ

การพบกันในวันนี้ เหยาซูย่อมสังเกตเห็นเจตนาร้ายของตู้เหิง จึงไม่ยอมใช้ท่าทีที่อ่อนโยนกับนาง

เหยาซูไม่ปกปิดความรู้สึกที่มีต่อตู้เหิง ทั้งยังมองเข้าไปนัยน์ตาอันลึกซึ้งของหลินเหราพลางส่ายหน้า “ข้าไม่ชอบนาง เราไม่ใช่คนโลกเดียวกัน อีกอย่างแม่นางตู้ผู้นี้ก็ให้ความสนใจกับท่านมากด้วย”

นางไม่ใช่ผู้ที่ชอบหึงหวงอย่างรุนแรง แต่ก็มีบ้างบางครั้ง นั่นทำให้หลินเหรารู้สึกดีใจอย่างมาก

สายตาของเขาอ่อนโยนลง และมองไปยังดวงตาคู่นั้นของเหยาซูด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากที่มองตู้เหิงเมื่อครู่ ก่อนจะคลี่ยิ้มพลางพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่ชอบนาง วันข้างหน้าข้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับนางให้น้อยลง”

เหยาซูกระชากเสื้อส่วนแขนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ลากเขามาข้างกายตัวเอง จ้องมองเข้าไปในตาของหลินเหราอย่างไม่ลดละ จากนั้นก็พูดจริงจังว่า “ท่านพูดแล้วนะ ถ้าวันข้างหน้าข้ารู้ว่าท่านกับนางมีความสัมพันธ์อะไรต่อกันล่ะก็…”

นัยน์ตานางเปล่งประกายอย่างที่หลินเหราไม่เคยเห็นมาก่อน และแฝงไปด้วยอันตรายอย่างมาก ช่างเป็นความงามนี่ทำให้อกสั่นขวัญหายยิ่งนัก

หลินเหรามองไปยังดวงตาคู่งามดุจนิลกาฬของนางอย่างหลงใหล ถือโอกาสนี้ขยับเข้าไปใกล้นาง และพูดเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำว่า “ไม่มีทาง อีกสองวันข่าวคราวที่หัวหน้าผู้ตรวจการส่งไปยังเมืองหลวงจะตอบกลับมา และจะมีคนมารับตัวคุณหนูใหญ่ผู้นี้กลับไป”

เหยาซูจึงคลี่ยิ้มอย่างพอใจ

‘ใครครอบครองก่อนผู้นั้นย่อมได้เปรียบ‘ ยังคงเป็นความคิดที่ทุกคนต่างมี เหยาซูก็ไม่มีข้อยกเว้น

แรกเริ่มนางดึงดันที่จะแยกทาง นอกจากจะไม่อยากเกี่ยวข้องกับหลินเหรามากนัก นางก็รู้ว่าในอนาคตหลินเหราจะใช้ชีวิตร่วมกับตู้เหิง จึงไม่อยากเดิมพันความรู้สึกของตัวเองให้กับคนที่ไม่แน่ใจ

แต่สายตาที่หลินเหรามองตู้เหิง กลับเหมือนมองคนแปลกหน้าผู้หนึ่ง

ทำให้เหยาซูรู้สึกว่าบางทีอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ อุปสรรคระหว่างพวกเขาไม่ได้มากมายอย่างที่นางคิดไว้ตั้งแต่แรก

ดวงตาคู่นั้นของนางเปล่งประกาย พร้อมกับจ้องมองไปยังหลินเหราอย่างไม่วางตา “ในเมื่อท่านพูดเช่นนี้แล้ว งั้นข้าเชื่อท่านก็ได้ วันข้างหน้าหากมีเรื่องอะไรอีก ห้ามปิดบังข้าโดยเด็ดขาด”

หลินเหรายกมุมปากขึ้น

เขาพยักหน้า จากนั้นก็ขยับเข้าใกล้เหยาซูอย่างช้า ๆ ตามความปรารถนาของตัวเอง สุดท้ายก็ประทับจุมพิตบนแก้มของนาง และพูดเสียงต่ำ “ข้ารับปาก นี่คือคำสัญญาจากข้า”

เหยาซูผลักหลินเหราออกเบา ๆ แต่กลับถูกเขากระชับอยู่ในอ้อมแขน จนรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “ท่านไปเรียนเรื่องเหล่านี้มาจากที่ใดกัน!”

เขาหัวเราะเสียงต่ำ ความหึงหวงที่เหยาซูมีต่อหลินเหรา ทำให้ในใจของหลินเหรารู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง

เวลานี้เขาเพิ่งจะมั่นใจโดยแท้จริง ในใจของเหยาซูมีเขาอยู่ ยิ่งทำให้เขาเบิกบานใจ

มือขวาของเขาผสานเข้ากับมือขวาของเหยาซู พลางพูดกับนางด้วยเสียงแผ่วเบา “อาซู บาดแผลบนไหล่ของข้าดีขึ้นมากแล้ว เจ้าอยากจะตรวจดูสักหน่อยไหม?”

เหยาซูถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขน เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็พาให้นิ้วมือเริ่มสั่นระริก เริ่มถามอย่างไม่แน่ใจ “ตรวจดู? ทำ…ทำไมต้องตรวจดูด้วยเล่า?”

น้ำเสียงของหลินเหรายังคงปกติ แยกความผิดปกติไม่ออก “มันสมานกันแล้ว พาเด็กทั้งสองคนไปขี่ม้าได้โดยไม่เป็นอุปสรรค ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ข้าแกะผ้าพันแผลให้เจ้าดูก็ได้นะ”

เหยาซูหันกลับไปมองเขาแวบหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าหลินเหราแค่อยากให้เธอวางใจโดยแท้จริง ไม่ได้มีความหมายอื่นแอบแฝง…..

นางกระแอมออกมาเบา ๆ และพูดกับเขาว่า “เรื่องตรวจไม่จำเป็นหรอก….บาดแผลของท่าน ตัวท่านรู้ก็พอ”

แก้มของเหยาซูแดงระเรื่อ ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “คำพูดของแม่นางตู้ในวันนี้ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

คำพูดของตู้เหิงในวันนี้ เหยาซูยังคงเก็บมาใส่ใจ

ถึงอย่างไรในนิยายก็ต้องดำเนินเรื่องตามเค้าโครงสำคัญของการกลับชาติมาแก้แค้นอย่างเหี้ยมโหดของตู้เหิง แต่รายละเอียดที่เกี่ยวกับหลินเหราไม่ได้เขียนไว้มากมายเท่าไรนัก

จากรายละเอียดเหล่านี้ ว่ากันว่าหลินเหราได้เข้าราชสำนักตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกอย่างดำเนินการอย่างราบรื่น กระทั่งได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ให้มีคนที่อยู่เบื้องหลังคอยคุ้มกันปกป้องเขา?

หลินเหรายังคงโอบกอดนางไม่ยอมปล่อย “นางมีเรื่องอยากให้ข้าช่วย”

เหยาซูเข้าใจทันใด “ท่านหมายความว่า….แม่นางตู้จะมาหาท่านอีกอย่างนั้นหรือ?”

หลังจากที่อยู่กับชายหนุ่มมาเนิ่นนาน เหยาซูก็ค่อย ๆ เข้าใจแนวทางที่เขาปฏิบัติมากขึ้น

หลินเหราเป็นคนที่ระแวดระวังและอ่อนไหวมาก

หากเขามีความสงสัยบางอย่าง จะต้องลงมือโจมตีในเวลาที่เหมาะสมที่สุดอย่างแน่นอน ระหว่างนั้นก็จะใช้ความอดทนถึงขีดสุด รอคอยโอกาสอยู่เงียบ ๆ

ชายหนุ่มพยักหน้า ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ราวกับกำลังคิดว่าจะอธิบายให้เหยาซูฟังอย่างไร ผ่านไปครู่หนึ่งก็พูดขึ้น “แม้จะไม่รู้ว่าทำไม แต่ในตัวของตู้เหิง ข้าสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง….นางดูเหมือนจะมองทะลุปรุโปร่งว่าข้าเป็นคนอย่างไร บางทีสิ่งที่นางพูดในวันนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก ข้ามักรู้สึกประหลาดใจในสิ่งที่นางพูด น่าจะต้องมีมูลความจริงเป็นแน่”

เหยาซูเงยหน้าขึ้น และมองไปยังดวงตาของหลินเหราพลางถามว่า “เช่นนั้นท่านกำลังคิดจะรอการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของแม่นางตู้?”

หลินเหราพูดยอมรับ “ก็คงต้องเป็นเช่นนั้น ดีกว่าเราสืบโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ สู้ให้นางบอกเองดีกว่า”

เหยาซูไม่เขาใจเลยแม้แต่น้อย “แล้วเหตุใดวันนี้ถึงไม่ถามเล่า? เห็น ๆ อยู่ว่านางบอกเป็นนัยอย่างชัดเจนเพียงนั้น…”

ชายหนุ่มกลับมองไปทางเหยาซูอย่างประหลาดใจ และพูดอย่างจนปัญญา “ก็วันนี้บอกว่าจะไปขี่ม้าไม่ใช่หรือ? อีกอย่างไม่ว่านางจะพูดความจริงหรือโกหก หากเกี่ยวพันกับปัญหาที่ยุ่งยากกว่าเดิมแล้ววันนี้เราจะออกจากบ้านได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินเหตุผลนี้ เหยาซูก็ตื่นตะลึงทันใด

นางคิดว่าตัวเองเข้าใจความคิดของหลินเหราแล้ว กลับยังพ่ายแพ้ให้กับสมองกลับทาง [1] ที่คอยคิดแหวกแนวของเขาเสมอ

เหยาซูหมดคำจะพูด “ขี่ม้าไปตอนไหนก็ได้ไม่ใช่หรือ? สุดท้ายแล้วเรื่องใดสำคัญกว่ากันเล่า?”

หลินเหราไม่พูดสิ่งใดอีก แค่มองไปยังเหยาซู ดวงตาภายใต้แพขนตายาวคู่นั้นเปล่งประกายสุกสกาวมากขึ้น

เหยาซูเข้าใจการไม่เอ่ยสิ่งใดของเขาในทันที สำหรับเขาแล้วเรื่องการออกไปข้างนอกกับภรรยาและลูกสำคัญยิ่งกว่า

ดวงตาคู่นั้นของเขาเรียวแคบดั่งดวงตาหงส์ตามฉบับ สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกตลอดเวลาทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกจนยากจะหลุดพ้นได้

แต่เมื่อแววตาของหลินเหราอ่อนโยนลง ดวงตาคู่นั้นระยิบระยับเต็มไปด้วยแสงดาวที่ชวนหลงใหล นำพาให้คนจมลงในแอ่งน้ำของบึงอันไกลลิบแห่งนี้

เมื่อสังเกตเห็นดวงตาคู่นี้เหยาซูจึงโพล่งออกไปว่า “ที่ท่านพูดก็ถูก”

จู่ ๆ นางก็ไม่อยากสนใจเรื่องสับสนวุ่นวายเหล่านั้นอีกแล้ว

จะเกิดใหม่ก็ดี แก้แค้นก็ดี ความคิดของตู้เหิงไม่เกี่ยวกับนางเลยแม้แต่น้อย

เหยาซูในตอนนี้แค่อยากใช้ชีวิตยามเช้าอย่างสงบสุขอยู่กับหลินเหราและเด็ก ๆ

หญิงสาวยิ้มตาหยีเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างแผ่วเบาว่า “หากวันนี้ไม่ได้ไป ต้าเป่าจะไม่ร้องไห้สูญเปล่าหรือ?”

เด็กทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้ารวดเร็ว กระทั่งมาเร่งเร้าให้ออกเดินทาง พลางพูดเจี้อยแจ้วกันไม่หยุด

[1] สมองกลับทาง เป็นศัพท์แสลงในโลกออนไลน์จีน แปลว่าคนที่มีพฤติกรรมแตกต่างจากปกติทั่วไป

สารจากผู้แปล

ทั้งสองคนน่าจะโชว์ความหวานระดับหวานตัดขาแบบนี้ต่อหน้ายัยคุณหนูนั่นนะคะ ให้นางอกแตกตายใบหน้าซื่อตาใสแหลกสลายไม่มีชิ้นดีอยู่ตรงนั้นไปเลย

พี่เหราเวลาอ่อนโยนนี่ก็น่ารักเหมือนกันน้า

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท