เมื่อหลี่ฉางโซ่วเดินทางครอบคลุมพื้นที่ไปได้กว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ปริมาณน้ำลายมังกรพิษฉื้อหยางที่มีอยู่ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
ทว่าการค้นหาไปตามพื้นที่ซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณรวมถึงการสำรวจไปรอบๆ ป่าสมบัติโกลาหลของเขาล้วนไร้ผลใดๆ
สามวันหลังจากที่เขาช่วยชีวิตโหย่วฉินเสวียนหย่าโดยบังเอิญ หลี่ฉางโซ่วก็ยังไม่พบหญ้าสลายเซียน อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนเทวะอุดร เขาก็ได้เก็บเกี่ยวสมุนไพรที่มีประโยชน์ สมุนไพรพิษ และสมุนไพรวิญญาณอีกมากมาย
เขายังจับ ‘แมลงเผาศพ’ ล้ำค่าได้สองตัว ซึ่งสามารถนำไปสกัดกลั่นเป็นผงเผาศพได้ และนี่จะทำให้หลี่ฉางโซ่วมีวิธีการจัดการกับศพเพิ่มขึ้นเป็นสิบสองวิธี
แม้จะรู้สึกหงุดหงิดภายในใจเล็กน้อย แต่หลี่ฉางโซ่วก็ไม่เคยลืมว่าเขาอยู่ในสถานที่อันตรายอย่างดินแดนเทวะอุดร ความระมัดระวังตัวจึงไม่เคยลดน้อยถอยลง
ตามหลักเหตุผลแล้วแม้หญ้าสลายเซียนจะล้ำค่าอย่างยิ่ง แต่ก็นับเป็นสมุนไพรพิษที่แปลกแตกต่างออกไป น้อยคนนักที่จะต้องการมัน
และพื้นที่เหล่านี้ที่หลี่ฉางโซ่วค้นหาทั้งหมดก็เป็นไปตามสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตของหญ้าสลายเซียน แต่กลับไม่เห็นกระทั่งต้นกล้าของมันแม้แต่ต้นเดียว…
มันแปลกมากจริงๆ
หลี่ฉางโซ่วพยายามอย่างเต็มที่ที่จะแบ่งเวลาระหว่างการฝึกฝนหนักเพื่อมาอ่านตำราโบราณทั้งหมดที่เกี่ยวกับพิษและสมุนไพรมาหลายสิบปี กลายเป็นว่าทั้งหมดที่เขาอ่านมานั้นล้วนเป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้นหรือไม่
แน่นอนว่ามันเป็นเพราะอาจารย์เฒ่าไม่มีโชควาสนาเสียเลยจริงๆ
หลี่ฉางโซ่วทำได้เพียงปลอบตัวเองในลักษณะนี้เท่านั้น เขาต้องการขจัดความขุ่นเคืองในใจขณะที่เริ่มคิดถึงว่าควรจะกลับเมื่อใด
เขาต้องเดินทางไปยังทิศตะวันตกมากขึ้นอีกสองร้อยลี้!
หากเขายังหาไม่พบก็มีเพียงต้องยอมแพ้ แล้วไปในเมืองดูว่ามีหญ้าสลายเซียนขายหรือไม่ แน่นอนว่า…ความหวังนั้นย่อมเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลี่ฉางโซ่วขยับฝีเท้าอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาพเงาติดตามใต้เท้าของเขา เขาต้องการทำภารกิจในการเดินทางส่วนสุดท้ายนี้ให้สำเร็จ
หลังจากสำรวจมาได้ห้าสิบลี้ เขาก็ยังไม่พบสิ่งใดเลย
หลี่ฉางโซ่วยังคงค้นหาต่อไป หลังจากสำรวจไปได้รวมหนึ่งร้อยลี้ โดยตระเวนไปทั่วพื้นที่ทั้งหมดที่หญ้าสลายเซียนสามารถเติบโตได้แล้ว เขาก็ยังไม่พบร่องรอยของพวกมันเลย ทว่าน่าแปลกที่เขาบังเอิญพบสมุนไพรวิญญาณล้ำค่าหลายอย่างซึ่งเขาสามารถใช้สร้างผงยาถอนพลังเซียนได้
ดูสิ สมุนไพรที่เป็นประโยชน์กับข้ากำลังเรียงแถวเข้าไปในคลังเวทจัดเก็บของข้า แต่แม้ข้าจะพยายามมากเพียงใด ก็ยังไม่พบสมุนไพรที่เป็นประโยชน์กับท่านอาจารย์
นี่อาจเป็นความเหลื่อมล้ำของตัวตนและคุณสมบัติของพวกเรา
ในเมื่อไม่พบหญ้าสลายเซียน ข้าย่อมไม่อาจสร้าง ‘โอสถสลายพลังเซียน’ ได้ และแน่นอนว่า วิธีนี้ย่อมไม่ได้ผลแล้ว โชคยังดีที่ข้าได้เตรียมแผนสำรอง แผนสองและสามเอาไว้แล้ว แม้แผนเหล่านี้จะไม่ปลอดภัยเท่ากับการสร้างโอสถสลายพลังเซียน แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยท่านอาจารย์ได้
วิ้ง
ทันใดนั้นพลังวิญญาณแห่งสวรรค์และปฐพีพลันปั่นป่วนปรวนแปร ขณะนี้มีผู้คนกำลังต่อสู้กันอยู่ในที่ใดสักแห่ง
หลี่ฉางโซ่วได้แผ่พลังปราณสัมผัสรับรู้ของเขาออกไปเพื่อค้นหาแหล่งที่มาของพลังแปรปรวนนี้ทันที แต่เนื่องจากไอพิษที่อยู่ข้างหน้าเขาเข้มข้นรุนแรงเกินไป อีกทั้งเกิดความผันผวนปั่นป่วนไปโดยรอบด้วยเช่นกัน จึงทำให้เขาสามารถตรวจจับได้เพียงภายในระยะรัศมีราวสามสิบลี้เท่านั้น
การต่อสู้อยู่ห่างออกไปกว่าสามสิบลี้ และสัมผัสถึงลมปราณของร่างที่กำลังเคลื่อนไหวไปรอบๆ ได้มากมาย
ข้างหน้านี้คือพื้นที่ของ ‘ผู้บำเพ็ญพเนจรไร้สังกัด’ ใช่หรือไม่
มีผู้บำเพ็ญมากมายอยู่ในดินแดนเทวะอุดร โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะเดินทางลึกเข้าไปในดินแดนเทวะอุดรนับพันลี้ เพื่อค้นหาบุปผาและผลไม้ประหลาดล้ำค่า เพื่อแลกกับทรัพยากรสำหรับการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาเอง
ตัวอย่างเช่น ‘ซื่อจิว’ ที่ถูกสังหารไปก่อนหน้านี้ เขาได้ฝึกบำเพ็ญจนถึงขอบเขตคืนกลับเต๋าวิถี ในเวลาปกติเมื่อไม่มีงานสกปรกทำ เขาก็จะมาเก็บเกี่ยวบุปผาและผลไม้เหล่านี้เพื่อแลกเป็นทรัพยากรอื่นๆ สำหรับตนเอง
หลี่ฉางโซ่วคิดถอยกลับทันที จากนั้นจึงซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินแล้วใคร่ครวญให้รอบคอบถึงการเคลื่อนไหวต่อไปของเขาอย่างระมัดระวัง
หลี่ฉางโซ่วได้อ่านตำราโบราณทั้งหมดเกี่ยวกับเขตพื้นที่นี้แล้ว แต่เมื่อมีเหล่าผู้บำเพ็ญกำลังต่อสู้กันบนเส้นทางที่เขาคิดจะไป หากเขาไม่ถอยเวลานี้ แล้วจะถอยได้เมื่อใดกัน
ดังคำกล่าวที่ว่า ‘สุภาพบุรุษไม่ควรอยู่ในที่อันตราย’ และการเดินทางมายังดินแดนเทวะอุดรครั้งนี้คงทำได้เพียงจบลงด้วยความเสียดาย…
ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วพลันตกใจ!
พลังปราณสัมผัสรับรู้ที่เขาแผ่ออกไปตรวจพบสมุนไพรสีเขียวมรกตที่ดูธรรมดาสามต้นได้อย่างไม่คาดคิด พวกมันกำลังพลิ้วไหวไปมาเบาๆ ท่ามกลางสายลมอยู่บนยอดหน้าผาซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราวยี่สิบสามลี้!
พวกมันคล้ายหญ้ากล้วยไม้แต่เตี้ยกว่าหญ้ากล้วยไม้มาก และมีใบที่มีเส้นสายลวดลายประหลาด ดูเหมือนว่าแต่ละต้นจะถูกปกคลุมไปด้วยแสงอ่อนจาง
หญ้าสลายเซียน!
หญ้าสลายเซียนเป็นพิษต่อเซียนหยวน และสามารถทำร้ายปราณวิญญาณของเซียนเสิ่นได้!
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อหลี่ฉางโซ่วมองดูจากความหนาแน่นของลวดลายแล้ว เขาจึงรู้ว่าสมุนไพรต้นที่อยู่ตรงกลางนั้นมีอายุอย่างน้อยสามพันปี ส่วนสมุนไพรอีกสองต้นที่อยู่ข้างๆ ก็มีอายุมากกว่าพันปีเช่นกัน!
หลี่ฉางโซ่วเกือบจะกระโดดออกมาจากด้านหลังก้อนหินในทันที
แต่จู่ๆ เขาก็ร่ายเวทชำระใจอย่างเงียบๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของเขาอย่างรวดเร็ว บัดนี้เขายังไม่ได้สมุนไพรมาไว้ในมือ จึงไม่อาจเบิกบานใจให้เร็วเกินไปได้
สงบใจไว้ รอให้สมุนไพรออกจากดินแดนเทวะอุดรอย่างปลอดภัยก่อน ค่อยเฉลิมฉลอง…
นั่นยังไม่ถูกต้อง ยังมีการหลอมโอสถที่ยากลำบากมากเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดเมื่อข้ากลับไปถึงยอดเขาและหลอมโอสถสลายพลังเซียนได้สำเร็จ ก็ยังไม่สายเกินไปที่จะฉลอง
เช่นนั้นก็เริ่มเลยเถอะ!
จากนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายตรงไปยังใต้ดินที่มีหญ้าสลายเซียนอยู่ และในขณะเดียวกันเขาก็แผ่พลังปราณสัมผัสรับรู้ออกไปใต้ดินเพื่อสำรวจพื้นที่โดยรอบหญ้าสลายเซียน
หือ? ทันใดนั้นเขาจึงพบว่ามีต้นสนโบราณที่ใบโกร๋นอยู่ข้างๆ หญ้าสลายเซียน เขาจึงเปลี่ยนจากใช้หลีกลี้ปฐพีซ่อนกายเป็นหลีกรุกข์เร้นกายเพื่อเข้าไปใกล้หญ้าสลายเซียน
ทว่าสำหรับสัตว์พิษนั้น สมุนไพรพิษที่มีอายุยาวนานนับพันปีเหล่านั้น ย่อมเป็นโอสถเสริมกำลังชั้นดีให้พวกมันอย่างแน่นอน
จริงทีเดียว…เพราะในไม่ช้าหลี่ฉางโซ่วก็ค้นพบอสรพิษคลื่นครามสามตาในบริเวณใกล้เคียง
อสรพิษตัวนี้แอบซ่อนอยู่ใต้หน้าผาอย่างชั่วร้ายและรู้วิธีปกปิดลมปราณของมันเอง มันมีลำตัวยาวสามจั้งและอำพรางตัวด้วยหินรอบๆ มัน แต่เกล็ดสีเขียวครามของมันได้เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา
หากหลี่ฉางโซ่วไม่ได้ตรวจสอบทั่วทุกพื้นที่อย่างละเอียดแล้ว เขาคงไม่อาจรู้ว่ามีสัตว์พิษเช่นนี้แอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ
บนหัวของอสรพิษคลื่นครามสามตานั้นมีก้อนเนื้อปูดโปนอยู่ตรงกลางหัว ทำให้มันดูน่าเกลียดอย่างยิ่งและทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดหวั่นได้อย่างง่ายดาย
มันมีหัวสามเหลี่ยมแคบยาว และลำตัวหนากว่าอสรพิษธรรมดา เห็นได้ชัดว่ามันกำลังใกล้จะบรรลุเซียนเช่นกัน
และหญ้าสลายเซียนต้นที่มีอายุยาวนานที่สุดก็น่าจะเป็นกุญแจสำคัญให้มันบรรลุเซียน แต่ในเวลานี้ยังมีฤทธิ์ของโอสถไม่เพียงพอ
มันไม่ง่ายที่จะจัดการ
หลี่ฉางโซ่วสังเกตเห็นว่ามีกองกระดูกมากมายอยู่ใต้หน้าผา และหลายชิ้นคล้ายโครงกระดูกมนุษย์…
เขาพลันคิดว่าไม่อาจสู้กับมันโดยผลีผลาม แต่ต้องเอาชนะด้วยปัญญา
สัตว์พิษที่ใกล้บรรลุเซียนย่อมทรงพลังร้ายกาจ และเดิมทีก็เป็นสัตว์ประหลาดที่มีพิษร้ายแรง แม้หลี่ฉางโซ่วจะพกพิษต่างกันถึงเก้าชนิดซึ่งสามารถทำร้ายได้แม้กระทั่งเซียนหยวนธรรมดา แต่พวกมันกลับไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้ายกาจเช่นนั้น
ด้วยคาถาเวทที่หลี่ฉางโซ่วชำนาญ แม้เขาอาจจะไม่แพ้หากต่อสู้ด้วยความทุ่มเทอย่างหนัก แต่มันยังมีสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เลวร้ายและอันตรายเกินไป ทั้งยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอยู่รอบตัว
แล้วจะเอาชนะมันด้วยปัญญาได้อย่างไร
จะใช้หลีกรุกข์เร้นกายไปที่นั่น เพื่อดึงหญ้านั้นมาแล้วรีบหนีไป? ทว่าอสรพิษร้ายส่วนใหญ่ล้วนฉับไวมาก ดังนั้นแผนนี้จึงอาจไม่ได้ผล
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งในขณะที่เขาพุ่งผ่านไปในใต้ดินอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้า เขาก็คิดแผนต่างๆ ออกมาในใจได้นับสิบแผน