ตอนที่ 165 การเป็นศิษย์ของสงน้อย (1)
ตูม! พร้อมด้วยเสียงดัง จู่ๆ พื้นดินก็พลันสั่นสะเทือน หลี่ฉางโซ่วมีไหวพริบและรวดเร็วฉับไว เขาไม่ขยับกายขณะใช้มือซ้ายกดลงบนศีรษะเล็กกะทัดรัดและร่างแข็งแกร่งกำยำพร้อมกับกดใบหน้าของนางลงกับพื้นหญ้าทันที!
หากเขาทำไม่เร็วพอ นางคงตะโกนออกมาว่า ‘เทพแห่งท้องทะเล’!
ข้าควรทำอย่างไรดี?
นางกล่าวว่า ‘ไห่[1]’ ข้าควรตอบนางด้วยคำว่า ‘สวัสดี’ หรือไม่!?!
เมื่อมีสายตามองมาหลายคู่ เขาจึงไม่อาจใช้เพลิงสมาธิแท้เพื่อเผาและกำจัดนางได้…
หลี่ฉางโซ่วตัดสินใจได้ในทันที!
เขาแอบใช้สัมผัสเซียนรับรู้ส่งข้อความเสียงไปยังเด็กสาวโดยตรง ขณะที่เผยสีหน้าท่าทางตื่นเต้นและตะโกนว่า “หลิงลี่! เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่!?!”
แต่เขาแอบกระซิบผ่านการข้อความเสียงว่า “หากเจ้ากล้าพูดสองคำนี้ ข้าจะให้หัวหน้าหมู่บ้านของเจ้ามาจัดการเจ้าในวันรุ่งขึ้น! เร็วเข้า รีบเรียกข้าว่า… พี่ชาย! ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำซึ่งเกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของหมู่บ้านสง หากเจ้าเปิดเผยตัวตนของข้า หมู่บ้านสงจะตกอยู่ในอันตรายแน่! หากเข้าใจก็พ่นลมออกมาสามครั้ง!”
แขนขาหนาและแข็งแกร่งของสงหลิงลี่สั่นสะท้าน ขณะส่งเสียง “ฮึม” อยู่บนพื้น
นางเข้าใจจริงๆ หรือ?
ในเวลานั้น ผู้คนของสำนักเซียนเซียวเหยาที่อยู่ข้างๆ ล้วนขมวดคิ้วมองดูเขา ขณะที่ศิษย์สองสามคนที่มาพร้อมกับสงหลิงลี่ต่างพากันตกตะลึง
ทุกคนจากสำนักตู้เซียนต่างก็มองไปทางหลี่ฉางโซ่วเช่นกัน…
หลี่ฉางโซ่วจึงปล่อยมือและยิ้มอย่างอารมณ์ดี
ในเวลานั้นสงหลิงลี่ก็ใช้มือทั้งสองข้างประคองตัวเองเอาไว้พร้อมกับเอาใบหน้าของนางออกจากพื้น
บัดนี้ใบหน้าน่ารักที่มีขนตายาวของนางเปื้อนไปด้วยดินและเศษหญ้าในขณะที่นางมองหลี่ฉางโซ่วอย่างตื่นเต้นแล้วตะโกนว่า “เรียกว่าอะไรนะ…”
หลี่ฉางโซ่วเบิกตากว้าง จ้องมองสงหลิงลี่ที่ปรี่มาประจบประแจงทันทีพร้อมกับตะโกนเรียกว่า “พี่ชาย…”
“เฮ้ หลิงลี่ หลายปีมานี้ ไม่ได้พบกันเลย บัดนี้เจ้าตัวสูงขึ้นมาก”
หลี่ฉางโซ่วยิ้มขณะที่สงหลิงลี่พยักหน้า และด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆ ดวงตาของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขณะพึมพำเบาๆ ว่า “ข้า… ข้าไม่ได้คิดทรยศหรือกำจัดท่าน”
ชั่วเวลานั้น บรรดาผู้อาวุโส ผู้ดูแลสำนักระดับบริหาร และเหล่าศิษย์ของสำนักเซียนธรรมดาที่อยู่ข้างๆ ต่างก็เต็มไปด้วยฉงนในใจจนท่วมท้นล้นศีรษะของพวกเขา
หลังจากนั้น ทั้งจิ่วจิ่ว ซึ่งเคยชินกับการเล่นสนุกเรื่อยเปื่อยกับหลี่ฉางโซ่วมาโดยตลอดและโหย่วฉินเสวียนหย่าซึ่งมีสีหน้าน้ำแข็งเย็นชา ต่างก็ยืนขึ้นและมองไปยังสถานที่นั้นเช่นกัน
เกิดอันใดขึ้น?
หลี่ฉางโซ่วแอบวางแผนในใจ เมื่อพิจารณาจากการมองหลาย ๆ ด้านทั้งหมดแล้ว เขาจึงอยากเปิดเผยไพ่ไม้ตายส่วนเล็กๆ ของฐานพลังปราณที่เขาปกปิดเอาไว้มากกว่าจะเปิดเผยว่าตัวเขาเองคือเทพทะเลทักษิณ!
บัดนี้ความน่าเชื่อถือของเขามีผลต่อองค์เง็กเซียน หากเขาดึงดูดความสนใจของสำนักบำเพ็ญประจิม ก็ย่อมจะคุกคามต่อความปลอดภัยของชีวิตของเขาเองอย่างร้ายแรง! ดังนั้น หลี่ฉางโซ่วจึงทำได้แค่เพียงทำตามคำพูดของสงหลิงลี่เท่านั้น
“โอ ในเวลานั้น ข้าเป็นคนที่อยากออกไปฝึกบำเพ็ญเซียนเอง” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจ “ข้าผิดต่อเจ้าแล้ว หลิงลี่ เจ้าคงถูกหัวหน้าหมู่บ้านดุด่าแน่ๆ”
ทว่าเขายังคงแอบแผ่พลังสัมผัสเซียนรับรู้ต่อไปเพื่อส่งข้อความเสียง
“ห้ามพูดถึงเรื่องนี้ ข้าเป็นเทพแห่งท้องทะเลจริงๆ แต่เป็นเพียงร่างของเทพแห่งท้องทะเล ซึ่งมีร่างจำแลงนับหมื่นเพื่อช่วยขจัดความทุกข์ยากและภัยพิบัติต่างๆ ร่างจำแลงของข้านี้ก็มีภารกิจของตัวเองเช่นกัน หลิงลี่ เจ้าจงเล่าเรื่องชีวิตของเจ้าในช่วงไม่นานมานี้ให้ข้าฟังสักหน่อย”
สงหลิงลี่กะพริบตา ดวงตาโตของนางเปี่ยมไปด้วยความชื่นชม
หลี่ฉางโซ่วยิ้มแย้มพลางถามว่า “ว่าแต่หลิงลี่ เหตุใดเจ้าถึงมาที่นี่ได้?”
สีหน้าท่าทีของสงหลิงลี่ยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกขณะกระซิบว่า “พี่ชาย ท่านพ่อท่านแม่ของข้าให้กำเนิดน้องชายอีกคน แล้วพวกท่านก็ส่งข้ามาโดยให้ข้าไปหาอาจารย์เพื่อเรียนรู้วิชาเวทต่างๆ อย่างที่ลุงหกข้างบ้านกล่าวว่า พวกเขาจะไม่รักข้าอีกต่อไปแล้วเพราะมีเจ้าตัวเล็กที่อายุน้อยกว่า!”
หลี่ฉางโซ่วเงียบงันทันใด
อันใดกัน?
ย้อนกลับไปในปีนั้น ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะส่งกองทัพตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ไปจัดการกับอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ของเทพทะเลทักษิณ ในเวลานั้น สงหลิงลี่ถูกส่งไปยังดินแดนเทวะมัชฌิมาเพื่อเข้าร่วมกับสำนักเซียน
หลี่ฉางโซ่วไม่คิดว่า สงหลิงลี่จะเข้าร่วมกับสำนักเซียนเซียวเหยา
เมื่อมองดูท่าทางของนางแล้ว ดูเหมือนว่า นางจะไม่พอใจกับการเผชิญสถานการณ์ครั้งนั้น นางขุ่นเคืองและโกรธแค้นบิดามารดาที่ให้ความสำคัญกับน้องชาย
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและหยิบสายน้ำแร่ใสออกมาแล้วยื่นให้นาง
สงหลิงลี่กะพริบตาพลางมองหลี่ฉางโซ่ว
หลี่ฉางโซ่วจึงยิ้มแล้วพยักหน้าพลางแสดงท่าทางเพื่อบอกให้นางล้างหน้า
อย่างไรก็ตาม สงหลิงลี่ได้อ้าปากและกลืนน้ำใสไปหนึ่งอึกทันทีก่อนที่จะดูดและกลืนน้ำแร่ใสในอึกเดียวอย่างรุนแรง
นั่นคือพรของเทพแห่งท้องทะเล!
หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วแล้วจู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่า…
ดูเหมือนว่า ในบางครั้ง อาจารย์อาน้อยจิ่วจิ่วจะดูไม่ค่อยฉลาดนัก แต่นั่นก็เป็นเพราะนางมักเมาบ่อยๆ จนทำให้มีลักษณะขี้เมาเล็กน้อย แต่นางจะฉลาดเฉียบแหลมนักยามเมื่อจริงจังขึ้นมา
แต่สงหลิงลี่ที่อยู่ข้างหน้าเขาเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านสง ซึ่งญาติสนิทมักจะแต่งงานกันเองและให้กำเนิดลูกหลาน… นางช่างแข็งแกร่งกำยำอย่างยิ่งจริงๆ
คนเช่นนี้ย่อมรับมือได้ยากที่สุด บางที จู่ๆ นางอาจจะหันกลับมาบอกว่าเขาคือเทพแห่งท้องทะเล
เช่นนั้น ข้าควรทำอย่างไรดี? หาสถานที่เพื่อกำจัดนางเสียดีหรือไม่?
ทว่าตอนนี้หมู่บ้านสง อยู่ใต้บัญชาโดยตรงของข้า จึงย่อมไม่เหมาะที่ข้าจะปฏิบัติต่อสงหลิงลี่เยี่ยงนี้
แม้ยังสั่นคลอนอยู่บ้าง แต่เขาก็ยังมีสติและมโนธรรมเต็มเปี่ยม
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาสามารถยืนยันความสัมพันธ์ฉันญาติกับสงหลิงลี่ และชี้แนะแนวทางจิตวิทยาให้แก่นางเพื่อให้นางนึกถึงคำว่า ‘พี่ชาย’
หลี่ฉางโซ่วจึงเรียกน้ำแร่อีกสายหนึ่งออกมาอีกครั้งแล้วกล่าวอย่างนุ่มนวลว่า “นี่ให้เจ้าเอาไว้ล้างหน้า”
สงหลิงลี่เกาศีรษะและคลี่ยิ้มขัดเขินพลางกล่าวว่า “ขอบคุณ…”
ทันใดนั้น หลี่ฉางโซ่วก็กล่าวผ่านการส่งข้อความเสียง “เรียกข้าว่าพี่ชาย พี่ชายเดี๋ยวนี้!”
“เฮ้อ” หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจและเผยรอยยิ้มด้วยความรักดุจบิดาขณะที่ล้างหน้าให้สงหลิงลี่ด้วยน้ำใสสะอาด แล้วยังหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ตอนแรกว่าจะเตรียมผสมยาสลบออกมาด้วย
ที่ด้านข้าง ศิษย์ของสำนักเซียนเซียวเหยาที่เดินมากับสงหลิงลี่ก่อนหน้านี้ต่างก็เข้ามาหาพวกเขาแล้ว …
“ศิษย์น้องสง นี่คือ… พี่ชายของเจ้าหรือ?”
“เจ้าค่ะ!” สงหลิงลี่กระโดดขึ้นจากพื้น และทันใดนั้นกำแพงหนึ่ง[2]ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของหลี่ฉางโซ่วทันที
สงหลิงลี่เกาศีรษะ เส้นผมยาวของนางที่ถูกมัดเอาไว้ ดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย แสดงเผยรอยยิ้มขัดเขิน และกล่าวอย่างสุภาพนุ่มนวลว่า “นี่คือพี่ชาย ญาติผู้พี่ของข้า”
……………………………………………………….
[1] ไห่ ในภาษาจีนแปลว่า ทะเล ซึ่งฟังดูเหมือน ไฮ ที่แปลว่า สวัสดีในภาษาอังกฤษ
[2] หมายถึงสงหลิงลี่ผู้มีร่างแข็งแกร่งกำยำ