ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว – ตอนที่ 270 ชื่อของเจ้าคือ เปี้ยนจวง! (2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 270 ชื่อของเจ้าคือ เปี้ยนจวง! (2)

หลี่ฉางโซ่วยังคงติดตามตรวจสอบแผนก่อนหน้าของเขาอย่างต่อเนื่อง และได้เห็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกันปรากฏขึ้นมามากมาย

ต่อไปก็ถึงเวลามาดูกันว่า สำนักบำเพ็ญประจิมจะทำอะไร!

ภาพในกระจกผลึกแก้วสั่นกระเพื่อมเบาๆ และกลายเป็นภาพเหตุการณ์นอกห้องโถง ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์นักพรตเต๋าของหลี่ฉางโซ่วกำลังรีบไปหาอ๋าวอี่ ซึ่งกำลังต้อนรับแขกอยู่ด้านนอกห้องโถง

ในเวลานี้ เทพเฒ่าจันทรากำลังจะมาถึงวังผลึกแก้ว และหลี่ฉางโซ่วก็อยากพาอ๋าวอี่มาต้อนรับเขา

เพื่อความปลอดภัย หลี่ฉางโซ่วต้องเตรียมการเพื่อการปรากฏตัวอลังการครั้งแรกของเทพเฒ่าจันทรา…

ที่ด้านข้างเขา ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูมีสีหน้าแปลกไปเล็กน้อย เขายิ้มและกล่าวว่า “เจ้าไม่คิดว่าจะสับสนเมื่อมองดูตัวเองจริงๆ หรือ?”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ศิษย์จะหลับตาลงเดี๋ยวนี้ขอรับ”

“ดี”

หลังจากนั้น หลี่ฉางโซ่วก็หลับตาลงและเพ่งจิตไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์และมองหาอ๋าวอี่เพื่อให้เขาจัดการเรื่องต่อไป

ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของหลี่ฉางโซ่วซึ่งกำลังทำงานอยู่ในวังมังกรคือ ผู้ฝึกบำเพ็ญมนุษย์ที่ดูเหมือนชายหนุ่มผู้อยู่ในขอบเขตเซียนเทียน

เมื่อเห็นอ๋าวอี่ เขาก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวโดยที่ผู้พิทักษ์ที่อยู่ข้างๆ อ๋าวอี่ ไม่กล้าจะหยุดเขา

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “พี่อี่ รีบไปต้อนรับแขกผู้มีเกียรติกับข้าที่ประตูหลักเร็วเข้า”

“ได้สิขอรับ!”

อ๋าวอี่ตกลงทันที แต่แล้วก็ขมวดคิ้วและชะงักงันไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวผ่านการส่งข้อความเสียง

“ท่านเจ้าสำนัก แล้วมีผู้ใด… อยู่ข้างนอกหรือขอรับ?”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “ไม่ต้องห่วง หากเขาจำเจ้าได้ ข้าจะเชิญแขกผู้มีเกียรติคนนี้มาแสดงความยินดีกับเจ้าทันที

“พี่อี่ถามข้าว่าแขกผู้นี้เป็นใคร ยิ่งเสียงของเจ้าดังมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น”

“โอ้?”

อ๋าวอี่ใจเต้นผิดจังหวะและกล่าวด้วยน้ำเสียงดังชัดเจนว่า “พี่ชาย ข้าขอบังอาจถามสักหน่อยได้หรือไม่ว่าแขกผู้มีเกียรติที่กำลังจะมาถึงวังผลึกแก้วท่านนี้คือผู้ใดขอรับ?”

หลี่ฉางโซ่วชี้ขึ้นไปด้านบน เพื่อจงใจให้ดูลึกลับ

ชั่วขณะหนึ่งนั้น สัมผัสเซียนรับรู้มากมายในห้องโถงใหญ่ ก็ถูกตรึงไว้ที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ของอ๋าวอี่และหลี่ฉางโซ่ว…

ในเวลานี้ ปรมาจารย์เผ่ามังกรและแขกจากสามสำนักบำเพ็ญก็งุนงงเล็กน้อยเช่นกัน

‘พี่ชาย’ ที่อ๋าวอี่กล่าวหมายถึงคือผู้ใดกัน? แล้วผู้ที่ถือได้ว่าเป็นแขกผู้มีเกียรติแห่งวังมังกร?

นั่นเป็นก้าวแรกที่จะทำให้เทพเฒ่าจันทราได้รับความสนใจเมื่อปรากฏตัวในงาน หลี่ฉางโซ่วใช้ประโยคที่เขาเตรียมเอาไว้เป็นเวลานานและกล่าวกับอ๋าวอี่ว่า “แขกผู้มีเกียรติท่านนี้ทุ่มเทอย่างยิ่งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของเจ้ากับน้องสะใภ้ ในดินแดนเทวะทั้งห้าและมหาตรีสหัสโลกธาตุ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่มีสติปัญญา ความรู้ และมารยาท ล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ฐานพลังปราณของเขาไม่สูง แต่เขาได้รับบุญคุ้มครองตนเอง เขามีสมบัติแห่งเต๋าสวรรค์ เขาถือกรรไกรสีทองในมือขวา ตัดทำลายการแต่งงานของคนหนึ่งและผนึกความรักของอีกคนหนึ่ง มือซ้ายของเขาถือต้นเซียงซือเอาไว้และทิ่มกิ่งของมันเข้าไปในใจของผู้อื่น เขาคือผู้ใดกัน? เขาก็คือ เทพผู้ชอบธรรมแห่งศาลสวรรค์ เทพจันทรา!”

นั่นคือขั้นตอนที่สองของการปูทาง อ๋าวอี่หัวเราะและกล่าวว่า “พี่ชาย ไปกันเถิดขอรับ! ออกไปต้อนรับเขากันเถิด!”

หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาและอ๋าวอี่นำผู้พิทักษ์เผ่ามังกรทั้งหกคนไปที่ประตูวังผลึกแก้ว

เมื่อคิดถึงคนที่อยู่หน้าประตู อ๋าวอี่ก็ยังรู้สึกผิดเล็กน้อย เขายกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของเขา

หลี่ฉางโซ่วกล่าวผ่านการส่งข้อความเสียงว่า “ไม่ต้องห่วง เจ้าแตกต่างจากเข่อเล่อเอ๋อร์อย่างสิ้นเชิง”

“เฮ้อ” อ๋าวอี่ถอนหายใจแล้วไปที่ประตูวังผลึกแก้ว

ผู้อาวุโสหัวมังกรบางคนรีบพุ่งออกมาจากทางด้านหลัง พวกเขาคือผู้อาวุโสของเผ่ามังกรและพวกเขาก็เดินตามหลังอ๋าวอี่

เผ่ามังกรยังเผยความคิดและความตั้งใจจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับศาลสวรรค์

พวกเขาเดินผ่านห้องโถงด้านข้างซึ่งเต็มไปด้วยแขกเหรื่อมากมาย พวกเขาเดินผ่านลานด้านหน้าของวังมังกรที่ปูด้วยผลึกแก้ว และมาถึงประตูอันยิ่งใหญ่ของวังผลึกแก้ว

เมื่อมองในระยะไกล จะเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังยืนพิงเสาหยกขนาดใหญ่ทางด้านหลังทหารวังมังกร แผ่นหลังของเขาดูซีดเซียว…

เมื่อใกล้เข้ามามากขึ้น ก็ได้ยินเขาพึมพำว่า ‘เล่อเล่อ’ ไม่หยุด

อ๋าวอี่ดึงกระบี่สั้นออกมาเงียบๆ แต่หลี่ฉางโซ่วรีบหยุดอ๋าวอี่และเดินผ่านชายคนนั้นไปอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่า เปี้ยนจวงซึ่งกำลังรอเข่อเล่อเอ๋อร์อย่างขมขื่นอยู่ตรงนั้น ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ

พวกเขาได้ยินเสียงเปี้ยนจวงคร่ำครวญเบาๆ ว่า “ถามข้าสิว่า ข้ากำลังคิดอะไรอยู่ และข้าจะบอกเจ้าว่า เป็นเจ้า เล่อเอ๋อร์”

หลี่ฉางโซ่วแอบถอนหายใจในใจ เขารู้สึกว่า เปี้ยนจวงเป็นคนที่ทุ่มเทในรักมากเช่นกัน น่าเสียดายที่เขาทำผิดทาง

ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องนี้

ในขณะนั้น ท่ามกลางแสงเซียนที่ล้อมรอบทะเลด้านหน้า มีร่างหลายสิบร่างวิ่งข้ามทะเลมาพร้อมกับเกิดรอยทางน้ำ

คนแรกที่สวมชุดคลุมแต่งงาน เต็มไปด้วยพลังซึ่งถือเทียบเชิญอยู่ในมือ เขาคือ เทพจันทรา!

ยังมีกองทหารเซียนมังกรวารีหลายร้อยคนที่แอบคุ้มครองคณะแสดงความยินดีของศาลสวรรค์ เมื่อเทพจันทราและพวกของเขามาถึงใกล้วังผลึกแก้ว กองทหารเซียนมังกรวารีก็หันหลังและถอยกลับไป

เขาสร้างบทสนทนาระหว่างการพบปะทักทายกันของทั้งสองคนทันทีและยังบอกเทพจันทราอย่างชัดเจนว่า อย่าเรียกตัวเองว่า นักพรตเต๋า

และอ๋าวอี่และเทพจันทราก็ไม่ทำให้หลี่ฉางโซ่วผิดหวัง

อ๋าวอี่เริ่มต้อนรับเขามาจากที่ไกลออกไปร้อยจั้ง เขาโค้งคำนับให้เทพจันทราและกล่าวขอบคุณเขาซ้ำๆ

“ขอบคุณท่านเทพจันทราที่ช่วยให้ข้าได้แต่งงานกับซือซือขอรับ! ขอบคุณท่านเทพจันทราที่ช่วยให้ข้าได้แต่งงานกับซือซือขอรับ!” “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เทพจันทราลูบเคราพลางหัวเราะ “ฝ่าบาท เดิมทีการอภิเษกสมรสของท่านและชายาก็เป็นความกลมเกลียวและงดงามอยู่แล้ว ข้าเพียงแค่เพิ่มความสุขให้ตามพระบัญชาของฝ่าบาท องค์เง็กเซียนเท่านั้น”

“ท่านเทพจันทรา เชิญท่านเข้ามาเถิดขอรับ” อ๋าวอี่ไปอยู่ที่ด้านข้างเทพจันทรา และทำท่าทางเชิญชวนในขณะที่เทพจันทราก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับอ๋าวอี่

หลี่ฉางโซ่วก็เข้ามาข้างๆ และสบตากับเทพจันทราพลางกล่าวว่า “ฝ่าบาท ทรงโปรดจัดให้ท่านเทพจันทรานั่งในห้องโถงใหญ่”

อ๋าวอี่ยิ้มและกล่าวว่า “ข้าเตรียมไว้พร้อมแล้ว!”

จากนั้น อ๋าวอี่ก็จับข้อมือของเทพจันทรา แม่ทัพสวรรค์ทั้งแปดที่อยู่เบื้องหลังเทพจันทราก็ติดตามไปอย่างใกล้ชิดและทหารสวรรค์สามสิบหกคนที่เข้ามาในทะเลต่างก็ชะลอความเร็วลง

แล้วทั้งกลุ่มก็เดินไปที่ประตูวังมังกร

หลี่ฉางโซ่วคำนวณเวลาที่เทพจันทรามาถึงอย่างรอบคอบเช่นกัน

ในห้องโถงใหญ่ ขณะนี้ แขกหลายพันคนล้วนกำลังใช้สัมผัสเซียนรับรู้ “มอง” ไปยังสถานที่นั้น

ส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคยกับระบบของศาลสวรรค์ ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดของหลี่ฉางโซ่วเมื่อครู่ก่อน พวกเขาก็อยากพบเทพผู้ชอบธรรมแห่งศาลสวรรค์ ซึ่งมีข่าวลือว่าสามารถปรับเปลี่ยนการครองคู่ของคนได้

ทว่าเมื่อหลี่ฉางโซ่วและคณะของเทพจันทราเพิ่งบินมาถึงประตูวังมังกร ร่างหลักของหลี่ฉางโซ่วก็ได้ยินคำแนะนำของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่

“ฉางโซ่ว ท่านอาจารย์อาน้อยก็มาที่นี่ด้วย แม่ทัพสวรรค์ในชุดเกราะเงินคนที่สองทางด้านซ้ายของเจ้าคือ ร่างจำแลงของท่านอาจารย์อาน้อย”

ท่านอาจารย์อาน้อย?

องค์เง็กเซียน!

แล้วองค์เง็กเซียนมาทำอันใดที่นี่? นี่จะไม่ทำให้ข้ายุ่งยากขึ้นอีกหรือ?

หลี่ฉางโซ่วพยายามควบคุมความต้องการเพื่อไม่ให้จ้องมองร่างจำแลงขององค์เง็กเซียนอย่างสุดความสามารถ

ทว่าก็เกิดปัญหาขึ้นอีกครั้ง

เปี้ยนจวงที่ยืนอยู่หน้าประตูกำลังมองพวกเขาอย่างงุนงงแล้วถอนหายใจพลางพึมพำเบาๆ ว่า “อา ไม่ใช่ เล่อเล่ออีกแล้ว… เล่อเล่อ เจ้าจะไม่มาจริงๆ หรือ? ข้า เปี้ยนจวงขอสาบานว่า ต่อให้เจ้าจะไม่มาที่นี่ ข้าก็จะไปหาเจ้าหลังจากนี้อย่างแน่นอน”

“หือ?”

เทพจันทราซึ่งกำลังจะเข้าประตูวังมังกร อดจะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาหยุดและหันไปมองเปี้ยนจวง

“เขาเรียกตัวเองว่า… เปี้ยนจวงหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วกล่าวว่า “ขอรับ”

เทพจันทราเบิกตากว้าง เขาทำงานหนักมาสิบสองปีเพื่อมาพบเจ้าสารเลวนั่นที่นี่จริงๆ!

หัวใจของเขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น!

ทันใดนั้น เทพจันทราหยิบกรรไกรสีทองออกมา หากหลี่ฉางโซ่วไม่รีบจับแขนของเทพจันทราเอาไว้ เทพจันทราคงจะปรี่ออกไปข้างหน้าแล้วจัดการกริบ เพื่อตอบสนองอารมณ์ของเจ้าคนคลั่งรักที่ปรากฏขึ้นมาเพียงคนเดียวในรอบล้านปี[1]ได้สำเร็จแล้ว!

…………………………………………………………………

[1] ความจริงแล้วเป็นการเปรียบเปรย เพราะล้านปีคือนานเกินไป เทพเหล่านี้อย่างมากก็หลักแสนปีเท่านั้น ฉะนั้น ตามความหมายจริงคือ ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลย

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

Status: Ongoing
เพื่อให้มีอายุยืนยาวในยุคบรรพกาลอันโหดร้าย จงหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการ เก็บงำความสามารถ ขยันฝึกวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!หลี่ฉางโซ่วที่ไปเกิดใหม่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนตัวน้อยๆ ในโลกบรรพกาลอันน่าสะพรึงกลัวเขาถูกอาจารย์ผู้นำยอดเขาสุดแสนอัตคัดในสำนักเซียนมนุษย์เล็กๆ พาตัวมาดูแล เพื่อฝึกฝนให้บรรลุวิถีเซียนตั้งแต่ยังเยาว์เป้าหมายของเขาคือ ‘อายุยืนยาว’ ในยุคบรรพกาลอันโหดร้ายนี้จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงผลกรรม หากฆ่าคนต้องป่นขี้เถ้า ทุกการเคลื่อนไหวต้องมีแผนการเก็บงำความสามารถ ขยันหมั่นเพียรฝึกฝนเคล็ดวิชา หลอมยาปรุงโอสถ นิ่งสงบมั่นคง!เดิมทีในแผนการของหลี่ฉางโซ่ว เขาตั้งใจว่าจะซ่อนตัวอยู่ในเขาฝึกบำเพ็ญเป็นเซียนอย่างสงบสุขไปตลอดชีวิตจนกระทั่งปีหนึ่ง อาจารย์ของเขาคงมีชีวิตที่สงบเงียบเกินไปจนเบื่อขึ้นมา ถึงได้รับศิษย์น้องหญิงคนหนึ่งมาให้เขา…เพื่อไม่ให้ศิษย์น้องนำผลกรรมมาแปดเปื้อนตน เขาจะต้องสอนหลักการการใช้ชีวิตให้ศิษย์น้องดีๆ เสียหน่อยแล้ว!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท