ตอนที่ 276 ปล้นฟ้าเปลี่ยนดวงอาทิตย์[1] (2)
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวอย่างสงบ “สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากวังมังกรทะเลบูรพาไม่ถึงหนึ่งแสนลี้ อีกฝ่ายก็กำหนดเวลาได้แม่นยำยิ่ง ถึงเวลาที่งานอภิเษกครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ในตอนนี้ สถานการณ์ในทะเลทักษิณโดยละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“บัดนี้ สถานการณ์ในทะเลทักษิณอยู่ในภาวะเข้าตาจนแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับสำนักบำเพ็ญประจิมในครั้งนี้” หลี่ฉางโซ่วขมวดคิ้วและกล่าวต่อว่า “ว่ากันตามหลักแล้ว ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ การล่อเสือออกจากถ้ำ หลังจากนั้นพวกเขาก็จะถอยกลับทันที หลังจากนั้น ก็โจมตีและก่อกวนซ้ำๆ ต่อไป ทว่าคราวนี้ ทหารปีศาจและสัตว์ดุร้ายที่สำนักบำเพ็ญประจิมรวบรวมมาได้ตกตายไปมากกว่าสามส่วนในขณะที่กองกำลังเสริมของเผ่ามังกรได้พุ่งเข้ามาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมถอย เรื่องนี้ทำให้ข้าไม่เข้าใจจริงๆ”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและยิ้ม “นั่นคือดอกบัวทองคำระดับสิบสองนั่นเอง”
“ศิษย์ไม่เข้าใจขอรับ”
“ดอกบัวทองคำระดับสิบสองที่สำนักบำเพ็ญประจิมกำลังใช้ปราบปรามน่าจะถึงขีดจำกัดในไม่ช้าแล้ว มันไม่อาจใช้ปกป้องปีศาจ สัตว์ร้ายและคนชั่วร้ายจำนวนมากมายเพียงนี้ด้วยกรรมร้ายได้”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อธิบายอย่างละเอียดและอดทนว่า “กลุ่มคนจากสำนักบำเพ็ญประจิมที่ไปยังทะเลทักษิณ คงตั้งใจจะสู้ตายที่นั่น หากชีวิตของคนเหล่านี้แลกกับความจงรักภักดีของเผ่ามังกร สำนักบำเพ็ญประจิมย่อมคว้าชัยครั้งใหญ่ได้อย่างแน่นอน แต่หากล้มเหลวในครั้งนี้ พวกเขาจะสูญเสียเบี้ยไปเพียงบางส่วนและลดแรงกดดันของดอกบัวทองคำระดับสิบสองได้ โดยรวมแล้วพวกเขาก็ไม่ได้เลวร้ายมากเกินไป
หลี่ฉางโซ่วตะลึงงันก่อนจะลุกขึ้นยืนทันทีแล้วกล่าวทักทายว่า “ศิษย์ยังไม่อาจวิเคราะห์ได้ถึงระดับนี้ ขอบคุณ ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ที่ให้ความกระจ่างขอรับ”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่โบกมือและยิ้มพลางกล่าวว่า “อย่าโทษตนเอง ยามนี้ เจ้ายังมีฐานพลังปราณจำกัด จึงยังมองไม่เห็นบางสิ่ง และคนจากสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งสองคนนั้นก็ไม่ชอบให้ผู้ใดได้เปรียบ”
หลี่ฉางโซ่วพยักหน้าแล้วจัดวางแผนใหม่ทันที เขายังต้องคำนึงถึงดอกบัวทองคำระดับสิบสองและองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ
แต่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรมากนัก…
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ยังคงร่ายเวทต่อไป และเผยให้เห็นร่องรอยของศัตรูที่คอยซุ่มโจมตีวังมังกรทะเลบูรพาบนกระจกผลึกแก้ว…
มีกองกำลังมากถึงสิบสองกองทัพ!
พวกเขาโจมตีสำนักเทพทะเลทักษิณและกำลังกดดันทะเลบูรพา สำนักบำเพ็ญประจิมช่างเจ้าเล่ห์เพทุบายจริงๆ!
หลี่ฉางโซ่วรอเงียบๆ อยู่ชั่วครู่ วังมังกรก็ค้นพบกองกำลังกบฏเผ่าทะเลทั้งสิบสองกองทัพเมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้โดยอยู่ห่างออกไปสามหมื่นลี้
ในขณะนั้นเอง กลองรบในทะเลบูรพาก็ส่งเสียงโหมกระหน่ำดังก้องกังวานไปทั่วทั้งทะเลบูรพา กองทหารกุ้ง ปู และเซียนมังกรวารีที่ซุ่มโจมตีก็พุ่งออกมาจากสถานที่ต่างๆ เพื่อสกัดกั้นศัตรูเหล่านี้
แทบจะในเวลาเดียวกัน สงครามครั้งใหญ่ก็ปะทุขึ้นในวังมังกรทะเลบูรพา
บัดนั้น แม่ทัพสองสามคนในวังมังกรทะเลบูรพารีบพุ่งออกไป และย้ายกองทหารส่วนหนึ่งที่ประจำการอยู่ใกล้กับวังมังกรให้ไปช่วยเหลือในสถานที่ที่มีการรบพุ่งรุนแรงขึ้น
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วยาม วังมังกรทะเลบูรพาก็ถูกล้อมรอบด้วยกองทัพศัตรูเงียบๆ คลื่นซัดสาดพลุ่งพล่านไปทั่วทะเลบูรพาและท้องฟ้าก็เปลี่ยนไป!
ในวังมังกร ในขณะนี้ แขกทุกคนล้วนดูกังวล
ราชามังกรแห่งทะเลบูรพานั่งบนบัลลังก์ของเขาอย่างมั่นคงในขณะที่งานอภิเษกยังคงดำเนินไปตามปกติ
ตอนนี้ คนของเผ่ามังกรสงบเป็นพิเศษ ราวกับว่าพวกเขามีเล่ห์เหลี่ยมสะสมเอาไว้อย่างไร้ที่สิ้นสุด
ในฐานะผู้ยืนเฝ้าดูแท้จริง ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่และหลี่ฉางโซ่วย่อมจะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวเสมอและเป็นคนแรกที่ค้นพบ ‘อันตราย’ ที่ปรากฏขึ้นใกล้กับวังมังกรทะเลบูรพา
ในมุมที่ห่างไกลและไร้ผู้คนของวังผลึกแก้ว เวลานี้ ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ร่ายเวทอีกครั้ง ทันใดนั้นก็มีร่างบางที่พร่าเลือนปรากฏขึ้นในกระจก
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วแสงสีเขียวสองดวงก็แวบผ่านดวงตาของเขา แล้วการอำพรางตัวที่พร่ามัวในกระจกก็หายไป เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขา มันเป็นพลังเวทที่เรียกว่าร่างลวงไร้ลักษณ์! พวกเขาเป็นชายชราสี่คน แต่ละคนล้วนแผ่พลังสะกดข่มที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
สถานที่ที่พวกเขาปรากฏตัวอยู่นั้น ห่างจากวังมังกรทะเลบูรพาไม่ถึงห้าพันลี้ พวกเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้รอบนอก!
นักพรตเต๋าร่างอ้วนที่มีร่างกายแข็งแกร่ง เปิดกระเป๋าที่เขาแบกไว้ด้านหลังของเขา จากนั้นก็ลำแสงพุ่งออกมาแล้วกลายเป็นร่างที่เข้าสู่ค่ายกลต่อสู้อย่างรวดเร็ว
นักพรตเต๋าร่างผอมบางอีกคนหนึ่งหลับตาแล้วขว้างเจดีย์ในมือออกไปข้างหน้า ทันใดนั้น ก็มีกระแสแสงพวยพุ่งออกมาจากเจดีย์…
ทั้งสี่คนต่างนำสมบัติเฉียนคุนมาและสละสมบัติของพวกเขาพร้อมๆ กัน พวกเขาเรียกกองทหารเผ่าทะเลและเผ่าปีศาจนับแสน ซึ่งล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นสูงของกองทัพกบฏเผ่าทะเลและเผ่าปีศาจทะเล!
ในขณะนั้น ด้านหนึ่งของจักรวาลก็ถูกฉีกแยกออกกะทันหัน แล้วจักจั่นสีทองหกปีกก็ปรากฏออกมา และ ข้างหลังมัน ก็มีร่างหลายร่างบินออกมาอย่างรวดเร็ว…
และผู้บำเพ็ญเหวินจิงก็เป็นหนึ่งในบรรดาหกคนที่นำอยู่แถวหน้า!
ในขณะนั้น ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูก็เห็นวิธีการปกปิดร่างกายของพวกเขาทั้งหมดจากกระจก…
เสวียนตูขมวดคิ้วและกล่าวเสียงเบาว่า “สำนักบำเพ็ญประจิมได้เลี้ยงดูศิษย์ที่ชั่วร้ายมากมายจริงๆ อาจารย์อาทั้งสองคนนี้ช่างไร้ยางอายที่ลากพวกเขาออกมาจากสำนักบำเพ็ญประจิมจริงๆ” หลี่ฉางโซ่วยิ้มเมื่อเห็นเช่นนี้
“ฉางโซ่ว ไยเจ้าจึงยิ้ม”
“ศิษย์เพียงรู้สึกสบายใจขึ้นขอรับ…”
หลี่ฉางโซ่วถอนหายใจอย่างโล่งอกและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แผนการของสำนักบำเพ็ญประจิมทั้งหมดน่าจะเป็นเช่นนี้ ขั้นแรก พวกเขาได้ใช้วังมังกรทะเลทักษิณเป็นเหยื่อล่อให้ปรมาจารย์เผ่ามังกรส่วนใหญ่เคลื่อนย้ายออกไป จากนั้นกองทหารสิบสองกองทัพที่อยู่รอบนอกก็บุกโจมตีเพื่อไม่ให้เหล่ายอดฝีมือชั้นสูงของเผ่ามังกรหลบหนีได้พ้นโดยใช้สมบัติเฉียนคุนและเวทเฉียนคุน เพื่อหลบเลี่ยงการรบพุ่งด้านนอกและโจมตีเผ่ามังกรโดยตรง พวกเขาปราบเผ่ามังกรได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ…”
กล่าวง่ายๆ ว่า การเตรียมการของอีกฝ่ายหนึ่งไม่เกินการคาดเดาของเขา
ทว่าหลี่ฉางโซ่วลังเลอยู่ครู่หนึ่งและไม่กล้าวางท่ามาก
เขาเพียงกล่าวว่า “แม้ความคิดนี้จะล้ำเลิศ แต่โดยทั่วไปแล้ว ก็ไม่ถือว่าแปลกอะไร ศิษย์เพียงเกรงว่า พวกเขาจะไม่เล่นตามกฎ ซึ่งยากจะรับมือได้มากที่สุด”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูยิ้มและกล่าวว่า “หากเป็นเช่นนั้น ก็บอกข้ามาทีเถิดว่า เราควรจัดการสถานการณ์นี้อย่างไร?”
“ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ ท่านกำลังทดสอบศิษย์อีกครั้งแล้ว”
หลี่ฉางโซ่วมองดูผู้คนจำนวนมากในกระจกและตอบอย่างรวดเร็วว่า “จุดหลักสำคัญของสถานการณ์นี้คือ การป้องกันและถ่วงเวลา วังมังกรทะเลบูรพาต้องแข็งแกร่งตลอดการต่อสู้ในครั้งนี้ นอกจากนั้น พวกเขายังต้องสกัดกั้นเหล่าศิษย์สำนักบำเพ็ญประจิมที่จะบินมาจากทางทิศตะวันตกและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในฉากสุดท้ายของ ‘การช่วยชีวิต’ ศิษย์ขอเสนอให้เรามอบวิธีแก้ปัญหาให้พวกเขาเพื่อไม่ให้ศิษย์ของจอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมไปที่วังมังกรทะเลบูรพาได้ จากนั้นสถานการณ์นี้ย่อมจะคลี่คลายได้”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูทำมุทราหยั่งรู้และยิ้มพลางพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
“หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะไปพบกับบรรดาศิษย์ของอาจารย์อาทั้งสอง”
“ท่านปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตู ท่านไม่เปิดเผยตัวเองย่อมจะดีที่สุด สถานการณ์ในยามนี้ ยังไม่อาจควบคุมได้ขอรับ”
หลี่ฉางโซ่วรีบกล่าวต่อว่า “ศิษย์อยากขอให้ท่านได้โปรดช่วยสรุปตำแหน่งศิษย์ของจอมปราชญ์เทพแห่งสำนักบำเพ็ญประจิมคร่าวๆ ได้หรือไม่ขอรับ? ศิษย์จะเชิญปรมาจารย์ที่เก่งกาจในการกำราบศิษย์ของสำนักบำเพ็ญประจิมให้เดินทางไปที่นั่น ถ่วงเวลาเอาไว้ก่อนสักหนึ่งถึงสองชั่วยาม คงไม่น่าจะเป็นปัญหาขอรับ”
“ได้สิ”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ไม่เอ่ยอะไรมากนัก จากนั้นแผนภาพไท่จี๋ก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา เขาหลับตาและเริ่มคาดคำนวณเงียบๆ ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วยังคงสังเกตเห็นว่า ในบรรดาศัตรูที่เข้ามานั้น มีจักจั่นสีทองยาวหกฉื่อที่ตัดผ่านจักรวาลได้ ออกมาจากกองทัพที่ซุ่มโจมตีและมุ่งหน้าไปในทะเลลึก
ความจริงแล้ว อีกฝ่ายไม่อยากเผยจุดอ่อนที่ร้ายแรงของเผ่ามังกร
“พบแล้ว”
ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “มีคนทั้งหมดหกคนบนเมฆเหนือดินแดนเทวะบูรพา พวกเขากำลังค่อยๆ มุ่งหน้าไปยังทะเลบูรพาช้าๆ”
“ขอรับ” หลี่ฉางโซ่วรับข้อมูลทันที จากนั้นเขาก็หลับตาลง แล้วเพ่งจิตของเขาไปที่ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์บนเกาะร้าง
ทันใดนั้น ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ที่ปลอมตัวเป็นเซียนก็ลุกขึ้นยืนทันทีและถือแส้หางม้าของเขา แล้วรีบตรงไปที่ถ้ำทันที
คราวนี้ ลุงจ้าวอยู่ที่นั่นจริงๆ
ผู้กล้าจะไร้ประโยชน์ได้อย่างไรเล่า?
……………………………………………………………..
[1] หนึ่งในสามสิบหกกลยุทธ์ในวรรณกรรมสามก๊ก (จะใช้เป็นกลยุทธ์ร่วมรบกับลักขื่อเปลี่ยนเสา ) เป็นกลยุทธ์ร่วมสร้างกิจกรรมฉ้อฉล โกงคนอย่างห้าวหาญ แอบเปลี่ยนความจริงเป็นลวงเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการหลอกลวง