หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง – ตอนที่ 625 องค์ชายเจ็ดชื่นชมคนอื่นอย่างไม่ลืมหูลืมตา

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 625 องค์​ชาย​เจ็ด​ชื่นชม​คนอื่น​อย่าง​ไม่ลืมหูลืมตา​

แต่​องค์​ชาย​เจ็ด​แย้ม​โอษฐ์​อย่าง​ไม่ใส่พระทัย​ “เป็น​หลาน​ที่​เสนอตัว​จะทำ​เอง​ ! ถ้าไม่ลอง​ทำ​ด้วยตัวเอง​แล้ว​จะรับรู้​ถึงความลำบาก​ของ​ราษฎร​ได้​อย่างไร​ ? ราษฎร​อายุ​ตั้ง​ 50 ปี​เหล่านั้น​ยัง​ทำได้​ แล้ว​เหตุใด​หลาน​จะทำ​ไม่ได้​ ? อา​สะใภ้เสวี่ย​ ท่าน​อย่า​ตำหนิ​น้อง​เว่ยเว่ย​เลย​ ประเดี๋ยว​นาง​โกรธ​แล้ว​ จะไม่สอน​หลาน​ทำการเกษตร​ ! ”

ห​มิน​หวา​งเฟย​ตรัส​กับ​พระองค์​ “พระองค์​อย่า​ไป​ฟังที่​นาง​พูด​ นาง​เพิ่ง​อายุ​เท่าไร​เอง​ จะเข้าใจ​เรื่อง​ทำ​เกษตร​อะไร​เล่า​ ? ถ้าจะเรียนรู้​ก็​ไป​เรียน​กับ​พวก​ชาวนาชาวไร่​ที่​ทำ​มานาน​แล้ว​ดีกว่า​ พวกเขา​มีประสบการณ์​มากมาย​ ! ”

แต่​องค์​ชาย​เจ็ด​ไม่ได้คิด​แบบ​นั้น​ “อา​สะใภ้เสวี่ย​ตรัส​ผิด​แล้ว​ พวก​เกษตรกร​ที่​เพาะปลูก​กัน​มาตลอดชีวิต​ยัง​ทำ​ผลผลิต​ได้​แค่​ครึ่ง​เดียว​ของ​น้อง​เว่ยเว่ย​เท่านั้น​ บางคน​มีพรสวรรค์​เฉพาะตัว​…ยกตัวอย่างเช่น​ สามีน้อง​เว่ยเว่ย​ก็แล้วกัน​ คนอื่น​อ่าน​ตำรา​กัน​ทั้ง​ชีวิต​ก็​ยัง​สอบ​ไม่ติด​จอหงวน​ แต่​เขา​เพิ่ง​อายุ​เท่าไร​ก็​สอบ​ติด​แล้ว​ ? บ่งบอก​ว่า​เขา​มีพรสวรรค์​ใน​การเรียนหนังสือ​ ! ส่วน​น้อง​หญิง​ก็​มีพรสวรรค์​ใน​การ​ทำ​เกษตร​ แม้ว่า​น้อง​เว่ยเว่ย​จะเพาะปลูก​เหมือน​คนอื่น​ แต่​พืชผล​ที่​โต​ขึ้น​มากลับ​ดีกว่า​พวกเขา​…มีชาวบ้าน​บางคน​พูดว่า​น้อง​เว่ยเว่ย​เป็น​เทพธิดา​ผู้ชำนาญ​ใน​การ​ทำ​เกษตร​ลงมา​จุติ​ หลาน​เอง​ก็​เริ่ม​เชื่อ​แล้ว​เหมือนกัน​ ! ”

หลิน​เว่ยเว่ย​เห็น​องค์​ชาย​เจ็ด​ที่​เคย​ชอบ​หาเรื่อง​มาโดยตลอด​กลายเป็น​คน​ที่​ชื่นชม​นาง​อย่าง​ไม่ลืมหูลืมตา​ นาง​จึงรู้สึก​ขัดเขิน​เล็กน้อย​ หลัง​ทดสอบ​หลักการ​ทำ​ปุ๋ยคอก​และ​ปุ๋ยหมัก​แบบ​เหยียบ​มูล​กับ​พระองค์​แล้ว​ นาง​ก็​ไม่ทรมาน​พระองค์​ด้วย​ ‘ก๊าซพิษ​’ อีก​

นาง​เริ่ม​พา​องค์​ชาย​เจ็ด​เข้า​ไร่​ สอน​ว่า​ต้อง​พรวน​ดิน​อย่างไร​ ปรับระดับ​หน้า​ดิน​แบบ​ไหน​ ใส่ปุ๋ย​ครั้งแรก​เมื่อใด​ หว่าน​เมล็ด​พืช​แต่ละ​ชนิด​มีความแตกต่าง​กัน​อย่างไร​…องค์​ชาย​เจ็ด​คาดไม่ถึง​ว่าการ​ทำ​เกษตร​จะมีวิธี​หลากหลาย​ถึงขนาด​นี้​ พระองค์​ถือ​สมุด​และ​ใช้พู่กัน​ขน​ห่าน​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​จดบันทึก​ทุกวัน​เหมือนกับ​นักเรียน​ที่​กำลัง​ตั้งใจ​เรียน​คน​หนึ่ง​

ตอนที่​องค์​ชาย​เจ็ด​เรียนรู้​ ‘เทคนิค​’ ใน​การ​เพาะปลูก​ได้​พอสมควร​ ฤดูร้อน​ก็​เริ่มต้น​ขึ้น​แล้ว​ องค์​ชาย​เจ็ด​อยู่​ใน​ฉลองพระองค์​แบบ​พระ​กร​สั้น​ สวม​พระ​มาลา​ปีก​กว้าง​และ​ถือ​เคียว​มายืน​อยู่​กลาง​ทุ่ง​ข้าวสาลี​สีเหลือง​ทอง​เพื่อ​สัมผัส​กับ​สิ่งที่​เรียก​ว่า​ ‘ความสุข​ของ​การ​เก็บเกี่ยว​ ! ’

หลิน​เว่ยเว่ย​ตะโกนเรียก​อยู่​บน​คันนา​ “องค์​ชาย​เจ็ด​ลอง​เกี่ยว​แค่​สอง​ครั้ง​ก็ได้​แล้ว​ ระวัง​จะโดน​แดด​เผา​ ! ถ้าผิว​โดน​ความคม​ของ​รวง​ข้าวสาลี​แล้ว​ ตอนนั้น​จะทั้ง​คัน​ทั้ง​ปวด​มาก​เลย​เพคะ​ ! ”

องค์​ชาย​เจ็ด​หันไป​ทอดพระเนตร​หลิน​เว่ยเว่ย​ที่​ห่อตัว​แน่นหนา​และ​ยัง​ใส่หมวก​ฟางไว้​ด้วย​ จึงตรัส​ด้วย​รอย​แย้ม​โอษฐ์​ว่า​ “เจ้าเห็น​ข้า​เป็น​คนเดียว​กับ​เมื่อ​สอง​เดือน​ที่แล้ว​หรือ​ไร​ ! วางใจ​ได้​ ตอนนี้​ข้า​ทำ​ไหว​ ! ”

ข้าวสาลี​ที่​เก็บเกี่ยว​เสร็จ​แล้ว​มีผลผลิต​ถึง 240 ชั่งต่อ​หนึ่ง​หมู่​ ! หลิน​เว่ยเว่ย​พอใจ​กับ​มัน​มาก​ ถ้าเปลี่ยนเป็น​ข้าวสาลี​จาก​มิติ​น้ำพุ​วิญญาณ​แล้ว​อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​เพิ่ม​เป็น​เท่าตัว​ !

องค์​ชาย​เจ็ด​ดี​พระทัย​ยิ่งกว่า​อะไร​ “ข้า​อ่าน​รายงาน​ผลผลิต​ของ​อำเภอ​หนิง​ซีมาก่อน​ ผืนดิน​หนิง​ซีแห้งแล้ง​และ​เมื่อก่อน​ได้​ผลผลิต​ถึง 200 ชั่งก็​ถือว่า​สูงมาก​แล้ว​ ! เจ้าเพิ่ง​บุกเบิก​ที่ดิน​ก็ได้​ตั้ง​ 240 ชั่ง ยังมี​อะไร​ไม่พอใจ​อีก​ ? ”

ชาวบ้าน​ที่มา​ช่วย​เกี่ยว​ข้าวสาลี​เหล่านี้​ก็​ยัง​เหมือน​ฤดูใบไม้ร่วง​ของ​ปีก่อน​คือ​ไม่ต้องการ​ค่าตอบแทน​ใด​ ๆ แต่​แย่ง​กัน​ลงทะเบียน​ชื่อ​เอาไว้​ เพราะ​หวัง​ว่า​ตน​จะได้​มีสิทธิ์​ใน​เมล็ดพันธุ์​ข้าวสาลี​…พวกเขา​เชื่อมั่น​ว่า​เมล็ดพันธุ์​ของ​ฝูเห​ริน​นายอำเภอ​เป็น​ของ​ชั้นยอด​ !

หลิน​เว่ยเว่ย​ยัง​จ้างคน​มาไถที่ดิน​อี​กรอบ​ พื้นที่​ทั้งหมด​ถูก​หว่าน​เมล็ด​พืช​ตระกูล​ให้​สารอาหาร​แก่​ดิน​ลง​ไป​ นาง​อธิบาย​ให้​องค์​ชาย​เจ็ด​ฟัง “แม้ว่า​ดินดำ​ของ​ฝั่งนี้​จะอุดมสมบูรณ์​กว่า​ดินทราย​ แต่​พื้นที่​มีจำกัด​ หาก​ปลูก​พืช​ให้​สารอาหาร​ใน​ดิน​ลง​ไป​ ไม่เพียง​ช่วย​แก้ปัญหา​หญ้า​ซึ่งเป็น​อาหาร​ของ​สัตว์​ใน​ฟาร์ม​ หาก​พลิก​หน้า​ดิน​กลบ​หญ้า​ที่​เหลือ​จาก​การ​กิน​ของ​ปศุสัตว์​ก็​ยัง​ช่วย​เพิ่ม​สารอาหาร​แก่​ดิน​ด้วย​ ถือว่า​ได้​โชค​สองชั้น​ หลัง​รอ​ให้​ดิน​อุดมสมบูรณ์​แล้ว​เกี่ยว​ข้าวสาลี​เสร็จ​ก็​ยัง​ปลูก​ถั่วเหลือง​ได้​อีก​ หนึ่ง​ปี​เก็บ​ผลผลิต​สอง​รอบ​เพคะ​ ! ”

องค์​ชาย​เจ็ด​รีบ​เขียน​แนวคิด​ ‘เก็บ​ผลผลิต​สอง​รอบ​ต่อ​ปี​’ ลง​ใน​สมุด​จดบันทึก​ จากนั้น​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทอด​ถอน​หทัย​ออกมา​ “เดิมที​คิด​ว่า​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​สอง​รอบ​จะมีแค่​ทางใต้​เท่านั้น​ คาดไม่ถึง​ว่า​ทาง​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ก็​ทำได้​เช่นกัน​ ถ้าเป็น​แบบนี้​พวก​ราษฎร​ก็​มีรายได้​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​อย่าง​แล้ว​ ! ”

ผ่าน​ไป​อีก​สอง​เดือน​ก็​เข้าสู่​การ​เก็บเกี่ยว​ข้าวโพด​ มีราษฎร​จาก​นอก​อำเภอ​ไม่น้อย​ที่​นำ​เครื่อง​นอนมา​ช่วย​หัก​ข้าวโพด​และ​ตัด​ต้น​ข้าวโพด​ เรื่องราว​ของ​ฝูเห​ริน​นายอำเภอ​หนิง​ซีค่อย ๆ​ เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​…แค่​ออกแรง​ก็​สามารถ​ยืม​เมล็ดพันธุ์​ที่​ให้​ผลผลิต​สูงมาก่อน​ได้​ !

คน​พวก​นี้​หอบ​ความหวัง​มาที่​อำเภอ​หนิง​ซีและ​ได้​เห็น​ข้าวโพด​ฝักยาว​ใน​ไร่​ด้วย​ตา​ตัวเอง​ ดู​ท่าจะ​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​ได้ดี​ใช่ย่อย​ ย้อน​ไป​มอง​ทาง​ฝั่งของ​ตน​…เก็บ​ผลผลิต​ได้​เพียง​ 200 ชั่งเท่านั้น​ ยัง​ไม่รู้​ว่า​จะผ่าน​ฤดูหนาว​และ​ฤดูใบไม้ผลิ​ที่​ขาดแคลน​อาหาร​ได้​หรือเปล่า​ พวกเขา​ต่าง​อิจฉา​ราษฎร​ใน​อำเภอ​หนิง​ซีที่​นอกจาก​จะมีนายอำเภอ​ที่​คิด​ทำ​เพื่อ​ราษฎร​ แล้ว​ยังมี​ภรรยา​นายอำเภอ​ที่​ชำนาญ​ใน​การ​ทำ​เกษตร​อีก​คน​ พวกเขา​นึก​เกลียด​ตัวเอง​ที่​ไม่ใช่ราษฎร​ใน​อำเภอ​หนิง​ซี !

หันไป​มอง​หมู่บ้าน​คน​บาป​ที่​ทั้ง​ยากจน​และ​ยากลำบาก​ที่สุด​ใน​ตะวันตกเฉียงเหนือ​อี​กรอบ​ ตอนนี้​พวกเขา​ก็​กำลัง​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​อย่าง​มีความสุข​ หลัง​นายอำเภอ​คน​ใหม่​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​แล้ว​การเปลี่ยนแปลง​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​ก็​คือ​หมู่บ้าน​คน​บาป​ สามารถ​แผ้วถาง​พื้นที่​รกร้าง​ให้​เป็น​ของ​ตน​ เวลา​ออก​ไป​ทำงาน​นอกบ้าน​ก็​ไม่โดน​ขับไล่​หรือ​ดูถูก​เหมือน​อดีต​แล้ว​ ถูก​ปฏิบัติ​เหมือน​สามัญชน​ทั่วไป​…อ้อ​ จริง​สิ นายอำเภอ​และ​ฝูเห​ริน​ยัง​บอ​กว่า​พวกเขา​เป็น​สามัญชน​ ไม่มีอะไร​แตกต่าง​จาก​ชาวบ้าน​คนอื่น​ พอ​ผู้เฒ่าผู้แก่​ใน​หมู่บ้าน​คน​บาป​ได้ยิน​อย่างนั้น​ก็​น้ำตา​นองหน้า​ทันที​…ในที่สุด​พวกเขา​ก็​จะได้​ยืน​หลัง​ตรง​ ไม่ต้อง​ทำตัว​เหมือน​หนู​ท่อ​และ​ปล่อย​ให้​คน​มาทุบตี​ได้​ตามใจชอบ​อีกแล้ว​ !

ขณะ​มอง​สีหน้า​และ​จิตใจ​ของ​ชาวบ้าน​ใน​อำเภอ​หนิง​ซีที่​แตกต่าง​ไป​จาก​พวก​ตน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ชาวบ้าน​ที่​มาจาก​นอก​อำเภอ​เหล่านั้น​ก็​หวัง​ใน​เมล็ดพันธุ์​ให้​ผลผลิต​สูงสุด​ ๆ แต่​ก็​ยัง​กังวล​ด้วย​เช่นกัน​ ‘ฝูเห​ริน​นายอำเภอ​จะให้​พวก​ตน​ซื้อ​เมล็ดพันธุ์​ได้​จริง​หรือ​ ? ’

หลิน​เว่ยเว่ย​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ราษฎร​ต่าง​อำเภอ​เหล่านี้​ ประการ​แรก​คือ​ราษฎร​ใน​อำเภอ​หนิง​ซีต่าง​ปลูก​ข้าวโพด​ให้​ผลผลิต​สูงเอง​พอสมควร​แล้ว​ ในเวลานี้​ก็​กำลัง​เก็บเกี่ยว​ผลผลิต​ของ​ตน​ ประการ​ที่สอง​คือ​ปี​นี้​มีเมล็ดพันธุ์​ข้าวโพด​จำนวนมาก​ การ​แบ่ง​ให้​ราษฎร​ต่าง​อำเภอ​ก็​ใช่ว่า​จะเป็นไปไม่ได้​!

ผู้อาวุโส​เฉิน​ (ปู่​ของ​เฉิน​หยุ​น)​ กำลัง​นั่ง​ลงทะเบียน​รายชื่อ​พวก​ชาวบ้าน​ที่มา​ช่วย​งาน​ ชื่อ​แซ่ ที่อยู่​ สมาชิก​ใน​ครอบครัว​ ที่ดิน​ของ​ครอบครัว​ ล้วน​ถูก​จด​ลง​ใน​ตาราง​ทีละ​คน​ สำหรับ​ด้าน​ฟาร์ม​ปศุสัตว์​นั้น​ เขา​พา​พวก​เด็ก​ฝึกงาน​และ​คน​ที่​ฝูเห​ริน​นายอำเภอ​สอน​ ‘เทคนิค​การ​เพาะพันธุ์​ปศุสัตว์​’ ไป​ดูแล​พวก​ปศุสัตว์​เหล่านั้น​

คน​ที่มา​ช่วย​งาน​มีจำนวนมาก​ ผ่าน​ไป​ไม่ถึง 5 วัน​ ข้าวโพด​ใน​ไร่​ก็​ถูก​เก็บ​เข้า​โกดัง​ รวมถึง​ต้น​ข้าวโพด​ใน​ไร่​ก็​ถูก​ตัด​มาเป็น​อาหารสัตว์​ แม้แต่​ราก​ข้าวโพด​ใน​ดิน​ก็​ถูก​ขุด​ออกมา​ตากแดด​บน​พื้น​ไร่​เพื่อ​เก็บ​ไว้​ใช้ทำ​ฟืน​อุ่น​เตียง​เตา​ให้​พวก​สัตว์​ที่เกิด​ใหม่​ใน​ฤดูหนาว​…

หลังจาก​ข้าวโพด​แห้ง​แล้วก็​ยังมี​การ​จ้างคนงาน​ชั่วคราว​มาแกะ​เมล็ด​ออกจาก​ฝัก​ คน​ส่วนใหญ่​มาจาก​ต่าง​อำเภอ​ เป็น​ประเภท​ขอ​แค่​ได้​ลงทะเบียน​ไม่เอา​ค่าแรง​ทั้งสิ้น​ ทันใดนั้น​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​มีความรู้สึก​ว่า​ตน​กำลัง​ ‘จับเสือมือเปล่า​’ ขึ้น​มา…เพราะ​คน​ที่มา​รับ​เมล็ดพันธุ์​ข้าวโพด​ใน​ปี​นี้​จะต้อง​เอา​ธัญพืช​มาคืน​ใน​ราคา​สิบ​เท่า​ พวกเขา​ทำงานหนัก​ตั้ง​หลาย​วัน​ แต่​ก็​แค่​อยาก​ให้​ตน​ได้​ลงทะเบียน​มีสิทธิ์​รับ​เมล็ดพันธุ์​ก่อน​ใคร​เท่านั้น​…

มีคำ​กล่าวว่า​ภูผา​วารี​ที่​ยากแค้น​หล่อเลี้ยง​พวก​ดื้อด้าน​นั้น​ไม่ใช่เพราะ​ความยากจน​เป็นต้นเหตุ​หรือ​อย่างไร​ ? ถ้ามีทางรอด​ให้​บ้าง​แล้ว​ใคร​ยัง​จะยอม​เสี่ยง​เป็น​ศัตรู​กับ​ทางการ​ ? ในความเป็นจริง​แล้ว​ ความคิด​ของ​พวก​ชาวบ้าน​นั้น​เรียบง่าย​มาก​ ขอ​แค่​พวกเขา​มีความหวัง​เล็กน้อย​ก็​สามารถ​ทำงานหนัก​โดย​ไม่ตัดพ้อ​อัน​ใด​…

แน่นอน​ว่า​มีคน​จิตใจ​ไม่บริสุทธิ์​แฝงกาย​อยู่​ด้วย​ แต่​ไม่เป็นไร​หรอก​ ขอ​แค่​ช่วย​งาน​ได้​ก็​มีสิทธิ์​เท่าเทียม​ ! เนื่องจาก​เมล็ดพันธุ์​ข้าวโพด​ให้​ผลผลิต​สูงเหล่านี้​ใช่ว่า​ใคร​ก็​สามารถ​ปลูก​ได้​ เพราะ​…

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

Status: Ongoing
นักศึกษาเรียนดีจากวิทยาลัยเกษตรทะลุมิติมาเป็นเด็กสาวชาวนาผู้โง่เขลาและมีนิสัยป่าเถื่อน บิดาก็ตาย มารดาก็อ่อนแอ น้องชายดันมาตีตัวออกห่าง ส่วนพี่สาวก็มักจะคิดว่าเธอเป็นภาระเสมอ แต่โชคดีที่เธอมีมิติน้ำพุวิญญาณอยู่ในมือ เธอทั้งกลายเป็นนักล่าหมูป่า ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจ ใช้น้ำพุวิญญาณมาปลูกพืชพันธุ์จนได้ผลผลิตดีงาม ทำสวนก็ได้ผลผลิตดี เลี้ยงสัตว์ก็เติบโต ไหนจะเสน่ห์ปลายจวักอีก เด็กโง่เขลาคนนี้นี่แหละจะนำพาทั้งครอบครัวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเอง ! ทว่าบัณฑิตหนุ่มหน้าหวานจอมหยิ่งคนข้างบ้านเนี่ย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ? คิดว่าเป็นขุนนางแล้วใครจะทำอะไรไม่ได้หรือ ? สุดท้ายก็ถูกเด็กโง่คนนี้กำราบไม่ใช่หรือไง ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน