ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘] – บทที่ 584 ทำการค้า

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

บทที่ 584 ทำการค้า

บทที่ 584 ทำการค้า

“จริงหรือ? พี่อาเถิง ท่านดูสิ นี่คือผลงานที่อวี้อวี้ทำ งดงามยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะต้องขายออกไป ข้าคงเก็บไว้เองแล้ว!”

ฝีมือการทำเครื่องหยกของอวี้อวี้เรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นก้อนหยกหรือเศษหยกเขาล้วนแต่ใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุด

จุดเด่นนี้ ทำให้ก้อนหยกคุณภาพค่อนข้างแย่ที่ทางร้านหยกอวี้ฝูเก็บรวบรวมมาได้ในตอนแรกเริ่มได้ถูกขายออกไปในราคาที่ไม่เลวเลย

ร้านหยกอวี้ฝูสร้างเม็ดเงินได้อย่างมหาศาล หลินซือดีใจมากถึงขนาดเพิ่มค่าแรงให้กับลูกจ้างทุกคนในร้าน ส่งผลให้ทุกคนมีความกระตือรือร้นในการต้อนรับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลงานที่หลินซือให้เจี่ยงเถิงดูก็คือจี้หยกลายก้อนเมฆผสมทองคำบริสุทธิ์ แม้ว่าลวดลายนี้จะเป็นที่นิยมมาก ตัวทองคำบริสุทธิ์ไม่ได้มีความพิเศษนัก แต่อวี้อวี้ได้เพิ่มทองคำบริสุทธิ์ลงไปในส่วนของลวดลายก้อนเมฆนี้ ทำให้ตัวจี้หยกดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามกระทบแสงอาทิตย์ ตัวหยกจะยิ่งเปล่งประกายระยิบระยับจนแสบตาเลยทีเดียว ผลงานหยกชิ้นนี้จึงกลายเป็นจุดขายของร้านหยกอวี้ฝูไปโดยปริยาย

“งดงามมากจริง ๆ ตัวจี้หยกมีความเหลือบเขียว เป็นวัสดุที่ดีมาก แต่ต่อให้เป็นวัสดุที่ดีเพียงใดก็ยังมีรอยตำหนิ รอยตำหนินี้คงอยู่ในส่วนของทองคำบริสุทธิ์สินะ?”

เจี่ยงเถิงสังเกตอย่างละเอียด คำวินิจฉัยที่โพล่งออกมา ทำให้หลินซืออดเหงื่อตกไม่ได้

พี่อาเถิงเก่งเพียงนี้เลยหรือ มองเพียงไม่กี่ครั้งก็เห็นถึงส่วนผสมหลักแล้ว

หน้าที่ของทองคำบริสุทธิ์คือการปกปิดจุดบกพร่องของตัวหยก แม้ว่าในส่วนของทองคำบริสุทธิ์จะมีจุดด่างดำอยู่หลายจุด แต่คนทั่วไปน่าจะไม่คิดเช่นนี้ แค่รู้สึกว่านี่คือความคิดที่เฉลียวฉลาดอย่างหนึ่ง

แต่เจี่ยงเถิงไม่ใช่คนทั่วไป ในฐานะขุนนางฝ่ายดูแลเรื่องเกลือ สิ่งสำคัญที่สุดของเขาคือการเห็นถึงปัญหาในรายการเดินบัญชีตั้งแต่แวบแรก

ความเคยชินนี้ทำให้เขาไม่ได้มองว่าของชิ้นนั้นดีมากเพียงใด แต่จะหาจุดบกพร่องที่ซ่อนอยู่ภายในสิ่งของชิ้นนั้นอย่างสุดความสามารถ เพราะเหตุนี้จึงทำให้เห็นถึงวิธีการอันยอดเยี่ยมของตัวจี้หยก แต่ต้องบอกว่าอาซือเองก็เฉลียวฉลาดมากเช่นกัน รู้จักใช้วิธีนี้มาตกแต่งให้งดงามขึ้น

เพื่อไม่ทำลายความสมบูรณ์ของตัวจี้หยก นางจึงทำการเพิ่มมูลค่าตัวจี้หยกให้สูงขึ้น แม้แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะคิดวิธีการนี้ออกหรือไม่

“พี่ไป๋สอนข้าไว้ก็เยอะ แต่ในความเป็นจริงข้าเรียนรู้แค่ผิวเผินเท่านั้น พี่อาเถิง ข้าได้ยินท่านแม่บอกว่าท่านเองก็เก่งเช่นกัน เช่นนั้นสอนข้าได้หรือไม่?”

“ได้สิ ขอแค่อาซืออยากเรียน พี่อาเถิงก็พร้อมสอนเจ้าทุกอย่าง ดีหรือไม่?”

ครั้นเห็นแววตาที่เปล่งประกายของอาซือ เจี่ยงเถิงถึงพลันปฏิเสธไม่ได้ และคาดหวังให้อาซือของเขามีความสุขเช่นนี้ไปตลอดชีวิต

“เยี่ยม! พี่อาเถิง ข้าหิวแล้ว เราออกไปกินของกินอร่อย ๆ กันเถอะ”

“ได้สิ เจ้าอยากกินอะไร?”

“ได้ทั้งนั้น แต่พี่อาเถิงรอข้าสักครู่นะ เดี๋ยวข้ากลับมา” กล่าวจบ หลินซือก็วิ่งเข้าไปพูดคุยกับอวี้อวี้ที่อยู่ด้านหลัง ให้เขานำหยกที่ขัดเกลาเรียบร้อยแล้ววางไว้ตรงนี้ หากนางมีเวลาจะกลับมาทำ จากนั้นก็ออกไปหาของอร่อยกับเจี่ยงเถิง

“เมื่อครู่อาซือกำลังทำสิ่งใด?”

เจี่ยงเถิงและหลินซือเดินอยู่บนถนนสายหนึ่ง ครั้นเห็นหลินซือเดินออกมาจากข้างในด้วยสีหน้าเหมือนมีความลับบางอย่าง จึงอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้

“ไม่มีอะไร ก็แค่บอกความคิดของข้ากับอวี้อวี้เท่านั้น หลังเตรียมการเสร็จก็ให้นำจุดขายของร้านอวี้ฝูขยายออกไป”

“แบบนี้นี่เอง เช่นนั้นมีสิ่งใดให้ข้าช่วยได้บ้างหรือไม่?”

“มีสิ พี่อาเถิงต้องเลี้ยงข้าวข้าให้อิ่ม มิเช่นนั้นอาซือคงไม่มีเรี่ยวแรงในการดูแลร้านเป็นแน่”

ขณะที่หลินซือพูดกับเจี่ยงเถิง มือของนางก็ยังไม่วายลูบท้องของตัวเองพลางแสดงท่าทางน่าสงสาร

หลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนชัดเจนขึ้น อาซือก็มักจะแสดงท่าทีออดอ้อนมากขึ้น

“ข้ากลัวเจ้าจุกตายมากกว่า เจ้าแมวจอมตะกละ”

ทั้งสองคนเดี๋ยวเดินเดี๋ยวหยุดไปตลอดทาง พูดคุยอย่างสนุกสนานจนมาถึงร้านอาหารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เป็ดตุ๋นข้าวหมากจีนที่หลินซือชอบที่สุดคือจุดขายของร้านอาหารแห่งนี้

ครั้นขึ้นมาชั้นบน ก็ให้ลูกจ้างในร้านหาห้องส่วนตัวให้ทันที เจี่ยงเถิงจึงปล่อยมืออาซือ

เมื่อครู่ชั้นบนมีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา เขาจึงต้องปกป้องหลินซือให้อยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง และมักจะคุ้นเคยกับช่วงเวลานี้ หลินซือก็เคยชินกับการกระทำของเจี่ยงเถิงเช่นกัน ไม่มีทางที่จะหน้าแดงเฉย ๆ แน่

“อาซือดูสิว่าอยากกินอะไร หากอยากกินสิ่งใดก็สั่งได้”

เจี่ยงเถิงไม่เคยมีความพิถีพิถันในเรื่องของอาหารนัก ดังนั้นสิ่งที่ชอบล้วนแต่เป็นสิ่งที่หลินซือชอบทั้งสิ้น

“เยี่ยม เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ”

ประโยคที่ชอบที่สุดก็คือประโยคนี้ของเจี่ยงเถิง หลินซือชอบตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง นางเริ่มสั่งอาหารในขณะที่ลูกจ้างยืนอยู่ด้านข้างกำลังรอพวกเขาอยู่

…………………………………………………………………………………………………

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

ทะลุมิติไปเป็นแม่ของวายร้ายทั้งสาม [穿书后,我成了三个反派的娘]

Status: Ongoing
เหยาซูเสียชีวิตเนื่องจากเครื่องบินตก ตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองได้มาอยู่ในร่างตัวละครหนึ่งในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน!หญิงสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมาเกิดใหม่ในนิยายยุคโบราณที่ตนเองกำลังอ่าน หลังฟื้นขึ้นมาจึงพบว่าตนเองอยู่ในร่างของ เหยาซู มารดาของวายร้ายทั้งสามในเรื่อง กลายเป็นแม่ม่ายลูกติดโฉมสะคราญที่ผู้คนต่างชี้หน้าบอกว่าเป็นตัวซวยทำให้สามีต้องตาย เมื่อได้ทราบว่าชีวิตของลูก ๆ ต้องเผชิญกับการดูถูก นางจึงทนไม่ไหวเก็บข้าวของหอบลูกกลับบ้านเก่า เริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกและครอบครัวทางแม่ของตน ด้วยคิดว่าหากสั่งสอนลูกดี ๆ พวกเขาคงไม่กลายเป็นตัวร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งสามีของนางได้กลับมา พวกเขาจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง แต่แล้วนางก็นึกขึ้นมาได้ว่าตามนิยายต้นฉบับสามีของตนจะตกหลุมรักสตรีอื่น จึงคิดหาวิธีที่จะหย่าขาดกับเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท