หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง – ตอนที่ 658 ขุนนางขั้นสองรูปงาม

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

ตอนที่​ 658 ขุนนาง​ขั้น​สอง​รูปงาม​

แต่​ยังมี​คน​ที่​สติ​ดี​อยู่​เหมือนกัน​ ‘ไป​ทำงาน​ใน​ชนบท​แล้ว​อย่างไร​ ? ไม่มอง​บ้าง​ว่า​พี่สาว​และ​พี่เขย​ของ​เขา​เป็น​ใคร​ ? ตอน​เป็น​นาย​ท่าน​จอหงวน​นั้น​พี่เขย​รอง​ของ​เขา​ก็​ถูก​ส่งไป​ยัง​อำเภอ​ยากจน​ใน​ตะวันตกเฉียงเหนือ​อัน​แสน​แร้นแค้น​ พวก​เจ้าก็​คิด​แบบนี้​ต่อ​เขา​เหมือนกัน​ แล้ว​ผลลัพธ์​เล่า​ ? อำเภอ​หนิง​ซีกลายเป็น​อำเภอ​มีชื่อเสียง​ที่สุด​ใน​ภาค​ตะวันตกเฉียงเหนือ​และ​หลังจากที่​พัฒนา​การเกษตร​กับ​เศรษฐกิจ​ของ​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ แล้ว​เขา​ก็ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​สี่ใน​ชั่วพริบตา​ !

เมล็ดพันธุ์​ข้าว​ขาว​ให้​ผลผลิต​สูงที่​พี่สาว​ของ​เขา​พัฒนา​ขึ้น​ใน​ฟาร์ม​หลวง​ยัง​ไม่มีโอกาส​ได้​ไป​ทดลอง​และ​ป่าวประกาศ​ที่​แดน​ใต้​อยู่​พอดี​ ถ้าเมล็ดพันธุ์​ข้าว​ขาว​ให้​ผลผลิต​สูงพวก​นี้​เข้ากับ​สภาพอากาศ​ของ​แดน​ใต้​ได้​ เกรง​ว่า​ชนบท​ใน​สายตา​พวก​เจ้าก็​อาจ​กลายเป็น​อำเภอ​หนิง​ซีแห่ง​ที่สอง​ก็ได้​ ! และ​การ​ไป​ทำงาน​ใน​พื้นที่​แร้นแค้น​ก็​ไม่ใช่การ​ถูก​เนรเทศ​ แต่​เป็น​เพราะ​เห็นคุณค่า​และ​อยาก​ทดสอบ​ตัว​เขา​ต่างหาก​ หาก​ทั่น​ฮวา​อดทน​กับ​บท​ทดสอบ​ได้​ ในอนาคต​เวลา​กลับ​มายัง​เมืองหลวง​แห่ง​นี้​ ฮึ ไม่ต้อง​ใช้สมอง​ ใคร​ก็​คง​มองออก​ ! ’

ตอนที่​หลิน​จื่อเหยียน​แต่งงาน​ก็​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​เกี่ยวข้าว​ขาว​ของ​ฟาร์ม​หลวง​พอดี​ ผลผลิต​สูงถึง 500 ชั่งต่อ​หมู่​ หลัง​รอ​ให้​เขา​แต่งงาน​และ​กลับ​ไป​อยู่​บ้าน​ได้​ 3 วัน​ ทั้งสอง​สามีภรรยา​ก็​ขน​เมล็ดพันธุ์​ข้าว​ขาว​ลง​ใต้​เพื่อ​ไป​รับ​ตำแหน่ง​แล้ว​

หลิน​เว่ยเว่ย​รู้​ว่า​น้องชาย​ต้อง​ไป​รับ​ตำแหน่ง​ใน​เขต​หุบเขา​จึงให้​เจ้าดำ​และ​เจ้าพยัคฆ์​ดำ​ (ลูก​ของ​เจ้าดำ​) ตาม​ไป​ดูแล​ ตอนที่​หลิน​จื่อเหยียน​ไป​เยือน​หมู่บ้าน​บน​หุบเขา​ แม่ทัพ​อย่าง​เจ้าดำ​และ​เจ้าพยัคฆ์​ดำ​ก็​คอย​ปกป้อง​ขนาบ​ข้าง​เขา​ไว้​ตลอด​ พูด​กัน​ว่า​เวลา​หมาป่า​ทั้งสอง​ตัว​ร่วมมือ​กัน​ยัง​สามารถ​ฆ่าเสือ​ที่​ดุร้าย​จนตาย​ได้​ !

หลิน​จื่อเหยียน​ได้​กิน​ของป่า​เสมอ​และ​ยัง​ชวน​เพื่อนร่วมงาน​กับ​ผู้​ที่อยู่​ใต้​บังคับบัญชา​มารับประทาน​อาหารเย็น​ที่​บ้าน​บ่อย ๆ​ ด้วย​ อาหาร​และ​ขนม​สอง​สามอย่าง​ที่​โม่ชิงหลี​เรียน​ทำ​จาก​หลิน​เว่ยเว่ย​จึงมีประโยชน์​สุด​ ๆ นอกจากนี้​หลิน​จื่อเหยียน​ยัง​ใช้เนื้อ​หมูป่า​แผ่น​และ​เนื้อ​กวาง​แผ่น​จาก​เมืองหลวง​มาเป็น​ของขวัญ​เพื่อ​ผูกมิตร​กับ​ขุนนาง​คนอื่น​ใน​ที่ว่าการอำเภอ​ เวลาทำงาน​จึงราบรื่น​กว่า​เดิม​

เขา​สร้าง​นา​ขั้นบันได​ สร้าง​อ่างเก็บน้ำ​ ใช้กังหันน้ำ​ชัก​น้ำลง​จาก​ภูเขา​ รวม​กับ​เมล็ดพันธุ์​ข้าว​ขาว​ให้​ผลผลิต​สูงจึงได้ใจ​ของ​ราษฎร​อย่าง​รวดเร็ว​…

หลังจาก​พี่ชาย​สอบ​จิ้น​ซื่อ​ได้​แล้ว​ เสี่ยว​เอ้อร์ฮว๋า​ก็​ขยัน​อ่าน​ตำรา​มากกว่า​เดิม​ เพราะ​เดิมที​เขา​ก็​เป็น​คน​ฉลาด​อยู่แล้ว​ สามารถ​เชื่อมโยง​จาก​สิ่งหนึ่ง​ไป​อีก​สิ่งหนึ่ง​ได้​ง่าย​ ในขณะที่​เขา​อายุ​ได้​ 12 ปี​ก็​เดินทาง​กลับ​ไป​สอบ​ระดับ​เซี่ยน​ซื่อ​โดย​มีแม่ทัพ​หลิน​เดินทาง​ไปเป็นเพื่อน​และ​ยัง​สอบ​เซี่ยน​ซื่อ​ ฝู่ซื่อ​ เยวี่ยน​ซื่อ​ผ่าน​ได้​ใน​ปี​เดียว​จึงกลายเป็น​ซิ่ว​ไฉได้​อย่าง​สมเกียรติ​ ทำตาม​คำมั่นสัญญา​ในเวลานั้น​ของ​ตน​ได้​สำเร็จ​…ทำลายสถิติ​ที่​พี่ชาย​เป็น​ซิ่ว​ไฉอายุ​น้อยที่สุด​ได้​สำเร็จ​อีกด้วย​ เขา​ยัง​กลายเป็น​ซิ่ว​ไฉอายุ​น้อยที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​เมือง​จงโจว​…

เมื่อ​ช่วง​เวลาทำงาน​ 2 ปี​ใน​เขต​ปกครอง​ซุ่น​เทียน​ของ​เจียง​โม่หา​นจบลง​แล้ว​ ช่างชูกรม​คลัง​และ​ช่างชูกรมโยธาธิการ​ก็​ต้อง​ทะเลาะ​กัน​เกือบ​เลือดอาบ​เพราะ​อยาก​ให้​เขา​มาเข้าทำงาน​ที่​กรม​ของ​ตน​ แล้ว​จะได้​เป็น​ผู้ช่วย​ให้​แก่​ตน​

ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​และ​ชื่อ​หลา​งก​รม​โยธา​ธิการ​ “…” พวก​ท่าน​ยัง​เห็น​หัว​พวก​ข้า​อยู่​หรือไม่​ ?

ต่อจากนั้น​ไม่นาน​ ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​ก็​ถูก​เฝิงชิว​ฟาน​กล่าวโทษ​และ​ถูก​ปลด​จาก​ตำแหน่ง​พร้อม​ยึดทรัพย์​ทั้ง​ตระกูล​ เจียง​โม่หา​น​ใน​ช่วงอายุ​ 21 ปี​จึงได้​เลื่อนขั้น​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ โดย​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​ขั้น​สาม

ชื่อ​หลา​งกรม​โยธา​ธิการ​ใจสั่น​พลาง​มองหน้า​เจ้านาย​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ‘โชคดี​ที่​ท่าน​ไม่ได้​แย่ง​ชนะ​ช่างชูกรม​คลัง​ เช่นนั้น​ก็​ไม่รู้​ว่า​ข้า​จะได้​รับโทษ​สถาน​ใด​เพื่อ​สร้าง​ตำแหน่งว่าง​ให้​เจียง​โม่หา​นค​น​นั้น​ ! ’

อนาคต​ของ​เจียง​โม่หา​น​เหมือน​ทาง​ที่​ถูก​โรย​ไว้​ด้วย​กลีบ​กุหลาบ​ ได้รับ​ไฟเขียว​ตลอดทาง​ ไร้​อุปสรรค​ใดๆ​ ระหว่าง​ที่​เขา​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​ได้​ 3 ปี​ พื้น​ที่ทาง​ภาคเหนือ​และ​ภาค​กลาง​ต่าง​ปลูก​ข้าวสาลี​และ​ข้าวโพด​ที่​ให้​ผลผลิต​สูงทั้งหมด​ แสดงให้เห็น​ถึงแผ่นดิน​ต้าเซี่ย​ที่​กลายเป็น​แหล่งผลิต​อาหาร​ไป​แล้ว​

การ​ปลูก​ข้าว​ขาว​ให้​ผลผลิต​สูงของ​ภาคใต้​ก็​ประสบความสำเร็จ​ตั้ง​แต่ต้น​ เทคนิค​การ​ปลูก​แบบ​ขั้นบันได​เริ่ม​เข้าที่เข้าทาง​ อีกไม่นาน​ก็​จะถูก​ส่งเสริม​ให้​พื้นที่​ใน​แถบ​ภูเขา​ได้​เพาะปลูก​บ้าง​

องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ภรรยา​ที่​ดี​ของ​ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​ก็​ทำตาม​การเกษตร​แบบ​ผสมผสาน​ นาง​เสนอ​ว่า​ดินแดน​แห่ง​สายน้ำ​อย่าง​แดน​ใต้​เหมาะ​แก่​การ​เพาะพันธุ์​ ‘หนอน​ไหม​ ข้าว​ขาว​และ​ปลา​’ สามารถ​ขุด​บ่อ​เก็บ​น้ำ​ เลี้ยง​หนอน​ไหม​เป็น​พื้นฐาน​โดย​ใช้ใบ​หม่อน​เป็น​อาหาร​ ใน​บ่อ​ก็​เลี้ยง​ปลา​ พอ​หนอน​ไหม​กิน​ใบ​หม่อน​แล้ว​ปลา​ก็​กิน​มูล​หนอน​ โคลน​ใน​บ่อ​เป็น​สารอาหาร​ให้​นา​ข้าว​และ​ต้น​หม่อน​ น้ำ​ที่​เหลือ​ใน​บ่อ​ยัง​นำมา​ทำ​เป็นระบบ​ชลประทาน​ได้​ วงจร​หมุนเวียน​มีแต่​ประโยชน์​

ฮ่องเต้​หยวน​ชิงจึงย้าย​หลิน​จื่อเหยียน​ที่​เป็น​นายอำเภอ​อยู่​ใน​หุบเขา​นาน​ถึงสี่ปี​มาเป็น​จือ​โจว​ (ตำแหน่ง​รอง​จาก​เจ้าเมือง​) แห่ง​เมือง​ฉวี​โจว​ นอกจากนี้​ยัง​ประทาน​อนุญาต​ให้​นำ​พื้นที่​กว่า​ 800 หมู่​มาใช้เป็น​ฟาร์ม​ทดลอง​เพื่อ​ทดลอง​การ​เพาะพันธุ์​ ‘หนอน​ไหม​ ข้าว​ขาว​และ​ปลา​’ โดยเฉพาะ​ เจียง​โม่หา​น​และ​ภรรยา​จึงได้​มีโอกาส​ไป​เยี่ยม​ญาติ​…เพื่อ​ช่วย​ชี้แนะ​วิธี​สร้าง​ฟาร์ม​หลวง​ ณ แดน​ใต้​

เสี่ยว​หมี่​ลี่​ที่​อายุ​เกือบ​ห้า​ขวบ​แล้ว​ก็ตาม​บิดา​มารดา​ไปเที่ยว​ แต่​อย่า​คิด​ว่า​นาง​จะได้​เที่ยว​สมใจ ! เพราะ​ต้อง​อยู่​แต่​ใน​ที่ว่า​การเมือง​ฉวี​โจว​เท่านั้น​เพื่อ​คอย​ดูแล​ลูกพี่ลูกน้อง​อย่าง​หลิน​กว่าง​หง​ (บุตรชาย​ของ​หลิน​จื่อเหยียน)​ ที่​เพิ่ง​หัด​คลาน​ แต่​ความเร็ว​ใน​การ​คลาน​นั้น​สูงมาก​ ใน​แต่ละวัน​เสี่ยว​หมี่​ลี่​ต้อง​คอย​ตามหลัง​น้องชาย​ ระวัง​ไม่ให้​เขา​คลาน​ออก​ไป​จาก​บ้าน​หรือไม่​ให้​เขา​คลาน​ลง​บันได​…ช่างน่า​เหนื่อยใจ​เหลือเกิน​

หลัง​รอ​ให้​วิธี​เพาะพันธุ์​ ‘หนอน​ไหม​ ข้าว​ขาว​และ​ปลา​’ แบบ​หมุนเวียน​นี้​เป็นที่​พิสูจน์​และ​ยอมรับ​แล้ว​ ข้าว​พันธุ์ผสม​ของ​หลิน​เว่ยเว่ย​ก็​ให้​ผลลัพธ์​ จาก​ผลผลิต​ข้าว​ขาว​ 500 ชั่งขึ้นไป​ถึง 800 ชั่งต่อ​หมู่​ คาด​ว่า​ใน​อีก​สอง​ปี​ข้างหน้า​ก็​คง​ทะลุ​ 1,000 ชั่งแล้ว​ ฮ่องเต้​หยวน​ชิงดี​พระทัย​มาก​จึงพระราชทาน​รางวัล​ให้​จวน​สกุล​เจียง​อย่าง​ต่อเนื่อง​

หลังจากที่​เจียง​โม่หา​น​เข้า​รับ​ตำแหน่ง​ชื่อ​หลา​งก​รม​คลัง​ได้​สามปี​แล้ว​ ช่างชูกรมโยธาธิการ​ก็​ลง​จาก​ตำแหน่ง​ เขา​จึงได้​กระโดด​ขึ้นไป​อี​กรอบ​โดย​นั่ง​ใน​ตำแหน่ง​ช่างชูขุนนาง​ขั้น​สอง​ ตอน​เข้า​ประชุม​ราชสำนัก​ ใน​หมู่​ขุนนาง​ผม​ขาว​ทั้งหลาย​กลับ​มีขุนนาง​หนุ่ม​รูปงาม​ยืน​อยู่​อย่าง​สะดุดตา​ ทั้ง​ดู​น่า​เหลือเชื่อ​และ​เข้ากันได้ดี​

ขุนนาง​ขั้น​สอง​ที่​อายุ​ไม่ถึง 25 ปี​และ​ยัง​หล่อเหลา​เหมือน​เทพบุตร​ จึงทำให้​สตรี​ใน​เมืองหลวง​จำนวน​ไม่น้อย​อยาก​โดน​เขา​รับ​เป็น​อนุ​ แต่​บ้าน​ที่​เปิดเผย​ว่า​จะส่งบุตรสาว​มาเป็น​อนุ​เหล่านั้น​ ไม่บิดา​ก็​พี่ชาย​ของ​พวก​นาง​มักจะ​ต้อง​โดน​กระสอบ​คลุม​ศีรษะ​แล้ว​โดน​รุม​ทุบตี​ทุกราย​ไป​

บางครั้ง​เป็น​ฝีมือ​ของ​ห​มิน​อ๋อง​ บางครั้ง​เป็น​แม่ทัพ​หลิน​และ​ยังมี​บางครั้ง​ที่​พวกเขา​ร่วมมือ​กัน​…กล้า​คิด​ทำลาย​ชีวิตคู่​ของ​บุตรสาว​พวก​ตน​ ดังนั้น​การปกป้อง​บุตรสาว​โดย​ทุบตี​พวก​มัน​ก็​ถูกต้อง​แล้ว​ !

ขุนนาง​บางคน​บอ​กว่า​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ไร้​คุณธรรม​ แต่งงาน​จะครบ​ 10 ปี​แล้วแต่​คลอด​บุตรสาว​ออกมา​แค่​คนเดียว​และ​ยัง​ไม่อนุญาต​ให้​เจียง​ช่างชูรับ​อนุ​ สร้างชื่อเสียง​ ‘สตรี​ขี้​อิจฉาริษยา​’ ออกมา​…

หลิน​เว่ยเว่ย​โมโห​จน​ซื้อ​ตัว​อาชา​ผอมแห้ง​หยาง​โจว​1 มาจำนวน​หลาย​คน​ จากนั้น​ก็​ส่งไป​ให้​บุตร​เขย​ของ​ขุนนาง​เหล่านั้น​…เจ้าไม่ได้​บอ​กว่า​ข้า​ขี้​อิจฉาริษยา​อย่างนั้น​หรือ​ ? ได้​ ! ถ้าเช่นนั้น​พวก​เจ้าก็​ทน​กับ​บุตร​เขย​ที่​โปรดปราน​อนุ​แล้ว​ทำลาย​ภรรยา​หลวง​อย่าง​บุตรสาว​พวก​เจ้าไป​เถิด​ ! นับแต่​นั้น​เป็นต้นมา​ ด้าน​ข้าง​ของ​ขุนนาง​เหล่านั้น​ หาก​ไม่มีภรรยา​มาร้องไห้​ให้​ฟัง ก็​เป็น​บุตรสาว​มาโวยวาย​จึงไม่มีเวลา​มาหาเรื่อง​นาง​พักใหญ่​

หลิน​เว่ยเว่ย​โกรธ​จน​มึนหัว​ตาลาย​ ข้าว​ก็​กินไม่ลง​…ขุนนาง​พวก​นี้​ว่าง​กัน​จริงๆ​ เอาแต่​จ้อง​เรือน​หลัง​ของ​คนอื่น​ เก่ง​จริง​ก็​ทำ​สิ่งที่​มีประโยชน์​สิ สร้าง​คุณ​ให้​แผ่นดิน​ ทำเป็น​หรือไม่​ !

เมื่อ​ภรรยา​อารมณ์เสีย​ก็​เป็นธรรมดา​ที่​หัวใจ​ของ​เจียง​โม่หา​น​ก็​จะลุกเป็นไฟ​เช่นกัน​ เขา​รวบรวม​สิ่งที่​ขุนนาง​เหล่านั้น​กระทำ​ทุจริต​และ​ติดสินบน​เจ้าหน้าที่​ รังแก​ชาวบ้าน​และ​ยัง​มีเรื่อง​สกปรก​ต่างๆ​ ส่งไป​ให้​ผู้​ตรวจราชการ​อย่าง​เฝิงชิว​ฟาน​โดยไม่เปิดเผย​ชื่อ​ของ​ตน​

เฝิงชิว​ฟาน​เป็น​เหมือน​หมา​บ้า​ที่​ได้กลิ่น​เหม็น​เน่า​ เขา​เพ่งเล็ง​ขุนนาง​เหล่านั้น​ทันที​ ท้ายที่สุด​ขุนนาง​พวก​นั้น​ก็​ต้อง​มีจุดจบ​แบบ​ร่วงหล่น​จาก​ตำแหน่ง​ ทรัพย์สิน​โดน​ริบ​…ฮ่องเต้​หยวน​ชิงโปรด​การ​ลงโทษ​แบบ​ยึด​ทรัพย์สมบัติ​ที่สุด​ เพราะ​สามารถ​เอา​ผลประโยชน์​ที่​ได้มา​โดย​ไม่ชอบ​ของ​อีก​ฝ่าย​เข้า​คลัง​หลวง​!

ฮ่องเต้​หยวน​ชิงยัง​แต่งตั้ง​ให้​เสี่ยว​หมี่​ลี่​เป็น​เสี้ยน​จู่เพื่อ​บ่งบอกถึง​ความรัก​อัน​แสน​ลำเอียง​ที่​มีต่อ​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย…​เจียง​โม่หา​น​จะรับ​อนุ​หรือไม่​ก็​เป็นเรื่อง​ใน​ครอบครัว​ คนนอก​ไม่ต้อง​ยุ่ง​ !

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ ข่าว​ที่​องค์​หญิง​เว่ยเว่ย​ตั้งครรภ์​ก็​กระจาย​ออก​ไป​และ​ก็​ตั้งครรภ์​ได้​ 3 เดือน​แล้วด้วย​ หมี่​ลี่​เสี้ยน​จู่โอ้อวด​คนอื่น​น่าดู​…ข้า​จะมีน้อง​แล้ว​ ! นาง​ถามมารดา​ด้วย​ความไร้เดียงสา​ว่า​ “น้อง​ชอบ​คลาน​ไป​ไหน​มาไหน​เหมือน​น้องชาย​ที่​บ้าน​ท่าน​น้า​หรือเปล่า​เจ้าคะ​ ? ลูก​ใช้เชือก​มัด​น้อง​ไว้​ได้​หรือไม่​ ? ไม่อย่างนั้น​ลูก​ได้​เอาแต่​คอย​ดู​น้อง​ทั้งวัน​แน่นอน​ แบบ​นั้น​ลูก​ต้อง​เหนื่อย​มาก​ไม่ใช่หรือ​เจ้าคะ​ ? ”

[i]

1 อาชา​ผอมแห้ง​หยาง​โจว​ หมายถึง​ หญิงสาว​ชาว​หยาง​โจว​ที่​ได้รับ​การ​ฝึกอบรม​พิเศษ​และ​พร้อม​ที่จะ​แต่งงาน​กับ​ผู้มั่งคั่ง​ใน​ฐานะ​อนุภรรยา​

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

Status: Ongoing
นักศึกษาเรียนดีจากวิทยาลัยเกษตรทะลุมิติมาเป็นเด็กสาวชาวนาผู้โง่เขลาและมีนิสัยป่าเถื่อน บิดาก็ตาย มารดาก็อ่อนแอ น้องชายดันมาตีตัวออกห่าง ส่วนพี่สาวก็มักจะคิดว่าเธอเป็นภาระเสมอ แต่โชคดีที่เธอมีมิติน้ำพุวิญญาณอยู่ในมือ เธอทั้งกลายเป็นนักล่าหมูป่า ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจ ใช้น้ำพุวิญญาณมาปลูกพืชพันธุ์จนได้ผลผลิตดีงาม ทำสวนก็ได้ผลผลิตดี เลี้ยงสัตว์ก็เติบโต ไหนจะเสน่ห์ปลายจวักอีก เด็กโง่เขลาคนนี้นี่แหละจะนำพาทั้งครอบครัวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองเอง ! ทว่าบัณฑิตหนุ่มหน้าหวานจอมหยิ่งคนข้างบ้านเนี่ย คิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ? คิดว่าเป็นขุนนางแล้วใครจะทำอะไรไม่ได้หรือ ? สุดท้ายก็ถูกเด็กโง่คนนี้กำราบไม่ใช่หรือไง ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท