ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 171 มนุษย์หมี[1]อยู่ในที่แจ้ง หลี่ฉางโซ่วอยู่ในที่ลับ (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 171 มนุษย์หมี[1]อยู่ในที่แจ้ง หลี่ฉางโซ่วอยู่ในที่ลับ (1)

ทว่าก่อนที่อวิ๋นจงจื่อจะทันได้เห็นต่อ ชั่วขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วและสงหลิงลี่ก็ถูกภาพแผนที่ ‘ภูเขาแม่น้ำ’ ดูดเข้าไปแล้ว

ฝูเต๋อจินเซียน[2]ไม่ได้ใส่ใจตามเรื่องนี้มากนักขณะยังคงรับศิษย์รุ่นเยาว์ที่ลุกขึ้นยืนต่อไปเรื่อยๆ

ในระหว่างศิษย์สองคนของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินนั้น ในตอนนี้แน่นอนว่าสงหลิงลี่ย่อมโดดเด่นสะดุดตากว่า

นางมิใช่สาวงามหายากที่ปรากฏกายขึ้นเพียงหนึ่งเดียวในรอบหลายพันปี แต่เป็นเพียงสตรีเผ่าพ่อมด…

อวิ๋นจงจื่อมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว มีสิ่งใดที่เขาไม่เคยเห็นเล่า?

เขาเคยเห็นผู้ฝึกบำเพ็ญของเผ่าพันธุ์มนุษย์ซึ่งมีสายเลือดของเผ่าเวท เผ่าปีศาจ เผ่ามังกรและเผ่าหงส์ เผ่าละเท่าๆ กันที่ยี่สิบห้าในหนึ่งร้อยส่วน แล้วเผ่าพ่อมดคืออันใดกัน

ไม่มีอันใดน่าแปลกใจอีกต่อไปเพราะเขาเห็นสิ่งต่างๆ มามากเกินไป

ภาพแผนที่ ‘ภูเขาแม่น้ำ’ ในมือของเซียนชราผู้นั้นดูไม่เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด นอกจากมีจุดสีดำเล็กๆ มากมายกระจายอยู่ทั่วส่วนต่างๆ ของภาพนั้นอย่างเท่าเทียมกัน

ผ่านไปครู่หนึ่ง บัดนี้ ไม่มีผู้ใดลุกขึ้นยืนที่ริมทะเลสาบอีก

อวิ๋นจงจื่อยกผ้าครอบตะกร้าดอกไม้ขึ้น แล้วจู่ๆ ก็มีไข่มุกอีกหกเม็ดบินออกไป จากนั้น ด้วยพลังของเซียนชรา ไข่มุกทั้งหกก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาทันที

หลังจากนั้น อวิ๋นจงจื่อก็ยกมือขึ้นแล้วโยนมันออกไปก่อนที่ภาพแผนที่สมบัติจะค่อยๆ ลอยอยู่เหนือทะเลสาบเล็กๆ

ทันใดนั้น ไข่มุกหกเม็ดก็บินผ่านและลอยไปรอบๆ ภาพแผนที่สมบัติ พวกมันถูกโอบล้อมด้วยแสงเซียนและก่อตัวขึ้นเป็นชั้นเมฆบางๆ เหนือพื้นผิวทะเลสาบ จากนั้นในก้อนเมฆ สถานการณ์ภายในแผนที่ก็ปรากฏขึ้นขณะที่ภาพยังคงหมุนเวียน ชั่วเวลานั้น อวิ๋นจงจื่อก็ลูบเคราของเขาและกล่าวอย่างสงบว่า “สหายเต๋า ส่งสัมผัสเซียนรับรู้ของเจ้าไปยังไข่มุกล้ำค่านี้ แล้วเจ้าจะเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดภายในแผนที่และยังสำรวจสถานที่ใดๆ ก็ได้ตามต้องการ”

กล่าวจบ เซียนชราร่างผอมบางก็ถือกระเช้าดอกไม้แล้วกลับไปที่แท่นสังเกตการณ์บนเกาะอมตะ

เขาเพิ่งเปิดเผยชุดสมบัติวิญญาณออกมา ทำให้บรรดาเซียนล้วนอัศจรรย์ใจ

บรรดาเซียนของสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ! แม้การรวม ‘ไข่มุกสมบัติ’ และภาพแผนที่จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของสมบัติวิญญาณเซียนเทียนแท้ แต่ภาพแผนที่ภูเขาแม่น้ำ ซึ่งเป็นสมบัติวิญญาณเซียนเทียนที่สามารถปรับแต่งพลังเสริมอานุภาพได้ด้วยสมบัติโฮ่วเทียนนั้น เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดสมบัติแท้แห่งโลกบรรพกาล!

ชั่วขณะหนึ่งนั้น เหล่าศิษย์รุ่นเยาว์ที่ยังไม่กลายเป็นเซียนและไม่ได้เข้าไปในภาพวาดต่างก็พากันมองขึ้นไปยังทิวทัศน์บนทะเลสาบ

สัมผัสเซียนรับรู้เข้าไปในไข่มุกสมบัติทั้งหกที่ด้านล่างและสังเกตผลงานของเหล่าศิษย์ ในอีกด้านหนึ่งนั้น ผู้ยิ่งใหญ่ของทั้งสามสำนักบำเพ็ญเต๋า ‘ต้นกำเนิด’ ล้วนกำลังชื่นชมสถานการณ์ภายในนั้นอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่ต่างเฝ้าดูกันอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน…

ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูนั่งขัดสมาธิคนเดียวอยู่บนท้องฟ้า

เขาใช้พลังเวทกับตัวเอง ซึ่งผู้ที่ไม่ใช่เซียนต้าหลัวจินจะไม่อาจมองเห็นรูปร่างลักษณะที่แท้จริงของเขาได้

ในขณะนั้น กวงเฉิงจื่อและนักพรตเต๋าตั๋วเป่า หัวหน้าศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเต๋าฉานและสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ยต่างก็กำลังแอบจับสังเกตศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน…

กวงเฉิงจื่อไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริงของสำนักบำเพ็ญเต๋าฉาน เขาได้เข้าสู่สำนักหลังจากหนานจีเซียนเวิง

หนานจีเซียนเวิงมาพร้อมกับปรมาจารย์จอมปราชญ์ แต่กวงเฉิงจื่อ ผู้รับผิดชอบดูแลกิจการของสำนักและอำนาจของเขาในสำนักยังคงอยู่เหนือรองเจ้าสำนัก ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงถือว่า กวงเฉิงจื่อเป็นหัวหน้าศิษย์… คนอื่นอาจไม่รู้ แต่กวงเฉิงจื่อและนักพรตเต๋าตั๋วเป่า รู้ว่าอาจารย์ของเขาให้ความเคารพต่อปรมาจารย์จอมปราชญ์เทพไท่ชิง ผู้นำสูงสุดแห่งซันชิงมากเพียงใด

และพวกเขายังรู้ว่า บรรพชนไท่ชิงปกป้องเขามากเพียงใดเช่นกัน

สมบัติมีชื่อเสียงไม่กี่อย่างของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน เช่น แผนภาพหยินหยางไท่จี๋ เจดีย์วิจิตรเสวียนหวง เบาะนั่งสมาธิเฟิงหั่ว และอื่นๆ ล้วนเคยถูกปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูใช้มาก่อน

ดังนั้น นักพรตเต๋าตั๋วเป่า และกวงเฉิงจื่อจึงเคารพและให้ความสำคัญกับศิษย์คนเดียวของอาจารย์ลุงพวกเขามากขึ้น

ในขณะนี้ พวกเขาได้เห็นเสวียนตูเผยรอยยิ้มออกมาขณะที่เขากำลังนั่งหลับตาอยู่ เขาน่าจะกำลังตรวจสอบสถานการณ์ภายในภาพวาด

‘ศิษย์พี่เสวียนตูกำลังมองผู้ใดกัน?’

ทันใดนั้น ทั้งนักพรตเต๋าตั๋วเป่าและกวงเฉิงจื่อล้วนมีคำถามผุดขึ้นมาในใจพร้อมกัน แต่มิอาจหยั่งรู้และจัดการได้

ในขณะนั้นเอง ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็จ้องมองไปที่… ศิษย์น้อยของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน ที่ไม่มีผู้ใดรู้จัก

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ย่อมสังเกตทุกคำพูดและการกระทำของหลี่ฉางโซ่วผ่านภาพวาดได้ด้วยความสามารถของเขา

แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เสวียนตูยังสามารถรับรู้ได้ว่ามีผู้ใดกำลังตรวจสอบหลี่ฉางโซ่วในเวลาเดียวกันกับเขา

แม้ในขณะนี้ เขาจะอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่สำคัญเท่ากับศิษย์อย่างหลี่ฉางโซ่วที่มีอายุไม่ถึงสองร้อยปี แต่ข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์และกลายเป็นเซียนได้ ทั้งยังเข้าใกล้ขอบเขตเซียนจินแล้ว… เขาย่อมต้องมีอนาคตสดใสไร้ขีดจำกัดจริงๆ!

ข้าควรฉวยโอกาสนี้สังเกตดูเจ้าตัวน้อยผู้นี้ให้ดี

หากนิสัยและท่าทางของเขาเหมือนยามที่เขาพูดคุยกับข้าเมื่อก่อนหน้านี้ ข้าย่อมพาเขาเข้าไปในวังดุสิต และเกลี้ยกล่อมอาจารย์ให้รับศิษย์น้องอีกคนได้

ย่อมเป็นการดีไม่น้อยที่จะให้เขาปรากฏตัวในนามของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินในโอกาสต่างๆ เช่นนี้ในอนาคต?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็เผยรอยยิ้มกว้างยิ่งขึ้น…

ในเวลาเดียวกันนั้น บนเกาะอมตะของบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย จ้าวกงหมิง ซึ่งนั่งอยู่ต่อหน้าฝูงชนก็หาวออกมา

เมื่อได้เห็นบรรดาศิษย์เหล่านี้ต่อสู้กัน เขาก็รู้สึกเบื่อจริงๆ

ด้วยเวลาว่างมากพอเช่นนี้ เขาจึงคิดจะไปที่วิหารเทพทะเลและตามหาน้องชาย เทพแห่งท้องทะเลของเขา เพื่อหารือเรื่องเต๋า “โอ้ ข้าจะไม่หายจากอาการบาดเจ็บในอีกหลายหมื่นปี”

คราวนี้เขาจะพาน้องฉยงเซียวมาและให้นางพูดคุยกับเทพแห่งท้องทะเลทักษิณมากขึ้น บางทีนางอาจจะระทมทุกข์น้อยลงได้ในอนาคต

ขณะนั้น ป่าภูเขาห่างไกลแห่งหนึ่งในภาพวาดแผนที่ภูเขาแม่น้ำ

เวลานี้ หลี่ฉางโซ่วนั่งอยู่หลังหินก้อนใหญ่ ซึ่งสงหลิงลี่ ผู้ถูกภาพวาดดึงเข้ามาพร้อมกับเขาก็… คือหินใหญ่ก้อนนั้น

ภาพวาดแผนที่มีขอบเขตพื้นที่จำกัด

คนกลุ่มหนึ่งที่ถูกขังอยู่ภายในนั้น

พวกเขาต้องมองหาสมบัติไปทั่วทุกที่ หากพบกันก็ต้องสู้กันเพื่อตัดสินว่าผู้ใดจะคว้าชัยหรือพ่ายแพ้…

รู้สึกเหมือนจะคุ้นเคยสถานการณ์เช่นนี้

ลักษณะเช่นนั้นเตือนให้หลี่ฉางโซ่วนึกถึงเกมที่เขาเคยเล่นบ่อยๆ ในชีวิตก่อนหน้านี้ขึ้นมาในทันที…

เกมดังกล่าวมีชื่อแตกต่างกันไปตามแต่ละคน ตัวอย่างเช่น บางคนจะเรียกมันว่า ‘แตะพื้นเป็นกล่อง’[3] จะกลายเป็นกล่องทันทีที่ร่อนลงสู่พื้น หรืออีกเกมที่บางคนก็เรียกมันว่า ‘ผู้ส่งของ’[4] หรืออีกเกมที่บางคนเรียกว่า ‘คลาน[5]’ และ ‘ดิ้นรนเพื่ออยู่รอด’[6] เป็นต้น

แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่ “เกม”

หลี่ฉางโซ่วกระจายสัมผัสเซียนรับรู้ของเขาออกไป แล้วจึงพบเหล่าศิษย์ที่เขาไม่คุ้นเคยมากมาย ในคราแรกนั้น ทุกคนล้วนพยายามสำรวจกันอย่างระมัดระวังก่อนจะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ภายใต้สายตาของทุกคน แม้จะเป็นการต่อสู้ แต่ทุกคนก็ถูกแยกกันอย่างเป็นระเบียบ จึงไม่ส่งผลให้เกิดการต่อสู้นองเลือด

ยิ่งกว่านั้นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดที่สุดคือการค้นหาสมบัติ นั่นย่อมจะปลอดภัยกว่า

แน่นอนว่าวิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็เป็นเฉกเช่นที่หลี่ฉางโซ่วทำ ซึ่งเขาได้พบมุมที่จะซ่อนตัวไว้

หลี่ฉางโซ่วยังคิดจะหาที่ซ่อนเพิ่มเติมในภายหลังและซ่อนตัวต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุด

แต่เขาก็อดคิดอีกสิ่งหนึ่งขึ้นมาไม่ได้…

…………………………………………………………………

[1] หมายถึงสงหลิงลี่

[2] อีกนามของอวิ๋นจงจื่อ

[3] เกมนี้คล้ายกับ เมื่อตัวเราถูกปล่อยออกมาจากเครื่องบิน พอขาแตะถึงพื้น ก็จะถูกศัตรูกำจัดทันที แล้วกลายเป็นกล่องให้ศัตรูเก็บ

[4] เกมนี้คล้ายกับ เมื่อจับได้ป้าย ก็จะมีคำสั่งให้เราไปทำ หรือเอาของไปส่ง อาจจะต้องไปส่งที่ทะเลทราย หรือได้ยานพาหนะที่ไม่เหมาะกับการส่ง แต่ก็ต้องไปส่ง

[5] เกมนี้คล้ายกับเป็นนักคลานซุ่มอยู่ในพุ่มไม้เพื่อจะไปทำภารกิจให้สำเร็จ

[6] เกมนี้คือ ต้องอยู่รอดจนถึงคนสุดท้ายจึงจะชนะ

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท