ตอนที่ 247 ช่างน่าเศร้ายิ่งนัก (1)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เจียงหลินเอ๋อร์พลันแย้มยิ้ม แต่จู่ ๆ ก็หน้ามุ่ยพลางพึมพำว่า ‘น่าเบื่อ’ และมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอย่างสงบ
หลี่ฉางโซ่วบังเอิญจับรายละเอียดนั้นขณะที่อยู่ด้านข้าง เขานึกถึงโอสถที่หลอมขึ้นไม่สำเร็จก่อนหน้านี้และกล่าวขออภัยท่านปรมาจารย์ใหญ่ตัวน้อยของเขาในใจ…
เขาฝึกฝนเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ในขณะที่การหลอมโอสถต้องใช้พลังงานมาก ดังนั้นการสะสมโอสถและการปรับปรุงใหม่ๆ จึงมีจำกัดจริงๆ…
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้แล้ว อ๋าวอี่ได้ปลอมตัวเป็นสตรีครั้งเดียว ก็มีบุรุษมาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว ต้องบอกว่าเสน่ห์แรงไม่เลวเลยจริงๆ
น่าเสียดายที่อ๋าวอี่ไม่สนใจในเรื่องนี้ เขาถูกกำหนดให้เป็นคนไร้หัวใจไว้ล่วงหน้าแล้ว
ในฐานะองค์ชายแห่งเผ่ามังกรผู้จริงจังและผู้ฝึกบำเพ็ญแห่งสำนักบำเพ็ญเต๋าเจี๋ย อ๋าวอี่จึงยิ่งเหยียดหยันมากขึ้น
ชั่วขณะนั้น อ๋าวอี่ก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวไปให้พ้น!”
เขาชักกริชออกจากฝักก่อนจะเอากลับเข้าฝักไปพร้อมด้วยเสียงเสียดสีของตัวกริชยามเข้าฝัก เข่อเล่อเอ๋อร์ลุกขึ้นแล้วกระโดดลงไปในทะเล…ในขณะที่องครักษ์มังกรทั้งสี่ยืนเฝ้าคุ้มกันเขาอยู่ข้างๆ อย่างใกล้ชิด
ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ผู้ฝึกบำเพ็ญหนุ่มในขอบเขตเซียนเทียนก่อนจะกล่าวว่า “สหายเต๋า คุณหนูของข้าหาใช่สตรีธรรมดาไม่ หากเจ้ามีความคิดใด ๆ จงระวังชีวิตของเจ้าเอาไว้ด้วย”
เขาไม่อาจหลอกรองเจ้าสำนักของเขาได้จริงๆ
ทันใดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์หญิงชราก็หันหลังกลับแล้วจากไปโดยไม่ลืมแอบชี้แนะเจียงหลินเอ๋อร์เล็กน้อย
จากนั้นก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วพร้อมด้วยอ๋าวอี่และปรมาจารย์เผ่ามังกรทั้งสี่คนก็ได้ออกจากสถานที่แห่งนี้และหายตัวไปในท้องทะเลอันกว้างใหญ่อย่างรวดเร็ว
เพื่อจะได้ไม่เป็นที่สนใจของปรมาจารย์สำนักบำเพ็ญประจิมอ๋าวอี่ไม่อาจอยู่ภายนอกได้นานเกินไป
เจียงหลินเอ๋อร์ปะปนไปกับฝูงชนและมุ่งหน้าไปยังเมือง
ในขณะที่นางกำลังจะจากไป ทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงแผ่วเบามาจากชายทะเล มันมาจากผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ที่รู้สึกว้าวุ่นและร้องตะโกนว่า ‘เข่อเล่อเอ๋อร์’ เขายืนกรานที่จะขอรู้นามของนาง แม้จะเรียกนางด้วยชื่อของนางก็ตาม…
เขาพึมพำว่า “สตรีแปลกประหลาดผู้นี้แตกต่างจากสตรีธรรมดาจริงๆ เพียงมองแวบเดียว ข้าก็ไม่อาจละสายตาจากนางได้แล้ว เข่อเล่อเอ๋อร์…เล่อเอ๋อร์…เล่อ…”
เจียงหลินเอ๋อร์สะดุดเท้าโซเซและเกือบจะกลับไปสับฆ่าเขาทันที!
กลับไปที่หัวข้อหลักก่อน
ในน้ำทะเล มังกรพี่น้องทั้งสี่และหลี่ฉางโซ่วที่กำลังปกป้องอ่าวอี่และตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่ว ได้รีบหนีห่างออกไปหลายหมื่นลี้
หลี่ฉางโซ่วให้คำแนะนำง่ายๆ สองสามคำแก่อ๋าวอี่และขอให้อ๋าวอี่กลับไปสารภาพกับ เจียงซื่อเอ๋อร์และให้เจียงซื่อเอ๋อร์จัดการเรื่องติดตามผลของเข่อเล่อเอ๋อร์ในภายหลัง เพื่อไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็นจุดบกพร่อง…
ในขณะนั้น องครักษ์ส่วนตัวทั้งสี่ของราชามังกรตื่นตัวเต็มที่ พวกเขาทำงานร่วมกันโดยใช้เวทหลบหนีเพื่อพาอ๋าวอี่กลับไปที่วังมังกรทะเลบูรพาอย่างรวดเร็ว
ราวกับว่า หากเขาเดินช้ากว่านี้ ศิษย์ของจอมปราชญ์จากสำนักบำเพ็ญประจิมก็จะกระโดดออกมาจากข้างหลัง
พวกเขากังวลอย่างยิ่งเมื่อได้รับการเตือนจากเทพแห่งท้องทะเล
แม้จะเป็นเพียงการร่วมมือกันจัดการเรื่องเล็กน้อยในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ในขณะนี้ ผู้พิทักษ์มังกรทั้งสี่ก็ไว้ใจหลี่ฉางโซ่วมาก มันไม่ใช่เพียงเพราะ ‘คำบัญชาของราชามังกร’ ที่เรียบง่ายอีกต่อไป
พวกเขาได้ตระหนักแล้วว่าคำชี้แนะของเทพแห่งท้องทะเลนั้นแน่นอนและครอบคลุมอย่างละเอียดถี่ถ้วน
มากกว่าปรมาจารย์เผ่าพันธุ์มนุษย์ธรรมดา…
ไม่ ไม่ต้องกล่าวถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ เพราะแม้แต่เผ่าพันธุ์มังกร ก็ยังมีน้อยคนนักที่จะมีความมั่นคงและละเอียดรอบคอบ!
หลังจากแยกทางกับพวกของอ๋าวอี่แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็ทำลายตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ปลอมตัวเป็นหญิงชราจนกลายเป็นขี้เถ้าแล้วแทนที่ด้วยตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่เทพแห่งท้องทะเลใช้ซึ่งอยู่ในรูปของเซียนชรา
เขาค้นหาส่วนลึกของทะเลบูรพาชั่วขณะหนึ่ง และเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีผู้ใดติดตามรอยเข่อเล่อเอ๋อร์ เขาจึงรีบไปยังเกาะร้างที่เขาได้พบกับเจียงหลินเอ๋อร์
เมื่อมาถึงเกาะ เขาก็ร่ายเวทจำแลงกายและซ่อนตัวอยู่ในร่องหิน
หลี่ฉางโซ่วเริ่มคาดเดาว่า หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับสำนักบำเพ็ญประจิม…
นี่น่าจะเป็นแผนการเล็กน้อย
พวกเผ่าปีศาจทะเลลึกมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเผ่ามังกรด้วย และในครั้งนี้ สำนักบำเพ็ญประจิมก็ยิ่งใช้วิธีการต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
ความจริงแล้ว สิ่งที่หลี่ฉางโซ่วกังวลมากที่สุดคือ เมื่อมาถึงในตอนท้าย สำนักบำเพ็ญประจิมอาจรู้สึกว่ายากที่จะลงจากหลังเสือได้[1]
เหล่าศิษย์ของจอมปราชญ์เทพผู้ควบคุมแผน ‘ฝึกมังกร’ และทุ่มเททรัพยากรมากมายอย่างยิ่งจะต้องบันดาลโทสะจากความอัปยศอย่างแน่นอน บางที พวกเขาอาจต้องการทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นจนยากจะจัดการให้ลุล่วงได้ ซึ่งจะทำให้จอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนตื่นตกใจ
มันยากที่จะเข้าใจระดับความเหมาะสม และยังเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับหลี่ฉางโซ่ว
มีบางอย่างแปลกๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น เมื่อพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว เขาก็รู้สึกว่าเขาได้รับกรรมดีเพราะน้ำตาแห่งชีวิตในชาติก่อนของเจียงซื่อเอ๋อร์
เจียงซื่อเอ๋อร์ได้มอบน้ำตาแห่งชีวิตในชาติก่อนซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของเผ่าเงือกให้หลิงเอ๋อร์ และเมื่อหลิงเอ๋อร์มอบน้ำตาแห่งชีวิตในชาติก่อนให้กับปรมาจารย์ใหญ่ตัวน้อย ปรมาจารย์ใหญ่ตัวน้อยของนางจึงรีบกลับมาที่โลกบรรพกาลและพบอ๋าวอี่ตัวปลอมในระหว่างทาง
ทุกอย่างล้วนถูกลิขิตไว้ล่วงหน้าแล้ว
เหตุและผลล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ
หลี่ฉางโซวทำได้เพียงชื่นชมมันอย่างอ่อนโยนและรู้สึกสะเทือนอารมณ์เล็กน้อย…
ช้าก่อน!
หัวใจเต๋าของหลี่ฉางโซ่วสั่นสะท้านด้วยความตกใจและเขาก็หยุดทันเวลา
ร่างหลักที่นั่งอยู่ในห้องลับใต้ดินลืมตาขึ้น ก่อนจะสร้างกระบี่ใหญ่สีเขียวขึ้นมา เขาใช้วิชาตัดเต๋า แล้วใช้กระบี่ฟันหน้าผากอย่างดุเดือดพร้อมกับเกิดเสียงพั่บๆ เบาๆ สองครั้ง ทันใดนั้น ร่างของหลี่ฉางโซ่วก็พลุ่งพล่านไปด้วยแสงเซียนในขณะที่ดอกบัวร่วงหล่นลงมา บัดนั้น ฐานเต๋าของเขาตกลงไปในขอบเขตพลังเล็กๆ และสมบูรณ์แบบมากขึ้น
หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็เข้าสู่การตรัสรู้ก่อนหน้านี้ต่อไป
ข้าต้องรีบจัดการเรื่องระหว่างท่านปรมาจารย์ใหญ่กับท่านปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งโดยเร็วที่สุด
หากข้าให้ท่านปรมาจารย์ใหญ่ของข้าเตือนท่านปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งถึงสิ่งที่เขายังไม่เข้าใจ บางทีท่านปรมาจารย์หว่างฉิงผู้สูงส่งจะบรรลุความสำเร็จระดับใหญ่ไปถึงเซียนเทียนขั้นสูงสุดที่สมบูรณ์แบบได้…
แม้หลี่ฉางโซ่วยังคงสามารถระงับขอบเขตพลังของเขาได้ แต่ในขณะนี้ ยิ่งทัณฑ์สวรรค์เซียนจินที่ใช้อ้างอิงได้ มาเร็วมากเท่าใด ก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น…
ด้วยวิธีนั้น เขาจะสามารถเตรียมการได้มากขึ้น และกำหนดขอบเขตที่ดีที่สุดของการรวมรากฐานเต๋าของเขาได้
หากมั่นใจ เขาจะต้องพิจารณาว่า ยังมีสถานการณ์ที่เป็นผลพวงเกิดขึ้นหลังข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์เซียนจินขึ้นไปได้หรือไม่…
เมื่อไม่มีสมบัติวิญญาณเซียนเทียนคอยคุ้มครอง ร่างทองแห่งบุญก็ก่อตัวขึ้นได้เพียงไม่กี่ชุ่นเท่านั้น ยิ่งขอบเขตพลังปราณสูงมากเท่าใด ก็ยิ่งมั่นคงปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
ครึ่งวันต่อมา เจียงหลินเอ๋อร์หนีออกจากทะเลอย่างรวดเร็วและได้พบกับหลี่ฉางโซ่วใต้เกาะร้างอย่างราบรื่น
ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วได้จัดเตรียมการติดตามผลในเรื่ององค์ชายมังกรตัวปลอม ขณะที่เผ่ามังกรก็ได้เริ่มใช้เรื่องนั้นเพื่อ ‘สร้างกระแส’ แพร่กระจายออกไปทุกที่แล้ว
เขาสร้างเรื่องราวความรักมากมายของการแต่งงานระหว่างอ๋าวอี่และเจียงซื่อเอ๋อร์ขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้ผู้คนในสี่คาบมหาสมุทรมีหัวใจมั่นคง
………………………………………………………………………..
[1] ล่าถอยหรือกลับตัวลำบาก