ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 224 ข้าเข้าใจแล้ว เข้าใจทุกอย่างแล้ว! (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 224 ข้าเข้าใจแล้ว เข้าใจทุกอย่างแล้ว! (2)

โหย่วฉินเสวียนหย่ากล่าวเบาๆ “เขาตัวหดเล็กและเหี่ยวแห้งไปอย่างรวดเร็ว… แล้วกลายเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ผู้นี้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! แค่กๆ!”

นักพรตเต๋าจี้อู๋โหย่วขบขันกับคำชี้แจงของโหย่วฉินเสวียนหย่า

เขายกมือขึ้นคว้าตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เอาไว้ในมือ พลางสังเกตอย่างระมัดระวัง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นพลังเวทที่เรียกว่า ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ แต่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นี้ค่อนข้างแปลก…” “ศิษย์หลี่ฉางโซ่ว ขอน้อมคารวะท่านเจ้าสำนัก!” เสียงตะโกนดังมาจากหอโอสถ จี้อู๋โหย่วและ โหย่วฉินเสวียนหย่าจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเห็นควันลอยออกมาจากทางด้านข้างของเตาสีดำขนาดใหญ่ที่กลายเป็นร่างหลี่ฉางโซ่ว หลี่ฉางโซ่วก้าวไปข้างหน้าและทำการคารวะเต๋าให้จี้อู๋โหย่วอย่างรวดเร็ว

“เหตุใดเจ้าถึงออกมาจากทางด้านล่าง?” จี้อู๋โหย่วถามพลางยิ้ม

หลี่ฉางโซวรีบกล่าวว่า “ศิษย์เพิ่งหยั่งรู้ถึงอะไรบางอย่างได้ เกรงว่าจะรบกวนศิษย์น้องโหย่วฉิน ดังนั้นจึงวางตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์เอาไว้ที่นี่ แล้วไปนั่งสมาธิที่ใต้ดินขอรับ”

จี้อู๋โหย่วไม่ได้ถามอะไรในเรื่องนี้เพิ่มเติมมากนัก แต่เน้นถามคำถามสำคัญว่า “ฉางโซ่ว เมื่อครู่นี้ เกิดอันใดขึ้น?”

จี้อู๋โหย่วขมวดคิ้ว ก้มศีรษะลงพลางกัดริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงลังเลและอับจนหนทางเล็กน้อย ในขณะที่เขาควบคุมอารมณ์ตนเอง แล้วกระซิบว่า “ท่านเจ้าสำนัก ศิษย์ไม่กล้าพูดขอรับ…”

“ก็แค่พูด แล้วเหตุใดถึงไม่กล้าพูด?”

จี้อู๋โหย่วไพล่มือไปไว้ข้างหลังแล้วถามอย่างสงบว่า “มีเรื่องอื่นใดที่ข้ายอมรับไม่ได้หรือ?”

เมื่อเห็นดวงตาเคร่งขรึมของเจ้าสำนัก หลี่ฉางโซ่วพลันถอนหายใจ แล้วหยิบแผ่นหยกออกมาจากแขนเสื้อแล้วถือไว้ในมือพลางยื่นออกไปข้างหน้าให้จี้อู๋โหย่ว

เดิมทีจี้อู๋โหย่วอยากจะรับมันมา แต่หลังจากมองดูใกล้ๆ เขาก็ถอยกลับไปครึ่งก้าวทันที!

ใบหน้าของเจ้าสำนักซีดไปในทันทีก่อนที่จะรีบทำรีบทำการคารวะเต๋าให้แผ่นหยกในขณะที่มีเหงื่อเย็นเยียบผุดขึ้นมาบนหน้าผาก…มีอักขระเต๋าของบรรพชนไท่ชิงแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินอยู่บนแผ่นหยก!

เขาสัมผัสได้ถึงอักขระเต๋าเหล่านั้นบนแผ่นหยกที่ท่านอาจารย์ของเขา ตู้เอ้อร์เจินเหรินถืออยู่

และแผ่นหยกนั้นเป็นมรดกเต๋าหลักของสำนักตู้เซียนในยามนี้ นั่นคือ “พระสูตนิรกรรมสูงสุด”!

หลี่ฉางโซ่วถือแผ่นหยกและรีบถามว่า “ไยท่านเจ้าสำนักจึงโค้งคารวะให้มันหรือขอรับ?”

“ฉางโซ่ว! ห้ามบอกผู้ใดแม้เพียงครึ่งคำว่าข้าเพิ่งพูดอะไรออกไป!”

จี้อู๋โหย่วกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบก่อนจะมองไปที่โหย่วฉินเสวียนหย่า “เสวียนหย่าด้วย ห้ามบอกผู้ใดว่า ข้าเพิ่งพูดอะไรออกไป มันเป็นอะไรที่รับมาไม่ได้!”

แค่กๆ! แค่กๆ…

เขาเริ่มไออย่างรุนแรง…

“เสวียนหย่า อย่ายืนนิ่งเฉย เข้ามาคารวะให้แผ่นหยกเถิด!”

โหย่วฉินเสวียนหย่าสับสนในทันที แต่นางก็ยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วโค้งคารวะให้แผ่นหยก

แน่นอนว่า แผ่นหยกนี้คือ “ไท่ชิงเต๋าหาน”

จี้อู๋โหย่วลังเลจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในขณะนั้น เขาทั้งตกใจและสงสัย เมื่อมองดูศิษย์หนุ่มน้อยผู้นี้ที่ยังไม่กลายเป็นเซียน เขาก็รู้สึกเล็กน้อย…

จี้อู๋โหย่วรู้สึกว่าเขาไม่อาจมองทะลุภูมิหลังของหลี่ฉางโซ่วได้

จี้อู๋โหย่วกล่าวว่า “ฉางโซ่ว เจ้าและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ … ”

“ท่านเจ้าสำนัก ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้เตือนข้าไม่ให้พูดเรื่องเหลวไหลขอรับ”

หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวเสียงเบาว่า “พลังแห่งสวรรค์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ เป็นศิษย์เองที่เปิดสารเต๋านี้ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดเมื่อข้าหยั่งรู้มันจนทำให้อักขระเต๋าผันผวน และดูเหมือนว่า พลังแห่งสวรรค์จะเตือนข้าเพื่อไม่ให้ข้าทำการหยั่งรู้ไปในทิศทางนั้นต่อไป … ” “เรื่องเป็นเช่นนี้เอง” จี้อู๋โหย่วเข้าใจในทันใด

หลังจากนั้น จี้อู๋โหย่วก็มองไปที่หลี่ฉางโซ่วด้วยดวงตาเจิดจ้าพลางกล่าวว่า “ฉางโซ่ว นี่มันเรื่องอันใดกัน?”

“ท่านเจ้าสำนัก ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้เตือน…”

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว” จี้อู๋โหย่วพยักหน้าทันที “รีบเก็บสิ่งนี้ออกไปเสีย หากคราวหน้าเจ้าต้องการศึกษาให้แจ้งข้าล่วงหน้าเพื่อจะได้คุ้มครองเจ้า ไม่เช่นนั้น เจ้าจะสร้างความวุ่นวายเช่นนี้อีกครั้ง ฉางโซ่ว เจ้าและปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่มีความสัมพันธ์กันอย่างไรหรือ? เจ้าไม่สะดวกจะเปิดเผยหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วมองไปที่โหย่วฉินเสวียนหย่าซึ่งยังไม่รูสึกตัว นางเต็มไปด้วยความฉงนงงงวย ผมหางม้าของนางแกว่งไปมาเบาๆ ในขณะที่นางอยู่ในชุดสีฟ้าเย็นยะเยือก

นางไม่รู้ว่า ท่านเจ้าสำนัก และศิษย์พี่ฉางโซ่ว กำลังพูดถึงเรื่องอะไร

“ท่านเจ้าสำนัก ศิษย์และท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่” หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เราเพิ่งเคยพบเจอกันไม่กี่ครั้ง ดังนั้น ข้าจึงไม่คิดว่าจะมีความสัมพันธ์พิเศษใดๆ ต่อกันเลย”

ไม่มีความสัมพันธ์พิเศษ?

