ตอนที่ 244 ข้าอ๋าวอี่ ทำไม่ได้…(2)
“ถูกต้อง” หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าช้าๆ และกล่าวว่า “งานอภิเษกของพี่อี่และองค์หญิงเงือกเป็นการเคลื่อนไหวที่ดีให้กับเผ่ามังกรในการสร้างเสถียรภาพให้กับสี่คาบมหาสมุทร แต่สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการจะเห็นความสงบสุขและมั่นคงของเผ่ามังกร ก็ย่อมต้องต่อต้านเรื่องนี้ อีกฝ่ายจงใจปลอมเป็นเจ้าเพื่อทำสิ่งที่น่ากลัวบางอย่างโดยจงใจเปิดเผย และยังคงอยู่ที่ปลายขอบโลก ซึ่งมีทั้งปลาและมังกรปะปนกัน เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเสียหายและทำให้เผ่าทะเลขุ่นเคืองเจ้า ส่วนใหญ่คนของเผ่าทะเลจะมีใจบริสุทธิ์ หากมีผู้ใดพยายามก่อปัญหาและพูดว่า เจ้าแค่หลงใหลในความงามขององค์หญิงเงือกน้อย จึงบังคับและล่อลวงให้นางแต่งงานกับเจ้า งานอภิเษกครั้งยิ่งใหญ่นี้ ย่อมจะรังแต่ส่งผลเสียต่อความมั่นคงของสี่คาบมหาสมุทรเท่านั้น”
อ๋าวอี่และผู้อาวุโสหัวมังกรทั้งสี่ ต่างก็กำลังครุ่นคิดถึงเรื่องนี้อยู่ลึกๆ แม้พวกเขาจะคิดว่ามีคนกำลังเข้ามาขัดขวางงานอภิเษกของอ๋าวอี่ แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องใดให้ทำมากมายหลังจากนั้น…
ความจริงแล้ว สิ่งที่หลี่ฉางโซ่วกล่าวนั้น เป็นกระบวนการคิดของ “สงครามวาจา[1]” ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวมักไม่ค่อยพบเห็นว่ามีลมปากอาละวาดมากนักในโลกบรรพกาล
ไม่ใช่เพียงเพราะพวกเขาคิดไม่ถึง บางที…อีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดลึกมากถึงเพียงนั้น…
แต่หากยังปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป มันจะกลายเป็นสถานการณ์ที่หลี่ฉางโซ่วกล่าวถึงได้อย่างง่ายดาย การเพิ่มขึ้นและลดลงของสงครามปากจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเผ่ามังกร
ในตอนนี้ ผู้อาวุโสเผ่ามังกรสองสามคนกล่าวว่า “เรื่องนี้ดูค่อนข้างร้ายแรง เราควรส่งกองกำลังไปปิดล้อมเมืองเทียนหยาทันทีหรือไม่”
“ไม่ควรแหวกหญ้าให้งูตื่น” หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามีแผนในใจอยู่แล้วขณะกล่าวว่า “เอาเป็นเช่นนี้ ให้มีผู้อาวุโสคนหนึ่งช่วยส่งพี่อี่และสหายเต๋าเจียงหลินเอ๋อร์กลับไปก่อน ส่วนพวกท่านทั้งสามคนโปรดปลอมตัวและกลิ่นอายลมปราณของท่าน แล้วตามข้าไปที่เมืองเทียนหยาเพื่อตรวจสอบ”
อ๋าวอี่รีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ท่านเจ้าสำนัก ข้าอยากไปช่วยด้วยเช่นกันขอรับ!”
“เจ้า…”
หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่อยากให้อ๋าวอี่ต้องไปเสี่ยงอันตราย
ผู้อาวุโสมังกรหลงอี้กล่าวต่อว่า “หลังจากเกิดภัยพิบัติขึ้นในเผ่าเงือก ตอนนี้ ฝ่าบาท องค์ชายรองของข้าก็ได้รับสมบัติชิ้นใหญ่มาแล้ว หากตกอยู่ในอันตราย ก็สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองกลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพาได้ทันที”
“ก็ดี” หลี่ฉางโซ่วตกลงอย่างไม่เต็มใจ
และตามที่หลี่ฉางโซ่วได้ขอไว้ บัดนี้ ผู้อาวุโสหัวมังกรทั้งสี่ก็กลายเป็นชายวัยกลางคนสองคนและชายหนุ่มสองคน พวกเขาซ่อนเขาบนศีรษะเอาไว้และเปลี่ยนชุดเกราะเป็นเสื้อคลุมเต๋า ในขณะนี้กลิ่นอายลมปราณของพวกเขาปลอมแปลงเป็นระดับเซียนเทียน
ส่วนอ๋าวอี่ เขาปลอมตัวโดยเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาเท่านั้น ซึ่งยังคงเป็นเด็กหนุ่มบอบบางและหล่อเหลา
ในขณะที่เจียงหลินเอ๋อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอดหมวกไม้ไผ่ออก จากนั้นก็สวมเสื้อคลุมยาวคลุมชุดเกราะเอาไว้แล้วรวบเส้นผมยาว นาง… ปลอมตัวเป็นบุรุษ
ส่วนการปลอมตัวของหลี่ฉางโซ่วนั้นง่ายยิ่งกว่า…
เขาหยิบตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ก็กลายร่างเป็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง ส่วนเซียนชราก็กลับมาเป็นตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์แล้วเข้าไปในแขนเสื้อของบุรุษหนุ่ม
เจียงหลินเอ๋อร์ที่เฝ้าดูจากด้านข้างตกตะลึงไปครู่หนึ่งในขณะที่อ๋าวอี่ยกย่อง “ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าหยินอยู่ในใจของเขา แล้วองครักษ์ของราชามังกรทั้งสี่ก็ปล่อยพลังส่งตัวพวกเขาทั้งเจ็ดพุ่งออกไป จากนั้น ร่างของพวกเขาทั้งเจ็ดก็แล่นผ่านน้ำทะเลไปอย่างเงียบ ๆ และรีบไปที่บริเวณเสาสวรรค์อย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางเจียงหลินเอ๋อร์ได้ส่งเสียงไปถามตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วว่า “สหายเต๋าเป็นผู้ใดกัน?”
“เทพแห่งท้องทะเลทักษิณ” เจียงหลินเอ๋อร์ถามอีกครั้งว่า “แล้วสหายเต๋ารู้จักศิษย์หลานของข้าได้อย่างไรหรือ?”
หลี่ฉางโซ่วคิดในใจว่า ข้าพบเขาในครั้งแรกเมื่อส่องกระจกหลังจากที่ข้าฟื้นสติขึ้นมาในชีวิตชาติก่อนนี้
“เป็นเรื่องบังเอิญ ท่านสามารถไปถามสหายน้อยฉางโซ่วได้ เรามาจัดการเรื่องนี้ให้ฝ่าบาท อ๋าวอี่กันก่อนเถิด”
เจียงหลินเอ๋อร์ครุ่นคิดลึกและไม่ได้เอ่ยอันใดอีก
จากนั้น ทั้งเจ็ดคนก็เข้ามาในเมืองใหญ่นี้ด้วยกัน แล้วแสร้งทำตัวเป็นเจ็ดปรมาจารย์เซียนเทียนที่จะเดินทางไปด้วยกันในมหาตรีสหัสโลกธาตุ
เจียงหลินเอ๋อร์ชี้ไปในทิศทางหนึ่ง สัมผัสเซียนรับรู้ของพวกเขาแผ่ขยายออกไป และเห็นตำแหน่งที่องค์ชายรอง “ตัวปลอม” อยู่
เขาอยู่ในห้องส่วนตัวที่ชั้นบนสุดของอาคารสูง มันเด่นสะดุดตามาก หน้าต่างถูกเปิดกว้างออกทุกที่ และภายในก็เต็มไปด้วยเสียงอันไม่พึงประสงค์ สถานการณ์ภายในก็ค่อนข้างไม่น่าดูนักเช่นกัน
ปีศาจมากกว่าสิบตัวที่มีหัวในรูปทรงแปลก ๆ กำลังดื่มสุราและสนุกสนานมากมาย มีสตรีสาวสวยกว่ายี่สิบคน ตั้งแต่ปีศาจ มนุษย์ สาวทะเล และวิญญาณที่คอยรับใช้ที่นั่น เสื้อผ้าที่พวกเขาใส่นั้น ดูน่าทึ่งมาก อย่างไรก็ตาม สตรีเหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นมืออาชีพอย่างยิ่ง…
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าไม่ได้เปิดค่ายกลแยกตัวในห้องส่วนตัวนี้ แต่ก็ไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติกิจกรรมพวกเขาแม้แต่น้อย
ได้เห็นเช่นนี้ เขาก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องได้รับเงินเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน!
