ตอนที่ 264 วิวัฒนาการขั้นสุดยอดของทหารถั่วเซียน (2)
หลี่ฉางโซ่วและผู้อาวุโสว่านหลินหยุนพูดคุยกันเรื่องคัมภีร์พิษและข้อมูลลึกๆ ล่าสุดในเรื่องการหลอมโอสถเป็นเวลาสองสามชั่วยามด้วยความสนใจอย่างมาก และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็หยิบกล่องผ้าออกมา
หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโส ท่านปรุงโอสถพิษสัมผัสเซียนรับรู้ของท่านสำเร็จแล้วหรือไม่?”
“เหอะๆ” ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนเผยรอยยิ้มเย็นชาในขณะที่หลิงเอ๋อรที่อยู่ข้างๆ ก็ก้มศีรษะลงทันทีและไม่กล้ามองเขาอีก ด้วยเกรงว่านางจะฝันร้ายเมื่อกลับไป
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนกล่าวอย่างอบอุ่นว่า “แม้ข้าจะเชี่ยวชาญในโอสถพิษสัมผัสเซียนรับรู้ แต่ก็มีผลเพียงเล็กน้อย… แต่อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่ได้ทุ่มเทความพยายามไปอย่างสูญเปล่า เมื่อปรุงโอสถดังกล่าวแล้ว ข้าก็ตั้งชื่อมันว่า โอสถป้องกันร่างเก้าเกราะ ฉางโซ่ว เรามาทดสอบความสามารถในการจดจำและระบุโอสถของเจ้า แล้วทดสอบดูว่า ฤทธิ์โอสถนี้มีผลอย่างไรกัน”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ข้ายังอยากขอให้ท่านผู้อาวุโส โปรดป้องกันศิษย์น้องหญิงของข้าด้วยขอรับ”
“ได้สิ” ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนชูมือขึ้นไปทางหลิงเอ๋อร์ และสร้างข่ายอาคมเซียนหนาทึบขึ้นมา
หลี่ฉางโซ่วกล่าวเสริมอีกว่า “หลิงเอ๋อร์ ห้ามมองมาทางนี้”
หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็มีสีหน้าท่าทีดูเคร่งขรึมอย่างยิ่ง เแอบโคจรพลังเซียนของเขาเพื่อปกป้องปราณวิญญาณและถอนสัมผัสเซียนรับรู้ออกไป
เขาเปิดกล่องผ้า แล้วใช้พลังเวทจำลองห่อนิ้วมือก่อนจะบีบโอสถพิษสีเขียวครามขนาดเท่าผลลำไย
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนที่อยู่ด้านข้างนั้น มองหลี่ฉางโซ่วด้วยรอยยิ้ม ดวงตาชราของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังบางอย่าง
ไม่นาน หลี่ฉางโซ่วก็กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ผู้อาวุโส โอสถเม็ดนี้… ทรงพลังยิ่ง! ดูเหมือนว่าผลกระทบของมันจะเพียงทำให้ประสาทสัมผัสทั้งหกของผู้คนสับสน แต่ส่งผลต่อสัมผัสเซียนรับรู้ของอีกฝ่ายที่ส่งออกมาโดยตรง และทำให้สัมผัสเซียนรับรู้กลายเป็นโกลาหล… หากพกโอสถพิษติดตัวไปด้วย คนอื่นๆ จะเห็นเพียงแต่หมอกเมื่อพวกเขาแผ่สัมผัสเซียนรับรู้ออกมาตรวจจับ หากเราใช้สิ่งนี้ร่วมกับค่ายกลกับดักและค่ายกลเขาวงกต ย่อมต้องได้ผลที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!”
“เหอะๆๆ” ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนหรี่ตาพลางยิ้มและพยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ได้คิดจะใช้พวกมันร่วมกับค่ายกล”
หลี่ฉางโซ่วชื่นชมในใจ “ผู้อาวุโสช่างมีพรสวรรค์ล้ำเลิศจริงๆ!”
“อืม” ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบยันต์หยกออกมาแล้วยื่นให้หลี่ฉางโซ่วพลางกล่าวว่า “นี่คือสูตรโอสถ โอสถวิญญาณ และสมุนไพรพิษที่ผ่านการตรวจสอบและสามารถใช้แทนกันได้”
หลี่ฉางโซ่วลุกขึ้นยืนและทำการคารวะเต๋าให้ด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังก่อนจะนำยันต์หยกไป
“ศิษย์ขอขอบคุณท่านผู้อาวุโสสำหรับโอสถขอรับ”
หลิงเอ๋อร์อดจะกะพริบตาไม่ได้…
ศิษย์พี่จะไม่ปฏิเสธหรือ?
ไฉนเขาถึงยอมรับมันตรงๆ?
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนพยักหน้าช้าๆ ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความเบิกบานและไม่ได้เอ่ยถึงมันอีก
เขามองไปยังกล่องผ้าที่หลี่ฉางโซ่วหยิบออกมาและเอ่ยถามว่า “เจ้าทำโอสถอะไรใหม่มาหรือ”
“ศิษย์กำลังจะนำเสนอให้ผู้อาวุโสดูขอรับ” หลี่ฉางโซ่วเก็บสูตรโอสถแล้วทำความเคารพอีกครั้ง จากนั้นก็นั่งลงบนเตียงอิฐ
เขาเปิดกล่องผ้าและเผยให้เห็น “ถั่วเซียน” สามเม็ดที่มีขนาดเท่าปลายนิ้วก่อนจะหยิบออกมาหนึ่งเม็ดและใช้พลังเวทโปรยถั่วเป็นทหารก่อนที่จะโยนออกไป และพร้อมด้วยเสียงพรึ่บเบาๆ ก็ปรากฏแสงเซียนก่อตัวขึ้นเป็นทหารหุ้มเกราะสีทองที่แข็งแกร่ง
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนกล่าวอย่างไม่ใส่ใจว่า “โปรยถั่วเป็นทหารหรือ? ข้าเคยได้ยินเรื่องพลังเวทนี้มาก่อน มันเป็นหนึ่งในสามสิบหกวิธีแห่งเทียนกัง”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าด้วยรอยยิ้มพลางหยิบถั่วเซียนเม็ดที่สองออกมาแล้วใช้พลังเวทของเขาส่งมันไปให้ผู้อาวุโสว่านหลินหยุน
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนบีบเม็ดถั่วและสัมผัสอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เลิกคิ้วขึ้น
“โอสถหรือ? ดูไม่เหมือนเลย”
หลี่ฉางโซ่วไม่กล้าปกปิดและชี้แจงว่า “บังเอิญว่า ศิษย์มีความคิดบางอย่าง ศิษย์ใส่ถั่วเซียนลงในเตาหลอมโอสถและใช้มันเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมรวมกับสมุนไพรวิญญาณบางอย่าง และกลั่นสกัดด้วยการเล่นแร่แปรธาตุและยังคงพลังชีวิตของมันไว้ ท่านผู้อาวุโสโปรดช่วยดูด้วยเถิดขอรับ”
หลี่ฉางโซ่วหยิบถั่วเซียนแล้วโปรยออกไปในพื้นที่ว่างโล่งด้านนอกประตู จากนั้นเขาก็ใช้มือทั้งสองกระตุ้น เปิดใช้งานพวกมัน
ทันใดนั้น ก็มีทหารเกราะสีทองร่างสูงและแข็งแกร่งกำยำอีกคนหนึ่ง ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน แต่เบื้องหลังชุดเกราะสีทองของทหารคนนี้ ทั่วทั้งร่างของเขาเป็นสีเขียวเข้ม รวมทั้งเส้นผมของเขาด้วย จากนั้นเขาก็ปล่อยหมอกพิษสีเขียวอ่อนออกมา
โปรยถั่วเป็นทหาร รุ่นสีเขียวที่เป็นสีเขียวมากขึ้นด้วยการผสมวัสดุเป็นพิษมากขึ้น!
ดวงตาของผู้อาวุโสว่านหลินหยุนเปล่งประกาย จากนั้น สีหน้าแข็งๆ ของเขาก็ค่อยๆ ดูดุร้ายมากขึ้น…
“อัศจรรย์ยิ่ง!”
“เหอะๆ” หลี่ฉางโซ่วยิ้มขัดเขินและกล่าวว่า “ศิษย์เพียงแค่ใช้วิธีลัดขอรับ”
“ความฉลาดหาได้ยากที่สุด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้มันอย่างไร”
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนลุกขึ้นยืนและเดินออกจากบ้าน เขาถือไม้เท้าทองสัมฤทธิ์ แล้วเดินไปรอบๆ ทหารด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ฉางโซ่ว”
“ศิษย์อยู่นี่แล้วขอรับ”
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนกล่าวอย่างจริงจังว่า “ข้าทุ่มเทมาทั้งชีวิต ก็คงทำได้เพียงทิ้งคัมภีร์พิษสองสามเล่มและสูตรยาบางสูตร แต่เจ้ากลับพัฒนาการใช้ยาพิษได้แล้ว!”
“ท่านผู้อาวุโส ท่านกำหนดมาตรฐานสำหรับศิษย์ของท่านไว้สูงเกินไปขอรับ”
หลี่ฉางโซ่วนำหลิงเอ๋อร์ออกจากห้องใต้หลังคาและโบกมือทำท่าทางให้หลิงเอ๋อร์เดินตามหลังเขามา นางย่อมจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหากต้องเผชิญกับพิษร้ายแรงที่แผ่กระจายออกมาจากทหารพิษที่อยู่ด้านนอก
หลี่ฉางโซ่วโค้งคำนับและกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโส ศิษย์มีเรื่องจะขอร้องท่านขอรับ”
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนจับจ้องไปที่ทหารพิษอย่างตั้งใจ “พูดมา”
หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ศิษย์อยากขอเวลาของท่านผู้อาวุโสสักสามถึงห้าปีได้หรือไม่ขอรับ? ศิษย์อยากเพิ่มพลังของทหารพิษถั่วเซียน แต่ความสำเร็จแห่งเต๋าในการเล่นแร่แปรธาตุของศิษย์นั้นยังตื้นเขินเกินไปจนยากจะเก็บเกี่ยวผลได้ในระยะเวลาสั้นๆ ศิษย์จะต้องใช้กลุ่มทหารพิษนี้ในเวลาสิบปีเป็นอย่างช้าที่สุดขอรับ”
หลิงเอ๋อร์ซึ่งซ่อนอยู่ที่ด้านหลังศิษย์พี่ของนาง อดจะกะพริบตาไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
ศิษย์พี่ใหญ่จงใจวางกับดักหลอกท่านผู้อาวุโสหรือไม่? ไฉนเขาจึงพูดมากเพียงนี้…
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลิงเอ๋อร์ประหลาดใจคือ ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนไม่ได้ถามคำถามใดๆ เพิ่มเติมและพยักหน้ารับอย่างเบิกบานใจ
“ตกลง วันนี้ ข้าจะเริ่มคิดถึงเรื่องนี้”
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส” หลี่ฉางโซ่วหยิบแผ่นหยกออกมาสองแผ่น หนึ่งในนั้นได้บันทึกพลังเวทโปรยถั่วเป็นทหารของหลี่ฉางโซ่วในขณะที่อีกแผ่นหนึ่ง บันทึกสูตรที่เขาใช้กลั่นสกัดเป็นถั่วเซียนพิษเมื่อก่อนหน้านี้
ต่อจากนั้น หลี่ฉางโซวก็หยิบถุงเก็บสมบัติอีกใบ ซึ่งมีถั่วเซียนสามร้อยเม็ดที่เขาเพิ่งทำขึ้นเมื่อวานนี้…
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนเก็บสิ่งของเหล่านั้นเอาไว้ทั้งหมดแล้วเริ่มพูดคุยถึงวิธีนี้กับหลี่ฉางโซ่วด้วยความสนใจและตื่นเต้นอย่างยิ่ง
หลิงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ย่อมไม่เข้าใจเรื่องนี้เป็นธรรมดา และทำได้เพียงแค่รออย่างเชื่อฟังตั้งแต่เที่ยงวันถึงค่ำและมาจนถึงดึกดื่น
เมื่อ หลี่ฉางโซ่วพาที่หลิงเอ๋อร์กลับไปที่ยอดเขาหยกน้อย เขาก็ยังคงคิดถึงคำชี้แนะบางอย่างของผู้อาวุโสว่านหลินหยุนและรู้แจ้งในใจ
ความจริงแล้ว การวิจัยอย่างเข้มข้นเช่นนั้นจะต้องให้ปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทักษะที่แข็งแกร่งในแขนงนี้ทำ ซึ่งจะง่ายขึ้นมาก!
ก่อนที่หลี่ฉางโซ่วจะจากไป เขายังเอ่ยขอร้องออกมาอย่างแนบเนียน —เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายของทหารพิษถั่วเซียน
เขาต้องการทหารพิษถั่วเซียนจำนวนมาก
มีผลยอดเยี่ยมแต่ต้นทุนในการทำนั้น สูงมากเกินไป สำหรับเขาแล้ว มันเป็นเพียงคลังเก็บเพิ่มไพ่ใบสำคัญบางใบในคลังเก็บไพ่ไม้ตายอีกเล็กน้อยเท่านั้น
นอกจากนั้น หลี่ฉางโซ่วยังขอให้ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนอย่าปล่อยให้มีคนที่สี่ได้ล่วงรู้เรื่องนี้อีก ไม่เช่นนั้นเขาย่อมจะประสบปัญหาเดือดร้อน
ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนรับปากอย่างไม่ลังเลใจในทันที จากนั้นก็เริ่มการวิจัยและพัฒนาถั่วเซียนพิษโดยไม่ใส่ใจถามถึงเหตุผลใดๆ กับหลี่ฉางโซ่ว…
การขจัดพิษและโอสถไม่เกี่ยวข้องกัน
หลิงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่หน้าหอโอสถ อดจะถามออกมาเบาๆ ไม่ได้ว่า “ศิษย์พี่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่นอกสำนักหรือ?”
“แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะ” หลี่ฉางโซ่วยิ้มพลางกล่าวแล้วแสดงพลังเวทที่สืบทอดมาจากบรรพชนแห่งยอดเขาหยกน้อย
“เจ้าไม่จำเป็นต้องถามมากนัก เพียงแค่มุ่งเน้นฝึกบำเพ็ญเพียรก็พอ วันนี้ที่ข้าพาเจ้าไปพบผู้อาวุโสว่านหลินหยุนนั้น นอกจากจะให้ผู้อาวุโสว่านหลินหยุนรู้จักและจดจำเจ้าได้ต่อไปแล้ว ข้ายังอยากให้เจ้าเข้าใจเรื่องเหล่านี้ด้วย ศิษย์น้องหญิง โลกนี้ช่างกว้างใหญ่และอันตรายนัก เมื่อเจ้ากลายเป็นเซียนแล้ว เจ้าจะได้สัมผัสกับโลกที่อัศจรรย์และน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก”
หลี่ฉางโซ่วยังคงปรารถนาจะสั่งสอนต่อไป ทว่า จู่ๆ เขาก็รู้สึกเศร้าและสับสนในใจ…
“ศิษย์พี่เจ้าสำนัก…”
รองเจ้าสำนัก… เกิดอันใดขึ้น?
จากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็กล่าวกับหลิงเอ๋อร์ว่า “กลับไปก่อนเถิด ท่านอาจารย์ยังรอเจ้าอยู่ ดูเหมือนว่า ท่านจะอยากคุยกับเจ้านะ”
“โอ้” หลิงเอ๋อร์อุทานพลางมองดูแผ่นหลังของศิษย์พี่ในขณะที่เขาเดินเข้าไปในหอโอสถ และอดจะทำหน้าบูดบึ้งออกมามิได้ โลกภายนอกมีอันใดดี? ท่านยังบอกว่ามันอัศจรรย์และน่าตื่นเต้นยิ่งกว่า…
เมื่อข้ากลายเป็นเซียนแล้ว สิ่งที่ข้าจะทำเป็นอย่างแรกคือ ข้าจะกดท่านไว้ด้วยข่ายอาคมและฟื้นความภาคภูมิใจที่ข้าสูญเสียไปก่อนหน้านี้กลับคืนมา!
………………………………………………………………….