ตอนที่ 604 การกลายเป็นลูกจ้างประจำคือฝันยิ่งใหญ่ที่สุด
หวงต้าจวงเหมือนคนดื่มสุราเข้าไปหนึ่งไหเต็ม ๆ เขามึนศีรษะไปหมด แต่หัวใจกำลังโบยบิน ‘นี่ตนกับน้องเฉินหยุนโดนจ้างงานแล้วหรือ ? ! ค่าจ้างได้เท่ากับคนทั่วไป ไม่โดนเอาเปรียบหรือโดนทุบตี หรือแม้แต่หักค่าแรงก้อนเล็ก ๆ ของพวกตน ! ท่านฝูเหรินนายอำเภอคนปัจจุบันเป็นคนดีจริง ๆ ! ท่านนายอำเภอก็จะต้องเป็นคนดีแน่นอน ! ’
หลิวว่ายจื่อที่อยู่ด้านข้างก็มองหวงต้าจวงที่ร้องไห้ขี้มูกโป่งด้วยความรังเกียจ ก่อนจะพูดกับเขาว่า “ภรรยานายอำเภอคนปัจจุบันจะเอาชีวิตเจ้าไปทำไม ? เจ้าติดตามนายหญิงของพวกเราอย่างวางใจเถิด ! รับรองไม่เสียใจภายหลังแน่นอน ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อก่อนข้าเป็นคนอย่างไร ? ”
“ท่าน…เป็นผู้ดูแลใหญ่ของฝูเหรินนายอำเภอคนปัจจุบันไงเล่าขอรับ ! ” หวงต้าจวงตอบกลับด้วยความเคารพ พร้อมดวงตาคู่น้อยที่ฉายแววสั่นสะท้าน
หลิวว่ายจื่อหัวเราะเสียงดัง “ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ว่าตอนนั้นข้าหลิวว่ายจื่อขึ้นชื่อว่าเป็นคนไม่เอาไหนในหมู่บ้าน ใช้ชีวิตเป็นคนว่างงาน ขโมยข้าวของชาวบ้าน เล่นพนัน ต่อยตี ทำเรื่องผิดบาปทุกอย่าง ! แต่เพราะฝูเหรินนายอำเภอคนปัจจุบันไม่รังเกียจในอดีตของข้าจึงหยิบยื่นโอกาสให้ข้าปรับปรุงตัว จ้างข้าดูแลโกดังที่ท่าเรือให้นาง…จากนั้นก็เป็นหลงจู๊ที่ร้านค้าในตำบลและร้านค้าที่เขตชายแดน…ถ้าไม่มีนายหญิงก็ไม่มีข้าในวันนี้ ! นายหญิงของเราไม่มีทางปล่อยให้คนขยันอดตายแน่นอน ! ”
หวงต้าจวงยืดอกตั้งตรง ดวงตาแน่วแน่และพูดด้วยน้ำเสียงมีพลัง “วางใจได้ขอรับ ท่านผู้ดูแลใหญ่หลิว ข้าน้อยจะต้องขยันทำงาน ไม่เกียจคร้านแม้แต่น้อย ข้า หวงต้าจวง อาจไม่มีอะไรดีเลย แต่มีแรงทำงานแน่นอนขอรับ…”
“พอได้แล้ว ! ” หลิวว่ายจื่อตบบ่าของเขา “ตั้งใจทำงาน ท่านฝูเหรินนายอำเภอคนปัจจุบันพูดไว้แล้วว่าต่อไปโอกาสงานแบบนี้ยังมีอีกมาก ค่าจ้างและสวัสดิการก็เหมือนแรงงานระยะสั้นกลุ่มนี้เลย ถ้าทำดีแล้วการได้เปลี่ยนเป็นลูกจ้างประจำก็ยังมีหวัง ! ”
ลูกจ้างประจำ ? ถ้าแบบนั้นก็แปลว่าต่อไปจะไม่ต้องกังวลเรื่องตกงานแล้ว ? ค่าแรงวันละ 20 อีแปะ หนึ่งเดือน…ก็ 600 อีแปะ ! ฮือฮือฮือ…หากท่านนายอำเภอคนปัจจุบันและภรรยามาเร็วกว่านี้สักสองสามปี ท่านปู่และท่านพ่อของเขาก็คงไม่ต้องทำงานหนักจนเหนื่อยตายอยู่ในบ่อเกลือ ท่านย่าก็คงไม่ต้องประหยัดอาหารไว้ให้เขากินจนทำให้นางต้องอดตายอยู่บนเตียง…ฮือฮือฮือ…
การประกาศรับสมัครลูกจ้างชั่วคราว 100 ตำแหน่ง เนื่องจากการบอกเล่าแบบปากต่อปากจึงทำให้คนที่มาสมัครมีเกือบ 200 คน ตอนแรกชาวบ้านจากหมู่บ้านคนบาปได้แต่ยืนมองอยู่ไกล ๆ พอเห็นว่าเฉินหยุนผ่านการคัดเลือก พวกเขาก็มาเข้าแถว แต่น่าเสียดายที่นอกจากสหายผู้เสี่ยงโดยรุมทำร้ายก่อนหน้านั้นแล้ว คนอื่นก็ไม่ได้งาน จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินกลับหมู่บ้านด้วยความสิ้นหวัง
ระหว่างทางกลับหมู่บ้าน หวงต้าจวงเห็นอู๋หยงห่าวที่มาจากหมู่บ้านฝั่งตะวันตกก็มาเข้าแถวด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงดังว่า “ท่านภรรยานายอำเภอคนปัจจุบันเป็นคนดีมากเลย ไม่เลือกปฏิบัติและกีดกันคนจากหมู่บ้านคนบาปของพวกเรา ทว่ามีอย่างหนึ่งก็คือคนที่มีประวัติกระทำผิดกฎหมาย จะไม่โดนจ้างงาน ! ”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่หมู่บ้านคนบาปแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือหมู่บ้านตะวันตกและตะวันออกอย่างชัดเจน อารมณ์ประมาณว่าคนทั้งสองฝั่งหมู่บ้านไม่มีทางคบค้าสมาคมกันได้ ส่วนมากผู้อาวุโสทางฝั่งตะวันตกจะเป็นนักโทษร้ายแรง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในฝั่งนั้นก็มีรัศมีของโจรผู้ร้าย ถือว่าจัดการยากมากและยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนฐานะตัวเองเป็นโจร ! ส่วนทางหมู่บ้านฝั่งตะวันออก ถ้าบรรพบุรุษไม่ได้ถูกใส่ร้ายหรือใส่ความก็จำใจต้องตกอยู่ในสภาพนักโทษก่ออาชญากรรม…พวกตนรังเกียจที่จะคบหากับชาวบ้านฝั่งตะวันตก…คำพูดเหล่านั้นของหวงต้าจวงคือต้องการพูดให้อู๋หยงห่าวได้ยิน
อู๋หยงห่าวทำตาขวางใส่เขา ก่อนจะก้มหน้าก้มตาครุ่นคิดบางอย่าง พอหวงต้าจวงเห็นแบบนั้นก็คิดว่าเจ้าตัวแสบต้องวางแผนร้ายอะไรแน่นอน ! คงไม่ได้คิดจะร่วมมือกับพวกคนชั่ว ๆ ในหมู่บ้านตะวันตกแล้วทำลายแผนการแผ้วถางที่ดินของท่านภรรยานายอำเภอคนปัจจุบันหรอกกระมัง ? ไม่ได้การ รออีกประเดี๋ยวเขาต้องเล่าให้น้องเฉินหยุนฟัง เพราะในใจหวงต้าจวงแล้ว เฉินหยุนเป็นคนเก่งมาก นี่ยังผ่านไปไม่ถึงวันก็สนทนากับผู้ดูแลใหญ่ของท่านภรรยานายอำเภอคนปัจจุบันได้แล้ว
เฉินหยุนจัดการสัญญาในมือ ตามความต้องการของท่านฝูเหรินนายอำเภอคือเขาต้องทำสำเนารายชื่อลูกจ้างทุกคนขึ้นมาอีกหนึ่งฉบับแล้วมอบให้ผู้ดูแลอย่างหลิวว่ายจื่อ
ขณะมองตัวอักษรที่เรียบร้อยในหน้ากระดาษ หลิวว่ายจื่อก็คลี่ยิ้มพลางจ่ายค่าตอบแทนสำหรับวันนี้…เงิน 20 อีแปะแล้วยังมีหมั่นโถวจากแป้งข้าวโพดอีกสองลูกให้เฉินหยุน หลิวว่ายจื่อตบบ่าเขา “พรุ่งนี้มาเช้า ๆ หน่อย ต่อไปเจ้ารับผิดชอบดูแลการจดบันทึกเวลาเข้าออกงานของพวกคนงาน”
งานจดบันทึกแค่ต้องขยับพู่กันไม่ใช่หรือ เมื่อเทียบกับงานหนักอย่างการแผ้วถางที่ดินแล้วก็เบากว่าตั้งเท่าไร จึงเป็นธรรมดาที่เฉินหยุนจะรับไว้ด้วยความซาบซึ้ง เขามองหมั่นโถวจากแป้งข้าวโพดในมือ มันใหญ่กว่ากำปั้นเขาเสียอีก ทั้งหนาทั้งแน่น มันช่าง…หลังจากหันไปมองเหรียญทองแดงในมือแล้ว เขาก็ถามด้วยความลังเลว่า “ผู้ดูแลหลิว ขอแลกเปลี่ยนเงินเป็นธัญพืชหยาบได้ไหมขอรับ ? ”
คนที่บ้านอดอาหารมา 2 วันแล้ว ข้าวสารในอำเภอยังมีจำนวนจำกัด ใช่ว่าจะหาซื้อได้ทุกครั้ง ถ้าเปลี่ยนเงินค่าแรงเป็นอาหารได้ก็คงวิเศษไปเลย !
หลิวว่ายจื่อครุ่นคิด ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อเจ้าพูดแล้ว ข้าก็จะตามใจ” หลังพูดจบ เขาก็ไปเอาแป้งข้าวโพดในรถม้าออกมาประมาณ 3 ชั่ง แล้วยัดใส่มือเฉินหยุน เขาไปสืบมาแล้วว่าราคาธัญพืชหยาบของอำเภอหนิงซีอยู่ที่ชั่งละ 10 อีแปะ ที่เพิ่มมาถือเป็นรางวัลสำหรับเฉินหยุน…ถ้าไม่ได้เฉินหยุนช่วย วันนี้มือของเขาก็คงหักไปแล้ว ! ไม่ทราบว่าบัณฑิตเหล่านั้นอดทนเขียนอักษรสิบกว่าแผ่นได้อย่างไรทุกวัน !
วันรุ่งขึ้น ลูกจ้างชั่วคราวล้วนมารวมตัวกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เฉินหยุนรับหน้าที่จดรายชื่อและเวลาเข้างาน งานในวันนี้ของหลิวว่ายจื่อคือ…ถางหญ้า ! คนงานได้พื้นที่รกร้างคนละประมาณ 2 หมู่ หลังถางหญ้ากองไว้บนพื้นแล้วก็เริ่มทำแนวกันไฟทั้ง 4 ด้าน
อากาศในเดือนเจ็ด แสงแดดแผดเผาเหมือนเปลวไฟ หญ้าที่ถางออกมาจึงแห้งภายในวันเดียวเพราะแสงแดด วันรุ่งขึ้นทุกคนยังถูกแบ่งงานเป็นสองหมู่เหมือนเดิมและเริ่มทำแนวกันไฟตามที่นายสั่ง…
ก่อนถูกจ้างงาน คนส่วนใหญ่เคยทำงานหนักมาก่อน บางคนอยากอู้แล้วโกงเอาค่าแรงในวันนั้นจึงโดนยกเลิกสัญญาและไล่ออกในวันนั้นเลย เมื่อคนอื่นเห็นตัวอย่างแล้วก็ทุ่มเทแรงกายทำงานกันยิ่งกว่าเดิมเพราะกลัวตนเองจะโดนไล่ออก
เที่ยงวันอากาศร้อนจัด ทุกคนได้หยุดพักหนึ่งชั่วยาม คนงานชั่วคราวพากันมาเข้าแถวเพื่อรับหมั่นโถว จากนั้นก็พากันไปอยู่ใต้ร่มไม้และเริ่มกินอาหารกลางวันคำโต
หลังได้หมั่นโถวสองลูกแล้ว หวงต้าจวงก็ไปหาเฉินหยุน เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีหัวไชเท้าดองเค็มสองหัวอยู่ด้านข้าง เขาก็หน้าด้าน ‘ขโมย’ มาหนึ่งหัวแล้วเริ่มกัดกินพร้อมหมั่นโถว เขากินไปพลางพูดไปด้วย “ท่านฝูเหรินนายอำเภอคนปัจจุบันเป็นคนใจดีจริง ๆ ในหมั่นโถวนี้ไม่มีผักป่าปนอยู่เลยสักนิด ทำจากแป้งข้าวโพดแท้ ๆ ไม่รู้ว่าต่อไปอาหารที่ได้จะเป็นแบบนี้ทุกมื้อหรือเปล่า ! ”
นอกจากเฉินหยุนแล้วหมู่บ้านคนบาปยังมีผู้โชคดีอีก 5 คนที่ถูกจ้างงาน เฉินหยุนเห็นพวกเขากินหมั่นโถวไปแค่ลูกเดียวแล้วเอาอีกลูกซ่อนไว้ คงคิดจะเอาของที่เหลือกลับไปให้คนที่บ้านกิน เขาจึงรีบเตือนว่า “พวกเจ้ากินไม่อิ่มแล้วตอนบ่ายทำงานไม่ดี ถ้าโดนไล่ออกเพราะอู้งานขึ้นมา พวกเจ้าจะไม่เหลืออะไรอีกเลย ! ”
พอทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็รีบพยักหน้ารับ ชายร่างผอมคนหนึ่งลูบหางตาตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา “ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เชิงเอ๋อร์ของบ้านข้ายังไม่เคยกินหมั่นโถวที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลย…ข้า ข้าเลย ข้าคิดจะเก็บไปให้เขาชิม เฉินเอ๋อร์ ข้าไม่ทำให้เสียงานตอนบ่ายแน่นอน ! ! ”