มีสตรีสามคนจากเผ่าปีศาจและเผ่าทะเลที่ล้อมรอบกาย ‘อ๋าวอี่ตัวปลอม’ คอยป้อนสุราให้เขา…
บัดนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากของอ๋าวอี่ก็ปูดโปนออกมาทันทีในขณะที่หลี่ฉางโซ่วแอบขมวดคิ้ว
เจียงหลินเอ๋อร์อดจะดุออกมาไม่ได้ว่า “สตรีเหล่านี้ช่างน่าประทับใจจริงๆ! พวกนางยอดเยี่ยมเพียงเพราะพวกนางใหญ่[2]ใช่หรือไม่? ชิ!”
มังกรอีกห้าตัวที่เหลือทั้งหมดล้วนเอียงศีรษะ…
หลี่ฉางโซ่วหัวเราะเบาๆ พลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ในเวลานี้ เขามีแผนในใจแล้วและส่งข้อความเสียงไปยังพวกเขา
ครู่หนึ่ง องครักษ์ราชามังกรทั้งสี่คนต่างก็พยักหน้ารับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพวกเขา
ทว่าอ๋าวอี่อยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่อยากจะขัดความประสงค์ของศิษย์พี่เจ้าสำนักของเขา …
พวกเขาเข้าไปในโรงเตี๊ยมเซียนที่อยู่ห่างไกลออกไป และจองไว้ทั้งหมด พวกเขาพบห้องเร้นลับอยู่สามห้องและเปลี่ยนเสื้อผ้าปลอมตัวของพวกเขาเอง
หลี่ฉางโซ่วได้ให้ทุกคนวางตัวของพวกเขาตามการออกแบบตัวละครของแต่ละคนที่เขากำหนด
หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์มังกรทั้งสี่ก็กลายเป็นสตรีสี่คนที่สวมชุดเกราะสมบัติวิญญาณเหมือนกัน แต่ละคนต่างสวมผ้าคลุมหน้าและถือกระบี่เล่มหนึ่ง พวกเขายังคงปลอมตัวเป็นคนที่มีกลิ่นอายลมปราณเซียนเทียน
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นมังกรเฒ่าที่มีประสบการณ์มากมาย และไม่มีปัญหาเมื่อต้องปลอมตัวเช่นนี้มากนัก
แต่อ๋าวอี่ที่อยู่ในห้องถัดไปนั้น มีใบก็หน้าแดงก่ำทันทีที่มองดู… เด็กสาวในกระจก…
เพื่อไม่ให้ถูกมองทะลุผ่านได้ เขาจึงไม่ได้ใช้กลอุบายใดๆ
อ๋าวอี่เปลี่ยนทรงผมเป็นทรงผมสตรีที่เรียบง่ายและสวมชุดเทพธิดาที่เขาเตรียมเอาไว้ให้เจียงซื่อเอ๋อร์ ภรรยาของเขา จากนั้นเขาก็ใช้พลังเซียนปรับร่างกายของเขา และปัดแก้ม…
แล้วเด็กสาวสวยผู้บอบบางก็ปรากฏขึ้นมาเช่นนั้น
ในวันนี้ หลี่ฉางโซ่วได้นำตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ตัวที่สามออกมาแล้วให้แปลงร่างเป็นสตรีชรา
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เตือนในส่วนที่เหลือ
“พี่อี่ เจ้าควรจำไว้เสมอว่า เวลานี้ เจ้าคือ เข่อเล่อเอ๋อร์ เป็นญาติและสหายสนิทของเจียงซื่อเอ๋อร์ ภรรยาของเจ้าและได้รับคำเชิญให้รีบออกจากมหาตรีสหัสโลกธาตุเพื่อไปงานแต่งงานของญาติของเจ้าที่นี่ แล้วจู่ๆ เจ้าก็ปะทะกับอ๋าวอี่ตัวปลอมที่กำลังดื่มและสนุกสนาน จึงโกรธมากจนไปทุบตีเขา และเมื่อต่อสู้กัน เจ้าก็ดึงดูดผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ให้มาเฝ้าดู และเปิดเผยตัวตนของตัวปลอมคนนี้ก่อนจะดึงเขาออกมาจากเมืองแล้วฆ่าเขาทันที ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่กระจายออกไปมากเท่าใดก็ยิ่งดี แล้วจะดีที่สุดหากสี่เผ่าทะเลรู้ว่า อ๋าวอี่ทุ่มเทและมอบความรักให้กับเจียงซื่อเอ๋อร์ เพียงเท่านี้พวกเราก็จะสามารถทำให้คนทั้งสี่เผ่าทะเลมีใจมั่นคงได้”
อ๋าวอี่ถามเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่เจ้าสำนัก แล้วเหตุใดข้าถึงปรากฏตัวตรงๆ ไม่ได้เล่า?” หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “มันจะทำให้เจ้าต้องพบกับอันตรายและดึงดูดเหล่าปรมาจารย์จากสำนักบำเพ็ญประจิมให้มุ่งเป้ามาที่เจ้าได้ง่าย และอีกอย่าง… เจ้าคิดว่า การที่เจ้าชื่นชมตัวเองดีกว่า หรือการให้ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมามองเจ้าอย่างชื่นชม แบบใดจะได้ผลดีกว่ากันเล่า?”
อ๋าวอี่ครุ่นคิดถี่ถ้วน…
เขารู้สึกว่าศิษย์พี่เจ้าสำนักกล่าวมีเหตุผลมาก!
องค์ชายรองถอนหายใจและกล่าวเสียงเบาว่า “เดิมทีข้ากับซื่อเอ๋อร์… แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการแต่งงานการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ”
“เรื่องการพูดนี่…เจ้าเลียนแบบเสียงสตรีได้หรือไม่?”
“ไม่ต้องเป็นห่วง พี่ชาย” แล้วอ๋าวอี่ก็ใช้พลังเซียนเพื่อปรับเสียงของเขาและเรียกออกมาด้วยเสียงไพเราะอ่อนหวานทันทีว่า “นี่เป็นอย่างไรเจ้าคะ?”
พรืด…
ทันใดนั้น ในห้องลับใต้ดินของยอดเขาหยกน้อย ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็หัวเราะออกมาดังลั่น
แต่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หญิงชราเพียงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “พยายามอย่าได้เผยข้อบกพร่องใดๆ ออกมา”
ฉับพลันนั้น ก็มีการเคาะผนังด้านซ้ายและขวา จากนั้นค่ายกลเวทและข่ายอาคมของทั้งสามห้องก็ถูกปลดออกพร้อมกัน แล้วทั้งเจ็ดคนก็เปิดประตูและเดินออกไปพร้อมกัน
ในขณะนั้น องครักษ์มังกรทั้งสี่คนที่อยู่ทางด้านซ้ายก็กลายเป็นองครักษ์หญิงสี่คนแล้ว
ส่วนเจียงหลินเอ๋อร์ทางด้านขวาก็ได้เปลี่ยนใบหน้าของนางให้กลายเป็นใบหน้าธรรมดา ยากยิ่งนักที่นางจะสวมชุดเทพธิดา
และอ๋าวอี่ที่อยู่ตรงกลาง… บัดนี้ เข่อเล่อเอ๋อร์เริ่มมีสีหน้าแดงก่ำขึ้นทันทีในขณะที่นางยังคงบ่นพึมพำในใจว่า “เพื่อเห็นแก่เผ่ามังกรนะ” ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้อย่างรวดเร็ว
บัดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว ซึ่งกลายเป็นหญิงชราก็เริ่มแสดงบทบาทแล้วเมื่อกล่าวอย่างกังวลว่า “คุณหนู เมื่อครู่นี้ ข้าเห็นองค์ชายอ๋าวอี่จริงๆ เจ้าค่ะ!”
“โอ้ โอ้?” อ๋าวอี่ยังคงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “ไปดูกันเถิด”
หลี่ฉางโซ่วรีบกล่าวออกมาทันทีผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “ทำเสียงให้ฟังดูโกรธ โกรธ”
“เหอะ! ตามข้ามา!” ดวงตาหงส์ของเข่อเล่อเอ๋อร์จ้องมองตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หญิงชราของหลี่ฉางโซ่วแล้วกล่าวว่า “ข้าอยากดูว่าเขาจะทำให้พี่สาวของข้าผิดหวังเพียงใด!”
ในเวลาเดียวกันนั้น เจียงหลินเอ๋อร์ก็มองไปที่พวกเขาทั้งหกและอดจะคิดถึงมโนธรรมของนางเองไม่ได้ …
ตัวปลอม!
เขาแพ้แล้ว! สำนักบำเพ็ญเต๋าหยินช่างชั่วร้ายนัก!
…………………………………………………………………………….
[2] หมายถึงอวบอัด อกอวบอิ่ม