จี้อู๋โหย่วเผยรอยยิ้มที่ดูลึกลับและกล่าวว่า “เข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก”

หลังจากกล่าวเช่นนั้นแล้ว จี้อู๋โหย่วก็หยิบยันต์หยกส่งสารออกมาแล้วยื่นให้หลี่ฉางโซ่วพลางกล่าว

“ฉางโซ่ว จงมุ่งฝึกบำเพ็ญของเจ้าไปอย่างสบายใจ คุณ หากมีอันใดเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด ก็บอกข้าได้ ตอนนี้ ข้าจะกลับแล้ว จงจำไว้ว่า หากเจ้าจะศึกษาสมบัตินี้อีกครั้ง ก็แจ้งให้ข้ารู้ก่อนล่วงหน้า”

นี่…

ท่านเจ้าสำนักช่างถูกหลอกง่ายอย่างน่าประหลาด…

หลี่ฉางโซ่วรีบกล่าวว่า “ศิษย์น้อมรับบัญชาขอรับ”

จี้อู๋โหย่วมองไปที่โหย่วฉินเสวียนหย่าและเตือนว่า “เสวียนหย่า เรื่องในวันนี้ มีเจ้า ข้าและฉางโซ่วเท่านั้นที่รู้ ห้ามมิให้มีผู้ใดล่วงรู้เป็นคนที่สี่อีก”

“เจ้าค่ะ ศิษย์น้อมรับบัญชาท่านปรมาจารย์!”

ไม่เพียงแต่เขาจะถูกหลอกง่ายเท่านั้น แต่เขายังช่วยข้าจัดการศิษย์น้องโหย่วฉินอีกด้วย?

หลี่ฉางโซ่ว รู้สึกประทับใจอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อมองไปที่ด้านหลังของท่านเจ้าสำนักที่หันหลังเดินจากไปอย่างไร้กังวลและรู้สึกมีอารมณ์เล็กน้อย

หากมีโอกาส ข้าจะแนะนำท่านเจ้าสำนักให้รู้จักกับท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

ช่างเป็นคนดีจริงๆ…

โหย่วฉินเสวียนหย่ามองไปที่หลี่ฉางโซ่ว และกระซิบว่า “ศิษย์พี่ฉางโซ่ว?”

“ศิษย์น้องโหย่วฉิน รอสักครู่” หลี่ฉางโซ่วฝืนยิ้มแหยพลางจ้องมองไปที่โหย่วฉินเสวียนหย่า และกล่าวว่า“ข้าขอจัดการเรื่องบางอย่างก่อนแล้วค่อยอธิบายให้เจ้าฟังภายหลัง”

“ศิษย์พี่ฉางโซ่วน่ายุ่งอยู่” โหย่วฉินเสวียนหย่ากล่าวทันทีว่า “เช่นนั้น ข้าจะรอท่านอยู่ที่นี่”

“ขอรับ” หลี่ฉางโซ่ว พยักหน้า คราวนี้เขาหลับตาลงและเปิดใช้งานตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใต้วิหารเทพทะเลทักษิณอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบกล่าวกับเทพธิดาอวิ๋นเซียวว่า “ผู้น้อยสบายดี”

ในวิหาร เทพธิดาอวิ๋นเซียวผู้งดงามและใจกว้างคนนี้แผ่กระโปรงออกแล้วนั่งขัดสมาธิบนพื้นก่อนจะเริ่มใช้พลังเซียนเพื่อช่วยเหลือร่างตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่อักขระเต๋าของจอมปราชญ์เทพชำระล้างไป…

เข้าใจแล้ว!

ทันทีที่หลี่ฉางโซ่วกล่าว จี้อู๋โหย่วก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว!

ก่อนหน้านี้ จี้อู๋โหย่วสงสัยว่า ไฉนปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูจึงขอให้ท่านอาจารย์ของเขา ตู้เอ้อร์เจินเหริน มอบโอสถวิญญาณระดับหกให้กับตัวเขาเพื่อให้เขาส่งต่อให้หลี่ฉางโซ่ว ศิษย์น้อยแห่งยอดเขาหยกน้อย

ตอนนี้ดูเหมือนว่า มันจะค่อนข้างมีความหมายลึกซึ้งถึงเรื่องนั้น

พระสูตรของจอมปราชญ์เทพต้องสำคัญมาก

แม้จะหาโอสถวิญญาณระดับหกได้ไม่ยาก แต่โอสถวิญญาณหยางหกแปรเปลี่ยนนั้นก็ไม่ธรรมดาและกระตุ้นจินตนาการอย่างยิ่ง!

เห็นได้ชัดว่า ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูกังวลมากว่า หลี่ฉางโซ่วจะมีสตรีเคียงกาย…ในอนาคตหรือไม่…

ผู้ใดจะกังวลและใส่ใจในเรื่องนี้?

เขาแสดงความห่วงใยเช่นนั้น เป็นความห่วงใยอย่างมาก และยังมอบพระสูตรของจอมปราชญ์เทพให้กับเขาอีก แม้ว่าเขาจะหลงฝึกบำเพ็ญไปผิดทางโดยไม่ตั้งใจ เขาก็ได้รับคำเตือนจากพลังแห่งสวรรค์ทันเวลาหลังจากหยั่งรู้อย่างระมัดระวังแล้ว ส่วนข้าไม่ได้รู้อะไรเลย ความลับแห่งสวรรค์ถูกปกปิดเอาไว้อย่างแนบเนียน!

นี่อาจเป็นการดูแลที่แม้แต่ศิษย์สายตรงก็ไม่ได้รับการปฏิบัติดูแลเช่นนี้!

นอกจากนี้ เมื่อสำนักตู้เซียนเผชิญกับภัยพิบัติก่อนหน้านี้ ท่านอาจารย์ตู้เอ้อร์ก็ปรากฏตัวออกมาอย่างชัดเจนเพื่อช่วยพวกเรา ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้พาท่านอาจารย์ของเขาไปที่เกาะเต่าทองเพื่อหารือกัน… วันนี้ ข้าได้พบคำอธิบายที่สมเหตุสมผลสำหรับคำถามเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว!

น่าจะถูกต้องกว่าแปดส่วน มันไม่น่าจะผิดอะไร เสี่ยวฉางโซ่วผู้นี้น่าจะเป็น… ทายาทสายตรงของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ เขาอาจจะถึงกับเป็นบุตรนอกสมรสด้วยซ้ำ!

“แค่กๆๆๆ!”

จี้อู๋โหย่วไอสองสามครั้งพลางยิ้มเล็กน้อย แล้วกลับไปที่กระท่อมข้างห้องโถงใหญ่ จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ทรงกลม และครุ่นคิดอยู่ในภวังค์ชั่วครู่หนึ่ง

เขาไม่อาจพูดเรื่องนั้นออกไปได้อย่างแน่นอน ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ย่อมไม่ต้องการให้มันถูกเผยแพร่ออกไปอย่างแน่นอน

ในอนาคต เขาซึ่งเป็นเจ้าสำนักตู้เซียนคงทำได้เพียงแอบดูแลเสี่ยวฉางโซ่วอย่างลับๆ ไม่ใช่เพื่อขอบุญ แต่เพียงเพื่อมิให้มีบาป…

…………………………………………………………………

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท