ตอนที่ 61 ขอให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี
ปู่เถียนกำลังจะบอกว่าทานแล้ว แต่ย่าเถียนตอบตกลงว่า ดีเลย ข้าจะได้ชิมรสมือของต้านเอ๋อร์
พี่ใหญ่ ท่านไปนวดแป้ง น้องสี่ไปเด็ดกุยช่ายมา… หลินเว่ยเว่ยเริ่มแบ่งหน้าที่
พี่สาวจึงกลอกตาแล้วถามว่า แล้วเจ้าจะทำอันใด ?
แน่นอนว่าแม่ครัวย่อมทำหน้าที่ปรุงรสให้อร่อยที่สุด ! หลินเว่ยเว่ยกล่าวอย่างมั่นใจ
หลินเว่ยเว่ยนำไข่ไก่ทั้งหมด 5 ฟองที่เหลืออยู่ในบ้านออกมา จากนั้นก็ใส่น้ำมันหมูลงผัดแล้วคลุกเคล้ากับกุยช่ายที่หั่นมาเรียบร้อยแล้ว นางยังกล่าวด้วยความมั่นใจอีกว่า ดูท่าต้องเลี้ยงไก่เพิ่มอีกหน่อยเพราะไข่ไก่ไม่พอทานแล้ว…
ต้านเอ๋อร์ ที่บ้านแม่ยังมีไข่ไก่อยู่อีกหลายฟองเพื่อเอาไว้ต้มให้เจ้าทาน ตอนเด็กเจ้าชอบทานไข่ต้มที่สุด ! ย่าเถียนรับไม้นวดแป้งมาจากพี่สาวคนโต นางนวดแป้งออกมาได้บางกลมและสม่ำเสมอ ไม่เหมือนคนขี้หลงขี้ลืมเลยแม้แต่น้อย
ที่บ้านของข้าเลี้ยงไก่ 2 ตัว มีไข่เพียงพอที่จะทาน ย่าเถียน ท่านเก็บไว้ทานเองเถิด ! หลินเว่ยเว่ยหยิบแผ่นแป้งขึ้นมาแล้วยัดไส้เข้าไปจำนวนมาก นางใช้นิ้วมือบีบคลึงอย่างรวดเร็ว ในที่สุดแป้งห่อกลม ๆ ก็ถูกปั้นออกมาเรียบร้อย
ย่าเถียนยิ้มแก้มปริกว่าเดิม ต้านเอ๋อร์ของบ้านเราโตแล้ว ช่างเป็นเด็กกตัญญูเหลือเกิน…
หลินเว่ยเว่ยให้เจ้าหนูน้อยตั้งหม้อด้วยไฟอ่อน จากนั้นนางก็เทน้ำมันลงไปแล้วใส่แป้งห่อที่ปั้นเสร็จแล้วลงทอดจนเหลืองกรอบ
หอมจัง ! อาหารที่พี่รองทำช่างน่าอร่อยเสียจริง ! เจ้าหนูน้อยนั่งยองเหงื่อท่วมตัวอยู่หน้าเตายกมือปาดเหงื่อบนใบหน้า เขากลายเป็นลูกแมวน้อยแสนเชื่องในทันทีที่ได้กลิ่นหอม ๆ ของแป้งห่อกุยช่ายทอด
หลินเว่ยเว่ยแบ่งอาหารที่เย็นและแห้งแล้วให้เขาชิมไปหนึ่งชิ้น เจ้าหนูน้อยบิแป้งห่อกุยช่ายทอด จากนั้นก็ส่งไปที่ปากของหลินเว่ยเว่ยที่กำลังยุ่งอยู่พลางกล่าวว่า พี่รองชิมก่อนสิ !
หลินเว่ยเว่ยกัดคำใหญ่โดยไม่เกรงใจ รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของกุยช่ายผสมกับกลิ่นหอมของไข่ไก่และกากหมูที่ละเอียดทำให้หอมและสดใหม่อย่างเกินบรรยายเลย !
เจ้าหนูน้อยทานเข้าไปคำใหญ่แล้วกล่าวอย่างพึงพอใจว่า อร่อยมาก ! พี่รอง น้ำมันของบ้านเราเหลือไม่มากแล้ว กากหมูก็ทานหมดไปแล้ว ดังนั้นมื้อต่อไปทานให้น้อยลงกว่านี้ดีหรือไม่ ?
อีกประเดี๋ยวหากมีผู้ใดไปในเมืองก็ให้เขาถือโอกาสซื้อมันหมูกลับมาสักสองชั่ง คืนนี้เราจะทำซาลาเปาไส้ผักป่าผัดกากหมูทานกัน เจ้าชอบหรือไม่ ? หลินเว่ยเว่ยทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนางก็ยกแป้งห่อกุยช่ายออกจากหม้อและยังได้ต้มโจ๊กหอมกรุ่นอีกหนึ่งหม้อด้วย !
นางและน้องชายคนเล็กต่างวุ่นวายเบียดเสียดกันอยู่ในครัว ปู่เถียนเดินวนรอบ ๆ ลานบ้าน เขารู้สึกเกรงใจเกี่ยวกับเรื่องที่ภรรยาเข้าใจผิดว่าบุตรสาวคนรองของตระกูลหลินเป็นบุตรสาวของตน เขาคิดที่จะพาภรรยากลับไป แต่พอได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าและความสุขที่มาจากใจจึงใจไม่แข็งพอ ภรรยาเลอะเลือนมาเจ็ดแปดปีเห็นจะได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นนางสดใสเช่นนี้ !
อายุของพวกเขานับวันก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ในวันเวลาที่เหลืออีกไม่มากนี้ หากเขาสามารถทำให้ภรรยาเบิกบานใจขึ้นได้บ้างก็ถือเป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ ขอให้เขาเห็นแก่ตัวสักครั้งเพื่อภรรยาที่ร่วมทุกข์กันมากว่าครึ่งชีวิตเถิด
เจียงโม่หานนั่งพลิกตำราเงียบ ๆ ใต้ต้นลูกพลับพลางเหลือบตามองปู่เถียนหนึ่งครั้งแล้วมองกลับลงมาอีกครั้ง ‘เด็กอ้วนคนนี้จิตใจดีใช้ได้ หวังว่าจิตใจที่ดีจะทำให้นางได้รับผลตอบแทนที่ดี ! เพราะถึงอย่างไรถ้าปีแห่งหายนะมาเยือน แม้จะเป็นสายเลือดเดียวกันก็ย่อมทอดทิ้งกันได้ จะมีผู้ใดบ้างที่คอยดูแลกันได้เช่นนี้ ? ’
ตาแก่ ทานข้าวได้แล้ว ! นางหนูทำแป้งห่อกุยช่ายทอด หอมมากเลย ! ย่าเถียนยิ้มตาหยีพร้อมยกถาดใส่แป้งห่อกุยช่ายเดินออกมาจากครัว ด้านหลังของนางมีน้องสี่คอยเดินตามด้วยสีหน้ากังวลเพราะกลัวว่านางจะไม่ระวังจนทำมื้อเช้าที่พี่รองตั้งใจทำหกเสียหาย
ทั้งทอดด้วยน้ำมันหมูและใส่ไข่ลงไปจำนวนมาก ด้านในของแป้งห่อกุยช่ายยังเหลือกากหมูที่ส่งกลิ่นหอม บวกกับโจ๊กข้าวฟ่างที่เข้มข้น นี่ต้องเป็นมื้อเช้าอันยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่บ้านฉือหลี่โกวแน่นอน
ย่าเถียนที่ทานข้าวเช้ามาแล้วได้ทานโจ๊กข้าวฟ่างไปหนึ่งถ้วยและทานแป้งห่อกุยช่ายที่หอมฉุยไป 1 ชิ้น ส่วนเจียงโม่หานที่ถูกย่าเถียนตำหนิว่าผอมเกินไปก็ได้ทานแป้งห่อกุยช่ายขนาดใหญ่กว่ากำปั้นไปถึง 4 ชิ้นและโจ๊กถ้วยใหญ่อีกหนึ่งถ้วย
หลายคนเจริญอาหาร แป้งห่อกุยช่ายทอดที่ห่อไว้เมื่อเช้ากว่ายี่สิบลูกถูกทานหมดไม่เหลือสักชิ้น พี่สาวคนโตจึงอดเป็นทุกข์ไม่ได้ นางลอบบ่นในใจว่า ‘นับวันข้าวปลาอาหารยิ่งแพง หากทานขนาดนี้เงินในบ้านคงไม่พอถึงสองเดือนเป็นแน่’
มนุษย์หากไม่มองการณ์ไกล ความยุ่งยากก็จะเข้ามาใกล้ เจียงโม่หานเองก็มองเหมือนนาง เขาลังเลอยู่เล็กน้อยแล้วพูดกับหลินเว่ยเว่ยว่า ได้ยินมาว่าหลังต้นฤดูใบไม้ผลิที่อำเภอจิงหยุนฝนตกไปสองสามครั้ง ภัยแล้งไม่ร้ายแรง ราคาอาหารน่าจะถูกกว่าในเขตเริ่นอัน
ชาติก่อน อำเภอจิงหยุนไม่มีภัยพิบัติ ทว่าเกิดเรื่องการจลาจลของผู้ลี้ภัย ภายใต้การนำของผู้มีเจตนาไม่ดีแอบแฝงกายบุกเข้ามาเผาบ้านเมือง หลายครอบครัวแตกแยกและสูญหาย ต่อมาทางราชสำนักได้ส่งกองทัพมาปราบปราม อำเภอจิงหยุนในเวลานั้นจึงได้สงบลง
หลินเว่ยเว่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า ข้าจะไปจัดของในอุโมงค์ใต้ดินให้เรียบร้อยแล้วจะไปซื้ออาหารที่อำเภอจิงหยุน…
เจียงโม่หานจึงกล่าวเตือนนางว่า จากหมู่บ้านฉือหลี่โกวไปอำเภอจิงหยุนมีระยะทางร้อยกว่าลี้ ทางที่ดีจ้างเกวียนสักคันหรือไม่ก็รถม้าเถิด แต่หากซื้อไม่มากก็ไม่คุ้มสักเท่าไร
ทันใดนั้นปู่เถียนก็เอ่ยว่า หลายปีก่อนทางหมู่บ้านของเรามีเส้นทางภูเขาที่ทะลุไปอำเภอจิงหยุนอยู่เส้นหนึ่ง จากนี่ข้ามเขาไปสองลูกใช้เวลาเดินหนึ่งวันก็ถึง ต่อมาในหุบเขามีสัตว์ป่าออกล่าอาหารมากขึ้น มีคนถูกหมาป่ากัดตายบนเขา เส้นทางนั้นจึงถูกทิ้งให้รกร้าง
หลินเว่ยเว่ยตาลุกวาวทันทีที่ได้ยิน นางจึงถามว่า ปู่เถียน ท่านเคยใช้เส้นทางนั้นหรือ ? เช่นนั้นช่วยเขียนแผนที่ให้ข้าได้หรือไม่ ?
ปู่เถียนพยักหน้า แต่ไม่นานเขาก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า ข้าเคยใช้เส้นทางนั้นเดินทางอยู่หลายครั้ง สิบกว่าปีแล้วที่ไม่มีคนใช้ คงถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด ข้ารู้ว่าเจ้าเคยฆ่าหมูป่าตายมาแล้ว แต่หมาป่าเคลื่อนไหวกันเป็นฝูง ใช่ว่ามีแรงเยอะแล้วจัดการมันได้ ส่วนภาพของเส้นทางนั้น ข้าไม่สามารถช่วยวาดให้เจ้าได้ ! ข้าทำร้ายเจ้าไม่ได้หรอก !
เจียงโม่หานก็ไม่สนับสนุนให้นางเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ เขาจึงกล่าวว่า ที่ปู่เถียนจะบอกก็คือเจ้าอย่าคิดว่าตนมีแรงเยอะแล้วไร้ศัตรู คนจมน้ำตายล้วนเป็นคนที่ว่ายน้ำเป็นทั้งนั้น เจ้าอย่าได้ประมาทไป !
หลินเว่ยเว่ยเป็นคนหนึ่งที่เชื่อฟังการโน้มน้าว นางสลัดความคิดที่จะข้ามภูเขาออกจากหัว หากต้องซื้ออาหารสามร้อยถึงห้าร้อยชั่ง ค่าเช่าเกวียนไปกลับก็หลายร้อยตำลึง เช่นนั้นมันก็ไม่คุ้ม
ได้ยินมาว่าที่บ้านผู้ใหญ่บ้านมีเกวียน… หลินเว่ยเว่ยคิดว่าเราต่างก็เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ยืมมาใช้คงไม่น่ามีปัญหาอันใด
แต่นึกไม่ถึงว่าปู่เถียนจะถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวว่า เกวียนของบ้านผู้ใหญ่บ้านไม่ได้ปล่อยให้เช่าง่าย ๆ ภรรยาของเขาคิดแต่เรื่องเงิน ค่าเช่าแพงเสียยิ่งกว่าในเมืองด้วยซ้ำ ! ที่บ้านข้ามีรถลากอยู่หนึ่งคัน ซ่อมสักหน่อยคงพอใช้ได้ เจ้าลากคันนั้นไปดีหรือไม่ ?
หลินเว่ยเว่ยตามชายชราไปที่บ้าน นางเห็นรถลากที่ชำรุดอยู่ในลานบ้านแล้วพบว่าล้อทั้งสองกับตัวรถนับว่าสมบูรณ์ดี ส่วนแผ่นกระดานบนรถหักหมดแล้ว หลินเว่ยเว่ยลองเข็นเล็กน้อย นางคิดว่าหากเปลี่ยนแผ่นกระดานก็ยังพอใช้ได้
ปู่เถียนที่ได้ยินความคิดของนางก็ออกตัวอาสาขึ้นว่า ตอนข้ายังเด็กเคยเรียนช่างไม้มาก่อน รถลากคันนี้ข้าเป็นคนทำมันขึ้นมาเอง ขอเพียงมีไม้ ข้าสามารถช่วยซ่อมให้เจ้าได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน
ตอนต่อไป